สวัสดีครับ รูปภาพด้านบนนี้ พี่ลาเต้ คงไม่ต้องบรรยายอะไรแล้วใช่ไหมครับ เชื่อว่าน้องๆ ชาวเด็กดีหลายคนที่ได้เห็น ได้ผ่านตารูปภาพนี้บน Social Network ก็คงจะมีความรู้สึกแบบเดียวกัน น้องๆ หลายคนให้คำนิยามของภาพนี้ว่า "มันเป็นภาพคำตอบ ว่าเราจะเหนื่อยกับการเรียนไปเพื่ออะไร ?" ขณะที่หลายคนบันทึกภาพนี้ไว้ในมือถือ รอเวลาเปิดมาดูอีกครั้งยามที่ตัวเองท้อ และวันนี้ พี่ลาเต้ จะพาน้องๆ ไปรู้จักบุคคลที่ใส่ชุดครุยในภาพนี้กันครับ เขาคือ "นายพิศุทธิ์ คีรีธระกุล หรือ มิน" เด็กชาวเขาเผ่าม้ง ที่ปัจจุบันเขาคือบัณฑิตใหม่ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายครับ
"รูปนั้น เป็นรูปที่ผมถ่ายกับพ่อครับ ตอนนั้นพ่อผมก็จำอะไรไม่ได้แล้ว...
แกเริ่มสติไม่ดีตั้งแต่แม่เสียไป วันที่ผมรับปริญญาผมกลับไปหาพ่อ...
ไปพูดข้างๆ หูพ่อว่า.. ผมเป็นลูกพ่อนะ ผมเรียนจบแล้วครับ พ่อก็ยิ้มๆ ตอบกลับมา"
ชีวิตของวัยเด็กของมิน
มินเป็นเด็กชาวเขาเผ่าม้ง บ้านเกิดอาศัยอยู่ที่อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน มินเล่าให้ พี่ลาเต้ ฟังว่า ทางบ้านของเขามีอาชีพทำไร่ทำสวน เขามีพี่น้องทั้งหมด 5 คน โดยที่ตัวเขาเองเป็นน้องเล็กคนสุดท้อง ด้วยความที่บ้านของเขามีฐานะยากจน อาศัยอยู่บนเขาห่างไกลความเจริญ จึงทำให้เขาต้องเสียบุคคลที่รักในครอบครัวไปด้วยโรคภัยทีละคนสองคน ตั้งแต่แม่ที่ป่วยและเสียชีวิตไปตอนเขายังเด็ก รวมถึงพี่ๆ ที่ทยอยจากไปรวมทั้งหมด 4 คน
ทุกวันนี้ครอบครัวของมิน จึงเหลือสมาชิกเพียง 3 คน นั้นคือ พ่อ พี่ชายคนโต และตัวมินเอง โดยมินได้เล่าว่า "ตอนนี้พ่อผมอายุ 50 กว่าๆ แล้วครับ ผมจำความได้ว่าวันที่แม่ของผมเสียไป พ่อผมจากที่เป็นคนใบ้อยู่แล้ว ก็เริ่มมีอาการเศร้าคิดถึงแม่ จนต่อมาก็มาเสียพี่ๆ ไปทีละคน ยิ่งทำให้พ่อกลายเป็นคนเก็บตัว และหลังๆ มีอาหารหลงๆ ลืมๆ จนทุกวันนี้พ่อจำอะไรไม่ได้เลย จำลูกไม่ได้ แต่พ่อผมก็เดินได้ และช่วยเหลือตัวเองได้ครับ"
เส้นทางคำว่า "นักเรียน" ของมิน
"ผมบวชเรียนมาตั้งแต่เด็กเลยครับ บวชเป็นสามเณรตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6 ที่วัดปรางค์ อ.ปัว จ.น่าน จากนั้นก็สึก แล้วมาเรียนต่อ ปวส.ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพะเยา ในสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ พอจบก็มาสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ในคณะบริหารธุรกิจ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ" มิน เล่าเสริมว่า ด้วยความที่ตนเองบวชเรียนมา จึงไม่มีครูแนะแนวให้คำปรึกษาในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เลยต้องค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง อาศัยอ่านจากป้ายประกาศที่เขาติดตามสี่แยก หรือใบปลิวที่เขาแจกตามงานต่างๆ ว่ามหาวิทยาลัยไหนรับเข้าเรียนบ้าง "ตอนแรกผมก็ไปสมัครเรียนที่ ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม แต่พอไปถึงพบว่ามันเป็นโควตานักกีฬา ผมคงไม่ไหวเลยไม่ได้สมัคร แล้วก็ไปสมัครต่อที่ ม.ราชภัฏเชียงราย ลองผิดลองถูก กว่าจะเข้าใจและหาพวกหลักฐานการเข้าเรียนได้ก็เหนื่อยเหมือนกันครับ"
เมื่อเด็กชาวเขา ต้องไกลบ้านมาเรียนในเมือง
"ตอนเรียน ปวส.เป็นช่วงชีวิตที่หนักสุดของผมเลยครับ จังหวัดบ้านเกิดที่ผมอยู่ไม่มีมหาวิทยาลัยเรียน หากอยากเรียนก็จำเป็นที่จะต้องไกลพ่อไกลพี่หนีห่างมาเรียน ยอมรับเลยว่านอนร้องไห้เลยครับ เคยคิดโทษตัวเองบ่อยๆ ว่าทำไมเราต้องอยากเรียน คนที่เขามีพ่อมีแม่ที่ดี หาเงินให้ใช้ทำไมเขาถึงไม่อยากเรียน แต่เราไม่มีอะไรเลย ทำไมต้องอยากเรียนด้วย ผมท้อหลายครั้ง เพราะผมก็ไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง เคยได้เกรดมากสุดแค่ 2.9 แต่ก็มีความสุขที่ได้เรียน อยากเรียน และด้วยที่ผมอยากเรียนผมก็เลยต้องสู้ครับ ฐานะทางบ้านผมแค่มีข้าวให้พ่อให้พี่กินอิ่มท้องก็ลำบากแล้ว ตอนนั้นผมก็ต้องทำงาน และเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมครับ แต่โชคดีที่คุณครูก็ยอมให้ค้างค่าเทอมได้ ผมแบ่งไว้ว่าเงินที่ทำงานได้มา จะจ่ายค่าเทอมก่อนเสมอ ที่เหลือค่อยมาใช้อยู่กิน แต่ช่วงปี 3 ก็โชคดีขึ้นมาหน่อย เพราะผมกู้ทุน กยศ.ของมหาวิทยาลัย ได้ครับ คุณสมบัติผมผ่าน ก็เลยมีเงินมาจ่ายค่าเทอมครับ"
ถึงวันที่รอคอย "รับพระราชทานปริญญาบัตร"
"ดีใจมากๆ ครับ อาจารย์และเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยก็ดีใจกับผม วันที่ผมรับพระราชทานปริญญาบัตรเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด มันเป็นเหมือนของขวัญสำหรับคนจน คนชาวเขาอย่างผมให้ได้ภูมิใจเหมือนคนอื่นบ้าง ตอนนั้นผมอยากให้พ่อ และพี่ชายมาเห็นผมในพิธีรับปริญญา แต่พ่อก็อยู่ไกลมากที่จังหวัดน่าน พอจบงานรับปริญญาผมก็กลับไปหาพ่อเลยครับ อยากเอาชุดครุยไปให้แกได้เห็น ให้แกได้จับ ไปถ่ายรูปกับแก แต่พ่อผมก็จำอะไรไม่ได้แล้วนะครับ แกเริ่มสติไม่ดีตั้งแต่แม่เสียไป ผมกลับไปหาพ่อ ไปถึงบ้าน พูดข้างๆ หูพ่อว่าผมเป็นลูกพ่อนะ ผมเรียนจบแล้วครับพ่อ พ่อก็ยิ้มๆ ตอบกลับมาให้ผม"
อยากให้ฝากถึงน้องๆ ชาวเด็กดีที่กำลังอ่านเรื่องราวของมินหน่อย
"อยากให้น้องๆ ทุกคนที่ตั้งใจเรียน จะเหนื่อยจะท้อแค่ไหนมันก็จะผ่านไปเอง ฝากถึงน้องๆ ที่โชคดีมีคุณพ่อคุณแม่มีเงินพร้อมให้เรียนโดยไม่ต้องไปลำบาก ขอให้ตั้งใจเรียนไปนะเลยครับ อย่าทำให้ท่านต้องผิดหวังหรือเสียใจ ท่านไม่หวังอะไรนอกจากให้ลูกได้มีความสุขเหมือนคนอื่นๆ ในวันรับปริญญา หากใครท้อก็ขอให้สู้ต่อไปนะครับ ขอบคุณครับ"
ก่อนจบสัมภาษณ์มินได้บอกกับ พี่ลาเต้ ว่า หลังจากรับปริญญาเมื่อเดือน ก.ค. ก็ตัดสินใจสู้เต็มที่เพื่อหาเงินมาดูแลพ่อให้ท่านไม่เจ็บไม่ป่วย ให้มีความสุขทดแทนเรื่องร้ายๆ ที่พ่อเจอตอนมินยังเด็ก พร้อมช่วยแบ่งเบาพี่ชายที่ทำไร่ทำสวนอยู่ที่บ้าน โดย มิน ได้ตัดสินใจขอแบ่งเช่าห้องเล็กๆ แห่งหนึ่งใน อ.เชียงกลาง จ.น่าน เปิดเป็นร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ตามวิชาชีพที่ได้เรียนมา (ชื่อร้าน PS คอมพิวเตอร์)
พี่ลาเต้ และทีมงานเว็บไซต์เด็กดีดอทคอม ขอเป็นกำลังใจให้ น้องมิน และคุณพ่อ ขอให้มีความสุข และสุขภาพที่แข็งแรงต่อไปนะครับ เรื่องราวและภาพถ่ายคู่คุณพ่อของ น้องมิน คงเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้หลายๆ คนมีแรงสู้ต่อไป ขอบคุณน้องมิน สำหรับบทสัมภาษณ์ที่ดีที่สุดในครั้งนี้ด้วยครับ
ใครเล่นทวิตเตอร์มา Follow ตามข่าวรับตรงแอดมิชชั่นจากพี่ได้นะ @lataedekd
227 ความคิดเห็น
never give up guys
พี่รู้มัย ตอนที่หนูเห็นรูปพี่ครั้งแรก หนูร้องเลย
ขอบคุณที่ให้กำลังใจค่ะ ^^
ขอให้คุณมินสู้ๆกับชีวิตนะคะ ตราบใดที่ยังมีฟ้า ยังไงฟ้าก็ต้องมีตาอยู่ดีค่ะ ^^