สวัสดีค่า^^ ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ที่สอบผ่านรับตรง มศว สนามที่ขึ้นชื่อว่ามีเด็กจากทั่วประเทศพร้อมใจกันมาลุยข้อสอบ มาถึงจุดนี้ น้องทำสำเร็จไป 1 ขั้นแล้วแต่อย่าลืมว่ายังมีอีก 1 ขั้นที่ต้องผ่านไปให้ได้ นั่นก็คือ ขั้นตอนของการสัมภาษณ์ที่จะต้องเข้าไปนั่งทำความรู้จัก พูดคุย ให้อาจารย์ได้เห็นเราตัวเป็นๆ ซึ่งวันสัมภาษณ์ก็จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว
วันนี้พี่มิ้นท์จึงขอเสนอเคล็ดลับการสอบสัมภาษณ์แบบฟูลออฟชั่นทั้งคำถามที่ต้องเจอ คำแนะนำต่างๆ พร้อมประสบการณ์สอบสัมภาษณ์ มศว ของพี่ปีที่แล้วมาฝากด้วย เพื่อให้น้องๆ เดินหน้าสอบสัมภาษณ์อย่างมั่นใจไร้ความกังวล ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
วันนี้พี่มิ้นท์จึงขอเสนอเคล็ดลับการสอบสัมภาษณ์แบบฟูลออฟชั่นทั้งคำถามที่ต้องเจอ คำแนะนำต่างๆ พร้อมประสบการณ์สอบสัมภาษณ์ มศว ของพี่ปีที่แล้วมาฝากด้วย เพื่อให้น้องๆ เดินหน้าสอบสัมภาษณ์อย่างมั่นใจไร้ความกังวล ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
คำถามที่ต้องเจอแน่ๆ ล้านเปอร์เซ็น
>> 1. แนะนำตัวเองให้ฟังหน่อย
คำถามแรกของการสัมภาษณ์มักจะเริ่มต้นด้วยการให้น้องๆ แนะนำตัวเองค่ะ ตรงนี้ไม่มีอะไรมาก ให้แนะนำชื่อ นามสกุล โรงเรียน สายที่เรียนมา สิ่งที่ชอบ เป็นต้น แล้วตรงไหนที่อาจารย์สนใจเป็นพิเศษก็จะหาจังหวะถามเพิ่มเอง เช่น เวลาพูดถึงสิ่งที่ชอบ ก็อาจโดนถามเพิ่มว่าทำไมถึงชอบ เล่าให้ฟังหน่อย ประมาณนี้ค่ะ
ถ้าอยากให้การเริ่มต้นน่าประทับใจ ควรแนะนำตัวเองให้เป็นตัวเองที่สุด(แต่อยู่บนพื้นฐานเรื่องกาลเทศะด้วยนะคะ) พูดจาด้วยความมั่นใจ ฉะฉาน อย่ามัวแต่อมขี้ฟัน ครูจะคุยกับเราไม่รู้เรื่อง ที่สำคัญการพูดด้วยความมั่นใจ เสริมบุคลิกเราได้ด้วยนะ
>> 2. ทำไมถึงอยากเรียนคณะ/สาขานี้
จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นคำถามไฮไลท์ของการสัมภาษณ์เลย อาจารย์จะให้คะแนนเราตรงนี้โดยดูว่าเราสนใจคณะของเขามากน้อยแค่ไหน จะอยากเรียนจริงมั้ย หรือฟลุคสอบติดเข้ามาเฉยๆ ฉะนั้นเตรียมคำตอบเท่ๆ ไว้รอได้เลย ยังไงก็โดนถามแน่ค่ะ
ปล. เหตุผลที่อยากเรียนไม่ต้องอลังการมากก็ได้นะคะ ตอบตามความจริงว่าอยากเรียนเพราะอะไร การตอบแบบหรูหราไฮโซ อาจารย์อาจรู้สึกว่าเฟคเกินไปก็ได้
จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นคำถามไฮไลท์ของการสัมภาษณ์เลย อาจารย์จะให้คะแนนเราตรงนี้โดยดูว่าเราสนใจคณะของเขามากน้อยแค่ไหน จะอยากเรียนจริงมั้ย หรือฟลุคสอบติดเข้ามาเฉยๆ ฉะนั้นเตรียมคำตอบเท่ๆ ไว้รอได้เลย ยังไงก็โดนถามแน่ค่ะ
ปล. เหตุผลที่อยากเรียนไม่ต้องอลังการมากก็ได้นะคะ ตอบตามความจริงว่าอยากเรียนเพราะอะไร การตอบแบบหรูหราไฮโซ อาจารย์อาจรู้สึกว่าเฟคเกินไปก็ได้
>> 3. ทำไมถึงอยากเรียน มศว / รู้อะไรเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย/คณะนี้บ้าง
เป็นคำถามปลายเปิดที่น้องๆ สามารถเพิ่มคะแนนให้ตัวเองได้ดีที่สุดค่ะ "ทำไมถึงอยากเรียน มศว" น้องๆ ก็ตอบตามความเป็นจริงได้เลย อาจจะยอๆ หน่อยว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ โดดเด่นในด้านคณะที่ตัวเองเลือก ที่เหลือก็เป็นฟีลลิ่งของน้องๆ ค่ะ
ส่วนอีกคำถามที่ว่ารู้อะไรเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย/คณะนี้บ้าง ให้น้องๆ ลองหาข้อมูลสำคัญๆ ไป ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยก็เช่น สีประจำมหาวิทยาลัย ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ชื่ออธิการบดี หรือเรียนจบแล้วจะได้รับปริญญาบัตรจากใคร เป็นต้น ส่วนคณะก็เตรียมดูหลักสูตรมาได้เลย เรียนอะไร เกี่ยวกับอะไร เรียนกี่เทอม มีกี่สาขา เรียนจบไปแล้วทำอะไรได้บ้าง ฯลฯ เพื่อให้รู้ว่าน้องๆ เองก็สนใจคณะนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งหลายๆ คณะมักจะถามค่ะ
>> 4. ปี 1 ต้องไปอยู่องครักษ์นะ ไปได้หรอ
มศว มี 2 ที่หลักๆ คือ ประสานมิตรและองครักษ์นะคะ โดยปี 1 เกือบทุกคณะจะต้องไปเรียนที่องครักษ์ ใครที่ยังไม่รู้ อย่าเผลอไปทำหน้าวิตกกังวลกรีดร้องใส่อาจารย์นะคะ ตั้งสติแป๊บนึง ค่อยๆ คิด พี่มิ้นท์แนะนำว่าให้ตอบว่าได้ไว้ก่อนค่ะ เพราะเรื่องแบบนี้คงขอพ่อแม่ไม่ยาก ซึ่งองครักษ์ก็อยู่แค่นครนายกเอง และมหาวิทยาลัยก็น่าอยู่ มีความปลอดภัย ยกเว้นว่าไปอยู่ไม่ได้แน่ๆ พ่อไม่ต้องไม่ยอมแน่ๆ ก็แจ้งอาจารย์ไปตามตรงเลยค่ะ
เป็นคำถามปลายเปิดที่น้องๆ สามารถเพิ่มคะแนนให้ตัวเองได้ดีที่สุดค่ะ "ทำไมถึงอยากเรียน มศว" น้องๆ ก็ตอบตามความเป็นจริงได้เลย อาจจะยอๆ หน่อยว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ โดดเด่นในด้านคณะที่ตัวเองเลือก ที่เหลือก็เป็นฟีลลิ่งของน้องๆ ค่ะ
ส่วนอีกคำถามที่ว่ารู้อะไรเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย/คณะนี้บ้าง ให้น้องๆ ลองหาข้อมูลสำคัญๆ ไป ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยก็เช่น สีประจำมหาวิทยาลัย ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ชื่ออธิการบดี หรือเรียนจบแล้วจะได้รับปริญญาบัตรจากใคร เป็นต้น ส่วนคณะก็เตรียมดูหลักสูตรมาได้เลย เรียนอะไร เกี่ยวกับอะไร เรียนกี่เทอม มีกี่สาขา เรียนจบไปแล้วทำอะไรได้บ้าง ฯลฯ เพื่อให้รู้ว่าน้องๆ เองก็สนใจคณะนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งหลายๆ คณะมักจะถามค่ะ
>> 4. ปี 1 ต้องไปอยู่องครักษ์นะ ไปได้หรอ
มศว มี 2 ที่หลักๆ คือ ประสานมิตรและองครักษ์นะคะ โดยปี 1 เกือบทุกคณะจะต้องไปเรียนที่องครักษ์ ใครที่ยังไม่รู้ อย่าเผลอไปทำหน้าวิตกกังวลกรีดร้องใส่อาจารย์นะคะ ตั้งสติแป๊บนึง ค่อยๆ คิด พี่มิ้นท์แนะนำว่าให้ตอบว่าได้ไว้ก่อนค่ะ เพราะเรื่องแบบนี้คงขอพ่อแม่ไม่ยาก ซึ่งองครักษ์ก็อยู่แค่นครนายกเอง และมหาวิทยาลัยก็น่าอยู่ มีความปลอดภัย ยกเว้นว่าไปอยู่ไม่ได้แน่ๆ พ่อไม่ต้องไม่ยอมแน่ๆ ก็แจ้งอาจารย์ไปตามตรงเลยค่ะ
>> 5. ถ้าผ่านสัมภาษณ์จะเอาไหม
อื้อหือออ ดูเป็นคำถามที่ไม่น่าถาม แต่โดนถามกันจริงๆ เนื่องจาก มศว เป็นมหาวิทยาลัยแรกๆ ที่เปิดรับตรง ซึ่งเวลาที่เหลือหลังจากนี้ยังมีรับตรงทยอยเปิดรับอีกเยอะเลยค่ะ อาจารย์จึงถามเพื่อให้มั่นใจว่ารับมาแล้วจะได้เห็นหน้าตอนเปิดเทอมแน่ๆ เพราะต้องยอมรับเลยว่าสนามสอบ มศว มีคนสอบติดแล้วสละสิทธิ์เยอะมากค่ะ ดังนั้นหากน้องๆ เจอคำถามนี้เข้าไปก็ช่วยยืนยันให้อาจารย์มั่นใจไปเลยว่า "เรียนแน่ๆ ค่ะ" จะได้ผ่านสัมภาษณ์แบบฉลุยไปเลย
อื้อหือออ ดูเป็นคำถามที่ไม่น่าถาม แต่โดนถามกันจริงๆ เนื่องจาก มศว เป็นมหาวิทยาลัยแรกๆ ที่เปิดรับตรง ซึ่งเวลาที่เหลือหลังจากนี้ยังมีรับตรงทยอยเปิดรับอีกเยอะเลยค่ะ อาจารย์จึงถามเพื่อให้มั่นใจว่ารับมาแล้วจะได้เห็นหน้าตอนเปิดเทอมแน่ๆ เพราะต้องยอมรับเลยว่าสนามสอบ มศว มีคนสอบติดแล้วสละสิทธิ์เยอะมากค่ะ ดังนั้นหากน้องๆ เจอคำถามนี้เข้าไปก็ช่วยยืนยันให้อาจารย์มั่นใจไปเลยว่า "เรียนแน่ๆ ค่ะ" จะได้ผ่านสัมภาษณ์แบบฉลุยไปเลย
>> 6. เกรดแค่นี้ จะเรียนไหวหรอ?
ได้ยินแว่วๆ จากรุ่นพี่ มศว มาว่ากลุ่มคณะสายวิทย์ อาจารย์จะดูเกรด ม.ปลาย เราด้วยค่ะ โดยเฉพาะวิชาคณิต วิทย์ ดังนั้นอาจโดนคำถามนี้ด้วย แต่ใครที่ได้เกรด 3.8-4.00 อาจจะไม่เจอคำถามนี้ก็ได้นะ >< แต่ไม่ต้องคิดมากนะคะ เพราะยังไงแล้วการสอบสัมภาษณ์ไม่ได้ใช้เกรดแน่นอน แต่ที่อาจารย์หยิบยกมาถามให้รู้ไว้เลยว่าอาจารย์แค่หยั่งเชิงทัศนคติของน้องๆ มากกว่าว่าประเมินตัวเองยังไงและมีปฏิกิริยายังไงเมื่อโดนถาม ไม่ใช่ว่าพอโดนอาจารย์กดดันก็เออออว่าสงสัยเรียนไม่ไหวแน่ๆ จำไว้เลยว่าน้องสอบผ่านขั้นแรกมาได้ขนาดนี้ แข่งกับคนเป็นพันเป็นหมื่นมาขนาดนี้ ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ตอบไปเลยมั่นๆ ว่า "เรียนไหวค่ะ"
ทั้งหมดนี้เป็น 6 คำถามหลักๆ ที่แทบเจอกันทุกคนเลย น้องๆ สามารถเตรียมคำตอบมาจากบ้านได้เลย ที่เหลือก็อาศัยการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงอาจมีคำถามวัดความรู้เกี่ยวกับสาขานั้นๆ แต่เท่าที่ดูมาก็ไม่มีอะไรมากนะคะ เป็นการพูดคุยกันมากกว่า เช่น ถามเรื่องครอบครัว การเดินทาง อาชีพของพ่อแม่ งานอดิเรก รวมถึงข่าวที่กำลังดังๆ ในช่วงนั้น ดังนั้นน้องๆ ที่จะลงสนามสอบสัมภาษณ์ มศว ควรติดตามข่าวไว้ด้วย โดยเฉพาะกลุ่มคณะสังคม รัฐศาสตร์ แนวๆ นี้น่าจะต้องมีคำถามเรื่องสภาพสังคมหลุดมาบ้าง
ได้ยินแว่วๆ จากรุ่นพี่ มศว มาว่ากลุ่มคณะสายวิทย์ อาจารย์จะดูเกรด ม.ปลาย เราด้วยค่ะ โดยเฉพาะวิชาคณิต วิทย์ ดังนั้นอาจโดนคำถามนี้ด้วย แต่ใครที่ได้เกรด 3.8-4.00 อาจจะไม่เจอคำถามนี้ก็ได้นะ >< แต่ไม่ต้องคิดมากนะคะ เพราะยังไงแล้วการสอบสัมภาษณ์ไม่ได้ใช้เกรดแน่นอน แต่ที่อาจารย์หยิบยกมาถามให้รู้ไว้เลยว่าอาจารย์แค่หยั่งเชิงทัศนคติของน้องๆ มากกว่าว่าประเมินตัวเองยังไงและมีปฏิกิริยายังไงเมื่อโดนถาม ไม่ใช่ว่าพอโดนอาจารย์กดดันก็เออออว่าสงสัยเรียนไม่ไหวแน่ๆ จำไว้เลยว่าน้องสอบผ่านขั้นแรกมาได้ขนาดนี้ แข่งกับคนเป็นพันเป็นหมื่นมาขนาดนี้ ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ตอบไปเลยมั่นๆ ว่า "เรียนไหวค่ะ"
ทั้งหมดนี้เป็น 6 คำถามหลักๆ ที่แทบเจอกันทุกคนเลย น้องๆ สามารถเตรียมคำตอบมาจากบ้านได้เลย ที่เหลือก็อาศัยการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงอาจมีคำถามวัดความรู้เกี่ยวกับสาขานั้นๆ แต่เท่าที่ดูมาก็ไม่มีอะไรมากนะคะ เป็นการพูดคุยกันมากกว่า เช่น ถามเรื่องครอบครัว การเดินทาง อาชีพของพ่อแม่ งานอดิเรก รวมถึงข่าวที่กำลังดังๆ ในช่วงนั้น ดังนั้นน้องๆ ที่จะลงสนามสอบสัมภาษณ์ มศว ควรติดตามข่าวไว้ด้วย โดยเฉพาะกลุ่มคณะสังคม รัฐศาสตร์ แนวๆ นี้น่าจะต้องมีคำถามเรื่องสภาพสังคมหลุดมาบ้าง
คำแนะนำเพิ่มเติม
- การแต่งกาย ควรดูดี สะอาด เรียบร้อย รองเท้าน้องผู้หญิงที่หมองๆ จากการเปียกฝนลุยดินมาก็ขัดให้เงาวับไปเลย ส่วนรองเท้าผู้ชายหากมีเวลาซักสักนิดก็ดีค่ะ และเวลาเข้าห้องสัมภาษณ์ก็อย่าเหยียบส้นนะคะ ดูไม่สุภาพมากๆ
- คณะที่คิดว่าจะมีการสอบเป็นภาษาอังกฤษ ก็ควรเตรียมตัวมาตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งการแนะนำตัว และซ้อมตอบแบบภาษาอังกฤษ
- คณะที่ต้องใช้พอร์ตอย่าลืมทำพอร์ตมานะ ส่วนคณะที่ไม่ได้บังคับ หากมีพอร์ตก็จะดีมากค่ะ เพราะการสัมภาษณ์รอบรับตรง พอร์ตเป็นตัวช่วยเสริมบารมีให้กับน้องๆ มากเลย ส่วนการทำพอร์ต เดี๋ยวพี่ๆ จะมีคำแนะนำการทำพอร์ตมาฝากกันด้วย ติดตามกันได้ที่เว็บ Dek-D.com เลย
- บางคณะนอกจากมีสัมภาษณ์ตัวๆ กับอาจารย์แล้ว อาจมีทดสอบความสามารถเล็กๆ น้อยๆ เช่น สาขาการตลาด อาจารย์จะมีของให้ชิ้นนึงแล้วให้เราแนะนำสินค้า ส่วนศิลปกรรม ก็จะมีทดสอบการแสดง คล้ายๆ ออดิชั่น แสดงสดกันเลยทีเดียว ณ จุดนั้น แสดงออกให้เต็มที่ค่ะ โอกาสสัมภาษณ์มีแค่ครั้งเดียว
- อย่าลืมเอกสารที่ต้องนำไปวันสอบสัมภาษณ์ เพราะถ้าลืมจะถือว่าผู้สมัครขาดคุณสมบัติ สิ่งที่ต้องนำไปด้วยได้แก่
+ บัตรประชาชนหรือบัตรนักเรียน
+ สำเนาระเบียนการศึกษา (ใบ รบ. หรือ ปพ.) ซึ่งก็คือ ใบเกรดนั่นเอง
+ สำเนาทะเบียนบ้าน
+ Portfolio
+ สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล (ถ้ามี)
+ ใบรับรองแพทย์แสดงผลตรวจร่างกาย (บางคณะ) ตรงนี้สำคัญมากนะคะ! เช็กให้ดีด้วยว่าคณะกำหนดว่าต้องเป็นใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐเท่านั้นหรือเปล่า
- อาจารย์ที่สัมภาษณ์มีหลากหลาย บางท่านใจดี แต่บางท่านดุ หากเจออาจารย์ดุ คำถามกดดัน พูดเสียดสีให้ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัวค่ะ ตัวตนจริงๆ ของอาจารย์ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน แต่ที่ท่านต้องแสดงออกแบบนั้นก็เพื่อทดสอบการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและวิธีรับมือกับความเครียด ต้องเข้มแข็งไว้ค่ะ
- วิธีตอบเมื่อเจอคำถามที่ตอบไม่ได้ ไม่ควรตอบว่า "ไม่รู้" เพราะดูไม่ตั้งใจเอาซะเลย แต่ควรตอบให้เห็นถึงความพยายาม เช่น ตอนนี้หนู/ผมยังไม่ทราบ แต่ถ้าได้เข้ามาเรียนที่นี่หรือมีโอกาสเจออาจารย์อีกสักครั้ง จะหาคำตอบมาให้ครับ/ค่ะ ใส่ลูกหยอดไปนิดๆ ให้เห็นถึงความตั้งใจของเรา รับรองฉลุยค่ะ
- การแต่งกาย ควรดูดี สะอาด เรียบร้อย รองเท้าน้องผู้หญิงที่หมองๆ จากการเปียกฝนลุยดินมาก็ขัดให้เงาวับไปเลย ส่วนรองเท้าผู้ชายหากมีเวลาซักสักนิดก็ดีค่ะ และเวลาเข้าห้องสัมภาษณ์ก็อย่าเหยียบส้นนะคะ ดูไม่สุภาพมากๆ
- คณะที่คิดว่าจะมีการสอบเป็นภาษาอังกฤษ ก็ควรเตรียมตัวมาตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งการแนะนำตัว และซ้อมตอบแบบภาษาอังกฤษ
- คณะที่ต้องใช้พอร์ตอย่าลืมทำพอร์ตมานะ ส่วนคณะที่ไม่ได้บังคับ หากมีพอร์ตก็จะดีมากค่ะ เพราะการสัมภาษณ์รอบรับตรง พอร์ตเป็นตัวช่วยเสริมบารมีให้กับน้องๆ มากเลย ส่วนการทำพอร์ต เดี๋ยวพี่ๆ จะมีคำแนะนำการทำพอร์ตมาฝากกันด้วย ติดตามกันได้ที่เว็บ Dek-D.com เลย
- บางคณะนอกจากมีสัมภาษณ์ตัวๆ กับอาจารย์แล้ว อาจมีทดสอบความสามารถเล็กๆ น้อยๆ เช่น สาขาการตลาด อาจารย์จะมีของให้ชิ้นนึงแล้วให้เราแนะนำสินค้า ส่วนศิลปกรรม ก็จะมีทดสอบการแสดง คล้ายๆ ออดิชั่น แสดงสดกันเลยทีเดียว ณ จุดนั้น แสดงออกให้เต็มที่ค่ะ โอกาสสัมภาษณ์มีแค่ครั้งเดียว
- อย่าลืมเอกสารที่ต้องนำไปวันสอบสัมภาษณ์ เพราะถ้าลืมจะถือว่าผู้สมัครขาดคุณสมบัติ สิ่งที่ต้องนำไปด้วยได้แก่
+ บัตรประชาชนหรือบัตรนักเรียน
+ สำเนาระเบียนการศึกษา (ใบ รบ. หรือ ปพ.) ซึ่งก็คือ ใบเกรดนั่นเอง
+ สำเนาทะเบียนบ้าน
+ Portfolio
+ สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล (ถ้ามี)
+ ใบรับรองแพทย์แสดงผลตรวจร่างกาย (บางคณะ) ตรงนี้สำคัญมากนะคะ! เช็กให้ดีด้วยว่าคณะกำหนดว่าต้องเป็นใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐเท่านั้นหรือเปล่า
- อาจารย์ที่สัมภาษณ์มีหลากหลาย บางท่านใจดี แต่บางท่านดุ หากเจออาจารย์ดุ คำถามกดดัน พูดเสียดสีให้ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัวค่ะ ตัวตนจริงๆ ของอาจารย์ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน แต่ที่ท่านต้องแสดงออกแบบนั้นก็เพื่อทดสอบการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและวิธีรับมือกับความเครียด ต้องเข้มแข็งไว้ค่ะ
- วิธีตอบเมื่อเจอคำถามที่ตอบไม่ได้ ไม่ควรตอบว่า "ไม่รู้" เพราะดูไม่ตั้งใจเอาซะเลย แต่ควรตอบให้เห็นถึงความพยายาม เช่น ตอนนี้หนู/ผมยังไม่ทราบ แต่ถ้าได้เข้ามาเรียนที่นี่หรือมีโอกาสเจออาจารย์อีกสักครั้ง จะหาคำตอบมาให้ครับ/ค่ะ ใส่ลูกหยอดไปนิดๆ ให้เห็นถึงความตั้งใจของเรา รับรองฉลุยค่ะ
ปิดท้ายลองไปดูตัวอย่างคำถามที่รุ่นพี่สอบ มศว 56 ที่เขาไปเจอกันในสนามสอบสัมภาษณ์ มีทั้งคำถามทั่วไปและคำถามวิชาการ บอกเลยว่าเป็นคำถามจริง เจ็บจริง จุกจริง น้องๆ มศว 57 ลองอ่านและซ้อมดูว่าเจอคำถามแบบนี้มา จะรับมือยังไงดี เย่ๆ
ตัวอย่าง
ประสบการณ์สอบสัมภาษณ์ มศว
ปี 2556
เอาล่ะค่ะ หวังว่าน้องๆ ที่อ่านจนจบมาถึงตรงนี้คงได้แนวทางการสอบสัมภาษณ์ไปแล้ว บางคนเป็นการสอบสัมภาษณ์รับตรงครั้งแรกในชีวิตด้วย พี่มิ้นท์เอาใจช่วยค่ะ ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเรา ระหว่างนี้ก็เตรียมตัวให้พร้อม เข้าห้องสอบด้วยความมั่นใจแล้วรอฟังคำว่า "เจอกันเปิดเทอมนะ" ได้เลย
36 ความคิดเห็น
น่าสนมากค่ะ รอดูอีกสี่ปี 55555555555555555
คาดว่าได้ตอบแน่ๆ ตอบให้เป็นตัวเองและมีกาลเทศะที่สุด
ทรัพยากร ถามไรบ้างง่ะ???? กลัวเจอคำถามแบบชวนอึ้ง แต่เราจะจริงใจตอบสุดๆแน่นอน55555 กลัว กวน__ โดย ไม่ได้ตั้งใจจัง ยังงัยหนูขอโทษล่วงหน้านะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ จะพยายาม >O<
2ปีที่แล้วสอบการตลาด คำถามก็ทั่วๆไปเกี่ยวกับตัวเอง อาจารย์ดูพอร์ตกิจกรรมแล้วก็ถามเพิ่มเติม อาจารย์ใจดีมาก
แต่คัดโหดนะ รับสัมภาษณ์เยอะแต่รับจริงไม่กี่คน ไม่รู้ว่าใช้เกณฑ์อะไรวัด ทั้งที่สัมภาษณ์ตัวต่อตัว อาจารย์มีหลายคน
ปล.เตรียมเอกสารให้ครบ รวมทั้งสำเนาบัตรปชช. ร้านซีรอกคิวยาว
การสอบสัมภาษณ์คงน่ากลัวน่าดูเลย
ยินดีกับน้องๆทุกคนที่สามารถผ่านรอบแรกมาได้ พี่ขอให้น้องเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด อย่าเครียด อย่าเกร็ง อาจารย์ท่านใจดี ท่านแค่อยากเห็นตัวตน อยากเห็นความคิดของเรา พี่ก็เป็นคนนึงที่มาจากการสอบตรง ผ่านการสัมภาษณ์แบบนี้มาแล้ว พี่เชื่อว่าถ้าเราทำเต็มที่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรเราก็จะไม่เสียใจ สู้ๆ พี่เป็นกำลังใจให้ ว่าที่เลือดเทา-แดงทุกคนนะ ^^
ยินดีกับน้องๆทุกคนด้วยนะคะ ขอให้ผ่านรอบสัมภาษณ์กันถ้วนหน้าจ้า
เราสอบ กำกับการแสดง
แต่งชุดให้เข้ากับบทได้ใช่ไหมเอ๋ย??
อย่างแบบ เราแสดงเป็นนักรบ เราควรเอาดาบไปด้วยป่ะ?