Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Harajuku Street fashion

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

แฟชั่นไม่มีขอบเขต มันคือการสร้างสรรค์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้คนมากมายใช้แฟชั่นแสดงถึงตัวตนและพื้นที่ของรสนิยมของกลุ่มคน ถ้าพูดถึงเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนญี่ปุ่น สิ่งที่ต้องนึกถึงเป็นอย่างต้น ๆ คือ แฟชั่น ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ทางแฟชั่นสูง อาจด้วยอิทธิพลของสังคมและวัฒนธรรม การนำแฟชั่นมาแสดงออกผ่านสื่อต่าง ๆ และสินค้าที่มีความหลากหลายน่าสนใจ ทำให้ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในอุดมคติของความเพ้อฝันที่สามารถเห็นได้จริงผ่านการออกแบบตัวละครผ่านการนำความเพ้อฝันเหล่านั้นมาสร้างขึ้นในกลุ่มคน และสิ่งเหล่านี้ได้แผ่ขยายและสร้างความโดดเด่นให้กับวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากรวมถึงแฟชั่น



การแสดงออกผ่านแฟชั่นของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่โด่งดังและโดดเด่นในโลก เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เราสามารถเห็นมุมมองที่เพ้อฝันได้มากกว่าประเทศอื่นมาก การแสดงออกถึงความเป็นไปไม่ได้ในสังคมอื่น ปรากฏให้เห็นได้ในสังคมญี่ปุ่น การแสดงถึงตัวตนที่แตกต่างของคนในสังคมถูกแสดงออกมาผ่านแฟชั่นเพื่อแสดงให้เห็นว่าแฟชั่นก็มีความหลากหลายและน่าสนใจ และเป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนตัวตนของมนุษย์ได้ สำหรับคนที่สนใจในด้านแฟชั่นของญี่ปุ่นคงต้องรู้จักย่านหนึ่งซึ่งเป็นแหล่งรวม street fashion หลายสไตล์นั่นคือฮาราจูกุ จนมีชื่อเรียกว่า ฮาราจูกุแฟชั่น หรือฮาราจูกุสตรีทแฟชั่น (Harajuku Street Fashion) ซึ่งฮาราจูกุแฟชั่นเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และในบางครั้งการมาท่องเที่ยวที่ฮาราจูกุนอกจากจะมาสัมผัสวัฒนธรรม ร้านค้า และอาหารที่มีชื่อเสียงแล้ว การชื่นชมฮาราจูกุแฟชั่นเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ได้รับความสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน และเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แฟชั่นแพร่หลายอย่างกว้างขวางในญี่ปุ่นอาจเป็นเพราะวัฒนธรรมการสร้างสรรค์ที่สร้างความหลากหลายให้หลายด้าย ทำให้แฟชั่นในญี่ปุ่นสามารถเลือกสรรได้และไร้ขอบเขต นอกจากแฟชั่นจะแสดงออกมาทางความชอบในความสวยงามแล้ว ยังมีเสน่ห์และน่าดึงดูดใจด้วย




       แฟชั่นคือความหลากหลายที่เลือกสรรได้ หรือก็คือรสนิยมตามแนวคิดของ
Adam Smith ความหลากหลายของแฟชั่นทั้งในโลกหรือในฮาราจูกุล้วนแสดงถึงรสนิยมที่หลากหลายในสังคมหนึ่ง แต่ฮาราจูกุแฟชั่นเป็นเพียงแค่รสนิยมอย่างเดียวหรือ จากแนวคิดของ Gill Lipovetsky ที่ว่าแฟชั่นคือการเปลี่ยนแปลงทางสังคม หรือกลไกทางสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงเวลาหนึ่งและส่งผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ในด้านต่าง ๆ ฮาราจูกุแฟชั่นอาจไม่ใช่แค่เรื่องของรสนิยม แต่เป็นการแสดงออกทางสังคมอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงเสรีภาพในสังคมแต่ละยุคสมัย เช่น ในยุคสมัยนี้ที่มีการให้ความสำคัญกับเรื่องเสรีภาพก็มีการแต่งตัวในลักษณะที่หลากหลาย ฮาราจูกุแฟชั่นถือเป็นหนึ่งในการแสดงเสรีภาพด้านแฟชั่น นอกนี้การแสดงถึงความชื่นชอบที่แตกต่างไปจากภาพจำของเราของฮาราจูกุแฟชั่นแสดงให้เห็นถึงแนวคิดเกี่ยวกับแฟชั่นของ Nieche ที่ว่าแฟชั่นสะท้อนถึงการปลดปล่อยทางอำนาจ การออกจากกติกาการใช้ชีวิต ก้าวออกจากบรรทัดฐานทางสังคม และแสดงตัวตนของตนเองอย่างเต็มที่ เพราะนัยหนึ่งก็กล่าวว่าฮาราจูกุแฟชั่นเป็นการแสดงความต่อต้านบรรทัดฐานทางสังคม จึงมีการแต่งกายที่สุดโต่งและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ความหลากหลายของแฟชั่นในญี่ปุ่นแสดงถึงความแตกต่างหลากหลาย ไม่มีขอบเขต ไม่มีเหตุผล และความเป็นไปได้ในแบบที่เราอาจคาดไม่ถึง เช่น การสวมเสื้อผ้าหลายชั้น การแต่งกายที่ไม่สะดวกต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน




ฮาราจูกุแฟชั่นไม่มีรูปแบบที่ตายตัว บางครั้งอาจกล่าวได้ว่า ยิ่งออกจากรูปแบบมากเท่าไรก็ยิ่งดี ซึ่งทำให้เกิดลูกเล่นที่หลากหลายและน่าสนใจจำนวนมาก การกบฏต่อพื้นฐานทางสังคมของแฟชั่นแสดงให้เห็นในแฟชั่นประเภทนี้อย่างเห็นได้ชัด หรือกล่าวได้ว่าเป็นแฟชั่นที่นอกเหนือไปจากการแต่งกายที่พบเห็นได้ทั่วไปจนกระทั่งการแต่งกายที่เราอาจคาดไม่ถึง เช่น เครื่องประดับที่ดูเยอะเกินจำเป็นและไม่สะดวกสบายต่อการสวมใส่และการใช้งาน แต่เราอาจบอกได้ว่าการที่ฮาราจูกุแฟชั่นได้รับความสนใจนั้น แสดงถึงการทลายขอบเขตเรื่องเพศและการแต่งกาย การใส่กระโปรงคู่กับกางเกงเป็นแฟชั่นที่เห็นได้ทั่วไป และไม่ถูกกีดกันในกลุ่มแฟชั่นนี้



ตามแนวคิดของการแผ่ขยายทางแฟชั่นของกลุ่มปัจเจกนิยมสมัยใหม่(Modern Individualism) รสนิยมเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ไม่มีความแตกต่างระหว่างชนชั้นหรือคนกลุ่มต่าง ๆ ในสังคม และก็ไม่ได้มีกลุ่มใดที่จะอ้างได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงกว่ากลุ่มอื่น ดังนั้นจึงไม่มีมาตรฐานของรสนิยม นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มต่าง ๆ ในสังคมมีรสนิยมที่คาบเกี่ยวกับกลุ่มอื่นด้วย และเรามีพื้นที่ทางสังคมที่แสดงความแตกต่างกันในเรื่องของรสนิยม เป็นผลมาจากวัฒนธรรมและทุนทางสังคม ซึ่งแฟชั่นต่าง ๆ ในฮาราจูกุแฟชั่นแสดงถึงกลุ่มต่าง ๆ ที่มีรสนิยมของตัวเอง แต่ก็ดำรงอยู่ร่วมกับแฟชั่นกลุ่มอื่นได้ท่ามกลางความหลากหลายของแฟชั่น ไม่ได้มีกลุ่มใดที่อยู่สูงกว่า หรือถือตนว่ามีระดับมากกว่ากลุ่มใด และด้วยแฟชั่นที่พยายามออกจากรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เราได้เห็นการผสมผสานรสนิยมด้านแฟชั่นของกลุ่มอื่นเข้ามาในรูปแบบของตนเอง ทำให้แฟชั่นในย่านฮาราจูกุขยายขีดจำกัดออกไปอย่างไม่จำกัด คือไม่ใช่แค่แต่งตัวในสไตล์แฟชั่นที่ชอบ แต่มีการรวมเอารสนิยมด้านแฟชั่นที่อาจมีการคาบเกี่ยวกับมาผสมผสานให้เกิดแฟชั่นของตนเอง ที่เป็นเอกลักษณ์ และสร้างตัวตนที่เฉพาะตัวของเราขึ้นมา



หลายคนแสดงตัวตนของตนเองผ่านแฟชั่น ทั้งบุคลิก การแต่งกาย บุคคลหลายคนที่เป็นที่รู้จักบางคนมีสไตล์การแต่งตัวที่มีลักษณะเฉพาะตามความชื่นชอบและความสนใจของตัวเอง การแต่งกายตามแบบที่ตนเองชอบนั้นไม่ใช่เพียงแค่แสดงความชื่นชอบของบุคคลนั้นออกมา ยังสะท้อนตัวตนส่วนหนึ่งในการแสดงความเป็นตัวตนของบุคคลนั้นออกมา ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงรสนิยม สภาพสังคม หรือธรรมชาติของมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งบุคลิก วาจา ลักษณะนิสัย และการแสดงความชอบผ่านสิ่งต่าง ๆ แต่อย่าลืมว่าเราไม่สามารถตัดสินใครผ่านภาพลักษณ์เพียงภาพเดียวได้ ฮาราจูกุแฟชั่นเองก็เป็นหนึ่งในตัวตนของผู้สวมใส่ที่สะท้อนออกมาผ่านแฟชั่นการแต่งกาย

อ้างอิง
What Is Harajuku Style? Japanese Fashion in Harajuku (thejapaneseshop.co.uk)
มาสัมผัสวัฒนธรรม “คาวาอี้” ที่ฮาราจูกุ ดินแดนแห่งแฟชั่นกันเถอะ/คู่มือท่องเที่ยวโตเกียวอย่างเป็นทางการ GO TOKYO
บล็อก Yoair - สิ่งพิมพ์บล็อกมานุษยวิทยาของโลก

แสดงความคิดเห็น

>