Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แชร์ประสบการณ์ ด่านแลกเปลี่ยนหฤโหด ทุนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา (KLYES)

ตั้งกระทู้ใหม่

  การได้ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศคงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆคนที่อยากจะเปิดประสบการณ์ อยากศึกษาวัฒนธรรมผ่านการไปสัมผัสด้วยตัวเอง พี่เองก็มีความฝันอย่างนั้นค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นทุนทำให้เราก็ทราบกันดีว่ามีการแข่งขันสูงงง เอาล่ะ พี่ขออธิบายทุนที่พี่เคยสอบไปก่อนนะทุนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา(Kennedy-Lugar Youth Exchange and Study) หรือ KLYES เป็นทุนที่ได้รับการสนับสนุนแบบเต็มจำนวนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยมอบให้แก่นักเรียนไทย-มุสลิมที่บิดามารดา หรือผู้ปกครองตามกฎหมายมีเงินเดือน/รายได้ต่อเดือน รวมกันไม่เกิน 50,000 บาท

ทุนนี้เป็นหนึ่งในโครงการของAFSนะ น้องๆสามารถเข้าไปดูโครงการอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่https://afsthailand.org/ เลยนะคะ
เข้าเรื่องของเรากันต่อ ด่านแรกหลังจากที่พี่กรอกและส่งใบสมัครไปแล้วพี่ก็ต้องสอบข้อเขียนค่ะ ปีที่พี่สมัครเขาจะจัดแบบออนไลน์ ก่อนสอบประมาณครึ่งชั่วโมงพี่ก็ต้องเข้าZoomไปเจอเพื่อนๆทั้งหลายที่มาสอบเหมือนกัน ถ้าคนเยอะมากกไม่ต้องตกใจเลยค่ะเพราะเขามัดรวมกับเพื่อนที่สมัครโครงการอื่นด้วย และทุกคนก็จะต้องเข้าห้องประชุมย่อยโดยจะมีพี่เจ้าหน้าที่คอยกำชับแต่ละขั้นตอนเลยนะคะ รีวิวข้อสอบกันบ้างคือข้อสอบไม่ได้ให้เขียนนะคะ จะมีช้อยส์มาให้ พี่จำได้ว่าพาร์ทแรกคือError ที่ให้มาเป็นประโยคแล้วให้ตรวจเช็คแกรมม่าที่ผิด ส่วนพาร์ทอื่นๆก็จะมีบทความให้อ่านแล้วตอบคำถาม พี่จำได้ว่ามันไม่ได้ยากสำหรับพี่555 แต่พี่ก็เตรียมตัวมาเยอะอยู่พอสมควร เมื่อประกาศผลปรากฏว่าพี่ผ่านค่ะ เขาจะประกาศให้ส่วนตัวในเว็บที่เราได้กรอกข้อมูลไป ด่านถัดไปคือการสอบสัมภาษณ์ เขาจะให้เตรียมเอกสารต่างๆ เช่น ผลการเรียน สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น และด้วยความที่เป็นทุนเต็มจำนวนเขาเลยบังคับว่าต้องทำPortfolioด้วยค่ะ สนามสอบขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่ไหนนะคะ ของพี่เลือกสนามสอบที่ใกล้บ้านที่สุดค่ะ พอถึงวันนั้นจริงพี่ตื่นเต้นสุดๆ มีเพื่อนๆที่สมัครจากหลายโครงการมาสัมภาษณ์เช่นกัน แต่เขาจะสัมแยกกัน พี่ทำใจดีสู้เสือแม้ว่าจะสั่นมากแค่ไหนก็ต้องสู้! เราต้องพกความมั่นใจไปทุกที่ค่ะ เข้าห้องปุบไม่ลืมพนมมือสร้างความประทับใจกับกรรมการสามคนที่นั่งเรียงกัน สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ เขาจะให้แนะนำตัวเอง ถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับเรา และมีคำถามที่วัดว่าเราจะสามารถรับมือสิ่งต่างๆที่เราอาจจะพบเมื่อเราไปแลกเปลี่ยนได้หรือไม่ แล้วก็มีให้แสดงวัฒนธรรมนิดหน่อย  อย่างพี่นี่เลือกลิเกฮูลูค่ะ เสร็จสัมภาษณ์ก็รอประกาศผล ผ่านไปน่าจะนับเดือนได้ก็ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าค่ายคัดเลือก30คน มีชื่อพี่อยู่ด้วย พี่ดีใจมาก  แต่ระหว่างนี้ก็มีเอกสารที่ต้องเตรียมเยอะเหมือนกันนะ จำได้ว่าตาลายเลย พอถึงวันค่าย ค่ายจัด2วัน1คืน จัดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง(ได้ค่าเดินทางคืน ห้องนอนสบาย ทานอาหารอร่อยๆได้ไม่อั้นเลย) ช่วงเช้าเราจะเล่นสันทนาการโดยมีรุ่นพี่ที่ได้ไปแลกเปลี่ยนมาแล้วมาสร้างสีสันให้ บรรยากาศสนุกไม่ตึงเครียด แต่เอาดีๆ จะมีกรรมการคอยสังเกตเราอยู่ค่ะ เพราะเขาเกริ่นนำว่าทุนในปีนี้มีแค่10ทุน เท่ากับว่าจะมีคนที่ถูกคัดออก ช่วงบ่ายจะเป็นกิจกรรมกลุ่มที่เขาจัดให้ค่ะ เขาจะให้แสดงอะไรก็ได้ที่เป็นวัฒนธรรม นึกย้อนไปก็ขำเพราะแต่ละคนเต็มที่กันมากๆ ตกดึกจะเป็นการสอบค่ะ Eltis test มีทั้งพาร์ทฟัง พูด อ่าน แล้วต่อด้วยเรียงความเป็นภาษาอังกฤษ200กว่าคำ ที่เราต้องเขียนอธิบายคุณสมบัติตัวเรา ความใฝ่ฝัน และตอบคำถาม3-4ข้อ ทุกคนเข้าใจไหมว่าแอร์มันเย็น555 ความกดดันสูงมากก หลังจากที่ผ่านด่ายสุดหินไปก็ได้ขึ้นไปพักเพื่อเจอด่านที่หินกว่าเดิม นั่นคือสัมภาษณ์อีกรอบค่ะ จำPortfolio 
ของเราได้ไหมคะ มันไปอยู่ในมือของกรรมการแล้วค่ะ การเขเาไปให้สัมต่างจากรอบแรกมาก เพราะเขาสัมเข้มข้นสุด ให้แนะนำตัวเองเหมือนเดิม แต่คำถามที่เขาจะถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิตเนี่ยเราต้องตอบให้จึ้ง ชนิดที่เขาไม่สามารถจะต้อนเราให้จนมุมได้ค่ะ พยายามพูดอังกฤษนะคะขอเตือนน เพราะพี่ตื่นเต้นมาก แรกๆก็อังกฤษแหละแต่หลังจากนั้นปล่อยจอยเป็นไทยไปเลยย นึกแล้วเสียดายมากค่ะ หลังจากสัมภาษณ์เสร็จเราก็รวมตัวเพื่อฟังพี่จากAFSมาให้รายละเอียดสำคัญ ต่อจากนี้ก็มีให้กรอกเอกสารต่อที่บ้านค่ะ แล้วพี่เขาก็ให้กำลังใจกับทุกคน อีกประมาณเกือบเดือนก็มีประกาศรายชื่อคนได้ทุนผ่านอีเมล...ไม่มีชื่อพี่ในนั้น พี่ทำใจมาประมาณนึงแล้ว แม้จะแอบเสียดายแต่ก็สู้ต่อไปค่ะ สักวันมันจะเป็นวันของเรา
 
 
  

แสดงความคิดเห็น

>