Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์สอบชิงทุนการศึกษาเต็มจำนวน ยุวทูตเอ็นจีเนียส Engenius International Student Exchange Programs

ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะ เราชื่อมีน มาจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราชนะคะ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการทุนแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมนานาชาติ Engenius International Student Exchange Programs รุ่นที่ 7 ค่ะ เราได้เข้าร่วมการสอบชิงทุนค่าโครงการเต็มจำนวน แล้วก็ได้รับทุนยุวทูตเอ็นจีเนียส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นทุนการศึกษาเต็มจำนวนค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่การสมัครสอบ การสอบ การเตรียมตัว ไปจนถึงการเข้าค่ายเตรียมความพร้อมการไปแลกเปลี่ยนของทางโครงการเลยค่ะ


1.สมัครสอบ

เรารู้จักโครงการ Engenius จากทางโรงเรียนค่ะ โรงเรียนมาประกาศหน้าเสาธงว่ามีสอบชิงทุนนักเรียนแลกเปลี่ยน ด้วยความที่เรามีความคิดที่จะไปแลกเปลี่ยนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอเราได้ยินก็สนใจค่ะ เลยไปติดต่อคุณครูแล้วก็ไปลงชื่อสอบค่ะ คุณครูเค้าจะให้เลือกว่าเราจะไปแลกเปลี่ยนระยะสั้นหรือระยะยาว เราก็ลงแบบระยะยาวไปค่ะ ในวันสอบก็จะมีใบสมัครให้กรอกอีกทีค่ะ เราก็จะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวของเรา แล้วรู้สึกว่าจะมีให้กรอกพวกงานอดิเรก ความสามารถพิเศษ กีฬา/ดนตรีที่ชอบ อะไรประมาณนี้ด้วยค่ะ


2.การสอบ

การสอบที่เราสอบจะมีทั้งหมด 3 รอบค่ะ ในรอบแรกและรอบที่สองจะเป็นการทำข้อสอบค่ะ ส่วนรอบสุดท้ายจะเป็นการสอบสัมภาษณ์และแสดงความสามารถพิเศษค่ะ

-รอบแรก ในรอบแรกจะสอบที่ศูนย์สอบของตัวเองค่ะ ของเราก็สอบที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศของเราเลย รอบนี้จะมีนักเรียนเข้าสอบจากทั่วประเทศเลย ในปีที่เราสอบมีนักเรียนระดับชั้นม.3-ม.5 เข้าสอบจากทั่วประเทศจำนวน 1,600 คนค่ะ ข้อสอบก็จะมีวิชาภาษาอังกฤษกับวิชาสังคมค่ะ เป็นครึ่งต่อครึ่งเลย บอกตามตรงว่าพอเห็นว่ามีสังคมด้วยนี่อึ้งเลยค่ะ555 รอบนี้ข้อสอบจะเป็นแบบฝนทุกข้อค่ะ พาร์ทภาษาอังกฤษก็จะมีพวก conversation, vocab, reading ประมาณนี้ค่ะ ส่วนพาร์ทสังคมหลักๆจะเป็นเกี่ยวกับวัฒนธรรมค่ะ พวกประเพณี ภูมิปัญญาของแต่ละภาค เช่น รูปทรงบ้าน อาหารการกิน แล้วก็มีประวัติศาสตร์บ้างนิดหน่อย จะเป็นพวกศิลปะหรือเรื่องราวของรัชกาลต่างๆค่ะ

-รอบสอง รอบนี้ทางโครงการจะคัดเลือกนักเรียนจากทั่วประเทศ 1,600 คน เหลือประมาณ 200 คนค่ะ โดยนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกก็จะมาสอบที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ ในช่วงเช้าทางโครงการจะทำการปฐมนิเทศก่อน ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนแลกเปลี่ยน การกลับมาเรียนต่อที่ประเทศไทย การเตรียมพวกเอกสาร แล้วก็จะมีการแชร์ประสบการณ์จากรุ่นพี่ที่ไปแลกเปลี่ยนมาแล้วด้วยค่ะ เราชอบมากๆเพราะจะได้เห็นมุมมองของคนที่ได้ไปแลกเปลี่ยนแล้วจริงๆ บวกกับได้รู้แนวทางการใช้ชีวิต แล้วก็การเรียนต่อในไทยด้วยค่ะ


หลังจากนั้นก็จะเป็นพักเที่ยงค่ะ การสอบจะมีการสอบในช่วงบ่าย ในข้อสอบรอบนี้จะเป็นวิชาภาษาอังกฤษอย่างเดียวเลย แต่ในรอบนี้จะมีพาร์ทฝนกับพาร์ท essay ค่ะ ในพาร์ทฝนข้อแรกๆถึงกลางๆแนวจะคล้ายๆกับข้อสอบรอบแรกเลยค่ะ พวก conversation, vocab เราคิดว่าถ้าข้อสอบรอบแรกพอทำได้ ส่วนตรงนี้ของรอบสองก็น่าจะไหวอยู่ค่ะ ข้อท้ายๆของข้อเขียนจะเป็น reading กับ error ค่ะ เรารู้สึกว่า reading ถ้าตั้งใจอ่าน จับใจความดีๆ ก็น่าจะพอตอบได้ค่ะ อาจมีต้องพลิกแพลงวิเคราะห์นิดหน่อย ส่วน error ตรงนี้เราว่าน่าจะต้องรู้พวกศัพท์หรือแกรมม่าให้แม่นๆเลยค่ะ ถ้าแม่นตรงนี้แล้วก็น่าจะผ่านไปได้ค่ะ ส่วนตัวเราก็แอบมึนๆเหมือนกันค่ะ555 ส่วนพาร์ท essay จะเป็นกระดาษแยกอีกแผ่นนึงเลยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดหัวข้อน่าจะประมาณว่าให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่ผู้ปกครองให้เด็กมีการเข้าถึงพวกคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุยังน้อยค่ะ เราก็เขียนบอกไปทั้งข้อดีข้อเสียค่ะ คีย์หลักๆ เลยคือเราต้องเขียนเริ่มให้น่าสนใจ น่าอ่าน เกริ่นดีๆให้ดูน่าติดตาม ส่วนตรงเนื้อหาส่วนตัวเราก็พยายามเขียนเยอะๆ ค่ะ แต่ต้องตรงประเด็น ไม่วกไปวนมา อาจจะมีการพูดถึงหัวข้อต่างๆ แล้วถ้าอยากจะขยายความก็อาจยกตัวอย่างอะไรแบบนี้ค่ะ และสุดท้ายเราต้องจบบทความให้กินใจ ขมวดปมแล้วก็สรุปเรื่องที่เราเขียนมา พูดง่ายๆ เลยก็คือพยายามจบให้สวยๆ ค่ะ สิ่งสำคัญของการสอบรอบนี้คือต้องรักษาเวลาค่ะ รู้ว่าตัวเองจะใช้เวลากับพาร์ทไหนเยอะ พยายามเก็บพาร์ทที่คิดว่าเราพอทำได้ก่อนค่ะ ส่วนเวลาที่เหลือเราค่อยเอามาทำพาร์ทที่เราไม่มั่นใจ

-รอบสาม รอบนี้จะเป็นการสอบสัมภาษณ์และแสดงความสามารถค่ะ โดยโครงการจะคัดเลือกนักเรียนจาก 204 คนในรอบสอง เหลือ 30 คนเพื่อมาสอบสัมภาษณ์ค่ะ เราทราบผลจากในเพจเฟสบุ๊คของโครงการค่ะ โดยในนั้นก็จะมีตารางเวลาสัมภาษณ์ของนักเรียนแต่ละคน คนละประมาณ 30 นาทีค่ะ ในห้องสัมภาษณ์จะมีกรรมการ 3 ท่านค่ะ เข้าไปแล้วเค้าก็จะบอกให้เราพูดเกี่ยวกับตัวเองแล้วก็ครอบครัวค่ะ อันนี้เราว่าคิดๆ หัวข้อกับเรื่องที่จะพูดไปก่อนเลยก็ดีค่ะ หลังจากนั้นกรรมการก็จะถามต่อจากที่เราพูดไปค่ะ คำถามที่กรรมการถามเราเท่าที่จำได้ก็จะประมาณว่า ใครในบ้านพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง ฝึกภาษาอังกฤษจากไหน ชอบดูหนังแนวไหน หนังสือที่อ่านล่าสุด (ตอนแนะนำตัวเราพูดถึงการอ่านกับการดูหนังไปด้วยค่ะ) เราจะมีวิธีนำเสนอโครงการยังไง ถ้าเราเข้ากับ host family ไม่ได้จะทำยังไง เคยไม่สบายจนต้องเข้าโรงพยาบาลมั้ย ความสามารถที่เรามีเรากล้าเอาไปแสดงในประเทศที่เราไปแลกเปลี่ยนมั้ย คาดหวังอะไรบ้างจากการไปแลกเปลี่ยน หลังจากกลับมาคิดว่าจะเรียนต่อหรือเดินเส้นทางไหนในชีวิต แล้วก็เราเอาแฟ้มสะสมผลงานไปด้วย เผื่อให้กรรมการได้ดูผลงานเราว่าเราทำอะไรบ้าง อันนี้แล้วแต่เราเลยค่ะ จะเอาไปหรือไม่เอาไปก็ได้ ในแฟ้มสะสมผลงานเรามีพวกกิจกรรมร้องเพลง กรรมการเค้าก็บอกให้ร้องเพลงให้ฟังด้วยค่ะ555 แล้วก็เรื่องการแสดงความสามารถพิเศษเราก็เอาตามที่เราถนัดเลยค่ะ แนะนำว่าก่อนแสดงความสามารถอาจจะพูดเกริ่นก่อนนิดหน่อย ให้พอรู้ story ว่าทำไมถึงอยากแสดงความสามารถนี้ ทำไมถึงสนใจความสามารถนี้ ความสามารถนี้สำคัญกับเรายังไง ประมาณนี้ค่ะ ตอนตอบคำถามเราก็ต้องพยายามตั้งสติดีๆ ไม่ลน แล้วก็พยายามตอบไปตามธรรมชาติค่ะ กรรมการใจดีและน่ารักมากๆ เราติดขัดตรงไหนเค้าก็ช่วยค่ะ หลักๆ คือสื่อสารให้กรรมการเข้าใจก็พอแล้ว


3.การเตรียมตัวสอบ

-เตรียมเรื่องข้อสอบ หลังจากเราสมัครรอบแรกไปเรามีเวลาประมาณ 2-3 วัน ก่อนจะสอบคัดเลือก เราก็มีหาแบบฝึกหัดทำนิดหน่อยค่ะ ให้พอคุ้นชิน ส่วนวิชาสังคมก็ไม่ได้เตรียมอะไรไปเลยค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่ามีวิชาสังคมด้วย 555 ส่วนรอบที่สอง รอบนี้เราทราบก่อนว่าจะเป็นวิชาภาษาอังกฤษอย่างเดียว เราก็มีฝึกเรื่องคำศัพท์กับพวกแกรมม่าไปบ้างค่ะ เพราะเราคิดว่ามีโอกาสเสียแต้มกับส่วนนี้มากกว่าส่วนอื่นๆ เลยพยายามเก็บไปก่อนค่ะ ส่วนตัวเราพอจะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้าง บางพาร์ทก็เลยอาจจะไม่ต้องเก็บเยอะมาก ส่วน essay เราอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์ค่ะ ที่โรงเรียนเรามีให้เขียนแบบนี้เรื่อยๆ อยู่แล้วเลยพอเขียนได้ค่ะ แต่บางทีถ้าอยากฝึกก็หาหัวข้อจาก google แล้วลองเขียนดูค่ะ รอบนี้จะมีการสอบที่กรุงเทพฯ เราที่เป็นเด็กต่างจังหวัดก็ต้องนั่งเครื่องบินไป ขึ้นเครื่องรอบนี้เป็นการบินเดี่ยวครั้งแรกของเราเลยค่ะ ตื่นเต้นมากๆ ตอนขึ้นเครื่องเราก็โหลดข้อสอบไปทำบนเครื่อง 1 ชุดด้วยค่ะ 555

-เตรียมสอบสัมภาษณ์ ต่อไปเป็นรอบสัมภาษณ์ รอบนี้น่าจะเป็นรอบที่เราใส่ความพยายามเยอะสุดเลย เพราะตอนแรกไม่คิดว่าจะผ่านมาถึงรอบนี้ แต่พอผ่านจริงๆ ไฟก็ลุกเลยค่ะ555 อันดับแรกเราก็เตรียมบทพูดแนะนำตัวก่อนค่ะ เราจะพยายามพูดให้เยอะๆ ไปก่อน จะได้ดูมีความพร้อม มีการเตรียมตัว ในบทแนะนำตัวของเราก็จะพูดถึงประมาณนี้ค่ะ ตอนแรกก็จะเป็นพวกข้อมูลเบสิกๆ ก่อน แบบพวกชื่อ อายุ โรงเรียน ระดับชั้น บ้านเกิด (เราแอบแทรกเรื่องราวการเดินทางไปสัมภาษณ์ด้วยเพราะรอบนี้เรากับครอบครัวขับรถไปกรุงเทพจากนครศรีธรรมราชเลย เพราะหลังจากสัมภาษณ์เรามีกิจกรรมที่ต้องเป็นตัวแทนโรงเรียนไปร่วมกิจกรรมที่ชุมพรต่อด้วย รู้สึกว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจดี เลยพูดไปค่ะ555) เรื่องครอบครัว เราพูดถึงสมาชิกในครอบครัว ว่ามีกี่คน มีใครบ้าง เรามีบทบาทหน้าที่อะไรในบ้าน แบบช่วยงานบ้านอะไรแบบนี้ค่ะ ที่บ้านเรามีสัตว์เลี้ยง เราก็พูดถึงว่าลักษณะมันเป็นยังไง ช่วยดูแลมันยังไงค่ะ แล้วก็พูดถึงพวกงานอดิเรก เวลาว่างทำอะไร ทำไมถึงชอบทำกิจกรรมนั้นๆ ถ้ามีรางวัลอะไรเราว่าพูดไปด้วยก็ดีค่ะ ความสนใจ เราสนใจเรื่องอะไรบ้าง เรามีความสามารถพิเศษอะไรบ้าง สามารถนำต่อยอดตอนไปแลกเปลี่ยนได้ยังไงบ้าง และที่เราคิดว่าสำคัญมากๆ คือ ทำไมเราถึงอยากไปแลกเปลี่ยน หรือทำไมถึงอยากไปประเทศนั้นๆ ตรงนี้เราว่าจะแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราได้ดีเลยค่ะ ส่วนแนะนำตัวก็ประมาณนี้ค่ะ เรื่องตอบคำถาม เราก็มีเก็งคำถามกับคุณพ่อคุณแม่ไปบ้าง แล้วก็ฝึกตอบค่ะ ตอนตอบจริงจะได้พอมีไอเดียบ้าง คำถามที่เราเตรียมไปก็จะมีพวก จุดแข็ง, จุดอ่อนของเราแล้วก็วิธีพัฒนาตัวเอง ทำไมถึงเลือกโครงการนี้ ทำไมถึงคิดว่าเราเหมาะสมกับการได้ทุนนี้ อะไรคือแรงบันดาลใจให้เราพัฒนาตัวเอง อะไรคือความผิดพลาดที่เราเคยทำมาในอดีตแล้วเราเรียนรู้อะไรจากมันบ้าง แล้วเราก็หาคำถามสัมภาษณ์เพิ่มเติมจาก youtube ด้วยค่ะ


4.การปฐมนิเทศ, การเข้าค่ายเตรียมความพร้อม

-ปฐมนิเทศ การปฐมนิเทศรอบนี้จัดขึ้นที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ จะมีการให้ความรู้เรื่องพวกเอกสารต่างๆ หรือที่ต้องทำส่งทางโครงการ เช่น พวก application หรือจดหมายหาโฮสต์ค่ะ ทางโครงการก็จะแนะนำเรื่องวิธีกรอกต่างๆ เราสงสัยตรงไหนก็ถามพี่ๆ ได้ทุกขั้นตอนเลยค่ะพี่ๆ น่ารักมากกกก แล้วเราก็จะได้รู้เป็นไทม์ไลน์เลยค่ะว่าช่วงไหนต้องส่งเอกสารอะไร ต้องทำอะไรบ้างค่ะ

-ค่ายเตรียมความพร้อม ก่อนไปค่ายจะมีการให้ผู้ปกครองเซ็นต์เอกสารสำหรับโครงการแลกเปลี่ยน ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ค่ายนี้เราก็จะได้ไปเข้าค่าย 3 วัน 2 คืน ที่โรงแรมเอเชีย พัทยาค่ะ เราก็จะได้เจอกับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ไปแลกเปลี่ยนรุ่นที่ 7 เหมือนกัน ได้เพื่อนใหม่เยอะมากๆ แล้วเพื่อนๆ ทุกคนก็เฟรนลี่สุดๆ กิจกรรมในค่าย อย่างแรกทางโครงการก็จะพาพวกเราไปที่วัดศรีวนาราม จ.ชลบุรี เป็นกิจกรรมฟังธรรม ทำสมาธิ ข้อคิดในการใช้ชิวิต ในค่ายก็จะมีพี่ๆ เอ็นจีเนียสและพี่ค่ายที่มีประสบการณ์การไปแลกเปลี่ยนก็จะแนะนำเกี่ยวกับเรื่องต่างๆในการไปแลกเปลี่ยน มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของพี่ค่าย แล้วเราก็จะได้รู้เกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ตอนไปแลกเปลี่ยน ขั้นตอนการเดินทาง การเตรียมเอกสาร แล้วก็พวกรายละเอียดเกี่ยวกับประกันสุขภาพและอุบัติเหตุค่ะ พวกเราก็ยังได้ทำกิจกรรมเขียนจดหมายหาตัวเองในอนาคต ว่าเราคาดหวังอะไรหลังจากจบโครงการ พี่ๆ เอ็นจีเนียสก็จะแบ่งพวกเราเป็นกลุ่มๆ แล้วทำกิจกรรมกันเป็นกลุ่มค่ะ ทำให้เรารู้จักและสนิทกันเร็วมากๆ


คืนก่อนที่พวกเราจะเดินทางกลับพี่ๆเอ็นจีเนียสก็จะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ แล้วก็อวยพรพวกเราค่ะ เรารู้สึกซึ้งมากถึงจะมาเข้าค่ายแค่ 3 วันแต่ก็รู้สึกผูกพันกับทุกคนที่นี่มากๆ เราได้ประสบการณ์ดีๆ เยอะมาก แล้วความรู้ที่พี่ค่ายและพี่ๆ เอ็นจีเนียสให้ก็มีประโยชน์มากๆ พวกเราจะได้เอาไปปรับใช้แน่นอนค่ะ


สุดท้ายนี้เราก็ต้องขอบคุณโครงการเอ็นจีเนียสที่เปิดโอกาสให้เด็กๆได้ร่วมสอบและได้ทำกิจกรรมดีๆด้วยกัน แล้วก็ให้โอกาสพวกเราได้ไปหาประสบการณ์ในโครงการแลกเปลี่ยน ขอบคุณครอบครัวที่คอยซัพพอร์ต แล้วก็ขอบคุณโรงเรียนเบญจมราชูทิศที่เข้าร่วมโครงการดีๆกับเอ็นจีเนียสค่ะheart

แสดงความคิดเห็น