เปิดพอร์ต เทคนิคการแพทย์ มหิดล และแชร์คำตอบตอนสอบสัมภาษณ์ dek67
ตั้งกระทู้ใหม่
• ก่อนอื่นเราต้องศึกษาดูเกณฑ์ก่อน
- สามารถดูเกณฑ์ได้ที่ : https://tcas.mahidol.ac.th/qualified/portfolio1-1/0613mt.pdf
- เกณฑ์ของปีนี้กับปีที่แล้วเหมือนกันทุกอย่างเลย แต่ปีนี้รับเพิ่ม 5 คน
- คร่าว ๆ ก็คือ เกรดเฉลี่ย 4 เทอมของวิชา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ มากกว่าเท่ากับ3.5
- มีคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL 64 / IELTS 5.0 / TOEIC 600 อะไรก็ได้อย่างใดอย่างนึง
- ต้องมีอย่างใดอย่างหนึง เข้าร่วมโครงการขันขันวิทยาศาสตร์ ระดับภูิมภาคหรือระดับชาติ / เป็นนักเรียนที่สอบผ่านและเข้าโครงการ สวทช. / ผ่านการอบรมเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ รอบที่ 1 สสวท / ผ่านการคัดเลือกเข้าค่ายต้นกล้าส่องแสง / ได้รับรางวัลคุณธรรม จิตอาสา ในระดับจังหวัดขึ้นไป
- ค่ายต้นกล้าส่องแสง เป็นค่ายที่จัดโดยรุ่นพี่ในคณะเทคนิคการแพทย์ มหิดล ทั้งสาขา MT และ RT ติดตามการสมัครได้ที่ https://instagram.com/xscopecampmrt?igshid=YTQwZjQ0NmI0OA==
• พอร์ตของเรา
- พอร์ตกำหนดให้มีแค่ 8 กิจกรรม แบ่งเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่ามากที่สุดและผลงานอื่น ๆ
- SOP เราเขียนที่มาที่ไปว่าทำไมถึงชอบจุลชีวะ แล้วแบบทำกิจกรรมอะไรไปบ้าง ที่มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราตระหนักว่า เริ่มอยากเป็นนักเทคนิคการแพทย์ แล้วทำไมต้องเป็นมหิดล มหิดลเป็นยังไง ชอบอะไรในมหิดล และสุดท้ายคือ เป้าหมาย การวางแผนการทำงาน, เรียนต่อ ในอนาคต
- กิจกรรมที่มีคุณค่ามากที่สุด เราเลือก โครงงาน สอวน.ชีวะ ดูงานในรพ. เพราะสิ่งเรานี้ทำให้เรา ได้มีประสบการณ์จริงทั้งในด้านการเรียน การทำแลป และ การทำงาน เราเลยให้พื้นที่มัน 1 หน้าเต็ม ๆ เลย โครงงานก็แปะรูปเล่มกับสไลด์นำเสนอ ส่วนสอวนก็แปะรูปที่เราทำแลปเองตอนอยู่ใยค่าย เพื่อให้เห็นว่าเรามีประสบการณ์จริง ๆ
- กิจกรรมอื่น ๆ 5 อย่าง เราก็จะพยายามเขียนอธิบาย ว่าเราทำอะไร ได้อะไรจากกิจกรรมนี้ พยายามใส่กิจกรรมให้หลากหลาย และเขียนให้มันเชื่อมโยงกับคณะ ความชอบของเรา และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด
- สุดท้ายจะเป็นส่วนของ หลักฐานของกิจกรรม เราแปะเป็นคิวอาร์โค้ดย พอกดเข้าไปก็จะเป็น โฟลเดอร์แยกกิจกรรมการรมไว้ ปล. ทั้งหมดที่เราแปะคิวอาร์โค้ดในพอร์ต มันเป็นไฮเปอร์ลิงก์นะ สามารถกดเข้าไปดูในไฟล์ได้เลย ไม่ต้องสแกน
เพิ่มเติมที่อยู่ในคิวอาร์โค้ดนะ
คิวอาร์โค้ดของโครงงานและสอวน.
• รีวิวสอบสัมภาษณ์ รอบพอร์ต คณะเทคนิคการแพทย์
- เป็นสัมภาษณ์ออนไลน์ในซูม ก่อนจะเริ่มสัมภาษณ์จะมีให้ตรวจตาบอดสีก่อน
- ตรวจตาบอดสีใช้เวลาแปปเดียว
- พอตรวจเสร็จก็เข้าไปรอในห้องรวมของซูมเพื่อรอสัมภาษณ์ เดี๋ยวจะมีคนเรียกถ้าถึงคิวเรา
- ใช้เวลาสัมภาษณ์ประมาณ 30-40 นาที
- ก่อนวันสัมภาษณ์จะมีข่าวให้เราดูแล้ววิเคราะห์ ปีนี้ได้เป็นข่าวเรื่อง จำใจต้องแท้ง https://youtu.be/8wX9KxevS5I?si=BK3eJYtSXXvlsOt4
- ลำดับการเรียกคือ วันที่ประกาศผลผู้สิทธิ์สัมภาษณ์เค้าจะส่งไฟล์รายชื่อมา แล้วบอกว่าเราลำดับเท่าไหร่ เรียงจาก 1-51คน อยู่กลุ่มไหน ก็คือตัดที่ 5-6 คน เช่น คนลำดับที่ 1-5 อยู่กลุ่มที่ 1
- แล้วเวลาสัมภาษณ์จะสัมแยกกลุ่มกัน แล้วเรียงเป็นคนแรกของกลุ่มนั้น ๆ แบบ คนลำดับที่ 1 6 11 จะได้สัมเป็นคนแรก แล้วเราคือคนที่ 5 รอนานมากกกก เริ่มสัม 8:30 ได้สัมตอน 11:44 รอจนหายตื่นเต้นอะ
• อันนี้เป็นคำถามที่เราโดนถามนะ
- คือเราสัมเป็นคนสุดท้าย เลยค่อนข้างไม่ซีเรียสกับเวลาสัมแบบยาวไป ๆ เราสัมไปทั้งหมด 50 นาทีเลย
- อาจารย์ใจดี คุยสนุกมากๆๆๆ เราพูดแบบไปเรื่อยสุด ๆ
- แต่ละคนจะได้คำถามสัมภาษณ์ไม่เหมือนกัน ดูคำถามสัมภาษณ์ของคนอื่น ๆ ได้ที่ https://x.com/Oligodek67/status/1721068526197481655?s=20
• ต่อมาจะเป็นส่วนของการเตรียมตัวการสัมภาษณ์
- เรามีเวลาเตรียมตัวแค่ 4 วัน (ประกาศผล 1 สัม 5)
การเตรียมตัวของเราคือ
1.ลิสต์คำถามสัมภาษณ์ : เราจะแบ่งคำถามเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ
• กลุ่มแรก : โดนแน่ ๆ ถามมาจากรุ่นพี่ mumt โดยตรง ที่โดนจริง และเกร็งเพิ่มเอง แล้วเราก็จะเขียนสคริปต์ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษเลย
• กลุ่มต่อมา คือเป็นคำถามที่เราดูรีวิวจากรุ่นพี่มหิดลคณะอื่น และจากอ่านหาในยูทูป เว็บต่าง ๆ อันนี้เราจะเตรียมคำตอบแค่ภาษาไทย ฝึกพูดฝึกตอบให้คล่อง
• กลุ่มสุดท้าย เป็นคำถามรวม ๆ ทั่วไป ที่เราได้มาจากครูแนะแนว อันนี้เราถามตอบกับเพื่อนแบบผ่าน ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร
2.ซ้อมสัมภาษณ์จริง คือเราลาเรียนไป 1 วัน เพื่อลิสต์คำถาม เตรียมคำตอบ และซ้อมสัม ซึ่งวันนั้นทั้งวัน เราซ้อมสัมแค่กับแฟน แฟนก็ติดเหมือนกัน เลยซ้อมสัมให้กันได้ ซ้อมกันจนพูดคล่อง อะไรที่คิดไม่โอเคก็ช่วยกันปรับ ช่วยกันคิดคำถามเพิ่ม และวันรุ่งขึ้นเป็นวันศุกร์ เราเลยได้สัมกับหลายคน เริ่มแรกก็สัมกับเพื่อน จากลิสต์คำถามที่ครูให้มา ตอนเที่ยงก็ไปหาครูแนะแนวคนที่หนึ่ง ส่วนมากก็โดนคำถามที่เราเกร็งไว้เลย และตอนเย็นก็คือ ซ้อมสัมทั้งกับครูแนะแนวอีกคน ครูฟิสิกส์ ครูเคมี ครูชีวะ รวมถึงกับรุ่นพี่ที่สนิทด้วย พี่ก็ช่วยแนะนำคำตอบ ให้ข้อคิดแนวทางต่าง ๆ เพิ่ม เราว่าการซ้อมสัมเป็นอะไรที่สำคัญมาก มันทำให้เราชินกับการพูด การคุยกับผู้ใหญ่ ได้คำแนะนำจากครู อย่างเราอะโดนเรื่องพูดเร็วไป เราก็พยายามแก้พูดให้ช้าลง ตอนสัมจริง มันก็ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลย เพราะมันก็เหมือนแค่เล่าให้อาจารย์ฟัง
3. ตอนสัมจริง เวลาที่พูดให้มองกล้องตลอดเวลา พยายามเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่วอกแวก อย่ามองไปทั่ว ตอนอาจารย์พูดก็มองที่จอ เวลาตอบก็ไม่จำเป็นที่ต้องตามสคริปต์เป๊ะนะ พูดให้เป็นธรรมชาติ เป็นตัวเองมากที่สุด ที่เตรียมสคริปต์ก็เพื่อ ที่จะรู้แนวทางเฉยๆ ว่าควรตอบยังไง
อันนี้เป็นคำตอบที่เราตอบตอนสัมภาษณ์นะ ดูคลิปเต็มได้ที่ : https://drive.google.com/file/d/1F5-XWHtUi5bX57qzmpcNSb0fQKOY2lF_/view?usp=drivesdk
5 ความคิดเห็น
พี่เตรียมสอบสอวน.ชีวะยังไงบ้างครับ ได้ลงคอร์สบ้างไหมครับ
เวลาที่พูดให้มองกล้องตลอดเวลา พยายามเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่วอกแวก อย่ามองไปทั่ว ตอนอาจารย์พูดก็มองที่จอ เวลาตอบก็ไม่จำเป็นที่ต้องตามสคริปต์เป๊ะนะ พูดให้เป็นธรรมชาติ เป็นตัวเองมากที่สุด ที่เตรียมสคริปต์ก็เพื่อ ที่จะรู้แนวทางเฉยๆ ว่าควรตอบยังไง
แสดงว่า เป็น dek ปี 64-63 ช่วง covid
เยียมมาก ขอ ยกนิ้วให้ ใน ความ มีระเบียบวินัย (ดูจากผลงาน)
1. ขอให้ประสพ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน
2. จิตใจ งาม
3. ไม่จำเป็นตอ้งไปเรียน โรงเรียน top ๆ ทั้งหลาย
น่าจะเบลอ ข้อมูลวันเดือนปีเกิดด้วยนะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?