Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เพื่อนๆเชื่อคำนี้กันมั้ยคะ “โลกจะเหวี่ยงเราไปในที่ที่ควร”

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ เราชื่อสายไหม นะคะ
จะมาเล่าประสบการณ์ว่า ชีวิตจะโดนโลกเหวี่ยง ไปเรียนแพย์ไกลถึงที่จีน ได้ยังไงนะคะ

         เอาเหตุผลที่สายไหมได้ไปเรียนที่จีนก่อนนะคะ คือเราอ่ะอยากเป็นหมอม้าก แต่ว่าเรายื่นคะแนนไม่ติดค่ะ เราทำเคมีขาดไปนี๊ดเดียวเอง เราก็เคว้งไปเลย  ได้แต่คิดว่าจะซิ่วรึเปล่า เพื่อนจะมองเรายังไง คนอื่นจะมองเรายังไง แต่แม่กับพ่อเราก็บอก“ให้เอาใจตัวเองเป็นหลักไม่ต้องสนคนอื่น ในโลกก็ไม่มีใครสนใจเราอยู่แล้ว” แต่หากจะซิ่วมันก็เสียเวลาจริงๆ แม่ก็เสนอเรื่องการเรียนที่จีนขึ้นมา เพราะแม่รู้ว่าสายไหมเก่งภาษาอังกฤษ สามารถเรียนอินเตอร์ได้ แม่เป็นกำลังใจให้สายไหมและหาทางช่วยอยู่ตลอดเลย ในเมื่อเราพลาดการสอบ สามัญแล้ว(รอบสาม) โอกาสการเป็นหมอก็แทบไม่มีแล้ว แต่ยังสามารถยื่นไปเรียนที่จีนได้อยู่

       สายไหมค่อนข้างกลัวเลยค่ะ เพราะว่า เราก็ไม่ได้ภาษาจีนด้วย ตอนนั้นประเทศจีนกำลังปิดประเทศเพราะโควิดด้วย จังหวะมันดูไม่ค่อยดีเลย แต่สายไหมก็คิดนะคะถ้าเราไม่ไปคราวนี้ แล้วจะมีจังหวะไหนที่ดีกส่านี้อีกทางMedinter ก็ยืนยันว่าเกรดแบบเรานี่สามารถไปเรียนได้(เราได้เกรด 3.34 นะเพื่อนๆ) มหาลัยที่เราไปเรียนคือม.หัวจง นะคะ (Huazhong University of Science and Technology)

พาทย์แรก การสมัคร
มีมหาลัยที่ใช้เกณฑ์ไม่ยาก,ไม่มีสอบเขียน,ไม่ใช้ Ielts ค่ะ แต่สายไหมเลือกจากอันดับของมหาลัย ความน่าเรียนน่าอยู่  โดยเกณฑ์มหาลัยนี้มีสอบข้อเขียน5วิชาหลัก 20 ข้อ และใช้ ielts5.5 ขึ้นไป GPA 3.0 ขึ้นไป สายไหมชอบมหาลัยนี้ค่ะ ข้อสอบทำได้ 5 รอบ ผ่านทางออนไลน์ เราเลยมั่นใจว่าโอกาสนี้จะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแน่ สู้!!
    มีรุ่นพี่ที่เคยไปกับ Medinter บอกแนวข้อสอบค่ะ พี่ๆน่ารักมากๆเลย กว่าเราจะผ่านก็รอบที่3เลย แล้ว Medinter เค้าจะสอนภาษาจีนเบื่องต้น กับ วิชา Anatomyให้ด้วยนะคะ 

พาทย์สอง การเรียน
            โครงการที่สายไหมเรียนเป็น หมออินเตอร์ MBBS เรียนแบบสองภาษาค่ะ แต่อย่าพึ่งตกใจกันนะคะ คือตอนเรียนเป็นภาษาอังกฤษหมดค่ะ แต่ว่าตอนขึ้นชั้นคลีนิคปี 4,5,6  จะต้องเจอคนไข้จริงๆ ถ้าหมอฟังคนไข้ไม่รู้เรื่องก็แย่สิคะ5555 แต่3ปีแรกที่สายไหมไปอยู่ เราก็ค่อยๆฝึกภาษาจีนจากชีวิตประจำวันอยู่แล้วค่ะ ม.หัวจง ที่เราเรียน อันดับ5 ของจีนค่ะ มี พิพิธภัณฑ์Anatomy คือมีดองสมอง,ดองปอด กันชัดๆเลย เห็นของจริงตอนปฎิบัติเลยไม่ยากมากค่ะ ห้องสมุดก็ใหญ่มากเขาจะมีบัตร นศ. ใบเดียว ใช้ยืมหนังสือ หรือขอใบเกรด อะไรได้หมดเลย กับตู้อัตโนมัติ
             ต้องกลับมา Extern อีก1ปีที่โรงพยาบาลไทยก็สามารถ ยื่นทำงานที่โรงพยาบาลได้ทุกที่แล้วค่ะ สามารถเรียนวิชาเฉพาะต่อได้ค่ะ โดยรวมคือ เรียน6ปี+Extern1ปี เป็น7ปีค่ะ ถ้าเรียนที่ไทยจะเรียน 6ปี+ใช้ทุน3ปี เป็น9ปีค่ะ 
   มีเพือนนี่ที่เก่งภาษาจีนค่ะแล้วมีญาติอยู่ที่ประเทศจีน เลยทำงานต่อที่ประเทศจีนเลยก็มีค่ะ แต่ว่าต้องสอบใบประกอบวิชาชีพของจีนนะคะ กับมีHSK5 ขึ้นไป

พาทย์สาม การกินการอยู่
   อยู่นี่อาหารหลากหลายค่ะ อร่อยทั้งนั้นเลย แต่คิดถึงอาหารไทยมาก มีโรงอาหารฮาลาลแยกนะคะ ของกินที่นู่นจะมีความมันมาก แต่อร่อยค่ะ เพื่อนที่ไปอยู่นู่นพร้อมกัน คือจากผอมกลายเป็นตัวใหญ่ขึ้นเยอะเลยค่ะ
   ในส่วนของห้องพักนะคะ ก็มีน้ำอุ่น มีแอร์ค่ะ ทั่วไปเลย โดยปีแรกที่เข้าไป พี่ที่พาไปก็คือไปส่งถึงห้องพักเลยค่ะ นี่อยู่กับรูมเมทค่ะหารค่อหอกัน ตก3,000 ต่อเดือนเองค่ะ
   สุดท้ายนี้ก็ต้องบอกเลยค่ะว่า สนุกมาก รู้สึกว่าใช้ชีวิตได้คุ้มค่า ได้เพื่อนต่างชาติหลายชาติเลย ได้ภาษา ได้เที่ยว ได้กิน    


 !!! ใครเคยโดนเหวี่ยงไปไหนบ้าง มาเล่าให้กันฟังด้วยนะคะ !!!          
           

แสดงความคิดเห็น