Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คะแนนแพทย์น่าจะลดลงนะ คนเก่งๆไปเรียนจีนโปแลนด์เยอะมาก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

รุ่นพี่ไปเรียนแพทย์ที่จีนเยอะมากแถมไม่ใช่มหาลัยไก่กาแต่เป็นอันดับต้นๆทั้งนั้น ญาติกันก็ไปเรียนแพทย์ที่โปแลนด์ดูแล้วน่าสนใจเหมือนกันเลนคิดว่าคะแนนคณะแพทย์น่าจะลดลงเยอะมากแน่เพราะมีคนไปเรียนจีนกับโปแลนด์กันเยอะแยะและเค้าบอกว่าจบมาก็ทำงานที่ไทยได้แน่เพราะมาตรฐานเค้าสูงกว่าเราอยู่แล้วอย่างนี้เด็ก 68 น่าจะสอบเข้าแพทย์ได้ง่ายขึ้นแน่มั้ยคะ

แสดงความคิดเห็น

>

13 ความคิดเห็น

กัลย์ 26 เม.ย. 67 เวลา 08:03 น. 1-1

สงสัยเอเยนซี่ มาหาลูกค้า กับเด็กที่ผิดหวัง ระวังตัว ! หน่อย

0
Kornkorja 22 เม.ย. 67 เวลา 20:01 น. 3

ปกติแล้วที่เห็นมา สู้เรียนแพทย์มอรัฐที่ไทยไม่ได้เลยครับ ความรู้และทักษะ คนละชั้นกันเลย


เรียนแพทย์ที่ไทยกินขาด

0
สื่อศิลป์ 23 เม.ย. 67 เวลา 00:40 น. 4

คนที่ไปเรียนระดับปริญญาตรีเมืองนอก เทียบกับคนที่เรียนในมหาวิทยาลัยเมืองไทย....มันแค่หยดหนึ่งในทะเลเท่านั้นเอง มันไม่มีผลกระทบอะไรกับสถาบันในเมืองไทยเลยครับ

0
Buawan Books 23 เม.ย. 67 เวลา 14:15 น. 5

แทบไม่กระทบค่ะ คนเรียนเก่งจริงๆ ส่วนใหญ่ก็ยังเลือกเรียนมหาวิทยาลัยดังๆ ในประเทศ

เพื่อนเราส่วนใหญ่ที่ไปเรียนแพทย์ที่ ตปท. ส่วนใหญ่คือสอบแพทย์ในประเทศไม่ติด+ที่บ้านมีเงิน

0
Dhabfhd 24 เม.ย. 67 เวลา 19:34 น. 8

การเรียนต่างประเทศหรือเรียนที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศไม่ได้ส่งผลต่อคะแนนการสอบเข้าคณะแพทย์ในประเทศไทยโดยตรง คะแนนการสอบเข้าคณะแพทย์จะขึ้นอยู่กับความสามารถและความพร้อมของนักศึกษาในการเข้าสอบ ซึ่งสมัยก่อนการศึกษาต่างประเทศอาจถือว่ามีความเป็นไปได้สูงกว่าการศึกษาในประเทศไทย แต่ในปัจจุบันการศึกษาต่างประเทศจะมีความหลากหลายและมีมาตรฐานที่สูงในหลายประเทศ ดังนั้นคะแนนการสอบเข้าคณะแพทย์จะขึ้นอยู่กับความคุ้นเคยและความเข้าใจของนักศึกษาต่อเนื้อหาและรูปแบบของการสอบในประเทศไทย

ดังนั้น การเรียนต่างประเทศหรือเรียนที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศไม่ควรมองว่าจะมีผลต่อคะแนนการสอบเข้าคณะแพทย์ในประเทศไทยโดยตรง ผมแนะนำให้คุณศึกษาและเตรียมตัวให้ดีสำหรับการสอบเข้าคณะแพทย์ และให้ความสำคัญกับความรู้และความสามารถที่จะให้บริการแก่ผู้ป่วยในอนาคตครับ
0
มัณทนา 25 เม.ย. 67 เวลา 15:36 น. 9

คนเก่ง ๆ แบบไหนคะ

เรียนจบโรงเรียนดังระดับ Top ของประเทศ ระดับจังหวัด ระดับภูมิภาคเหรอเปล่าคะ

ถ้าไม่ใช่ก็ขอทราบชื่อโรงเรียนด้วยค่ะ

แล้วก็อย่าตั้งกระทู้ทิ้งเอาไว้แล้วหายไปค่ะ


พวกที่ไปเรียนต่อหมอหรือสายอื่น ๆ ที่เมืองนอกส่วนใหญ่สอบติดได้ทุนเรียนต่อ

บ้านมีฐานะร่ำรวย มีความเพียบพร้อม และมีทุนทรัพย์อยู่แล้ว

บ้านไม่ได้รวยมาก แต่รวยแบบปานกลางและมีคนคอยซัพพอร์ตอยู่แล้ว

มีจุดมุ่งหมายที่จะไปเรียนต่อ ไปทำงาน และย้ายไปอยู่เมืองนอกอยู่แล้ว

บางคนที่ไปเรียนต่อเมืองนอก แต่ผลออกมาสอบติดมหวิทยาลัยในไทยและสละสิทธิ์

ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะสอบติดอยู่แล้ว ไม่ได้กั๊กที่

0
มิสเตอร์ ที 25 เม.ย. 67 เวลา 21:24 น. 10

ถ้า ม.ระดับเบอร์ 1, 2, 3 คนเก่งก็ยังเข้าอยู่เหมือนเดิม คิดว่าในประเทศ คงยากเหมือนเดิม แต่โอกาส คนได้เข้าเรียนหมอ น่าจะมากขึ้น เพราะตอนนี้ เริ่มมี รร.แพทย์เยอะขึ้น และขยายจำนวนมากขึ้น แต่ถ้าเป็น ม.เอกชน หรือ ระดับอินเตอร์ของรัฐ อาจไม่แน่ เพราะค่าใช้จ่าย ที่ไทย แทบจะไม่แตกต่างจากการเรียน ตปท. เห็นมีข้อถกเถียงมากมาย เรื่องเรียนไทย หรือ ตปท อันไหนดีกว่าและทำไมต้องเลือกเรียน หมอ ที่ ตปท ผมมีประสบการณ์ตรง ลูกสาวผม ก็เรียน หมอที่ยุโรป สาเหตุ แน่นอนสอบไม่ได้ แต่เค้ามีความตั้งใจที่อยากจะเรียน และคะแนนที่เค้าทำได้ก็ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ ที่ดี และผมไม่อยากเสียเวลารออีกปี จึงตัดสินใจให้ไปเรียน ซึ่งก่อนไปก็ต้องผ่านการสอบ เค้าจะกำหนดคะแนนในกลุ่มวิทย์ ทั้ง 4-5 ตัวขั้นต่ำต้อง 3.5 กำหนดคะแนน IELTS หรือ อื่นๆ ในระดับที่สูงพอควร และสอบปากเปล่ากับอาจารย์ต่างชาติก่อน เอาเป็นว่า ภาษาอังกฤษ งู งู ปลา ปลา ไปไม่ได้แน่ ภาษาต้องดีในระดับ นึง (แต่อาจมีบาง ม. ก็อ่อนลงมาหน่อยในเรื่องภาษา) เมื่อทุกอย่างผ่านคุณก็ไปได้ ค่าเรียน+คชจ ต่อปีก็ประมาณ 0.7 - 1.0 ล้านบาท เรียน 6 ปี ทุกปีก็กลับมาฝึก ที่ รพ.ในไทย ประมาณ 1 เดือน ซึ่งก็เลือกฝึกได้ทุก รพ รัฐฯ ที่เค้ารับฝึก ลูกสาวผมเค้าเลือกไป รพ. ตจว แต่อยู่ใกล้ กทม นี่ แหล่ะ เรื่องหัตถการ อะไรนี่ ลูกมาเล่าให้ฟังได้ทำหมด ยิ่งเรื่องเย็บแผล เย็บกันอย่างสนุก มีเข้ามาให้เย็บทั้งวัน ออกไปชันสูติศพ และอื่นๆ ทีมแพทย์ที่ช่วยฝึกน่ารักมาก เค้ายินดีแนะนำทุกเรื่อง ไม่ว่าคุณจะเรียนมาจากไหน นี่เค้าฝึก มา 2 ครั้งแล้ว ส่วนเรื่องความเก่ง ถ้าวัดกันที่โรค เมืองร้อน ที่ไทยเก่งกว่าอยู่แล้ว เพราะทางยุโรปมันเมืองหนาว แต่โรคภัย มันไม่ใช่มี แค่ปวดหัว ตัวร้อน น้ำมูกไหล แพ้ฝุ่น มันยังมีมะเร็ง โรคปอด โรคไต โรคสมอง และอื่นๆ การใช้เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยต่างๆ ซึ่งมีราคาแพง ที่ไทยยังไม่มี ตรงนี้เรียนหมอ ตปท ได้เห็นก่อนใช้ก่อน เดี๋ยววันข้างหน้า เครื่องมือเหล่านี้ก็ต้องถูกใช้ในเมืองไทย ตอนนี้คนที่เรียน ตปท ก็จะถือว่ามีโอกาสที่ดีกว่า ส่วนเรื่องกังวลว่าจะเจอเคสน้อย อาจน้อยกว่าที่ไทย แต่ไม่ใช่ไม่มี เค้ายังได้เข้าไปในห้องผ่าตัดเรียนรู้ดูการผ่าตัดจริงกับอาจารย์และช่วยหยิบจับเครื่องมือ การผ่าศพ และการตรวจคนไข้ เพราะที่ ตปท ก็เป็นของรัฐบาล ส่วนการจะเป็นแพทย์ก็ไม่ได้ผูกขาดว่าต้องเป็นหมอที่ไทย อยากทำงานประเทศไหน ก็สอบใบแพทย์ ประเทศนั้นให้ได้ ซึ่งแพทย์ใน ตปท ไม่ใช่อาชีพ ที่มีรายได้สูงที่สุด แต่ก็สูงกว่าประเทศไทยอย่างมาก สรุปแล้วจะจบหมอจากที่ไหนก็ช่างเถอะ หมอก็ คือ หมอ ขอเพียงคุณจงเป็นหมอที่ดีมีคุณภาพ และคุณธรรม ก็น่าจะโอเคนะ

0
งงมาก 26 เม.ย. 67 เวลา 01:08 น. 11

ไม่มีทางครับ คนเก่งจริงๆส่วนมากก็อยู่ไทยนี่แหละครับ ที่ไปโปแลนด์ จีนมีสองอย่างคือไม่ติดที่ไทย หรือจะไปอยู่ที่นั้นถาวรครับ

0
AAA 26 เม.ย. 67 เวลา 11:24 น. 12

ตกใจ คุณเข้าใกล้มิจฉาชีพแล้วนะ

ไปจีน โปแลนด์ กลับมาสอบ ศรว 1 2 3 ยังไงก่อน?

คยเก่งๆ คือ? กิฟต์เลข วิทย์ คิงส์ ตอ พอมีคนเก่ง ไปแพทย์ ทันตะ cu si rama เกือบยกห้องที่เหลือทุน กพ สสวท

0
wiki 26 เม.ย. 67 เวลา 15:34 น. 13

2544 ถึงปัจจุบัน รางวัลโนเบล การแพทย์ ชาวอเมริกา 26 คน อังกฤษ 11 คน (รวม 37 คน จาก 64 คนที่ได้รางวัล) ประเทศอื่นๆ ที่พอจะมีมากหน่อย ก็เช่น ญ๊่ปุ่น 4 ฝรั่งเศส 3 นอกนั้น ก็ 1-2 มีจีน 1และ สิงค์โปร์ 1 ไม่มีโปแลนด์

0