Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากได้คำชมจากที่บ้านบ้าง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะหนูเป็น dek67 ที่ตอนนี้กำลังจะรอคะแนนยื่นรอบ3ค่ะที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอยากระบาย + มีคำถามอยากจะถามค่ะ หนูเป็นหลานสาวคนเดียวในบ้านค่ะหลายๆคนอาจจะบอกว่าดีเลยมีคนตามใจแน่ๆ ไม่เลยค่ะ 555 บ้านนี้เขารักหลานชายกันยิ่งกว่าอะไร หนูเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวที่บ้านชวนไปไหนก็จะไม่ไปเพราะคิดอยู่เสมอว่าถ้าไปคงจะรู้สึกอึดอัดทำตัวไม่ถูกเลยตัดปัญหาตรงนี้ไป ตอนช่วงขึ้นม.1ใหม่ๆ หนูทำตัวแย่จริงค่ะติดเพื่อน เกรดตก ติด0ติดร. จนยายพูดคำหนึ่งว่าหนูเปลี่ยนไป มันเป็นคำที่ติดอยู่ในใจเลยตัดสินใจย้ายโรงเรียนไปอยู่กับแม่ (ช่วงนั้นแม่ทำงานอยู่ภาคใต้) หนูปรับตัวทุกอย่างเกรดจากแค่ 2.00 ก็เพิ่มขึ้นทุกเทอมๆ จนมีปัญหาเรื่องโควิดจึงต้องย้ายกลับมาอยู่ที่เดิม ปัญหามันก็เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ทุกครั้งที่เกรดหนูออกยายก็จะขอดู เขาไม่เคยว่านะคะแต่ก็มักจะมีคำพูดที่ว่าทำไมเกรดคณิตไม่ได้เรื่อง ดูอย่างพี่ บลาๆๆๆ เปรียบเทียบกับลูกของญาติ ทิ้งบาดแผลไว้ให้ทุกครั้ง ขนาดเกรดมากสุด 3.72 เขายังไม่พอใจที่เกรดคณิตหนูน้อยเลยค่ะ 555 หนูไม่เคยขอรางวัล ไม่เคยขออะไรจากใครเพราะหนูเองก็ไม่เคยได้อะไร ต่างจากน้องที่อยู่แค่ ป.3 (จริงๆมีศักดิ์เป็นหลานค่ะแต่เรื่องราวมันมากกว่านั้น เอาเป็นว่าเป็นหลานชายที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในสายเลือดแต่แม่ของหนูเลี้ยงแม่ของหลานคนนี้ตั้งแต่เกิด) น้องได้คำชมทุกครั้ง อยากได้อะไรน้าก็หามาให้ อยากกินนู้นกินนี่ก็ได้กิน ตามใจทุกอย่างจริงๆ ถึงขนาดผ่อนไอแพดให้น้องแต่พอเป็นหนู แม่ลองขอให้น้าผ่อนบัตรให้หน่อยได้มั้ย น้าว่าขึ้นมาทันทีว่าเกินตัวจะใช้อะไร (หนูขอตอนช่วงติวสอบเข้ามหาลัยค่ะ) แม่ก็ตัดใจซื้อให้หนูเองโดยไม่ผ่านมือน้า แม่พูดเล่นๆขึ้นมาว่าหนูอยากเรียนกฎหมาย เรียนเกี่ยวกับการเมือง ตาก็พูดขึ้นมาว่าหนูไม่ได้อยากเรียนจริงๆ เรียนตามกระแส ทั้งๆที่หนูเองศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่อยู่ม.3มันเป็นสิ่งที่หนูชอบจริงๆค่ะ เวลาติวจะสอบก็แอบทำทุกอย่างเงียบๆคนเดียวในห้อง เขาคงคิดว่าหนูไม่เคยพยายามอะไรเลยมั้งคะแต่ก็ไม่เคยได้อธิบายอะไรเพราะยิ่งพูดก็ยิ่งแย่ ใช้ชีวิตแบบไม่เคยได้พูดอะไรทั้งแม่ทั้งลูก แม่เป็นคนเดียวที่รู้ทุกอย่างในชีวิตเขารู้ว่าหนูน้อยใจ เขารู้ว่าหนูเสียใจแม่จะไม่เคยได้บอกแม่เลยสักครั้ง มันเหมือนเป็นปมในใจอยู่นะคะว่าอยากเข้ามหาลัยดีๆเพราะอยากได้คำชม 5555 มันก็จริงทุกอย่างเลยค่ะแค่อยากเอาตรงนี้มาอุดรอยรั่วในใจแต่ตอนนี้กำลังคิดอยู่ค่ะว่าจะเข้ามหาลัยและคณะที่ตั้งไว้แต่แรกแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะภูมิใจบ้างรึเปล่า จะรู้จักมั้ย จะยินดีด้วยบ้างมั้ยรึว่าจะเข้ามหาลัยเดียวกับน้า (น้าจบจากมจพ.) แต่เป็นคณะที่พอรับได้แต่ก็ไม่ชอบอะไรขนาดนั้น มันอาจจะดูเว่อร์เกินไปถ้าคิดจะทำขนาดนี้เพียงเพราะคำชมแต่หนูเองก็ยอมรับค่ะ ว่าหนูเองก็เป็นแบบนั้นจริงๆ อยากเห็นเขาดีใจ อยากเห็นเขาแสดงสีหน้าภูมิใจกับตัวหนูเองบ้าง ยิ่งย้อนกลับไปดูรูปตากับยายตอนน้ารับปริญญา เขายิ้มแย้มดูมีความสุขมากๆ อยากได้อะไรแบบนั้นบ้างค่ะ

แสดงความคิดเห็น

3 ความคิดเห็น

Ppp 21 เม.ย. 67 เวลา 07:42 น. 1

1. ใครจ่านค่าเทอม ค่ากินอยู่ให้หนู ให้แคร์แค่คนนั้น

2. มหาลัยที่ตั้งใจจะเข้าเรียน คิดว่าสอบติดแน่ๆใช้ไหม ถ้าใช่ก็ไม่เห็นต้องกังวล

3. แม่หนูเคยว่าอะไรหนูมั้ย แม่เคยชมหนูรึเปล่า สำหรับพี่คิดว่าคำชมของแม่ก็เพียงพอแล้ว แม่ไม่เคยเอาเราไปเปรียบเทียบกับใคร แม่ภูมิใจในตััวเราก็เพียงพอแล้ว

4. แค่ตั้งใจเรียนค่ะ เรียนจบ หางานทำ ย้ายออกมาอยู่ข้างนอก ไม่ต้องทนอยู่ในบ้านนั้นอีก (เดาว่าเป็นบ้านครอบครัวใหญ่ อยู่กัันหลายครอบครัว) หรือถ้ามีกำลังทรัพย์ ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ก็ย้ายออกมาอยู่หอตั้งปต่เข้าเรียนมหาลัยเลยก็ได้

5. ที่บ้านอุ้มชูใครก็ให้เค้าไปพึ่งพาคนนั้นเอาค่ะ ดีซะอีก แปลว่าเค้าไม่ได้คาดหวังในตัวหนู และในอนาคตก็แน่ใจได้เลยว่าหนูจะตัดภาระในการเลี้ยงดูญาติที่แก่ชราออกไปได้(ซึ่งเป็นเรื่องที่หนักหนามาก ทั้งค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องเสียไป)

6. มองหาข้อดีของการไม่เป็นจุดสนใจของคนภายในบ้านค่ะ มันมีอีกเยอะ ไม่ต้องอยากได้คำชมและไม่ต้องสนใตคำเปรียบเทียบหรือคำพูดไม่ดี

รู้ว่าวิธีต่างๆที่ว่ามามันทำได้ยาก แต่ถ้าทำได้เราจะสบายใจมากค่ะ เปลี่ยนความคิดคนอื่น(โดยเฉพาะพวกคนแก่) มันเปลี่ยนยากค่ะ เปลี่ยนมุมมองของเราง่ายกว่าเยอะค่ะ วางแผนชีวิตดีๆ อยู่ได้ด้วยตัวเองไม่เอาความรู้สึกไปผูกไว้กับใคร โตมาจะสบาย ไม่ตกหลุมคำว่ากตัญญูด้วยค่ะ

0
เคยโดนมาก่อน 21 เม.ย. 67 เวลา 07:44 น. 2

อย่าเอาอนาคตของเราไปผูกติดกับคนที่ไม่ได้คิดจะสนใจความสำเร็จของเรามาตั้งแต่แรกค่ะ อยากเรียนอะไรอยากทำอะไรทำเลย เราเกิดคนเดียวเราตายคนเดียวอยู่แล้ว


ญาติ ๆ เขาอยู่กับเราอีกไม่กี่ปีก็ต้องจากกันไปแล้วค่ะ ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมามีสายเลือดร่วมกันแล้วจะอยู่ด้วยกันจนแก่จนเฒ่าหรือญาติดีกันตลอดชีวิตนะคะ ต่างคนต่างไปมีครอบครัวของตัวเองแยกย่อยอีกทีอยู่ดี


ดังนั้นอยากทำอะไรทำเลยค่ะ ประสบความสำเร็จไหมขึ้นอยู่กับตัวเราว่ามองว่ามันบรรลุเป้าหมายของเรารึยัง แข่งขันกับตัวเองค่ะ บนโลกนี้มีคนนับล้านจะให้ดีเลิศกว่าทุกคนก็คงไม่ใช่


อีกอย่างถ้าประจบไม่เก่งก็อย่าฝืนเลยค่ะคนเฒ่าคนแก่เขาชอบลูกหลานที่ปากหวานเข้าหาเขาตลอดเวลา เวลาให้ของชอบไม่ชอบก็ต้องแกล้งดีใจเว่อๆไว้ก่อน เหมือนคนเลี้ยงหมานั่นแหละค่ะ ใคร ๆ ก็ชอบหมาที่วิ่งกระดิกหางมาหาทุกครั้งที่กลับบ้าน



0
ผงแป้งฝุ่น 21 เม.ย. 67 เวลา 13:10 น. 3

จากที่พี่มองในฐานะคนนอก หนูต้องการ การยอมรับ ต้องการคำชมจากคุณน้า คุณตาคุณยาย ใช่ไหม จริงๆแล้วแค่คำชมจากแม่พี่ก็ว่าเพียงพอแล้วนะ การที่เอาตัวเองไปคอยเปรียบเทียบกับคนอื่น คนที่เสียใจและน้อยใจก็คือตัวหนูเอง หนูลองมองกลับมาที่แม่หนูนะลูก แม่รักหนูมากๆเลยนะ เขาสนับสนุนหนูตลอด หนูอยากได้อะไรเขายินดีหาให้ เพราะเขาคลอดหนูออกมา ส่วนน้า คุณตากับคุณยาย เขาจะเป็นยังไง รู้สึกยังไงเราไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก เพราะถึงหนูจะทำดี พยายามทำดีให้เป็นที่ยอมรับของเขา ถ้าเขาไม่ได้มองว่าเราดี เราทำดีแทบตายเอาชนะใจเขามันจะเสียเวลาชีวิตเรามากกว่า หนูใช้เวลาของหนูไปมีความสุขกับแม่ หรือกับตัวเองก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ อยากเรียนอะไรก็เรียน ทำเพื่อตัวเองในอนาคต ทำให้แม่ภูมิใจดีกว่า เดี๋ยวคนรอบข้างเขาก็จะมาชมแม่ที่ดูแลหนูเป็นอย่างดี หนูต้องกอดแม่ให้แน่นๆ รักแม่และรักตัวเองให้มากๆนะ ชมตัวเองบ่อยๆว่าเราเก่งจากตอนม1. มากๆเลย จากเกรด2กว่าๆเคยติด0มา ตอนนี้หนูเรียนได้เกรด3เลยนะ พี่ก็ชื่นชมหนูเหมือนกัน

0