ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ภัยร้ายสุดๆ ทำไงดี

[Ramenjung]

เทคโนโลยีการสื่อสารในโลกยุคปัจจุบันที่ไร้ขีดจำกัด บวกกับกระแสแฟชั่นซึ่งไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้คนเราใช้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไม่ได้นานนักก็เปลี่ยนรุ่น เปลี่ยนเครื่องใหม่ โดยนึกไม่ถึงว่าอุปกรณ์ไฮเทคไม่ใช้แล้วเหล่านั้นเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมและ สุขภาพร่างกายคนเรา อีกทั้งบางชิ้นส่วนยังไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้



* ขยะอิเล็กทรอนิกส์ มหันตภัยไฮเทค

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่เป็นที่ต้องการแล้ว หรือหมดอายุการใช้งานจากสภาพที่ชำรุดไปตามกาลเวลา เรียกกันว่า ขยะอิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Waste: E-Waste) จากพฤติกรรมการบริโภคแบบใช้แล้วทิ้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก อาจจะส่งผลกระทบให้เกิดภาวะขยะล้นโลกได้ รวมถึงการจัดการขยะอิเล็กโทรนิกส์ที่ไม่เหมาะสม ทำให้สารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ฯลฯ สารพิษ ไอพิษ หรือสิ่งตกค้างอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบ อาจรั่วไหลไปสู่แหล่งน้ำและดิน ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของคนในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก



* โนเกียทั่วประเทศเปิดรับคืนสินค้าเก่า เพื่อนำไปรีไซเคิลเอง

วันนี้บริษัท โนเกีย ประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแล้ว ด้วยการเปิดโครงการรับคืนโทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เสริมทุกยี่ห้อกลับคืนและนำไปรีไซเคิลเอง ณ กล่องรีไซเคิลของโครงการ Nokia Loves Earth ประกอบด้วย โนเกีย แคร์ เซ็นเตอร์ 12 สาขาทั่วประเทศ โนเกีย ช็อป 23 สาขาทั่วประเทศ ร้าน Playhound Power Buy ในกรุงเทพฯ และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ โนเกียมีเป้าหมายรณรงค์การรีไซเคิลโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมต่างๆ เนื่องจากการสำรวจล่าสุดของโนเกีย พบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เก็บโทรศัพท์มือถือเก่าไว้ที่บ้าน โดยมีเพียง 3% เท่านั้นที่นำโทรศัพท์มือถือไปรีไซเคิล และมีคนจำนวนมากที่ไม่ทราบว่าโทรศัพท์มือถือสามารถนำมารีไซเคิลได้

* ช่วยกันสักนิด ลดโลกร้อน

โทรศัพท์มือถือโนเกีย 1 เครื่องมีส่วนประกอบที่สามารถรีไซเคิลได้มากถึง 80 % ส่วนพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการ รีไซเคิล และวัสดุที่เหลือจะถูกนำไปบด เพื่อใช้เป็นชิ้นส่วนวัสดุก่อสร้างต่างๆ หรือถมถนน โดยไม่มีชิ้นส่วนใดเลยที่ถูกทิ้งอย่างไร้ค่า และหากผู้ใช้มือถือ 3 พันล้านคนทั่วโลกนำโทรศัพท์ที่ไม่ใช้แล้วมารีไซเคิลคนละ 1 เครื่อง จะทำให้ลดการใช้วัตถุดิบไปได้ถึง 240,000 ตัน ลดภาวะแก๊สเรือนกระจกได้มากเท่ากับลดปริมาณรถ 4 ล้านคันบนถนน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือเพียงเล็กน้อยจากทุกคนจะก่อให้เกิดพลังอัน ยิ่งใหญ่

* กรีนพีซยกโนเกีย "ผลิตภัณฑ์สีเขียว"

โครงการ Nokia Loves Earth ของโนเกีย ประเทศไทย ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนและเจตนารมณ์ของโนเกียที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยในการจัดอันดับบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลก 18 บริษัทในคู่มือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียว ฉบับที่ 10 (ฉบับล่าสุด เดือนพฤศจิกายน 2551)ซึ่งจัดทำโดยกรีนพีซ โนเกียได้รับคะแนนสูงสุด คือ 6.9 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 ใช้เกณฑ์พิจารณาจากความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ของบริษัทตลอดช่วงชีวิตของ ผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้รวมถึงขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดจากผลิตภัณฑ์เหล่านั้นด้วย

ที่มา
www.green.in.th

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 11 ธันวาคม 2551 / 01:30
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 11 ธันวาคม 2551 / 01:37