Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ผู้ใหญ่ใจดีท่านเริ่มเคลื่อนไหว เรื่องกรณีโอเน็ทแล้วครับ ดีใจแทนน้องๆด้วยครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พอดีมีเพื่อนพี่ส่งมาให้ดูน่ะครับ เป็นเด็กทุนกพ. ได้รับข่าวสารนี้มา เค้าเลยส่งมาให้ดูน่ะครับ ลองอ่านดูนะครับ ^-^


ตามที่พวกเราในฐานะผู้ที่ห่วงใยต่ออนาคตการศึกษาไทย ได้ทราบเรื่องเกี่ยวกับมาตรฐานข้อสอบและวิธีการจัดสอบ Ordinary National Educational Test (O-net) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบวัดผลเพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง โดยมีสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เป็นผู้ควบคุมระบบการออกข้อสอบและการจัดสอบ พวกเราได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำการวิเคราะห์ระบบการสอบรูปแบบใหม่นี้ ทั้งนี้พวกเราตระหนักดีถึงวัตถุประสงค์ของสทศ. อย่างไรก็ดี การสอบระบบใหม่ที่นำมาใช้กับการสอบในปีนี้ ก่อให้เกิดผลเสียต่อนักเรียนทั้งผู้เข้าทดสอบในปีนี้และปีก่อนหน้านี้ ดังต่อไปนี้


1) เนื้อหาข้อสอบกำกวมและก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ


1.1) ข้อสอบบางข้อในบางรายวิชา เช่น สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปศึกษา  การงานอาชีพและเทคโนโลยี ไม่มีหลักเกณฑ์การหาคำตอบที่ถูกที่สุดอย่างแน่ชัด และคำตอบที่ถูกมีความเป็นไปได้หลากหลายขึ้นกับประสบการณ์และทัศนคติของผู้ตอบ เช่น สีใดใช้แทนความรัก หรือการให้นักเรียนเลือกสีผ้าปูโต๊ะให้แม่ซึ่งเกิดวันศุกร์ เป็นต้น ประกอบกับข้อสอบที่เป็นแบบปรนัย ทำให้ผู้ตอบไม่สามารถให้เหตุผลประกอบคำตอบได้  จึงอาจทำให้เสียโอกาสในการได้คะแนนในข้อนั้นๆ


1.2) หลักสูตรการสอนของโรงเรียนมีความหลากหลาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลศึกษา ศิลปศึกษา และ การงานอาชีพและเทคโนโลยี เช่น
จากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพ.ศ. 2551 ในสาระที่ 3 มาตรา พ. 3.2 ตัวชี้วัดที่ 2 ที่เกี่ยวเนื่องกับวิชาพลศึกษา ได้กำหนดไว้ว่า นักเรียนควรสามารถ "อธิบายและปฏิบัติเกี่ยวกับสิทธิ กฏ กติกา กลวิธีต่าง ๆ ในระหว่างการเล่น การแข่งขันกีฬากับผู้อื่น และนำไปสรุปเป็นแนวปฏิบัติใช้ชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง" ทั้งนี้ หลักสูตรมิได้ระบุประเภทของกีฬาที่ครอบคลุมไว้ และทางโรงเรียนไม่สามารถจัดสอนเนื้อหาให้ครอบคลุมทุกประเภทกีฬาได้ จึงทำการสอนในประเภทกีฬาที่เหมาะสมที่นักเรียนจะสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างต่อเนี่อง โดยพิจารณาจากความเหมาะสมและความพร้อมของโรงเรียน   ดังนั้น ข้อสอบที่เกี่ยวเนื่องกับรายละเอียดของชนิดกีฬาที่ไม่ได้มีการเรียนการสอนในทุกโรงเรืยน จะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างโรงเรียนที่มีการสอนและไม่มีการสอนกีฬานั้น ๆ เช่นข้อที่เกี่ยวกับเทนนิส บัลเลต์ และข้อสอบบางข้อในรายวิชาอื่น เป็นต้น


2) การเปลี่ยนรูปแบบข้อสอบก่อให้เกิดความไม่ยุติธรรมในการเปรียบเทียบ


พวกเราได้ตระหนักดีและเห็นด้วยกับวัตถุประสงค์ของสทศ.ที่ต้องการให้คะแนนที่นักเรียนได้สะท้อนถึงความสามารถที่แท้จริงของนักเรียน ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบข้อสอบโดยเพิ่มจำนวนตัวเลือก อย่างไรก็ดีการเปลี่ยนนั้นทำให้ค่าคาดหวัง (Expected Value) ของคะแนนที่จะได้จากรูปแบบการสอบใหม่ แตกต่างออกไปจากแบบเก่า ตัวอย่างเช่น ในวิชาสังคมศึกษา ระบบข้อสอบได้มีการเปลี่ยนแปลงจาก การเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดจากสี่ตัวเลือกในแต่ละคำถาม  เป็นเลือกคำตอบที่ถูกทั้งหมดจากสี่ตัวเลือก และต้องตอบให้ถูกต้องทั้งหมดจึงจะได้รับคะแนนในข้อนั้นๆ  ทำให้ความน่าจะเป็นในการเลือกคำตอบที่ถูกต้องจากการเดาสุ่มลดลงจากร้อยละ 25 เหลือเพียงร้อยละ 6.25 ในแต่ละคำถาม  ยังผลให้นักเรียนที่รับการทดสอบในต่างปีมีโอกาสได้รับคะแนนที่ต่างกันแม้จะมีความรู้ความสามารถที่เท่ากัน ดังนั้น การเปรียบเทียบคะแนนสอบของนักเรียนที่รับการทดสอบในปีที่ต่างกันในส่วนนี้โดยตรงจึงเป็นการไม่ยุติธรรม



3) รูปแบบการจัดสอบที่ให้สอบได้เพียงครั้งเดียวทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมและไม่ให้โอกาสครั้งที่สอง


ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้โดยสทศ. การสอบ O-net มีไว้เพื่อการวัดมาตรฐานการเรียนการสอนของโรงเรียน เพื่อปรับมาตรฐานของแต่ละโรงเรียนให้เท่าเทียมกัน และปรับลดข้อได้เปรียบเสียเปรียบของนักเรียนที่มาจากต่างโรงเรียนในส่วนของเกรดเฉลี่ยสะสม มิใช่สำหรับการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา สทศ.จึงกำหนดให้นักเรียนมีโอกาสสอบ O-net ได้เพียงคนละ 1 ครั้ง ในช่วงปลายของมัธยมศึกษาปีที่หก อย่างไรก็ดี คะแนนที่นักเรียนได้รับจากการสอบในส่วนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของคะแนนที่นำมาใช้ตัดสินในการรับสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา หาใช่เพื่อวัดระดับความสามารถโดยรวมของแต่ละโรงเรียนอย่างเดียวไม่ จึงก่อให้เกิดปัญหา ดังที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้


3.1) รายวิชาที่มีการจัดสอบเพิ่มเติม ซึ่งได้แก่ วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ยังผลให้เกิดความไม่ยุติธรรมของการคิดคะแนนรวมของนักเรียน ที่รับการทดสอบในปี2549-2550 ซึ่งไม่มีการจัดสอบในรายวิชาที่กล่าวมาข้างต้น   ทำให้นักเรียนกลุ่มนี้มีโอกาสได้รับคะแนนสูงสุดในส่วนนี้เพียงร้อยละ 25 เทียบกับนักเรียนที่ได้รับการทดสอบในปีอื่น ๆ ที่มีโอกาสได้รับคะแนนสูงสุดในส่วนนี้ร้อยละ 30 และเนื่องจากสทศ.ไม่จัดการทดสอบเพิ่มเติมให้นักเรียนกลุ่มนี้จึงทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบขึ้น


3.2) นักเรียนบางกลุ่ม อาจจะขาดความพร้อมในขณะเข้ารับการสอบด้วยเหตุผลบางประการ หรือ ค้นพบหลังเข้ารับการศึกษาระดับอุดมศึกษาว่าเลือกสาขาวิชาได้ไม่เหมาะสมกับตนเอง จึงมีความประสงค์ที่จะยื่นคะแนนเพื่อรับการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยอีกครั้งในปีถัดมา  แต่ระบบการสอบที่ให้โอกาสในการเข้ารับการทดสอบได้เพียงหนึ่งครั้งนั้น ทำให้นักเรียนขาดโอกาสในการแสดงศักยภาพของตนเองเพื่อเข้ารับการศึกษาในสาขาวิชาที่ตนเองต้องการได้แม้จะมีความมุมานะพยายามเพื่อพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางสาขาวิชา เช่น แพทยศาสตร์ ที่ระบุคะแนนขั้นต่ำที่ใช้ในการรับพิจารณาไว้อย่างชัดเจน


พวกเราจึงอยากเรียนขอให้ทาง สทศ.ร่วมมือกับคณาจารย์จากแต่ละโรงเรียน และ มหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเรียนผู้ได้รับผลกระทบเพื่อดำเนินการหามาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย และหามาตรการป้องกันปัญหาในอนาคตเพื่อการพัฒนาอันยั่งยืนของระบบการศึกษาไทยต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาและดำเนินการต่อไปจักเป็นพระคุณยิ่ง


อ้างอิงจาก http://onet53.blogspot.com/

แสดงความคิดเห็น

>

131 ความคิดเห็น

Pooham 2 มี.ค. 53 เวลา 00:39 น. 1
เด็ดทั้งเนื้อหา ทั้งรายชื่อผู้เสนอ

ขอให้ครั้งนี้ได้รับการตอบรับในทางที่ดีจาก สทศ เถอะนะ
0
อุอุ 2 มี.ค. 53 เวลา 00:42 น. 2

ขอลงชื่อเพิ่มอีกคนได้ป้ะ

สุดยอดมากๆๆๆ
เปนไงล่ะ 55 55

สะใจๆๆๆ
ขอสอบดีได้มาตรฐานโดนแบนจากผู้ใหญ่ที่มีมันสมองกว่า

:]

0
p,pap 2 มี.ค. 53 เวลา 01:06 น. 6

อย่าใช้อารมณ์กันนะครับ พี่ๆผู้ใหญ่ที่ร่วมลงชื่อเขียนแจ้งแจงไว้ชัดเจนค่อนข้างครอบคลุมหลายประเด็นมาก
พี่จึงอยากขอให้น้องๆมีสติในการตอบกระทู้นี้นะครับ ไหนๆก็ขึ้นกระทู้ด้วยความเป็นเหตุเป็นผลไม่มีอารมณ์มาปนแล้ว
ก็อยากให้แสดงความเห้นไปในทางนั้นด้วยน่ะครับ จะได้เอาข้อเท็จจริงมาคุยกัน จะได้ไม่มีจุดให้เค้าติหนิได้น่ะครับ

แจ้งข่าวเท่านี้แหละครับผม โชคดีครับน้อง เอาใจช่วยครับ สู้ๆครับ ^^

0
จิงโจ้555 2 มี.ค. 53 เวลา 01:15 น. 8

ผมคิดว่าถ้ามีการแก้ไขจริง หรือมีการสอบใหม่ ก็ไม่น่าจะทัน admission นะครับ

เหลือเวลาอีก เดือนเดียวเอง

0
โอ่วเย่ 2 มี.ค. 53 เวลา 01:15 น. 9

เพิ่มประเด็นที่การสอบ ONET ในปีนี้ ใช้หลักสูตรแกนกลางปี 2551 ออกข้อสอบ แต่ว่านักเรียน ม.6 ในปีนี้ทุกคนยังเรียนในหลักสูตรปี 2544 ด้วยได้ไหมครับ -/\-

กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

0
ตื้นตัน 2 มี.ค. 53 เวลา 02:46 น. 11

ถึงจะไม่สำเร็จ
แต่แค่เห็นรุ่นพี่เห็นใจเรา ทำให้เราได้ขนาดนี้
รุ่นพี่ทุกคนกล้าที่จะเอาระดับการศึกษาตัวเองต่อสู้ให้เรา
เท่านี้ก็ซึ้งใจมากแล้วละค่ะ

0
MDD 2 มี.ค. 53 เวลา 03:20 น. 12

ผมเป็นคนนึงที่ไม่เห็นด้วยกับการออกข้อสอบแบบนี้นะครับ

1.ไม่มีความเที่ยงตรงทั้งเชิงเนื้อหา และ เชิงโครงสร้าง เช่น ผู้ที่เกิดวันศุกร์ไม่จำเป็นต้องชอบสีฟ้า และ ไม่มีวิชาไหน บอกว่า ผู้ที่เกิดวันศุกร์ต้องชอบสีฟ้า
2.ไม่มีความเป็นมาตรฐาน หาคำตอบที่ถูกต้องที่สุดไม่ได้ เพราะคำถามมีลักษณะเป็นเชิงถามความคิดเห็นมากกว่าทางวิชาการ
3.ไม่มีความเชื่อถือได้ของแบบทดสอบ
4.ไม่มีความเป็นปรนัย ข้อคำถาม โดยข้อคำถามนั้นไม่มีความรัดกุม เป็นภาษาสองแง่สองมุม ผู้ทำแบบทดสอบทุกคนอ่านข้อคำถามแล้วมีความเข้าใจไม่ตรงกัน

ที่ผมกล่าวมาข้างต้นคือ เป็นเพียงคุณลักษณะที่แบบทดสอบควรจะมี นะคับ แต่ไมีมีสักข้อ แล้วไม่เข้าใจว่าทำไมถึงให้คนที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแบบทดสอบมาออกข้อสอบ

เพิ่งเข้าใจคำว่า "โตเป็นควาย" จากผุ้หญิงคนนี้ล่ะครับ

สงสารอนาคตการศึกษาไทยครับบอกตรง ๆ

0
จขกท. 2 มี.ค. 53 เวลา 04:24 น. 13

----------------------------------------------------------------------------------------------


รบกวนเวปมาสเตอร์ด้วยครับ (คุณลาเต้หรือใครก็ได้ครับ)

พอดีเจ้าของบทความนี้ขอให้ตัดหัวกระดาษ ออกกะส่วนท้ายตรงรายชื่อออกน่ะครับ
แล้วเปลี่ยนลิ้งอ้างอิงเป็น http://onet53.blogspot.com/&nbsp อันนี้แทนน่ะครับ

ไม่ทราบว่าผมแจ้งตรงนี้เลยได้ไหมครับ ขอบคุณครับ

เอาให้เป็นแบบนี้น่ะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8936977/A8936977.html


----------------------------------------------------------------------------------------------

0
pap (จขกท.) 2 มี.ค. 53 เวลา 04:28 น. 14

^
^

ช่วยหน่อยนะครับทีมงาน น้องคนไหนแจ้งเป็นช่วยสละเวลาแจ้งให้พี่หน่อยนะครับ
พี่แจ้งเวปมาสเตอร์ไม่เป็นน่ะครับ&nbsp >.<&nbsp ขอบคุณมากนะครับ


ขอให้น้องผู้ใจดีเอ็นติดคณธและมหาลัยที่ต้องการสาธุๆๆๆ _/|\_

0
จขกท.เองครับ 2 มี.ค. 53 เวลา 04:35 น. 15

^
^

ขออีกรีพลายนะครับ เวปมาสเตอร์ช่วยอ่านคห.ที่ 13 และรบกวนช่วยแก้ใตมความประสงค์ของจ้าของบทความด้วยนะครับ

ขอโทษที่ทำให้ว่นวายครับ ดีใจที่เห็นคนมาช่วยเหลือน้องๆ เลยรีบร้อนไปหน่อยขอบคุณมากๆครับ

0
MDDps 2 มี.ค. 53 เวลา 04:37 น. 16

ผม คอนแทค ทางผู้ดูแลให้แล้วนะครับ

อีกสักครู่คงเข้ามาทำการแก้ไขให้ครับ

:)

0
จขกท. 2 มี.ค. 53 เวลา 04:45 น. 17

กำลังจะไปนอนพอดีเลย ขอบพระคุณน้อง MDDps มากครับ อย่าลืมเข้าไปใน blog นะครับ
พี่ที่เขียนบทความนี้ มีให้ร่วมลงชชื่อด้วยน่ะครับ ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ
แล้วก็มี facebook ให้ join กันเป็น group ด้วยน่ะครับ จะได้ช่วยๆกันคิด ช่วยกันดูปัญหานะครับ

ขอบคุณครับ เอาใจช่วยน้องๆนะ ขอบคุณเจ้าของบทความไว้นะที่นี้ด้วยนะครับ _/|\_

0
สุดยอด 2 มี.ค. 53 เวลา 05:55 น. 19

กระทู้ดีอย่างนี้ต้องโหวต !!

ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน เจ้าของบทความ และเจ้าของกระทู้ ด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ&nbsp ^________^1

0