Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

++ประวัติพระนางคลีโอพัตรา++

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ประวัติ

คลีโอพัตราที่ 7 เป็นชาวกรีกที่กำเนิดในดินแดนอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ได้ขึ้นครองราชย์หลังจากที่ ปโตเลมีที่ 12 แห่งอียิปต์ เมื่อพระบิดาของพระนางสวรรคตในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีที่ 51 ก่อนคริสตกาล พระนางเป็นพระราชธิดาองค์โตของโอเลเตส เมื่อพระเชษฐภคินีอีกสองพระองค์สิ้นพระชนม์ลง พระนางยังมีพระขนิษฐาอีกองค์ที่มีชื่อว่าอาร์สิโนเอ ในช่วงแรกของการขึ้นครองราชย์ พระนางได้ครองราชย์ร่วมกับพระบิดาเป็นระยะเวลาสั้นๆ ต่อมาก็ได้ครองราชย์ร่วมกับพระอนุชาอีกสองพระองค์ ได้แก่ ปโตเลมีที่ 13 ผู้ซึ่งต่อต้านการปกครองของพวกโรมัน และปโตเลมีที่ 14 แต่เนื่องด้วยการสืบราชบัลลังก์ของราชวงศ์ปโตเลมีนั้นนิยมการสืบเชื้อสายทางมารดา พระอนุชาทั้งสองพระองค์จึงต้องเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับพระเชษฐภคินี คือคลีโอพัตรา เพื่อจะสามารถขึ้นครองราชย์ได้อย่างถูกต้องตามกฎมนเทียรบาล ภายหลังจากที่กษัตริย์ผู้เป็นพระอนุชา - สวามีของพระนางสวรรคตลงทั้งสองพระองค์ คลีโอพัตราได้แต่งตั้งให้โอรสของพระนางเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป มีพระนามว่าปโตเลมีที่ 15 ซีซาเรียน โดยการครองบัลลังก์ร่วมกัน ระหว่างปีที่ 44 - 30 ก่อนคริสตกาล

ในปีที่48 ก่อนคริสตกาล คณะที่ปรึกษาของปโตเลมีที่ 13 นำโดยขันทีโปธินุส ได้ยึดอำนาจของคลีโอพัตราและบังคับให้พระนางหนีไปจากอียิปต์ โดยมีอาร์สิโนเอ พระขนิษฐาของพระนางติดตามไปด้วย ต่อมาในปีเดียวกันนี้ อำนาจของปโตเลมีที่ 13ได้ถูกริดรอนเมื่อนำตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโรม เมื่อนายพลปอมเปอุส มักนุส (ผู้ซึ่งแต่งงานกับลูกสาวของจูเลียส ซีซาร์ โดยที่นางได้เสียชีวิตขณะคลอดบุตรชาย) ที่กำลังหลบหนีจูเลียส ซีซาร์ ได้มาหาที่หลบซ่อนในเมืองอเล็กซานเดรีย ก็ถูกปโตเลมีที่ 13ปลิดชีพ เพื่อสร้างความดีความชอบแก่ตนให้ซีซาร์ได้เห็น จูเลียส ซีซาร์รู้สึกขยะแขยงกับแผนการอันโสมมดังกล่าว จึงได้ยกทัพบุกเข้ายึดเมืองหลวงของอียิปต์ และตั้งตนเป็นผู้ตัดสินคดีชิงบัลลังก์ระหว่างปโตเลมีที่ 13และคลีโอพัตรา หลังจากการสู้รบช่วงสั้นๆ ปโตเลมีที่ 13ก็ถูกสังหาร และ จูเลียส ซีซาร์ได้คืนบัลลังก์ให้แก่คลีโอพัตรา โดยมีปโตเลมีที่ 14เป็นผู้ครองบัลลังก์ร่วม

จูเลียส ซีซาร์ได้พำนักในอียิปต์ตลอดช่วงฤดูหนาว ระหว่างปีที่48 ก่อนคริสตกาล - 47 ก่อนคริสตกาล และคลีโอพัตราได้สร้างความได้เปรียบทางการเมืองให้แก่ตนด้วยการเป็นคนรักของซีซาร์ ทำให้อียิปต์ยังคงเป็นความเป็นเอกราชไว้ได้ แต่ยังคงมีกองกำลังทหารโรมันสามกองประจำการอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างคลีโอพัตรากับซีซาร์ในช่วงฤดูหนาวได้ทำให้นางตั้งครรภ์และให้กำเนิดพระโอรสชื่อปโตเลมี ซีซาร์ (หรือมีชื่อเล่นว่าซีซาเรียน ซึ่งแปลว่าซีซาร์น้อย) อย่างไรก็ดี จูเลียส ซีซาร์ปฏิเสธการให้ซีซาเรียนเป็นผู้สืบทอดของตน และได้แต่งตั้งให้หลานชายชื่อ ออกุสตุส ซีซาร์ อ็อกตาเวียน เป็นผู้สืบทอดอำนาจแทน

คลีโอพัตรากับซีซาเรียนได้ไปเยือนกรุงโรมในระหว่างปีที่ 46 ก่อนคริสตกาล และ 44 ก่อนคริสตกาล และอยู่ในเหตุการณ์ขณะที่ซีซาร์ถูกลอบสังหาร ก่อนเดินทางกลับถึงอียิปต์เพียงเล็กน้อย ปโตเลมีที่ 14ก็สวรรคตอย่างลึกลับ คลีโอพัตราจึงได้แต่งตั้งให้ซีซาเรียนเป็นผู้ครองบัลลังก์ร่วมกับพระนาง มีการสันนิษฐานว่านางได้ลอบวางยาพิษปโตเลมีที่ 14 ผู้เป็นอนุชาของตนเอง

ในปีที่42 ก่อนคริสตกาล มาร์ค แอนโทนี หนึ่งในคณะผู้สำเร็จราชการชุดที่สองของโรม ผู้ซึ่งปกครองกรุงโรมในช่วงที่เกิดสูญญากาศทางอำนาจ หลังการถึงแก่อสัญกรรมของซีซาร์ ได้ขอให้คลีโอพัตราเดินทางมาพบเขาที่เมืองทาร์ซุส ในแคว้นซิลิเซีย เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับความจงรักภักดีของพระนางต่ออาณาจักรโรมัน เมื่อคลีโอพัตราเดินทางมาถึง เสน่ห์ของพระนางทำให้มาร์ค แอนโทนีเลือกที่จะใช้เวลาช่วงฤดูหนาวระหว่างปีที่42 ก่อนคริสตกาล - ปีที่41 ก่อนคริสตกาล กับพระนางในอเล็กซานเดรีย ในช่วงฤดูหนาวนั้น พระนางได้ทรงพระครรภ์เป็นโอรส - ธิดาฝาแฝด ผู้มีพระนามว่าอเล็กซานเดอร์ เฮลิออส และ คลีโอพัตรา เซเลเน

สี่ปีต่อมา ในปีที่ 37 ก่อนคริสตกาล มาร์ค แอนโทนี ได้เดินทางเยือนอเล็กซานเดรียอีกครั้ง ระหว่างทางไปออกรบกับจักรวรรดิพาร์เธีย เขาได้สานสัมพันธ์กับคลีโอพัตรา และถือเอาอเล็กซานเดรียเป็นบ้านนับแต่นั้นเป็นต้นมา มาร์ค แอนโทนีอาจจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับคลีโอพัตราตามประเพณีอียิปต์ (ตามที่กล่าวไว้ในจดหมายของสุเอโตนิอุส) แต่อย่างไรก็ดี เขาได้แต่งงานแล้วกับอ็อกตาเวีย น้องสาวของเพื่อนชื่ออ็อกตาเวียน หนึ่งในคณะผู้สำเร็จราชการชุดที่สองของโรม เขามีบุตรกับคลีโอพัตราอีกหนึ่งคน ชื่อว่าปโตเลมี ฟิลาเดลฟุส ในพิธีมอบดินแดนอเล็กซานเดรียเป็นของขวัญชิ้นใหญ่แก่คลีโอพัตราและโอรสธิดา ช่วงปลายปีที่34 ก่อนคริสตกาล หลังจากที่มาร์ค แอนโทนีได้มีชัยเหนืออาร์เมเนีย คลีโอพัตรากับซีซาเรียนได้ปกครองอียิปต์กับไซปรัสร่วมกัน อเล็กซานเดอร์ เฮลิออส ได้เป็นกษัตริย์ปกครองอาร์เมเนีย เมเดีย และ พาร์เธีย คลีโอพัตรา เซเรเน ได้เป็นราชินีปกครองซีเรไนกา และ ลิเบีย ส่วนปโตเลมี ฟิลาเดลฟุสได้เป็นกษัตริย์ปกครองโฟนิเซีย ซีเรีย และ ซิลิเซีย นอกจากนี้แล้วคลีโอพัตรายังดำรงตำแหน่งราชินีแห่งราชาทั้งปวงอีกด้วย

มีเหตุการณ์อันโด่งดังเกี่ยวกับคลีโอพัตราหลายเหตุการณ์ แต่เรื่องที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายที่สุดและไม่อาจตรวจสอบได้ว่าจริงหรือไม่ ได้แก่เหตุการณ์เกี่ยวกับพระกระยาหารค่ำของพระนางกับมาร์ค แอนโทนีมื้อหนึ่งที่มีราคาแพงลิบ พระนางได้หยอกเย้ากับมาร์ค แอนโทนีด้วยการพนันกันว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่าพระนางจะสามารถใช้เงินสิบล้านเซสเตอร์ซีอุสกับพระกระยาหารมื้อเดียวได้ ซึ่งเขาก็รับพนัน ในคืนต่อมา พระนางได้เสิร์ฟพระกระยาหารค่ำธรรมดาไม่ได้หรูหราอะไร ทำให้พระนางถูกมาร์ค แอนโทนีล้อ แต่พระนางก็ได้รับสั่งให้เสิร์ฟพระกระยาหารสำรับต่อมา ซึ่งมีเพียงน้ำส้มสายชูอย่างแรงหนึ่งถ้วย จากนั้นพระนางก็ถอดต่างหูไข่มุกอันประมาณค่ามิได้ของพระนางออก หย่อนลงไปในน้ำส้มสายชู ปล่อยให้ไข่มุกละลาย แล้วดื่มส่วนผสมนั้น

พฤติกรรมของมาร์ค แอนโทนี นับว่ากระด้างกระเดื่องมากในสายตาของพวกโรมัน อ็อกตาเวียนจึงได้โน้มน้าวให้วุฒิสภาเปิดสงครามกับอียิปต์ ในปีที่ 31 ก่อนคริสตกาล กองกำลังของมาร์ค แอนโทนีได้เผชิญหน้ากับทหารโรมันด้วยทัพเรือนอกชายฝั่งแอคติอุม คลีโอพัตราได้ร่วมออกรบโดยมีทัพเรือของพระนางเอง แต่พระนางก็ได้เห็นกองเรือของมาร์ค แอนโทนี ที่มีเรือขนาดเล็กและขาดแคลนยุทโธปกรณ์ต้องพ่ายแพ้กับกองเรือโรมันที่มีเรือขนาดใหญ่กว่า พระนางต้องหลบหนีและมาร์ค แอนโทนีได้เลิกรบและหนีตามพระนางไป

อัตวินบาตกรรมของคลีโอพัตรา โดย เรจินัลด์ อาร์เธอร์
อัตวินบาตกรรมของคลีโอพัตรา โดย เรจินัลด์ อาร์เธอร์

หลังจากการรบที่อ่าวแอคติอุม อ็อกตาเวียนก็ได้ยกพลขึ้นบกบุกอียิปต์ ในขณะที่ทัพของอ็อกตาเวียนเกือบจะถึงอเล็กซานเดรีย กองกำลังทหารของมาร์ค แอนโทนีก็หนีทัพไปร่วมกับกองกำลังของอ็อกตาเวียน คลีโอพัตรากับมาร์ค แอนโทนีตัดสินใจปลิดชีพตนเองด้วยกันทั้งคู่ โดยที่คลีโอพัตราได้ใช้งูพิษปลิดชีพพระองค์เองเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ในปีที่30 ก่อนคริสตกาล ซีซาเรียน โอรสของพระนางที่เกิดกับจูเลียส ซีซาร์ก็ถูกอ็อกตาเวียนปลงพระชนม์ โอรสธิดาอีกสามพระองค์ที่เกิดกับมาร์ค แอนโทนีได้รับการไว้ชีวิตและนำกลับไปยังกรุงโรมโดยอ็อกตาเวีย อดีตภรรยาของมาร์ค แอนโทนี

มักกล่าวกันว่าคลีโอพัตราได้ใช้ แอสพฺ (งูพิษชนิดหนึ่ง) ปลิดชีพพระองค์เอง "asp" เป็นศัพท์เทคนิค หมายถึงงูพิษหลากหลายประเภทในอาฟริกาและยุโรป แต่ในที่นี้ หมายถึงงูเห่าอียิปต์ ซึ่งใช้ในการประหารนักโทษในบางครั้ง ยังมีเรื่องเล่าว่าคลีโอพัตราได้ทดสอบวิธีการฆ่าตัวตายต่างๆนานากับข้าราชบริพารหลายคน ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกวิธีการที่พระนางเห็นว่ามีประสิทธิภาพที่สุด

ด้วยที่เป็นชนเชื้อสายกรีก - มาเซโดเนีย ทั้งในด้านภาษาและวัฒนธรรม คลีโอพัตรามีชื่อเสียงในแง่ที่ว่า ตลอดระยะเวลากว่า 300 ปีที่ราชวงศ์ปโตเลมีปกครองอียิปต์นั้น พระนางเป็นสมาชิกคนแรกของปโตเลมีในที่เรียนรู้ภาษาอียิปต์ได้แตกฉาน และ ยังเรียนรู้ภาษาอื่นๆถึง 14 ภาษา ได้แตกฉาน

ข้อถกเถียงเกี่ยวกับชาติพันธุ์ของคลีโอพัตรา

ยังเป็นข้อถกเถียงระหว่างนักไอยคุปต์ศาสตร์ กับนักประวัติศาสตร์ที่นิยมแอฟริกา ว่าแท้จริงแล้วคลีโอพัตรานั้นมีเชื้อสายใดกันแน่ นักไอยคุปต์ศาสตร์บอกว่าคลีโอพัตรานั้นสืบเชื้อสายจากราชวงศ์ปโตเลมีของกรีก โดยมีบรรพบุรุษเป็นหนึ่งในนายพลของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และยังกล่าวว่าผังตระกูลของราชวงศ์ปโตเลมีนั้นระบุไว้ว่า มีการสมรสข้ามเผ่าพันธุ์อยู่มาก มีการระบุว่าคลีโอพัตราเป็นราชนิกูลพระองค์แรกที่เรียนภาษาอียิปต์ และบอกว่าพระนางมีผิวขาว รูปปั้นโบราณรวมทั้งรูปบนเหรียญตรายังชี้ไปว่าพระนางมีเชื้อสายคอเคเชียน อย่างไรก็ดี นักประวัติศาสตร์สายนิยมแอฟริกาได้อ้างว่าดินแดนไอยคุปต์นั้นได้ถูกปกครองโดยอารยธรรมของชาวชนผิวดำ และชาวอียิปต์โบราณส่วนใหญ่เป็นชนผิวดำ และถึงแม้ว่ากลุ่มนักประวัติศาสตร์ที่นิยมแอฟริกาจะยอมรับว่าราชวงศ์ปโตเลมีนั้นเป็นชนผิวขาว แต่ก็เชื่อว่าจะราชวงศ์กับชาวอียิปต์น่าจะมีการสมสู่กัน และในเมื่อไม่มีใครทราบว่ามารดาของคลีโอพัตราเป็นใคร (ไม่ได้ถูกระบไวุ้ในผังตระกูลของราชวงศ์ปโตเลมี) ทำให้หลายคนเชื่อว่านางน่าจะเป็นพระสนมผิวดำคนหนึ่ง

นักไอยคุปต์ศาสตร์อ้างว่า การกล่าวว่าคลีโอพัตราเป็นชนผิวดำนั้น เป็นแนวคิดแต่งเติมของนักโบราณคดีที่นิยมแอฟริกา โดยมีวัตถุประสงค์จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับเยาวชนเชื้อสายแอฟริกัน ส่วนนักโบราณคดีที่นิยมแอฟริกาอ้างว่า ความเชื่อว่าคลีโอพัตราเป็นชนผิวขาวนั้น เป็นเพียงอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่ชนผิวขาวขโมยวัฒนธรรมของชนผิวดำ


PS.  ...พระเจ้าฉลาดประทานข้อสอบที่ยากที่สุดมาพร้อมกับคำตอบ แต่คนโง่เห็นแต่ข้อสอบแต่มองไม่เห็นคำตอบ ถึงได้รู้สึกแต่ว่าปัญหาไม่มีทางแก้...

แสดงความคิดเห็น

>

22 ความคิดเห็น

++สาวซ่ายาซากิ++ 17 ส.ค. 50 เวลา 21:54 น. 1

ช่วยกันเม้นท์บ้างนะคะ^^


PS.  ...พระเจ้าฉลาดประทานข้อสอบที่ยากที่สุดมาพร้อมกับคำตอบ แต่คนโง่เห็นแต่ข้อสอบแต่มองไม่เห็นคำตอบ ถึงได้รู้สึกแต่ว่าปัญหาไม่มีทางแก้...
0
ปภาวี 3 พ.ค. 51 เวลา 07:13 น. 2

ประวัติไม่ค่อยละเอียดเลย&nbsp  อยากได้ประวัติแบบละเอียดๆน่ะ&nbsp  ใครมีตอบด้วย&nbsp ขอบคุณค่ะ8,11,17

0
.... 23 ส.ค. 51 เวลา 20:16 น. 3

ขอขยาย เรื่อง การตายของพระนางคลีโอพัตรา นึดนึงนะครับ คือ พึ่งได้ความรู้มาหน่ะครับ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ถ้ามันไม่จริง ก้อขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ

เมื่อ พระนางคลีโอพัตรา ได้ถูกออกตาเวียน ขังไว้ และสั่งให้ ทหารเฝ้าคุมดู ตลอดเวลา เพราะเกรงว่า พระนาง จะคิดปลิดชีพตัวเอง&nbsp 
อาหารทุกอย่าง ก่อนที่จะเข้าไป ให้พระนางคลีโอพัตรา จะต้องมีการตรวจสอบทุกครั้งว่ามียาพิษอยู่มั้ย ถึงนำเข้าไปให้ได้

แต่ สุดท้ายเพราะนางก้อสามารถปลิดชีพตัวเองได้ โดยอาศัยช่องโหว่ ของกฎนี้คือ
อาหารว่างที่สาวใช้จะนำเอามาให้พระนางคลีโอพัตรา ก้อคือผลไม้ ซึ่งก็คือ แอ๊ปเปิ้ล&nbsp 
ดังนั้น ไม่มีทางที่จะ ใส่ยาพิษไว้ในแอ๊ปเปิ้ลได้ ทหารก็เลยไม่ตรวจเข้มมากนัก แต่พระนางก็ได้ บอกสาวใช้ไว้แล้วว่า ครั้งหน้า ให้นำเอาสิ่งๆ นึง เข้ามาด้วย และสิ่งๆนั้นก็คือ สิ่งที่ปลิดชีพตัวเอง เค้าว่าๆกันมาว่า สิ่งนั้น ไม่ใช่ เปน ผงๆ เป็นเม็ด หรือ เป็นน้ำ แต่อย่างใด แต่ สิ่งๆ นั้นมันมาเป็นตัวๆเลย ซึ่งก้อคือ Cobra หรือ งูเห่านั้นเอง พระนางคลีโอพัตรา ให้ งูเห่าฉกตัวเอง จน สิ้นพระชนม

ผมก้อเพิ่งประวัติให้ได้แค่นี้อ่ะนะครับ แต่ไม่รู้ว่าถูกหรือป่าวนะครับบ

0
303 17 ส.ค. 52 เวลา 08:47 น. 5

ถึงพระนางคลีโอพัดตราจะไม่ได้สวยเลิศเลอเหมือนที่เราทุกคนคิดไว้ แต่พระนางก็ทรงมีพระปรีชาสามารถในเรื่องอื่นๆหนิ ไม่อย่างนั้น คงไม่ได้เป็นถึงราชินีหรอก อีกอย่างคือ ในยุคนั้นเขาอาจจะนิยมหน้าตาแบบนั้นก็ได้...ใครจะไปรู้103

0
แตงโม 27 พ.ค. 53 เวลา 17:11 น. 9

อยากเห็นหน้าพระนางจังเลย คงสวยเนอะ พระนางนี้สุดยอดเลยแฮะเป็นราชินีที่ยิ่งใหญ่จิงๆ ชื่นชมจัง

0
yoo 8 ก.ค. 53 เวลา 13:27 น. 12

วันนี้อ่านนพส. เขาบอกว่าการตายของพระนางคลีโอพัตราไม่ได้ตายเพราะงูพิษกัดแต่ตายเพราะยาพิษหลาย ๆ ชนิดมากกว่าเป็นการตายที่เร็วและมีสภาพการตายที่สวยงาม&nbsp จริงป่าวไม่รู้นะ ถ้าใครมีข้อมุลเพิ่มเติมช่วยตอบด้วย

0
King Drajan 17 ส.ค. 53 เวลา 16:23 น. 13

อันนี้เป็นเรื่องเล่ามานานที่รู้กันภายในศาสตราจารย์มหาวิยาลัยอะคาเดมีแห่งกรุงโรมสมัยพระจักรพรรดิทราจันเท่านั้น และถูกลืมไปแล้ว
&nbsp &nbsp 
&nbsp &nbsp ต้นราชสกุลปโตเลมีคลีโอพัตราคือ พระเจ้าปโตเลมีที่ 1 และพระนางคลีโอพัตราที่ 1 เป็นชนเผ่า ฮิคโซส (Hyksos) ทรราชย์ราชบัลลังก์พระเจ้าอาเมนโฮเทพที่ 1 แห่งราชวงศ์ "ตุตันคาเมนคลีโอพอร์เทรียส (Tutankamen Cleoportrius)" เป็นพระโอรสของสมเด็จพระนางเจ้าคลีโอพอร์เทรียสที่ 5 และนายพลพระเจ้าอมันโฮเทพ เป็นพระอนุชาของพระเจ้าโอตมันโฮเทพที่ 1 และพระเจ้าอัตมันโฮเทพที่ 1 สมัยนั้นอียิปต์มีทั้งหมด 5 เผ่า เช่นของพระเจ้าซากอน พระเจ้าตุตันคำมอน พระนางเจ้าตุตันคำโน้ม
&nbsp &nbsp สมเด็จพระนางเจ้าคลีโอพอร์เทรียสที่ 7 ซึ่งเป็นพระธิดาของพระเจ้าอัตมันโฮเทพที่ 1 และสมเด็จพระนางเจ้าคลีโอพอร์เทรียสที่ 6 กำลังจะได้ขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตริยาแต่โดนเผ่าฮิคโซสทรราชย์ก่อน ปลงพระชนม์ทุกพระองค์ด้วยคมดาบอาบยาม้า โหรหลวงประจำตำหนักทำนายทายทักว่าพระเจ้าอัตมันโฮเทพที่ 1 และพระเจ้าอาเมนโฮเทพที่ 1 กำลังจะไปเกิดเป็นเปลโต้ เลกและอริสโตเติล เวสท์วูด อธิการบดีมหาวิทยาลัยอะคาเดมีและคณะบดีคณะสัตวแพทย์ และพระเยซูเจ้าทั้งสองพระองค์ นิกายคริสตัง และ นิกายริสเตียน ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของโสกราติส เบิร์ด ซึ่งเป็นพระเจ้าสิทธัตถะแห่งอินเดียมาเกิด
&nbsp &nbsp พระนางคลีโอพอร์เทรียสมีทั้งหมด 8 พระองค์ ทรงพระปรีชาสามารถทางด้านแพทย์ศาสตร์และศิลปศาสตร์ หาใช่หลุมดำ แพศยามารเยี่ยงคลีโอพัตราไม่ นอกจากนี้พระนางคลีโอพัตรายังเป็นผู้วางแผนลอบปลงพระชนม์ผู้ที่เป็นโสกราติส เบิร์ดมาเกิดในราชวงศ์เมืองสยาม เป็นสารสั่งต่างเวลาถึง 4,000 ปี ทฤษฎีการครองราชย์ของปโตเลมี คลีโอพัตรา เป็นสิ่งเพ้อเจ้อทั้งมวล
เช่น ทฤษฎีกาแล็คซี่ชนกัน ทฤษฏีดาวนิวตรอน ทฤษฎีขัดแย้ง ทฤษฎีรบแบบกองโจร ทฤษฏีมนุษย์ต่างดาว พระนางเป็นศัตรูกับทวีปเอเชียโดยเฉพาะประเทศกัมพูชาซึ่งเคารพคำสอนของพระตรีมูรติ หรือปรัชญาไตรเมธีทั้ง 3 คน
&nbsp &nbsp พระนางเป็นหนึ่งในชนวนสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 และถูกสาปแช่งโดยผู้ที่รู้เรื่องนี้ให้ไปเกิดเป็นจัณฑาล เช่นผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมจากการลักลอบเสพฝิ่นของพระนางเองในตำหนัก เพราะไอคิวของพระนางต่ำมาก

0
555+ 26 ต.ค. 53 เวลา 20:25 น. 16

555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

0
^-^dek-plouk^-^ 6 ก.ย. 54 เวลา 11:41 น. 18
อ่ากมันสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
0
Rjirada 29 ธ.ค. 54 เวลา 17:43 น. 19

อันนี้เป็นประวัติย่อๆ แบบไทย-อังกฤษ ค่ะ
คลีโอพัตรา ที่ 7 ฟิโลปาตอร์ (Κλεοπάτρα θεά φιλοπάτωρ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ คลีโอพัตรา เกิดในเดือนมกราคม 69 ปีก่อนคริสตกาล - เสียชีวิตในวันที่ 30 พฤศจิกายน 30 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นราชินีแห่งอียิปต์โบราณ และเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของราชวงศ์ปโตเลมีแห่งมาเซโดเนีย ดังนั้น จึงเป็นผู้ปกครองอียิปต์ที่มีเชื้อสายกรีกคนสุดท้าย บิดาของพระนางคือปโตเลมีที่ 12 โอเลเตส และคาดว่าพระมารดาเป็นเชษฐภคินีของโอเลเตส ทรงพระนามว่า คลีโอพัตราที่ 5 ทรีฟาเอนา ชื่อ"คลีโอพัตรา" เป็นภาษากรีก แปลว่า "ความเจริญรุ่งเรืองของบิดา" พระนามเต็มของพระนางคือ "คลีโอพัตรา เธอา ฟิโลปาตอร์" ซึ่งหมายถึง "เทพีคลีโอพัตรา ผู้เป็นที่รักของบิดา" พระนางทรงมีความเฉลียวฉลาดมาก ทรงแตกฉานถึง 14 ภาษา เช่น ภาษาฮิบรู ภาษาละติน ภาษามาซิโดเนีย ภาษาเอธิโอเปียน ภาษาซีเรีย ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอียิปต์ ซึ่งแม้แต่ในราชวงศ์ก็น้อยคนนักที่จะแตกฉานในภาษานี้
ในปัจจุบัน คลีโอพัตรา ที่ 7 ฟิโลปาตอร์ นับได้ว่าเป็นผู้ปกครองอียิปต์โบราณที่มีชื่อเสียงมากที่สุด นิยมเรียกพระนามสั้นๆ ว่า คลีโอพัตรา ซึ่งทำให้ราชินีองค์ก่อนๆ ที่ทรงพระนามคล้ายคลึงกับพระนางถูกลืมไปสิ้น จริงๆ แล้วพระนางไม่เคยปกครองอียิปต์ตามลำพัง แต่ครองราชย์ร่วมกับพระบิดา พระอนุชา พระอนุชา - สวามี หรือไม่ก็พระโอรส แต่อย่างไรก็ดี การครองราชย์ร่วมกันดังกล่าวมีผู้ร่วมบัลลังก์เป็นเพียงกษัตริย์ตามพระยศ เท่านั้น อำนาจแท้จริงอยู่ในมือของคลีโอพัตราเองทั้งสิ้น



Cleopatra, the seventh Philadelphia City Club of New York (Κλεοπάτρα θεά φιλοπάτωρ or better known as Cleopatra was born in January 69 BC - died on November 30, 30 BC) was queen. of ancient Egypt. And was a member of the Ptolemy dynasty in Cleveland, so it's just that parents are natives of Egypt, the Greek people. Father, she was Ptolemy the 12's Elet and that mother is Echษฐpcini destination Elet in the name of the Cleopatra of the five tree far in the name "Cleopatra" is Greek. " prosperity of the Father, "and her name is" Cleopatra Hunter Technology Park in Philadelphia and New York, "which means" the Goddess Cleopatra. Who was a beloved father, "She is very intelligent, he dispersed to 14 languages including Hebrew, Latin, Macedonian language. Language, the language of Ethiopia, Syria, Egypt, the Persian language, even in the house, but very few people who are dispersed in this language.
The Cleopatra Club 7, Phil York City reveal their most famous ruler of ancient Egypt. Commonly called a short name that Queen Cleopatra, which was earlier. His name is similar to the fact she was sure she did not rule Egypt alone. But his reign with the Father, brother of the brother - husband or son. However. Reign, the participants shared the throne as king by the title only real power is in the hands of Cleopatra's total

0