Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องแปลกๆของชาวญี่ปุ่น ^-^

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

 เรื่องแปลกๆของชาวญี่ปุ่นค่ะ

เกิดจากการรวบรวมจากในอินเตอร์เน็ทหลายๆที่... เป็นที่คนญี่ปุ่นมองคนญี่ปุ่นด้วยกันเองนะเคอะ ไม่ได้เกิดจากการมองญี่ปุ่นในแง่ร้ายของเดี๊ยนแต่อย่างใด... (แต่แอบเสริมซ้ำเติม กร๊าก...) ^_^; คือบางทีเราคนต่างชาติไม่ได้รับความสะดวกหรือมองธรรมเนียมบางอย่างของคนญี่ปุ่นว่ามันแปลกๆ เอามาคุยเม้าท์กันเสียหายไปเรื่อย... ในความเป็นจริงคนญี่ปุ่นหลายคนเองเมื่อถูกถามว่า คิดว่าตรงไหนของชาวญี่ปุ่นที่ว่าแปลกๆ แต่ละคนก็ตอบจริงใจเหมือนกัน บางข้อก็ตรงกับที่พบเห็นและรู้สึก เอาเป็นว่าคนญี่ปุ่นด้วยกันเองบางคนเค้าก็ยังบอกว่าแปลกเลย แล้วเราชาวต่างชาติจะทำไงได้อ่ะเนอะ... ^_^;

 

 

 

1. ไม่ค่อยสนใจเรื่องชาวบ้าน สนแต่เรื่องของชาวญี่ปุ่นกันเอง : อย่างเช่นการถ่ายทอดแข่งกีฬาอะไรก็ถ่ายแต่กีฬาที่คนญี่ปุ่นแข่ง (จะไปว่าเค้าก็กระไรอยู่ ค่าออกอากาศมันแพง) อย่างโอลิมปิค กีฬาิอะไรที่คนญี่ปุ่นไม่ได้ลงแข่งหรือไม่ได้เข้ารอบก็ไม่ต้องได้ดูกันล่ะ (กรุเลยต้องเชียร์ญี่ปุ่นไปด้วย เพราะอยากดูแข่ง) หรือเวลาแข่ง figure skating ก็จะให้ดูแต่ญี่ปุ่นกับคนสำคัญๆ T^T เค้าอยากดูคนอื่นด้วยอ่ะ...

 

 

 

2. ใช้รองเท้าเปลือง! : คือมันชอบให้เปลี่ยนสลิปเปอร์อยู่เรื่อย เข้าตึกก็เปลี่ยนหนึ่งสลิปเปอร์ เข้าห้องน้ำก็ต้องเปลี่ยนอีกหนึ่งสลิปเปอร์ แล้วต้องเรียงสลิปเปอร์ให้สวยงามอีกแน่ะ...

 

 

 

3. ซดโซบะโฮกๆ!!! : อันนี้คนญี่ปุ่นเองก็รู้สึกอับอายเล็กน้อยเวลาไปกินร้านอาหารญี่ปุ่นพวกเส้นตามต่างประเทศแล้วรู้สึกบรรยากาศรอบข้างมันประหลาด (เหมือนถูกรอบข้างรังเกียจ) เหตุผลที่ต้องสูดให้มันโฮกๆเพื่อแสดงถึงคงามอร่อยแล้ว เค้าว่ามันจะช่วยดับความร้อนได้ประมาณหนึ่งด้วย (ทุกวันนี้ก็ยังทำไม่ได้) 

 

 

 

4. ทำงานจนตัวตาย : สงสัยจะมีอยู่ประเทศเดียวที่มีคนตายเพราะทำงานหนักเกินไม่รู้จักพักผ่อน คนญี่ปุ่นจำนวนมากมีวันหยุดก็ไม่รู้จักใช้ (บางคนใช้ไม่ได้ เพราะบรรยากาศในบริษัทประมาณว่าเมิงห้ามหยุด เค้ามีวันหยุดไว้ตามกฎหมายเฉยๆ)

 

 

 

5. อ่านบรรยากาศรอบข้างมากเกิน : เพราะกลัวจะถูกหาว่าเป็นพวก KY (อ่านบรรยากาศไม่ออก ไร้กาละเทศะ) ทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง พยายามจะไม่แสดงความคิดเห็นที่มันแตกต่างจากชาวบ้านมาก แสดงความเห็นแบบเกาะกลุ่ม... ว่ากันว่าพวกแบบสอบถามทางสถิติอะไรก็เชื่อถือไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ เพราะหลายคนตอบแบบอ่านบรรยากาศ (ประมาณคิดว่าคนส่วนใหญ่จะตอบแบบนี้เลยตอบด้วย)

 

 

 

6. ไม่ได้เป็นคนศาสนานั้น แต่อยากจะทำพิธีทางศาสนากับเขา : คนญี่ปุ่นจำนวนมาก(บอกว่า)นับถือศาสนาพุทธ แต่ก็ไม่ได้เคร่งอะไรเหมือนกับบ้านเรา หลายคนบอกเต็มปากเต็มคำว่าไม่นับถือศาสนาอะไร (คุณฮายาชิก็ไม่มีศาสนา) แต่คนญี่ปุ่นก็จะไปศาลเจ้าตามเทศกาลแบบญี่ปุ่นเช่นฮัทสึโมเดะ (ไปไหว้ศาลเจ้าครั้งแรกของปี) แต่งงานกันแบบคริสตร์ หรือจัดงานศพตามแบบพุทธเป็นต้น หนำซ้ำยังฉลองทั้งคริสมาสตร์ ทั้งวาเลนไทน์กันอีกด้วย... (ได้หมด)

 

 

 

7. ส่งของตอบแทน : เวลาได้รับของอวยพรหรืออะไรก็ตาม ต้องมีการส่งของตอบแทนกันตามมารยาท เงินใส่ซองตามงานต่างๆก็มีการกำหนดไว้อย่างเป็นมารยา่ทตามความสัมพันธ์ของเรากับผู้จัดงาน ของตอบแทนก็เช่นกัน เวลาเราได้รับของอวยพรเนื่องในโอกาสอะไร (เช่นอวยพรเด็กแรกเกิด) ก็ต้องส่งของกลับไปให้ตามมารยาทซึ่งควรจะราคาประมาณ 1 ใน 3 ของของที่ได้รับ (กะๆเอา) ดังนั้นถ้าเราส่งของโคตรแพงไปให้ชาวบ้านก็จะกลายเป็น KY สร้างความลำบากให้คนส่งของกลับซะอีก -_-;

 

 

 

8. ไม่ร้องเพลงชาติ : เป็นความเป็นจริงที่ว่าคนญี่ปุ่นจำนวนมากร้องเพลงชาติไม่ได้ @_@; และมีหลายคนที่ไม่ชอบเนื้อหาความหมายของเพลงชาติตัวเอง (เพราะความหมายประมาณว่าจักรพรรดิคือทุกสิ่งทุกอย่าง หลายคนเชื่อว่าเพราะความคิดแบบนี้ที่นำพาให้ญี่ปุ่นต้องเริ่มสงครามโลกครั้งที่สองและพ่ายแพ้สงคราม...) <-- เรื่องมันยาว 

 

 

 

9. โดนใครชมแล้วต้องปฏิเสธ : ในความเป็นจริงคงไม่มีใครโดนชมว่าสวย หัวดี แล้วจะยืดอกรับว่าค่ะ เป็นมาแต่เกิด โฮะๆๆๆ แต่อย่างน้อยขอบคุณก็ยังดี นี่เหมือนกับถูกกำหนดไว้ว่าจะต้องปฏิเสธว่า ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่า โฮ่ๆๆ (ในใจแอบกระหยิ่มยิ้มย่อง)

 

 

 

10. ดอกไม้บางประเภทเอาไปเยี่ยมคนป่วยไม่ได้ : ประมาณเดียวกับที่ไทยที่คงไม่มีใครหอบเอาพวงหรีดไปให้คนนอนป่วยในโรงพยาบาล ที่ญี่ปุ่นจะมีดอกไม้บางประเภท (เช่นลิลลี่) ที่เค้าจะเอาไว้วางให้กับผู้เสียชีวิต และมีช่อดอกไม้ที่ขายเอาไว้ให้บูชาหิ้งบรรพบุรุษที่บ้าน นี่ก็ห้ามเอาไปเยี่ยมคนป่วยเหมือนกัน (คนไทยเองคงไม่มีใึครเอาช่อดอกไม้ไหว้พระหรือพวงมาลัยไปให้คนป่วยเหมือนกันแหล่ะ)

 

 

 

11. งานเทศกาลโคตรเงียบ... : -_-; ถ้าพูดถึงงานเทศกาลดังๆของไทยอย่างงานสงกรานต์ ลอยกระทง หรืองานของต่างประเทศเองก็จะมีการร้องรำทำเพลง การเต้น กินดื่มลัลล้าๆ ผู้คนหัวเราะร่า เต้นด้วยกัน... แต่งานญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นการออกร้าน... แล้วคนก็เดินเที่ยวหาของกินกันไปเฉยๆ @_@; งานเทศกาลใหญ่ๆที่มีขบวนรถหรือพาเหรดก็เดินกันเงียบๆแบบไร้เสียงดนตรีประกอบ... (เดินกันทื่อๆอย่างนั้น ห้ามยิ้ม ห้ามโบกมือให้ประชาชน) อย่างมากก็เป็นเสียงร้องรับของหนุ่มๆที่แบกหามขบวนรถ หรือไม่ก็มีเต้นรำแบบพื้นเมืองในขบวนกันเท่านั้น (ตกลงงานสนุกไหมเนี่ย?) 

 

 

 

12. โฮมเลสดูมีมาตรฐานชีวิตในระดับหนึ่ง : เมื่อเทียบกับประเทศอื่น... @_@; ถึงจะดูสกปรกเซอร์ๆแต่ก็มีศิลปะในการสร้างที่อยู่ และมีรสนิยมในการเก็บข้างของเครื่องใช้มาประดับบ้าน (บางอย่างใช้ดีกว่าบ้านตูอีก) ไม่ค่อยมีเหตุร้ายที่เกิดจากการก่อเหตุของพวกโฮมเลสด้วย

 

 

 

13. ผู้หญิงญี่ปุ่นถือกระเป๋าแบบห้อยไว้ที่แขน (แบบที่ป้าๆในไทยชอบถือ) : อย่าไปดูถูกมาก อยู่ไปนานๆรู้สึกตัวอีกที อ้าว... กรูก็ถือเหมือนกัน -_-;

 

 

 

14. โรงพยาบาลปิดวันอาทิตย์ : และส่วนใหญ่ไม่้ได้เปิด 24 ชั่วโมง พึ่งไม่ได้เล้ยยยย -_-;

 

 

 

15. ซื้อของแล้วต้องใส่ถุงเอง : แต่ก็ดีนะคิดเงินเร็วดี ไม่เปลืองถุงมากด้วยเพราะไม่ใส่ให้กันพร่ำเพรื่อซ้อนแล้วซ้อนอีกเหมือนที่ไทย

 

 

 

16. ต้องมีตัวอย่างของกินให้ดู : เป็นเอกลักษณ์มากของร้านชาวญี่ปุ่น นับวันจะเหมือนจริงขึ้นทุกวันจนดูไม่ออกว่ามันของจริงหรือของปลอมกันแน่  

 

 

 

17. ผัวเมียไม่ค่อยนอนด้วยกัน : ไม่ใช่ทุกครอบครัว แต่หลายบ้านก็แยกกันนอน (ก็ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เวลานอนไม่พร้อมกัน อุณหภูมิที่ชอบไม่เหมือนกัน) แต่ก่อนก็กังขาแต่พอแต่งงานแล้วรู้สึกว่ามันก็โอเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องนอนด้วยกันประจำหรอก ชอบทำไร ทำยังไงก็ทำไป ต่างคนต่างมีเวลาส่วนตัว สถานที่ส่วนตัวบ้างเป็นดีสุด ^_^;

 

 

 

18. ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือบนรถโดยสารสาธารณะ : ทั้งรถไฟและรถเมล์ เหตุเพราะเสียงคุยโทรศัพท์มันทำให้คนอื่นรำคาญ -_-; ประเทศอื่นส่วนใหญ่เค้าไม่ห้าม แต่อยู่ที่นี่ก็ต้องทำตามเค้าไป ห้ามบ่น

 

 

 

19. ห่อปกหนังสือด้วยกระดาษทึบ : ไปซื้อหนังสือตามร้านหนังสือหลายร้านจะถามว่าจะให้ห่อปกให้หรือเปล่า? ถ้าตอบโอเคทางร้านก็จะห่อปกกระดาษสีน้ำตาลทึบๆที่มักจะเป็นลายของทางร้านมาให้ หนึ่งก็เพื่อรักษาความเป็นไปรเวทของคนอ่าน คนอื่นไม่ต้องมาสอดรู้ดูปกว่าอีนี่อ่านอะไร (แต่กลายเป็นน่าสงสัยเข้าไปใหญ่) อีกเหตุผลก็เพื่อโฆษณาทางร้านไปด้วย

 

 

 

20. เดินขึ้นบันไดเลื่อน : ใครไม่ยืนชิดข้างเดียวกับคนข้างหน้าเป็นแถวเดียวกันเพื่อให้คนรีบเค้าเดินขึ้นไปก่อน จะโดนตั้งท่ารังเกียจ (ทั้งที่บันไดเลื่อนเค้าไม่ได้ทำไว้ให้คนเดิน) ส่วนใหญ่ฝั่งคันโตจะต้องยืนชิดซ้าย คันไซยืนชิดขวากัน...

 

 

 

21. เปลี่ยนชุดแต่งงานสองสามรอบ : งานเลี้ยงแต่งงานของญี่ปุ่น เจ้าบ่าวเจ้าสาวมักจะมีการเปลี่ยนชุดประมาณสองรอบ (ภาษาญี่ปุ่นเรียก お色直し โออิโรนาโอชิ) โดยมากชุดแรกจะเป็นชุดเจ้าสาวสีขาว ชุดอื่นจะเป็นสีๆแล้วแต่เจ้าสาวชอบ

 

 

 

22. ชอบซื้อของจากเครื่องขายอัตโนมัติ : นัยว่ามันคงง่ายและไม่ต้องสนทนากับผู้คน จึงมีเครื่องขายอะไรอัตโนมัติมากมายในประเทศนี้ บางอย่างให้แปลกใจมากว่าจะมีไปทำไม... (ขณะเดียวกันตามต่างจังหวัดก็จะมีร้านค้าแบบไม่มีคนขาย คือมีผักกับราคาวางไว้ ใครจะซื้ออะไรก็จ่ายเงินแล้วหยิบไป เชื่อใจกันสุดๆ)

 

 

 

23. เรียกไฟเขียวว่าไฟฟ้า... : ตอนไฟเขียวคนญี่ปุ่นจะบอกว่า (สีฟ้า) ดูยังไงก็สีเขียวชัดๆ...

 

 

 

24. ชอบถามกรุ๊ปเลือด : แล้วก็ทำท่ารังเกียจคนกรุ๊ป B -_-; (คนญี่ปุ่นกรุ๊ป A เยอะสุด และว่ากันว่าเข้ากันไม่ได้กับกรุ๊ป B)

 

 

 

25. เรียกประเทศแถวบ้านเราว่าเอเชีย : @_@; บางครั้งคนญี่ปุ่นชอบเรียกประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าเอเชีย อาจจะลืมไปแล้วว่าญี่ปุ่นมันก็อยู่ในทวีปเอเชียเหมือนกัน... -_-;

 

 

 

 

อ่านเล่นๆ อย่าไปคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลก เพราะที่เราแปลกสำหรับคนต่างชาติเองก็คงมีเยอะเหมือนกัน มันเป็นวัฒนธรรมหรือธรรมเนียมและคนประเทศเขาก็อยู่กันมาแบบนี้ มาอยู่ก็ตามๆเค้าไป อย่าไปสงสัยให้มากความ ^_^;

แสดงความคิดเห็น

16 ความคิดเห็น

Pinoxkio 9 มี.ค. 54 เวลา 23:01 น. 3

 3. ซดโซบะโฮกๆ!!! : อันนี้คนญี่ปุ่นเองก็รู้สึกอับอายเล็กน้อยเวลาไปกินร้านอาหารญี่ปุ่นพวกเส้นตามต่างประเทศแล้วรู้สึกบรรยากาศรอบข้างมันประหลาด (เหมือนถูกรอบข้างรังเกียจ) เหตุผลที่ต้องสูดให้มันโฮกๆเพื่อแสดงถึงคงามอร่อยแล้ว เค้าว่ามันจะช่วยดับความร้อนได้ประมาณหนึ่งด้วย (ทุกวันนี้ก็ยังทำไม่ได้) 

ข้อนี้เป็นกันจริงๆครับ ถ้าไปกินแล้วกินเงียบๆ ไม่ซดดังๆ เจ้าของร้านจะมองแล้วจะมาถามว่า ไม่อร่อยหรอ การซดดังๆเป็นการแสดงว่า มันอร่อยจริงๆ ยิ่งเงียบมาก เจ้าของร้านจะยิ่งกังวัลและเครียดมาก (ซีเรียสกันจริงจังครับ)

0
สาวก ja 9 มี.ค. 54 เวลา 23:04 น. 5

น้องคะ&nbsp ไปเอามาจากบล็อกพี่คนไหน ก็ให้เครดิตพี่เขาหน่อยนะคะ ไม่ใช่จะว่าอะไร แต่ก็ควรเคารพสิ่งที่ผู้อื่นเขียนบ้าง

0
โลกกว้าง 9 มี.ค. 54 เวลา 23:26 น. 7

ขอซดนั่นรู้สึกประเทศที่เคยได้รับวัฒนธรรมจากจีนทั้งหมดเป็นเหมือนกันนะคะ
บ้านเป็นคนจีนเลยไม่ค่อยรู้สึกแปลกเท่าไร ><
เซนเซย์เคยเล่าให้ฟังว่าเพื่อนพาไปเที่ยวผับที่ไหนไม่รู้
แล้วมีผู้หญิงเต้น (คาดว่าโคโยตี้?)
เขาตกใจมาก เขาบอกว่าแปลก ปกติที่ญี่ปุ่นต้องเป็นผู้ชาย (=[]=???)
เล่าด้วยท่าทางตกอกตกใจตื่นเต้นลุกลี้ลุกลน 55

0
P3/K@HS 9 มี.ค. 54 เวลา 23:29 น. 8

คห3 พูดถูกครับ เวลาเค้ากินกันมันเหมือนจะ มุมมามเหมือนคนอดๆอยากๆแต่ไม่ใช่ครับ มันเป็นมารยาท ที่บ่งบอกถึงความอร่อย ^ ^


PS.  ¯¨'*·~-.¸¸,.-~*'<GUILTY!> !~!!~~¯¨'*·~-.¸¸,.-~*...
0
mt'self 9 มี.ค. 54 เวลา 23:31 น. 9

ข้อ 7 อ่ะ ส่งของตอบแทน

ถ้ามาอยู่ในไทยแล้วอ่ะ เวลามีงานบวช ตอนให้ซองช่วยงานให้เจ้าภาพเเล้ว

พอเวลาเจ้าภาพต้องมาคืนแบบชาวญี่ปุ่น คงจะสุดๆ ๆ ไหนจะเสียค่างาน ค่าโต๊ะจีนแล้วยังต้องส่งของตอบแทนอีก 5 + + +  ( จนกันพอดี )

0
ทานตะวัน 10 มี.ค. 54 เวลา 23:21 น. 11
  1. ไม่ค่อยสนใจเรื่องชาวบ้าน สนแต่เรื่องของชาวญี่ปุ่นกันเอง : อย่างเช่นการถ่ายทอดแข่งกีฬาอะไรก็ถ่ายแต่กีฬาที่คนญี่ปุ่นแข่ง (จะไปว่าเค้าก็กระไรอยู่ ค่าออกอากาศมันแพง) อย่างโอลิมปิค กีฬาิอะไรที่คนญี่ปุ่นไม่ได้ลงแข่งหรือไม่ได้เข้ารอบก็ไม่ต้องได้ดูกันล่ะ (กรุเลยต้องเชียร์ญี่ปุ่นไปด้วย เพราะอยากดูแข่ง) หรือเวลาแข่ง figure skating ก็จะให้ดูแต่ญี่ปุ่นกับคนสำคัญๆ T^T เค้าอยากดูคนอื่นด้วยอ่ะ...

...รักชาติเกิ๊นนนนน ตูก็อยากดูชาติตูนะเมิงงงงง

2. ใช้รองเท้าเปลือง! : คือมันชอบให้เปลี่ยนสลิปเปอร์อยู่เรื่อย เข้าตึกก็เปลี่ยนหนึ่งสลิปเปอร์ เข้าห้องน้ำก็ต้องเปลี่ยนอีกหนึ่งสลิปเปอร์ แล้วต้องเรียงสลิปเปอร์ให้สวยงามอีกแน่ะ...

.... อันนี้เราว่าดี จะได้ไม่มีส้นสูงกัดเท้า เดินชิลล์ๆได้ในที่ทำงาน

3. ซดโซบะโฮกๆ!!! : อันนี้คนญี่ปุ่นเองก็รู้สึกอับอายเล็กน้อยเวลาไปกินร้านอาหารญี่ปุ่นพวกเส้นตามต่างประเทศแล้วรู้สึกบรรยากาศรอบข้างมันประหลาด (เหมือนถูกรอบข้างรังเกียจ) เหตุผลที่ต้องสูดให้มันโฮกๆเพื่อแสดงถึงคงามอร่อยแล้ว เค้าว่ามันจะช่วยดับความร้อนได้ประมาณหนึ่งด้วย (ทุกวันนี้ก็ยังทำไม่ได้)

...ก็ไม่ได้แย่นะ เวลาเราเห็นคนญี่ปุ่นกินอูด้งโซบะ แล้วอยากกินตามเลย สงสัยเป็นจิตวิทยามั้ง พยายามทำให้ดูอร่อยสุดๆๆ 5555555

4. ทำงานจนตัวตาย : สงสัยจะมีอยู่ประเทศเดียวที่มีคนตายเพราะทำงานหนักเกินไม่รู้จักพักผ่อน คนญี่ปุ่นจำนวนมากมีวันหยุดก็ไม่รู้จักใช้ (บางคนใช้ไม่ได้ เพราะบรรยากาศในบริษัทประมาณว่าเมิงห้ามหยุด เค้ามีวันหยุดไว้ตามกฎหมายเฉยๆ)

... เราเกลียดข้อนี้!


5. อ่านบรรยากาศรอบข้างมากเกิน : เพราะกลัวจะถูกหาว่าเป็นพวก KY (อ่านบรรยากาศไม่ออก ไร้กาละเทศะ) ทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง พยายามจะไม่แสดงความคิดเห็นที่มันแตกต่างจากชาวบ้านมาก แสดงความเห็นแบบเกาะกลุ่ม... ว่ากันว่าพวกแบบสอบถามทางสถิติอะไรก็เชื่อถือไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ เพราะหลายคนตอบแบบอ่านบรรยากาศ (ประมาณคิดว่าคนส่วนใหญ่จะตอบแบบนี้เลยตอบด้วย)

... เราว่าคนญี่ปุ่นเค้าดีเกินไป

6. ไม่ได้เป็นคนศาสนานั้น แต่อยากจะทำพิธีทางศาสนากับเขา : คนญี่ปุ่นจำนวนมาก(บอกว่า)นับถือศาสนาพุทธ แต่ก็ไม่ได้เคร่งอะไรเหมือนกับบ้านเรา หลายคนบอกเต็มปากเต็มคำว่าไม่นับถือศาสนาอะไร (คุณฮายาชิก็ไม่มีศาสนา) แต่คนญี่ปุ่นก็จะไปศาลเจ้าตามเทศกาลแบบญี่ปุ่นเช่นฮัทสึโมเดะ (ไปไหว้ศาลเจ้าครั้งแรกของปี) แต่งงานกันแบบคริสตร์ หรือจัดงานศพตามแบบพุทธเป็นต้น หนำซ้ำยังฉลองทั้งคริสมาสตร์ ทั้งวาเลนไทน์กันอีกด้วย... (ได้หมด)

.... โอ้ยยย อย่าไปว่ายุ่นเล้ยยย เพื่อนเราบางคนยังชอบพูดอาเมน ใส่จี้กางเขน ทั้งๆที่เกิดมานับถือพุทธเล้ยยยยย

7. ส่งของตอบแทน : เวลาได้รับของอวยพรหรืออะไรก็ตาม ต้องมีการส่งของตอบแทนกันตามมารยาท เงินใส่ซองตามงานต่างๆก็มีการกำหนดไว้อย่างเป็นมารยา่ทตามความสัมพันธ์ของเรากับผู้จัดงาน ของตอบแทนก็เช่นกัน เวลาเราได้รับของอวยพรเนื่องในโอกาสอะไร (เช่นอวยพรเด็กแรกเกิด) ก็ต้องส่งของกลับไปให้ตามมารยาทซึ่งควรจะราคาประมาณ 1 ใน 3 ของของที่ได้รับ (กะๆเอา) ดังนั้นถ้าเราส่งของโคตรแพงไปให้ชาวบ้านก็จะกลายเป็น KY สร้างความลำบากให้คนส่งของกลับซะอีก -_-;

.... เสน่ห์ของยุ่นเค้าละ มารยาทงาม :) 

8. ไม่ร้องเพลงชาติ : เป็นความเป็นจริงที่ว่าคนญี่ปุ่นจำนวนมากร้องเพลงชาติไม่ได้ @_@; และมีหลายคนที่ไม่ชอบเนื้อหาความหมายของเพลงชาติตัวเอง (เพราะความหมายประมาณว่าจักรพรรดิคือทุกสิ่งทุกอย่าง หลายคนเชื่อว่าเพราะความคิดแบบนี้ที่นำพาให้ญี่ปุ่นต้องเริ่มสงครามโลกครั้งที่สองและพ่ายแพ้สงคราม...) <-- เรื่องมันยาว

... การเมืองสินะ

9. โดนใครชมแล้วต้องปฏิเสธ : ในความเป็นจริงคงไม่มีใครโดนชมว่าสวย หัวดี แล้วจะยืดอกรับว่าค่ะ เป็นมาแต่เกิด โฮะๆๆๆ แต่อย่างน้อยขอบคุณก็ยังดี นี่เหมือนกับถูกกำหนดไว้ว่าจะต้องปฏิเสธว่า ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่า โฮ่ๆๆ (ในใจแอบกระหยิ่มยิ้มย่อง)

... ก็ดูนอบน้อมดีออก เราไม่ชอบพวกชมตัวเองว่าสวยว่าเก่งอะ แต่ต้องรู้จักขอบคุณยอมรับคำชมบ้างก็ดี

10. ดอกไม้บางประเภทเอาไปเยี่ยมคนป่วยไม่ได้ : ประมาณเดียวกับที่ไทย
ยที่คงไม่มีใครหอบเอาพวงหรีดไปให้คนนอนป่วยในโรงพยาบาล ที่ญี่ปุ่นจะมีดอกไม้บางประเภท (เช่นลิลลี่) ที่เค้าจะเอาไว้วางให้กับผู้เสียชีวิต และมีช่อดอกไม้ที่ขายเอาไว้ให้บูชาหิ้งบรรพบุรุษที่บ้าน นี่ก็ห้ามเอาไปเยี่ยมคนป่วยเหมือนกัน (คนไทยเองคงไม่มีใึครเอาช่อดอกไม้ไหว้พระหรือพวงมาลัยไปให้คนป่วยเหมือนกันแหล่ะ)

.... ไทยก็มีเหมือนกันแหละเนอะ

11. งานเทศกาลโคตรเงียบ... : -_-; ถ้าพูดถึงงานเทศกาลดังๆของไทยอย่างงานสงกรานต์ ลอยกระทง หรืองานของต่างประเทศเองก็จะมีการร้องรำทำเพลง การเต้น กินดื่มลัลล้าๆ ผู้คนหัวเราะร่า เต้นด้วยกัน... แต่งานญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นการออกร้าน... แล้วคนก็เดินเที่ยวหาของกินกันไปเฉยๆ @_@; งานเทศกาลใหญ่ๆที่มีขบวนรถหรือพาเหรดก็เดินกันเงียบๆแบบไร้เสียงดนตรีประกอบ... (เดินกันทื่อๆอย่างนั้น ห้ามยิ้ม ห้ามโบกมือให้ประชาชน) อย่างมากก็เป็นเสียงร้องรับของหนุ่มๆที่แบกหามขบวนรถ หรือไม่ก็มีเต้นรำแบบพื้นเมืองในขบวนกันเท่านั้น (ตกลงงานสนุกไหมเนี่ย?)

... คนเค้าจริงจังกับชีวิตมั้งงงงง แอบผิดหวัง
นึกว่าจะเหมือนในการ์ตูน T_T แต่ญี่ปุ่นชอบออกร้านขายของกินจริงๆอะ


12. โฮมเลสดูมีมาตรฐานชีวิตในระดับหนึ่ง : เมื่อเทียบกับประเทศอื่น... @_@; ถึงจะดูสกปรกเซอร์ๆแต่ก็มีศิลปะในการสร้างที่อยู่ และมีรสนิยมในการเก็บข้างของเครื่องใช้มาประดับบ้าน (บางอย่างใช้ดีกว่าบ้านตูอีก) ไม่ค่อยมีเหตุร้ายที่เกิดจากการก่อเหตุของพวกโฮมเลสด้วย

... อันนี้เจ๋ง!

13. ผู้หญิงญี่ปุ่นถือกระเป๋าแบบห้อยไว้ที่แขน (แบบที่ป้าๆในไทยชอบถือ) : อย่าไปดูถูกมาก อยู่ไปนานๆรู้สึกตัวอีกที อ้าว... กรูก็ถือเหมือนกัน -_-;

... โรงเรียนเราก็ชอบสะพายกระเป๋าเคียงไว้บนแขนเหมือนกัน เดินมาสิบ ถือแบบนี้ซะเก้า
อย่าว่าแต่โรงเรียนเราเลย หญิงไทยก็เหมือนกัน


14. โรงพยาบาลปิดวันอาทิตย์ : และส่วนใหญ่ไม่้ได้เปิด 24 ชั่วโมง พึ่งไม่ได้เล้ยยยย -_-;

.... อันนี้แย่ แต่หมอเค้าคงสบายเน้อะ

15. ซื้อของแล้วต้องใส่ถุงเอง : แต่ก็ดีนะคิดเงินเร็วดี ไม่เปลืองถุงมากด้วยเพราะไม่ใส่ให้กันพร่ำเพรื่อซ้อนแล้วซ้อนอีกเหมือนที่ไทย

... ไรแว้ เสียตังค์ให้เมิงแล้วน้า ไม่คิดจะหย่อนของในถุง
ให้เลยไง๊ ก็ไม่ได้ลำบากมากซะหน่อยนี่

16. ต้องมีตัวอย่างของกินให้ดู : เป็นเอกลักษณ์มากของร้านชาวญี่ปุ่น นับวันจะเหมือนจริงขึ้นทุกวันจนดูไม่ออกว่ามันของจริงหรือของปลอมกันแน่

... ก็จริงนาา เห็นร้านยุ่นในไทยก็มีเยอะ จัดซะสวยเลย

17. ผัวเมียไม่ค่อยนอนด้วยกัน : ไม่ใช่ทุกครอบครัว แต่หลายบ้านก็แยกกันนอน (ก็ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เวลานอนไม่พร้อมกัน อุณหภูมิที่ชอบไม่เหมือนกัน) แต่ก่อนก็กังขาแต่พอแต่งงานแล้วรู้สึกว่ามันก็โอเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องนอนด้วยกันประจำหรอก ชอบทำไร ทำยังไงก็ทำไป ต่างคนต่างมีเวลาส่วนตัว สถานที่ส่วนตัวบ้างเป็นดีสุด ^_^;

... ก็ดีออก ผัวเมียก็ต้องอยากมีโลกส่วนตัวบ้างสิ แต่ไม่ใช่แยกกันยาวววนะ
คนญี่ปุ่นก็เงี้ย
นับถือโลกส่วนตัว ไม่ก้าวก่ายกัน จนบางทีก็ห่างเหินเกินไป

18. ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือบนรถโดยสารสาธารณะ : ทั้งรถไฟและรถเมล์ เหตุเพราะเสียงคุยโทรศัพท์มันทำให้คนอื่นรำคาญ -_-; ประเทศอื่นส่วนใหญ่เค้าไม่ห้าม แต่อยู่ที่นี่ก็ต้องทำตามเค้าไป ห้ามบ่น

... บางคนมันก็คุยเสียงดัง น่ารำคาญจริงอะ คุยทีรู้เรื่องในชีวิตหมด --*
แต่ออกเป็นกฏ บางทีก็โหดไป เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน ทำไงล่ะ


19. ห่อปกหนังสือด้วยกระดาษทึบ : ไปซื้อหนังสือตามร้านหนังสือหลายร้านจะถามว่าจะให้ห่อปกให้หรือเปล่า? ถ้าตอบโอเคทางร้านก็จะห่อปกกระดาษสีน้ำตาลทึบๆที่มักจะเป็นลายของทางร้านมาให้ หนึ่งก็เพื่อรักษาความเป็นไปรเวทของคนอ่าน คนอื่นไม่ต้องมาสอดรู้ดูปกว่าอีนี่อ่านอะไร (แต่กลายเป็นน่าสงสัยเข้าไปใหญ่) อีกเหตุผลก็เพื่อโฆษณาทางร้านไปด้วย

.... ก็เจ๋งแฮะ เผื่อคนรำคาญพวกชอบยื่นหน้ามาอ่านด้วย(เราก็เป็น เลวมาก 5555)
แต่เราไม่ชอบ เราว่าปกหนังสือมันเป็นศิลปะที่ดึงดูดคนอ่านนะ
 

20. เดินขึ้นบันไดเลื่อน : ใครไม่ยืนชิดข้างเดียวกับคนข้างหน้าเป็นแถวเดียวกันเพื่อให้คนรีบเค้าเดินขึ้นไปก่อน จะโดนตั้งท่ารังเกียจ (ทั้งที่บันไดเลื่อนเค้าไม่ได้ทำไว้ให้คนเดิน) ส่วนใหญ่ฝั่งคันโตจะต้องยืนชิดซ้าย คันไซยืนชิดขวากัน...

... ถ้าคนไทยเป็นได้งี้ก็คงดี เมืองไทยคงจะเป็นระเบียบกว่านี้ แต่วิถีประชาแรงไป


21. เปลี่ยนชุดแต่งงานสองสามรอบ : งานเลี้ยงแต่งงานของญี่ปุ่น เจ้าบ่าวเจ้าสาวมักจะมีการเปลี่ยนชุดประมาณสองรอบ (ภาษาญี่ปุ่นเรียก お色直し โออิโรนาโอชิ) โดยมากชุดแรกจะเป็นชุดเจ้าสาวสีขาว ชุดอื่นจะเป็นสีๆแล้วแต่เจ้าสาวชอบ

... ดี เพราะเจ้าสาวจะได้มีชุดที่ตัวเองเลือกเองจริงๆ

22. ชอบซื้อของจากเครื่องขายอัตโนมัติ : นัยว่ามันคงง่ายและไม่ต้องสนทนากับผู้คน จึงมีเครื่องขายอะไรอัตโนมัติมากมายในประเทศนี้ บางอย่างให้แปลกใจมากว่าจะมีไปทำไม... (ขณะเดียวกันตามต่างจังหวัดก็จะมีร้านค้าแบบไม่มีคนขาย คือมีผักกับราคาวางไว้ ใครจะซื้ออะไรก็จ่ายเงินแล้วหยิบไป เชื่อใจกันสุดๆ)

... บางทีคนขายก็หน้าตากวนทีนเกินไป

23. เรียกไฟเขียวว่าไฟฟ้า... : ตอนไฟเขียวคนญี่ปุ่นจะบอกว่า 青 (สีฟ้า) ดูยังไงก็สีเขียวชัดๆ...

... อันนี้แล้วแต่มุมมอง

24. ชอบถามกรุ๊ปเลือด : แล้วก็ทำท่ารังเกียจคนกรุ๊ป B -_-; (คนญี่ปุ่นกรุ๊ป A เยอะสุด และว่ากันว่าเข้ากันไม่ได้กับกรุ๊ป B)
.
..เกลียดข้อนี้! ตูกรุ๊ป B นะเว้ยยย ไม่เห็นต้องเหยียดเลยยย
แต่นะ บางทีคนไทยก็เม้าท์ กรุ๊ป AB ขำๆเลย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากรุ๊ป B กรุ๊ป AB นิสัยไม่ดีนะ
ของแบบนี้มันขี้นอยู่ที่ตัวคนเองตังหาก


25. เรียกประเทศแถวบ้านเราว่าเอเชีย : @_@; บางครั้งคนญี่ปุ่นชอบเรียกประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าเอเชีย อาจจะลืมไปแล้วว่าญี่ปุ่นมันก็อยู่ในทวีปเอเชียเหมือนกัน... -_-;

.... โหย หล่อนก็เอเชียเหมือนฉันแหละย่ะ!

เราชอบคนญีุ่ปุ่น ตรงที่เค้ามีวัฒนธรรม มีมารยาท สุำภาพนอมน้อม
นับถือโลกส่วนตัว ไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน
แต่เราก็ไม่ชอบมากกกกก ที่เค้ามีวิถีประชาที่แรงเกินไป มันทำให้คนญี่ปุ่นไม่กล้าทำอะไรนอกกรอบ
จนดูเป็นคนหงอๆเลย โลกส่วนตัวสูงเกินไป ครอบครัวเดียวกันไม่ค่อยผูกพัน ทำให้คนในสังคมไม่ผูกพันไม่ช่วยเหลือกันด้วย :(
และที่สำคัญ ไม่มีดราม่าให้เสพเลย 555555555 ก็ไม่มีคนยุ่งเรื่องชาวบ้านเลยนี่เนอะ ยุ่งบ้างบางทีชีวิตมันก็สนุกเหมือนกันนะ ละครไทยเลย 55555555

เออว่าแต่ KY แปลว่าอะไรอ่ะ บังเอิญโง่เรื่องคำย่อ ฮ่าๆๆๆๆ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 10 มีนาคม 2554 / 23:29

PS.  รักที่เราเป็นเรา
0
B-Blue 11 มี.ค. 54 เวลา 22:16 น. 13

กรุ๊ปเลือดยังแบ่ง! (หนูกรุ๊ป A แหะๆ) โดยส่วยตัวชอบ(ผู้ชาย)กรุ๊ป AB (คนแปลกๆ)

อีกอย่างนึง คนญี่ปุ่นชอบใช้แล้วทิ้ง! อีไม้แขวนเสื้อพลาสติกที่บ้านเราใช้กันบางทีเป็น10ๆปี ยุ่นเขาใช้แล้วทิ้ง แต่บางบ้านก็เก็บไว้ใช้ต่อ...


PS.  I'm E.L.F & WDF :: LeeYe!! จงเจริญ!! จิ้นๆๆๆ ใครไม่จิ้นฉันจิ้น(อยู่คนเดียว)! ลีดเดอร์ผู้น่ารัก!
0
GiF(Mike)Minๆๆ 20 มี.ค. 54 เวลา 21:49 น. 14
 คห. 7  คนพะเยาหรอ ? อยู่ พ.ค. ใช่ป่ะ
เซนเซย์เหมือนกะเทยยังไงไม่่รู้
เวลาพูดว่าเซนเซย์เป็นกะเทย
เซนเซย์ชอบวิ่งไล่  5555 
0
Chang Ida 30 มิ.ย. 55 เวลา 18:47 น. 16

ให้ เครดิต พี่เค้าหน่อยก็ดีนะคะน้อง ไม่อยากจะเชื่อว่าลืม


PS.  "Life is a tragedy when seen in close-up, but a comedy in long-shot." - Charlie Chaplin
0