Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คิดว่าการมีแฟนเป็นอุปสรรคต่อการเขียนนิยายบ้างไหม?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราทำงานประจำ จ-ศ ส่วนตอนเย็น+เสาร์อาทิตย์เขียนนิยายค่ะ แทบจะไม่มีเวลาให้เขา

วางแพลนไว้ว่าต้องการตีพิมพ์ต้นปีหน้า เวลาจึงเร่งรัด
ตอนแรกก็ตกลงกันได้ในส่วนของเวลา สุดท้ายก็มีปัญหากันอยู่ดี
เรื่องกลับกลายเป็นว่า เขาไม่ได้สนับสนุนงานเรา เหมือนที่เราภูมิใจกับมันเลยสักนิด

อย่างนั้นจะมีแฟนไปทำไม?

รู้ว่าเรื่องเช่นนี้แล้วแต่ตัวบุคคล ส่วนตัวเราหาทางออกกันไม่ได้  เลยต้องค้างคาอึดอัดกันอยู่อย่างนี้แหละค่ะ ทรมานทรกรรมดี

มีใครเคยประสบปัญหาเหมือนกันไหมคะ?

 

แสดงความคิดเห็น

26 ความคิดเห็น

varunyanee 22 ธ.ค. 62 เวลา 16:13 น. 1

แบ่งเวลาให้เป็น

ไม่มีถูกผิด

เวลามี 24 ชม.เท่ากัน //วางอะไรก็ได้ให้ตรงกับเวลาที่เรามี

ค่อยๆคิด เครียดก็ไปพัก ความเครียดทำให้คิดไม่ออก//ใจเย็นๆ


2
jajung50 22 ธ.ค. 62 เวลา 18:17 น. 1-1

จะพยายามไม่เครียดค่ะ​ เพราะเวลาก็เร่งเข้ามาทุกที​ ถ้าเครียดมากไปก็แต่งไม่ได้

0
varunyanee 22 ธ.ค. 62 เวลา 18:28 น. 1-2

เราใช้เวลาหลัง 4ทุ่มมาแต่งอ่ะ ..

ก่อนหน้าก็ไม่มีอารมณ์แต่ง ...คนเยอะ

0
YangYulin 22 ธ.ค. 62 เวลา 16:15 น. 2

มันขึ้นอยู่กับความหนักเเน่นเเละการเเบ่งเวลาของเเต่ละคนด้วยเนอะ

เเต่สำหรับเรา วางเเพลนเเต่งนิยายซะดิบดี พอมีเเฟนปุ้ปก็เเพลนเเตก หลงเลยจ้า ไม่เป็นอันกินอันนอนอันเเต่งนิยาย(5555) พอเลิกกันก็นอยๆ วางมือไปเดือนกว่าๆ ตอนนี้กำลังพยามเเต่งต่ออยู่ค่ะ555

ยังไงก็ขอให้จขกท.สู้ๆนะคะ ของเเบบนี้มันไปด้วยกันได้ค่ะ เเต่งนิยายอยู่ พอเขาทักมาก็เเว้บไปตอบนิดนึง เเล้วก็เเว้บกลับมาเเต่งต่อเอา เเต่ทางที่ดีก็เปิดอกคุยกันนะคะ ค้างคาเงียบๆไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นค่ะ ปวดใจทั้งคู่ไปเปล่าๆ

1
jajung50 22 ธ.ค. 62 เวลา 18:18 น. 2-1

เคยแวบไปตอบแบบนี้แหละค่ะ5555​ สุดท้ายทะเลาะกัน​ แต่งต่อไม่ได้

0
ชีวาพร 22 ธ.ค. 62 เวลา 16:20 น. 3

แชร์ประสบการณ์ค่ะ เราทำงานประจำเหมือนกัน แต่เป็นคนชอบเขียนนิยายดึกๆ ดังนั้นหลังเลิกงานมาจะให้เวลากะแฟน/คนที่บ้าน ดึกๆก็จะเขียนนิยาย แฟนก่เล่นเกมส์ดูหนัง อยู่ด้วยกันนะแต่ต่างคนต่างทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เรื่องเวลาก็ตามสถานการณ์ไม่ตายตัว

1
jajung50 22 ธ.ค. 62 เวลา 18:19 น. 3-1

ดีจังเลยค่ะ​ อยากให้เป็นแบบนี้บ้างจัง

0
ณริสา 七夕 22 ธ.ค. 62 เวลา 16:32 น. 4

เราทำงานประจำ เสาร์อาทิตย์ก็พาลูกสาวไปโน่นนี่นั่น 

ส่วนตัวเราคือครอบครัวกับงานมาก่อนค่ะ งานเขียนเราเลยจะเขียนตอนก่อนนอนหรือตอนว่างมาก ๆ ๆ ก็จะช้ามาก แบบ...อืดค่ะ แถมภาษาก็ง่ายสุดค่ะ ฮ่า ๆ ไม่เร่งรีบในการแต่งอะไรทั้งสิ้นก็เลยไม่มีปัญหากับครอบครัวเรื่องนี้ 

แต่หากเราทุ่มเทกับงานเขียนแล้วไม่มีเวลาให้ครอบครัว เราว่าเรามีปัญหามากแน่ ๆ ค่ะ และจะเป็นปัญหาที่หนักมาก พวกเขาคงไม่พอใจให้เราเขียนนิยายเหมือนกันค่ะ เพราะนิยายที่เราแต่งไม่ได้ทำเงินให้เรา แถมเราเสียเงินไปหลายหมื่นเพื่อสนองความต้องการตัวเองอีก 

เราคิดว่า ถ้าทำอะไรไม่กระทบกับความสัมพันธ์ในครอบครัวก็น่าจะไม่มีปัญหาค่ะ (ตรงนี้คือความคิดส่วนตัวของเรากับครอบครัวเรานะคะ)


คุณจขกท.สู้ ๆ ค่ะ เราอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกจขกท.มากแต่อยากให้ทำใจให้สบาย อย่าเครียดมากนะคะ


1
jajung50 22 ธ.ค. 62 เวลา 18:19 น. 4-1

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ​ เดี๋ยวจะพยายามปรับอีกสักครั้ง

0
Charlotte russe 22 ธ.ค. 62 เวลา 16:34 น. 5

อ่านแล้วก็...ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะจขกท.บอกแค่ ตกลงกัน เราก็ไม่รู้ตกลงยังไง

บอกว่าเขาไม่สนับสนุน ไม่สนับสนุนคือยังไงบ้าง เขาไม่เข้าใจ ไม่อยากให้เราทำ พูดจาตัดกำลังใจ หรือยังไง?


ถามว่าเคยมีปัญหาแบบนี้ไหม

เราเคยมีปัญหากับแฟนเก่าเรื่องการเขียนนิยายค่ะ ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเวลานะ เรามีเวลาให้เขาเสมอ แต่มีปัญหาเพราะ คุยเรื่องนี้ด้วยไม่ได้ เขาไม่อิน เขาคิดต่าง เขาขัดไอเดียเรา คือความคิดเขามันอยู่กับความจริงสูงมาก จนเข้าไม่ถึงเรื่องที่มันต้องใช้จินตนาการแบบนี้ สุดท้ายเราก็เลิกคุยเรื่องนิยายกับเขาเลย (ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา) สุดท้ายก็เลิกแหละค่ะ แฟนที่ไม่ได้ช่วยให้เราไปได้ดีในสิ่งที่เรารัก มีไปก็เท่านั้น คือเขาไม่ผิดหรอก แต่มันดีต่อเรามากกว่าถ้าจะเลิกกัน พอเลิกกันแล้วแต่งนิยายดีกว่าเดิมมากๆ เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด


แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าของกระทู้จะต้องเลิกกับแฟนนะคะ เรื่องเรามันไม่เหมือนกัน

เจ้าของกระทู้ก็ชั่งน้ำหนักดู อะไรสำคัญกว่า หรือถ้าสำคัญทั้งคู่ เราก็ต้องพยายามจัดการให้ได้ คือคนเป็นแฟนยังไงก็ต้องมีเวลาให้กันมากพอ ความเข้าใจมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ความรู้สึกคนเรามันก็นอยด์ได้ อารมณ์คน มันก็ต้องมีบางช่วงที่เขาอาจจะต้องการเรา แต่เราไม่อยู่ตรงนั้น เขาก็คงนอยด์เป็นธรรมดา อันนี้เราแค่สมมตินะ

ส่วนความที่ต้องเร่งแต่ง เราก็เข้าใจค่ะ เรานี่ช่วงปั่นคือไม่มีเวลาให้ใครเลยจริงๆ แต่เราโชคดีคือไม่มีแฟน...

0
Nonnoi01 22 ธ.ค. 62 เวลา 16:45 น. 6


เคยเป็นครับ แต่...สุดท้ายผมกับเขาก็ไม่สามารถเข้าใจกันได้จริงๆ ...



สำหรับผมนะครับ ถ้าเป็นแฟนกันจริงๆ "ควรให้เกียรติและเข้าใจตัวตนของเราจริงๆ ด้วย"

สมมติว่าผมชอบเขียนนิยาย แฟนผมก็ไม่จำเป็นต้องชอบก็ได้ แต่ขอให้เข้าใจด้วยว่าผมชอบและรักมันจริงๆ เพราะมันคือส่วนหนึ่งของชีวิตผม


ถ้าแฟนผมตอบว่า "ไม่ ฉันไม่เข้าใจ"

ผมก็จะพยายามทำให้เธอเข้าใจครับ


ถ้าแฟนผมตอบว่า "ไม่ ฉันไม่เข้าใจ จะให้พูดกีี่ครั้งกันห๊ะ!! ฉันไม่เข้าใจหรอก ไม่สนับสนุนด้วย"

ผมก็จะปล่อยเธอไปครับ...


เพราะถ้าให้ผมเลือก ผมเลือกรักตัวเองก่อน...เพราะจากประสบการณ์ตรงและจากคนรอบข้าง คู่ไหนที่ไม่เข้าใจเรื่องไลฟ์สไตล์เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้...จุดจบคือแยกทางกันอยู่ดีครับ อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วก็แค่นั้น


ทางแก้มีอยู่หลายทางมากๆ มันขึ้นอยู่กับคู่รักของแต่ละคนแหละนะ แต่สำหรับผมแล้วผมใช้วิธี "เปรียบเทียบความสุขและทุกข์ครับ" ลองเขียนข้อดีและข้อเสียของแฟนเราใส่กระดาษแล้วลองดูครับว่าเขามีข้อดีหรือข้อเสียมากกว่ากัน ... ถ้าข้อดีมากกว่าก็ลองพิจารณาต่อไปดูครับว่าข้อเสียที่น้อยนิดของเขานั้น "รุนแรง" สำหรับเราหรือเปล่า



ถ้าไม่ทำให้เรามีความทุกข์มากกว่าสุข ก็พยายามหาทางออกร่วมกันให้ได้ครับ "หาตรงกลาง" ให้ได้ ผมเชื่อว่าหากคนเรารักกันจริงๆ แล้วต้องย่อมยอมถอยกันคนละก้าวเพื่อความสุขของคนรักอยู่แล้วครับ สู้ๆ นะครับ^^

ปล.ไม่รู้ตรงกับหัวข้อกระทู้ไหม ถ้าสมมติว่าแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ก็ต้องคิดให้ละเอียดกว่านี้ครับเพราะถ้าผมมีครอบครัวแล้วผมคงเก็บนิยายไว้ก่อนแล้วพุ่งไปหาครอบครัวเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว


แต่จากที่ผมอ่านกระทู้มา ผมก็คิดว่าหากปล่อยให้คาราคาซังมันอาจจะทำให้ จขกท.ทุกข์ใจหนักมากขึ้นในอนาคตก็ได้เพราะงั้นขอให้ จขกท กับแฟนเข้าใจกันเร็วๆ นะครับ ^^



0
เรียกผมว่ามิคาเอล 22 ธ.ค. 62 เวลา 16:47 น. 7

คิดว่าแล้วแต่การแบ่งเวลาของแต่ละคนน่ะครับ

แต่สำหรับผม ช่วงเขียนจะชอบเททุกสิ่งอย่างรอบตัว แม้แต่แชทหรือการโทรก็จะปิด อาจไม่แตะเกือบทั้งวันฮะ เคยมีทะเลาะบ้าง แต่ถ้าเข้าใจ เขาก็ต้องให้เวลาเราด้วย

0
ELIZZI 22 ธ.ค. 62 เวลา 16:55 น. 8

จากผู้เคยประสบปัญหาทะเลาะกับแฟนเพราะเอาแต่ทำงานกับแต่งนิยายนะครับ

เรื่องแบบนี้มันเปลี่ยนกันฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องเปลี่ยนกันทั้งสองฝ่าย

อะไรที่มากเกินไปลดลงบ้าง ทำงานได้แต่อย่า "บ้างาน" ครับ

อย่างผมคือกำหนดเวลาที่ตัวเองจะเขียนนิยายไว้แล้วบอกเขาว่า เวลาประมาณนี้ขอเขียนนิยายนะ มีอะไรก็ติดต่อมาได้ แต่คงไม่ได้ตอบยาวๆ

บางทีก็เขียนหลังจากที่เขานอนไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะผมนอนดึกเป็นปกติแล้วเขานอนไวอยู่แล้วด้วย

วันหยุดก็ชวนออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง สลับสัปดาห์กับการเขียนนิยายอยู่บ้าน

ส่วนฝ่ายแฟนก็ปรับตัวตามคือถ้าวันไหนผมอยู่บ้าน บางทีก็จะมาหา คือไม่ได้มากวนอะไรเขาก็ทำนู่นนี่ของเขาไป ผมก็เขียนนิยายของผมไป ความจริงตอนแรกก็เสียสมาธิอยู่บ้าง แต่ความเคยชินมันเปลี่ยนกันได้ครับ นานๆ ไปก็ชินกับเขียนนิยายแล้วมีเสียงก๊อกๆ แก๊กๆ ไปด้วย


เป็นแฟนกันมันก็ต้องหาตรงกลาง อะไรปรับได้ก็ปรับแต่อย่าปรับจนไม่เป็นตัวของตัวเอง อย่าปล่อยให้เขารู้สึกว่าตัวเองต้องรอเราที่เมื่อไรก็ไม่เคยจะว่าง การที่เค้าไม่ชอบหรือภูมิใจในสิ่งที่เราทำมันไม่แปลกเลย เพราะสิ่งนั้นมันแย่งเวลาและความใส่ใจที่เขาควรจะได้ไปหมด ของแบบนี้แค่คำว่า "หวังว่าเขาจะเข้าใจ" มันไม่พอครับ ความอดทนของคนเราก็ไม่เท่ากันด้วย


และสุดท้าย... ถ้าต่างคนต่างเปลี่ยนอะไรไม่ได้ สิ่งที่ง่ายที่สุดคือการเปลี่ยนแฟนครับ

0
Invisible dream 22 ธ.ค. 62 เวลา 17:03 น. 9

นึกว่าตัวเองมาตั้งกระทู้ เหมือนกันมากจริงๆ เล่มแรกใกล้ตีพิมพ์แล้วถึงบอกว่าเราทำอะไร ก็เลยดูไม่มีปัญหา เล่มที่สองนี่แหละ คือศูนย์รวมของปัญหา เขาไม่แคร์จริง ๆไม่อยากให้ทำ อยากให้เลิก ต่อให้เคยเห็นจำนวนเงินมาแล้ว ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดเขาได้


สรุปคือก็ต้องหาช่องว่างเอาค่ะ นิยายช้าหน่อยไม่เป็นไร แต่ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างต้องไม่พังค่ะ เขาไม่ได้รู้สึกภูมิใจเหมือนเจ้าของผลงานหรอกค่ะ เขารู้สึกว่านี่มันคือสิ่งที่เบียดบังเวลาเขาเท่านั้น ถ้าไม่กระทบกับเวลาในส่วนของเขา ก็จะไม่เป็นไร เราใช้วิธีดูแลเขาจนหลับก่อน แล้วค่อยมานั่งปั่นงานของตัวเองเงียบๆค่ะ


เราทำงานอาทิตย์ละหกวันค่ะ

0
แอลลิเกเตอร์ผึ่งพุง & หงส์จีน 22 ธ.ค. 62 เวลา 17:08 น. 10

ประสบการณ์ของผม โชคดีที่เราชอบนิยายเหมือนกัน ผมชวนแฟนมาเขียนนิยายร่วมกันเลยครับ แต่ถึงแม้จะมาเป็นนักเขียนด้วยกัน ช่วยกันคิดช่วยกันเขียน มันก็มีเรื่องขัดแย้งอยู่ดี คนหนึ่งชอบเปิดเพลงระหว่างเขียน คนหนึ่งชอบเขียนแบบเงียบๆ ห้ามมีเสียงรบกวน บางทีคนหนึ่งขี้เกียจ คนหนึ่งไม่ว่าง และก็เรื่องจิปาถะ

สรุป ผมว่ามันมีปัญหากันทุกคู่แหละครับ ก็คงต้องปรับๆกันไป ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องห่างกันสักพัก ยังไงก็ขอให้จขกท.โชคดีนะครับ

0
A.L. Lee 22 ธ.ค. 62 เวลา 17:17 น. 11

อืมม ไม่ได้เจอสถานการณ์แบบ จขกท. เลยตอบลำบาก เพราะแฟนเราค่อนข้างสนับสนุนเราดี แต่สำหรับเรา งานประจำและครอบครัวมาก่อนค่ะ เวลานอกเหนือจากงานหรือเวลาครอบครัวค่อยเป็นงานอดิเรก ไม่ว่าจะแต่งนิยาย เล่นเกม หรือไปเที่ยว ก็ต้องลองแบ่งดูค่ะ

0
อ้วนนน 22 ธ.ค. 62 เวลา 18:33 น. 12

เรากับแฟนไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่มีปัญหา คุยกันแล้วก่อนคบ โตๆกันแล้ว อาทิตย์นึงเจอกันแค่ครั้งเดียว อาศัยโทรหากันเป็นหลัก นางเป็นคนที่ทำให้เราไม่หยุดเขียน


ทุกเรื่องทุกตอนของเรา นางจะขออ่านก่อน อ่านเสร็จก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก ไม่มีคำวิจารณ์ที่ยืดยาว ไม่มีหลักเกณฑ์หรอก แต่ถ้านางเงียบไปแสดงว่าตอนที่ส่งไปให้ไม่สนุก เราก็แค่กลับมาแก้แล้วส่งให้นางใหม่ จนกว่านางจะตอบเมล์กลับว่าขอตอนต่อไป เราถึงจะเริ่มตอนใหม่ได้ นางเป็นบก.ตัวจริงของเรา


ทุกวันนี้เราพอมีรายได้จากการเขียนบ้าง ถึงจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าประสบความสำเร็จในการเขียน แต่ฟีดแบคจากรีดเดอร์ค่อนข้างดี นี่แหละทำให้เราอยากเขียนต่อ แต่มันจะไม่มาถึงจุดนี้ถ้าไม่มีนาง


สุดท้ายนี้อยากบอกสั้นๆว่า รักนะ‘อ้วน!’


0
jajung50 22 ธ.ค. 62 เวลา 18:34 น. 13

เขาไม่ได้พูดตัดกำลังใจค่ะ​ เขาแค่ไม่พูดอะไรเลย​ อย่างตอนบอกว่านิยายเราได้ตีพิมพ์แล้วนะ​ เขาก็แค่เงียบแล้วคุยเรื่องอื่น​ ในขณะที่เราดีใจจนร้องไห้​ เราก็เลยรู้ว่าเขาไม่ชอบในสิ่งที่เราทำ​ ก็แก้ปัญหาโดยการเจอหน้ากันจะไม่พูดเรื่องนิยาย​ เวลามีปัญหาหนักใจเครียดเขียนไม่ออกก็เลยไม่รู้จะคุยกับใคร​ อดทนมาจนกระทั่งไกล้จะแต่งจบ​ กว่าว่าจบเล่มได้ตีพิมพ์ก็จะหยุดค่ะแล้วอยู่กับเขา​ แต่สุดท้ายก็ทะเลาะกันหนักเพราะเริ่มจากเราไม่มีเวลาให้​ ลามไปถึงนิยายของเรา​ เขาถามว่ามันสำคัญกับชีวิตหรอ? ซึ่งมันเป็นคำถามที่เจ็บปวดดีค่ะ​

2
พี่นกฮุก ตาโต 23 ธ.ค. 62 เวลา 08:56 น. 13-1

เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ โคตรเครียดอะ แต่พอได้เขียนนิยายก็ลืมเลย

คนที่ไม่ชอบการเขียนหรือการอ่าน เขาจะไม่เข้าใจคนที่ชอบเขียนกับคนที่ชอบอ่าน

เหมือนกันถ้าเขาชอบเล่นเกม แต่เราไม่ชอบ บังคับไปก็ไม่มีประโยชน์

คนเป็นแฟนก็จะพยายามให้เรามีเวลาว่างให้เขา ในขณะที่เราอยากเขียน เพราะบางทีเรื่องราวที่มันเข้ามาในหัวให้เราเขียนมันไม่ได้มาเหมือนน้ำ บางทีมันมาในช่วงเวลาที่เขาต้องการเรา แต่เรากำลังมีไฟ มันก็เลยเม้งกันฮะฮาๆ ต้องทำให้มันได้เงิน แล้วเอาเงินให้ดูว่าเนี่ยเราได้จากการเขียนนิยายนะ เธออยากได้อะไร เราให้เธอ20 % จากรายได้นี้นะ เขาน่าจะค่อยๆ เข้าใจ ถ้าเขาเป็นคนไม่เอาแต่ใจเกินไป

สู้ๆ จร้า

0
jajung50 23 ธ.ค. 62 เวลา 10:44 น. 13-2

ตอนแรกก็พยายามทำความเข้าใจกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​ แต่พอเห็นเขาเป็นแบบนี้มันก็บั่นทอนกำลังใจเราจริงๆค่ะ​ ก็เลยอยู่ห่างๆกันหน่อยช่วงยร้เผื่อจะดีขึ้น

0
Goldgoldbob 22 ธ.ค. 62 เวลา 18:47 น. 14

แฟนเราที่ผ่านมาเกือบทุกคนเคยอ่านนิยายเรา555 อาจเป็นเพราะแฟนเราและเรายังเป็นวัยรุ่นอยู่ เขาเข้าใจเรา เราเอาเวลาช่วงที่เขาไม่ว่างและเราว่างพอดีมาเขียน ซึ่งเราก็ไม่ได้ยัดเยียดการเขียนนิยายของเราให้เขาฟังนะ หมายถึงเล่าความชอบหรือความฝันเป้าหมายอะไรให้ฟังนะ หรือไม่ก็เธอต้องอ่านนะ มันไม่ใช่ เขาอยากอ่านก็อ่าน ไม่อ่านก็ไม่เป็นไร เพราะความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราบอกแค่ว่า"เราเขียนนิยาย" แค่นี้ แล้วถ้าเขาอยากรู้ เขาก็ถามเอง


แฟนเขาก็อยากคุยเรื่องที่เกี่ยวกับเราสองคนอะ เช่น วันนี้เป็นไงบ้าง ไปเที่ยวไหนมา ทำอะไรมาบ้าง คุยหยอกล้อกัน มากกว่าการเอาความคิดตัวเองไปยัดเยียดให้เขาฟัง ถ้าฟังในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ มันก็คงน่าเบื่อ


อันนี้ประสบการณ์ของเรานะ


ส่วนจขกท.คือ ทำงานทั้งวัน แทบไม่มีเวลาอยู่แล้ว เสาร์อาทิตย์ก็แต่งนิยายอีก คืออาจไม่ใช่เพราะจขกท.แต่งนิยายหรอก เป็นเรื่องของเวลาด้วย เป็นเราๆก็แอบนอยด์นะ


เราไม่รู้ว่าจขกท.กับแฟนอยู่ห่างกันรึเปล่า ถ้าอยู่ห่างกัน(เหมือนคู่เรา เราคุยกันผ่านแชท) ก็อยากให้จขกท.ใส่ใจเขาเยอะๆ อาจไม่ต้องตอบตลอด แต่เวลาคุยกับเขาก็ทำให้เขารู้ว่าเรารักเขา หรือไม่ก็หยอกล้อกันให้เขามีรอยยิ้ม เพิ่มพลังให้เขาบ้าง มันก็เหมือนเพิ่มพลังให้ตัวเราด้วย หรือไม่ก็ถ้าไม่มีเวลาตอบแชทจริงๆ อยากให้คอลหาเขา ค้างสายไว้ ให้เขารู้สึกว่าเราอยู่กับเขาตลอด คือเราจะไปให้เขามาเข้าใจเราฝ่ายเดียวไม่ได้อะ เราต้องเข้าใจเขาด้วย ถ้าเราเข้าใจเขา เขาอาจจะอยากเข้าใจจขกท.มากขึ้นก็ได้

0
m13ss 22 ธ.ค. 62 เวลา 19:01 น. 15

ของผมต่างคนต่างมีความชอบส่วนตัวน่ะครับ แต่เขาก็สนับสนุนงานเขียนของผมนะ แถมหาช่องทางเสริมรายได้ด้วย ผมเองก็สนับสนุนความชอบของเขาเช่นกัน แบบต่างคนต่างให้กำลังใจน่ะครับ แม้ตอนแรกเขาจะบอกว่านิยายผมมันไร้สาระก็ตาม ยอมรับเลยว่าตอนนั้นโมโหบวกปัญหาตอนมอสามก็ทะเลาะกันหนักน่ะครับ แต่มันก็ผ่านมาหลายปีละ ตอนนี้ยังคบกันอยู่ครับ ก็แบ่งเวลาโดยตอนอยู่ด้วยกันจะไม่แตะมือถือ ผมก็เลยแต่งนิยายได้ตอนอยู่บ้าน พออยู่โรงเรียนก็แต่งตอนคาบว่าง อยู่ไปเรื่อยๆอะฮะ

0
22 ธ.ค. 62 เวลา 19:19 น. 16

อันนี้ไม่ใช่ประสบการณ์ของผมครับ เป็นนักเขียนเพื่อน รู้จักกันเพราะเขียนนิยายเซ็ทเดียวกัน พอเขียนนิยายได้ตอนนึง ไปคุยกับแฟนในเฟซ ไม่อัปนิยายมาเดือนกว่าๆแล้วครับ เปลี่ยนแฟนเร็วมากกกก แต่ผมก็ยังไม่เคยมีสักที

0
玉兰 (อวี้หลัน) 22 ธ.ค. 62 เวลา 19:23 น. 17

ไม่ว่าจะทำงานประจำ หรือไม่ได้ทำงานประจำ ก็ต้องรู้จักแบ่งเวลาค่ะ


โดยส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างให้ความสำคัญกับครอบครัวมากกว่างานเขียน เราจะเขียนนิยายเฉพาะเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน หรือว่างจากกิจกรรมหลักของครอบครัวแล้วเท่านั้น ดังนั้นตรงส่วนนี้เราจึงไม่มีปัญหาอะไร


อีกอย่างคือเรามองว่าการเขียนนิยายเป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น จึงไม่คิดที่จะเร่งรีบอะไรทั้งสิ้น อยากเขียนก็เขียน อยากพักก็พัก เอาจริง ๆ เงินที่เราเสียไปจากการเขียนนิยาย มันมากกว่ารายได้ที่เราจะได้รับเสียอีก ดังนั้นเรามองว่ามันไม่คุ้มกันเท่าไหร่ หากครอบครัวจะต้องมาระหองระแหงกันเพียงเพราะงานอดิเรกของเรา


จขกท.เองก็ใจเย็น ๆ ก่อนดีกว่าค่ะ ลองคิดทบทวนดูให้ดีว่าอะไรสำคัญกว่า ระหว่างนิยายหรือคนที่ จขกท.รัก //สู้ ๆ ค่ะ

0
_NJ_ 22 ธ.ค. 62 เวลา 22:31 น. 18

เป็นเรื่องปกติค่ะ ที่ไม่ว่าใครก็อยากใช้เวลากับคนที่เรารัก

เราเข้าใจแฟนของ จขทก นะ

และก็เข้าใจในตัว จขทก ที่อยากมีเวลาทำงานเขียนให้สำเร็จด้วย


แต่สำหรับเราการมีแฟนไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเขียนนิยาย

เพราะเราไม่ได้ทำให้แฟนรู้สึกว่าเขาถูกแย่งเวลาที่เขาสมควรได้ไปค่ะ

เพราะตัวเรานั้นให้ความสำคัญกับแฟนมากกว่านิยาย ซึ่งเราทำแค่เป็นงานอดิเรก


การแบ่งเวลาเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต

เราควรจะแบ่งเวลาของเราให้กับสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญมากที่สุดสำหรับเราก่อน

แน่นอนว่าแต่ละคนนั้นให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆแตกต่างกันออกไป

อย่างเราให้ครอบครัวก่อน ตามด้วยแฟน เพื่อน งานที่ทำ แล้วก็งานอดิเรก (นิยาย)

ซึ่ง จขทก อาจจะให้ความสำคัญแตกต่างกับเรา


ลองทบทวนดูดีๆค่ะว่าอะไรที่เราให้ความสำคัญมากกว่ากันแน่

ถ้าเลือกอันไหน ก็คงต้องทุ่มเทเวลาเราให้กับสิ่งนั้นมากกว่า

และแน่นอนว่าเวลาเรามีแค่ 24 ชม. ถ้าเลือกสิ่งหนึ่งเราอาจะต้องเสียเวลาของอีกสิ่งหนึ่งไป

เราคงต้องทำใจยอมรับ ผลที่จะตามมาด้วยนะคะ


ส่วนเรื่องที่เขาไม่ได้รู้สึกชอบหรือสนับสนุนสิ่งที่เรารัก

อันนี้เขาคงจะรู้สึกว่าตนเองถูกแย่งความรักจาก จขทก ที่ตนเองควรจะได้ไป

อารมณ์เหมือนคนถูกแย่งแฟน มันเป็นธรรมดาค่ะที่เขาจะคิดต่อต้านแบบนั้น


ยังไง จขทก ลองไปทบทวนดูดีๆนะคะ

1
jajung50 23 ธ.ค. 62 เวลา 11:12 น. 18-1

เรายังไม่แต่งงานกันเลยไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ​สถานการณ์​ของเรา​ มันเหมือนยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็นไม่ได้ค่ะ​ ถามว่าเราให้ความสำคัญกับแฟนมากกว่านิยายไหม​ ใช่ค่ะเราเคยเป็นแบบนั้น


เมื่อก่อนเราเห็นเขาสำคัญที่สุด​ เขาต้องการแทบทุกเวลาที่ว่างในชีวิตของเรามอบให้เขา​ เราก็ให้​ แต่เหมือนกับว่าเราสูญเสียความเป็นตัวเองไป


เราพึ่งมาพบว่าจุดกึ่งกลางของเรา​ เราต้องให้เวลากับตัวเองสักหน่อย​ และให้เวลากับเขาด้วย​ แต่ดูเหมือนมันไม่พอสำหรับเขา


ยิ่งพักหลังที่เราอธิบายว่าเราขอเวลาหนึ่งเดือนในการแต่งนิยาย​ อาจจะไม่ได้เจอกันบ้าง​ นั่นยิ่งทำให้เรื่องบานปลายขึ้น


เอาเป็นว่าสถานการณ์แบบนี้มันทำให้เรารู้สึกปลงจนชินชาไปแล้วล่ะค่ะ​ ไม่ใช่ว่าเราไม่ปรับตัวเอง​ เราทำจนเหนื่อยไปหมดแล้ว



0
jajung50 23 ธ.ค. 62 เวลา 10:49 น. 19-1

อยากได้กำลังใจแบบนี้นะคะ​ สักนิดก็ยังดี​ พยายามอธิบายแล้วแต่เขาไม่ฟัง ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน

0
อรุณ 23 ธ.ค. 62 เวลา 08:44 น. 20

คล้ายๆกัน ตอนนั้นเรายอมเลิกกับแฟนเพราะมันงี่เง่า เราบอกเสมอว่าทำงานอดิเรกอยู่ ก็ไม่ยอมฟัง เรียกร้องความสนใจ อยากได้เวลาบ้าง อยากออกไปเที่ยวบ้าง เรารำคาญเลยเลิก

เรียกร้องเยอะเกินไปครับ

1
jajung50 23 ธ.ค. 62 เวลา 10:47 น. 20-1

คิดว่าถ้าตกลงกันแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นก็คงต้องเลิกค่ะ​ เราก็ไม่อยากอดทนอีกต่อไปแล้ว​ มันก็คงเป็นเหมือนคนสองคนที่อยู่ด้วยกันไปมีแต่จะบั่นทอนกันและกันเปล่าๆ​

0