ทำไมคนถึงชอบแนวพระเอกเก็บงำพลัง ทำตัวอ่อนแอให้คนอื่นดูถูกดูแคลน จากนั้นค่อยโชว์พลังเทพทีหลัง
ตั้งกระทู้ใหม่
งงวิธีการคิดของนักเขียนจริงๆ
15 ความคิดเห็น
เหมือนเราดูหนัง มันก็ต้องมีฉากไคลแม็กซ์ เพื่อทำให้เนื้อเรื่องตื่นเต้น
มังฮวาหรือนิยายแนวนี้เต็มไปหมด มีแต่เดิมๆ ทำตัวกาก แต่ตบคนเก่งโชว์เทพให้คนว้าว
หลายเรื่องละ แต่สุดท้ายก็มีคนชอบอยู่ดี
ถ้าอ่อนแอเพราะมีเหตุผลก็พอเข้าใจได้ อาจจะให้ตัวเองพร้อมก่อน ค่อยสวนกลับทีเดียวก็ได้ มั่นใจว่าตัวเองจะชนะขาดจริงๆ
เพราะมองในฐานะนักเขียนมันจะทำให้เกิด "ความขัดแย้ง"ในเรื่องได้มากกว่าครับผม
และ"ความขัดแย้ง" คือรากฐานของนิยายทั้งหมดก็ว่าได้
อย่างเช่นมุกแบบมังงะดั้งเดิมหากมีคนเจอโกคูแล้วกล่าวว่า
"นี่มัน ซุนโกคู ศิษย์ของท่านผู้เฒ่าเต่าปรมาจารย์แห่งยุคนี่หว่า พวกเราถอยเร็ว"
"นี่ีมัน กัซ นายกองแนวหน้าของกองพันเหยี่ยวนี่หว่าพวกเราถอยเร็ว"
ซึ่งมันสมเหตุสมผลแต่ทำให้ผู้อ่านที่ต้องการเห็นคนตีกันงานกร่อยแน่ๆ
มุกนี้อ.โทริยาม่าก็แซวตนเองเล็กน้อยว่า
พระเอกคือนักมวยปล้ำที่เก่งที่สุดไปผจญภัย
ปีศาจที่จะต่อสู้ด้วยในตอนแรกรู้ว่าพระเอกคือนักมวยปล้ำชื่อดังเลยขอเปลี่ยนเป็นประลองอย่างอื่นนอกจากต่อสู้เแทน
ตัวละครมีจุดร่วมที่นักอ่านเข้าใจคือความอ่อนแอโดนดูถูก จากประสบการณ์ในวัยเด็กหรือจากคนอื่น คนรอบตัว
ตอบสนองแฟนตาซีของคนอ่านคือการเอาชนะใครก็ตามที่มาดูถูก
ก็คงจะเหตุผลเดียวกับที่ว่าทำไม คนถึงชอบดูละครคุณธรรมนั่นล่ะคับ การเห็นคนโดนเอาคืนโดยอะไรก็ตามที่เคยดูถูกไว้ มันดู "สะใจดี" แค่นั้นเลย แค่สะใจนั่นล่ะ
จริงๆนักเขียนก็อยากเขียนให้เทพไปเลยแหละ แต่มันไม่มีปมขยี้ คิดถึงตอนสภาพเขียนดิ ต่อให้เรื่องไหนที่เทพ มากๆ อย่างไรก็ต้องมีศัตรูที่เก่งกว่า เพื่อเป็นการสร้างปัญหา หากเอาตรรกะความเป็นจริง กำลังภายใน ฝึกวิชาอยู่แต่ในถ้ำ คุยกับจิ้งหรีด ซัก 300ตอน ฝึกพลังจนเทพ แล้วออกไปตบบอส จบเรื่อง จะเอางี้หรอ
แม้พล็อตพื้นฐานจะดาษดื่น แต่ถ้าเขียนสตอรี่ดี ผูกเรื่องได้ สำนวนได้ ดาษดื่นแค่ไหนมันก็สนุก
ผมไม่เคยเขียนคงกล่าวความมุมนี้ไม่ได้ แต่เคยเสพแนวนี้อยู่บ้าง แบบไม่จบ
สำหรับผม สภาพเก็บกดมันบรรเทิงดี คล้ายรักนะแต่ไม่แสดงออก มันลุ้นดี อยากไรส่วนใหญ่มักส่งผมไม่ถึง เพราะมันชอบเปราะแตกต้นเรื่อง ทำให้ความสนใจผมจบลงตามไปด้วย
เขาเรียกว่า ปมตัวละคร มีไว้เพิ่มความน่าสนใจ
แล้วปมไหนที่เหมาะกับแนวต่อสู้ ก็ห้ามสู้ไง ถ้าอยากเข้าใจเพิ่มเต็มลองศึกษาวิธีสร้างตัวละคร อาจทำให้เข้าใจนักเขียนมากขึ้น
คนเขียนมีปม นักอ่านก็ปม
ปมด้อยในจิตใจ
อย่างน้อยก็ไม่เฮี้ย ขนาดล้อปมคนอื่น
เจอคนมีปมละ
เครียดมากก็รับยาช่องแปดนะ
เป็นห่วงงง
เพราะหัวเราะทีหลังดังกว่า ฮ่าๆๆ
มีคำคมว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ดังนั้นต้องมีการซ่อนไพ่ใบสุดสุดท้าย เป็นไพ่ตายพลิกเกมให้ตัวเองเป็นฝ่ายชนะ เดินมาแบบใสๆซื่อๆ ได้ตายก่อนพอดี
รู้ได้ไงว่าคนเค้าคิดอย่างที่เมิงคิด งงกะเมิงจริงๆ
เค้าถามถึงความคิดนักเขียน แล้วที่นี้คือบอร์ดนักเขียน นักเขียนตอบความคิดนักเขียน น่างงตรงไหน
ต้องดูว่า ตัวละครมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ตัวเองปิดซ่อนพลัง
มันมีเหตุผลมากมายขึ้นกับคนเขียนจะให้เจ้าตัวมองว่าทำไมถึงทำตัวอ่อนแอ หรือต่อให้ไม่ทำตัวอ่อนแอก็เลือกกั๊กไม้ตายไว้ใช้เฉพาะยามจำเป็นไม่รีบนำออกมาใช้แต่เนิ่น ๆ
อย่างไรก็ตาม การโชว์เทพไม่ได้มีแต่เรื่องดีเสมอไป เพราะยิ่งคนเราเผยไพ่ในมือของตัวเองให้คนอื่นเห็นมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับเป็นการทำให้อีกฝ่ายรู้เรื่องของเรามากขึ้นเท่านั้น
ถ้าศัตรูหรือผู้ไม่หวังดีเห็นว่าคุณมีพลังแข็งแกร่ง ก็จะเกิดความอิจฉาริษยา อาจจ้องจะหาเรื่องใส่ร้ายคุณในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ โดยอ้างพลังที่คุณมีว่ามีความสามารถที่จะทำเรื่องเช่นนั้นได้โดยง่ายหากเทียบกับคนอื่น
หรือไม่ก็อาจจะเข้ามาตีสนิท และผูกมิตรด้วยอย่างไม่รังเกียจ แต่ทั้งหมดทำไปก็เพื่อว่าหากเขามีศัตรูที่ต้องจัดการ ก็จะใช้ความสนิทสนมและเชื่อใจนั้นเป็นเครื่องมือบอกให้คุณเอาพลังเทพ ๆ นั่นไปกำจัดศัตรูให้เขา โดยที่คุณอาจไม่รู้เลยว่าอาจกำลังถูกหลอกใช้ให้ฆ่าคนดี ๆ สักคนและเมื่อรู้ตัวก็อาจจะสายเกินแก้ไปแล้ว
ยังไม่นับว่าหากมีใครสักคนที่จริง ๆ มีพลังพอ ๆ กับคุณและไม่ได้เห็นคุณเป็นมิตร ตรงกันข้ามคอยจ้องจับผิดการกระทำของคุณอยู่ตลอด หรือด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ ยิ่งคุณโชว์เทพอวดเบ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งให้ข้อมูลจนอีกฝ่ายหาทางกำจัดคุณเมื่อไม่ทันรับมือได้เมื่อนั้น
ตัวละครที่มีวุฒิภาวะและความเป็นผู้ใหญ่ และมองโลกรอบด้าน จะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้พลังเกินจำเป็น เพราะเขารู้ว่าหากพลังของเขาถูกเปิดเผยเป็นที่รู้กันทั่ว จะส่งผลต่อสมดุลและความรู้สึกของคนรอบข้าง ไปจนถึงมุมมองและสามัญสำนึกของสังคม และคนเหล่านี้จะต่างจากพวกเด็ก ๆ ที่เอาแต่อยากโชว์พาวด้วยการเข้าข้างฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ตัวเองเห็นเป็นฝ่ายคุณธรรมและตบคนที่ตัวเองเห็นว่าเป็นวายร้าย เพราะคนพวกนี้จะมองโลกเป็นสีเทาว่าไม่มีฝ่ายใดที่ขาวปลอดหรือดำหมดจด แต่จะมองว่าพลังที่มีจะถูกนำไปใช้อย่างไรมากกว่า
ตัวอย่างตัวละครพวกนี้ในอนิเมหรือไลท์โนเวล เช่น เทพทัตจากเรื่องพี่น้องปริศนา โรงเรียนมหาเวท เป็นต้น
ยกเว้นพระเจ้าขอวงเราออกคำสั่งให้เราทำอย่างใดอย่างหนึ่งครับ ฮา
เราก้ต้องทำอย่างนั้นไม่มีทางหลีกเลี่ยงเป็นอย่างอื่น
..
ผมไปเจอมุกหนึ่งเหมือนกันว่าในแนวเฮอคิวลีสที่ไม่ค่อยชอบพวกเทพเท่าไร
แต่ประชาชนรับได้เพราะมองว่า
พวกเทพด้วยกันไม่ชอบกันคือเรื่องปรกติ
แต่คนอื่นๆที่สถานะต่ำกว่าเฮอคิวลีสไม่สามารถทำอย่างนั้นได้
หลักการเดียวกับ ที่จริงแล้วผมเป็นประธานบริษัท!!!
เพราะแนวพระเอกเทพเลยมันมีเยอะเกินจริงๆครับ ถ้าเก็บงำพลังอย่างมีเหตุผลที่ต้องเก็บ ก็ยังสนุกอยู่
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?