สวัสดีค่ะ... น้องๆ เคยเจอปัญหานี้หรือเปล่า สอบ GAT หรือ O-net ภาษาอังกฤษแต่ละครั้ง ได้แต่นั่งกุมขมับ หรืออยากหนีออกจากห้องสอบด้วยเหตุผล คือ เจอ passage ยาวๆ ก็จะอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะไม่เข้าใจคำศัพท์ซักตัว ปัญหาเหล่านี้นับเป็นปัญหาสำคัญของเด็กไทย และลุกลามจนถึงระดับประเทศ(เว่อร์ไป) ซึ่งคำศัพท์ยากๆ ในข้อสอบถือเป็นตัววัดความรู้ทางภาษาเป็นอย่างดี แถมยังเป็นตัวตัดกำลังคนสอบให้ตกม้าตายไปตามๆ กัน ส่วนผลของการสอบก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะมันฟ้องด้วยคะแนนที่น้องๆ ประสบพบเจอ!!!
ปัญหาเรื่องไม่รู้คำศัพท์อาจหมดไป ถ้าน้องๆ รู้จักสังเกตบริบทโดยรอบของคำศัพท์นั้นๆ เพราะข้อความที่อยู่ใกล้เคียงกันจะช่วยเสริมความหมาย หรือทำให้เดาความหมายของคำศัพท์นั้นได้จริงๆ และที่ พี่มิ้นท์ พูดถึงอยู่ก็คือ เทคนิคการเดาความหมายจากบริบท หรือ context clue นั่นเอง
2.การใช้เครื่องหมายวรรคตอน เครื่องหมายวรรคตอนนี่สำคัญมากเลยค่ะน้องๆ เพราะจะทำให้เห็นความหมายได้ชัดมาก เครื่องหมายที่พบบ่อยได้บ่อยมากๆ เช่น (dashes/ เครื่องหมายแดช) , (commas/เครื่องหมายคอมม่า) และ ( ...) (parentheses/เครื่อง หมายวงเล็บ) : (colon/ เครื่องหมายโคลอน) เป็นต้น เครื่องหมายเหล่านี้เกี่ยวข้องอย่างไร?? เกี่ยวแน่นอน เพราะเป็นเครื่องหมายที่ใช้ขยายความคำศัพท์ที่อยู่ข้างหน้านั่นเอง 3.การกล่าวซ้ำ เป็นการพูดทวนคำศัพท์ที่อยู่ข้างหน้า หรือเป็นการพูดย้ำอีกครั้งนึง ตัวช่วยที่เป็นจุดสังเกต คือ คำว่า or/ in other word/ that is เป็นต้น 4.การยกตัวอย่าง สามารถทำให้เราเข้าใจความหมายของคำศัพท์นั้นได้ เพราะสิ่งที่ยกตัวอย่างมาประกอบจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคำศัพท์นั่นเอง โดยการยกตัวอย่างจะมีคำที่ไกด์ให้น้องๆ ได้รู้ เช่น For example หรืออาจจะเป็นเพียงเครื่องหมาย , (commas) ก็ได้ 5.การเปรียบเทียบหรือการใช้ข้อความขัดแย้ง ทำให้เราเห็นความแตกต่างของประโยคที่ตามมา น้องๆ ก็จะเดาความหมายของประโยค หรือคำข้างหน้าได้ ซึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เดาได้ เช่น as/ as.....as/ similar to/ compare with/ in contrast/ in spite of/ despite เป็นต้น 6.การให้เหตุผล แม้ว่าการให้เหตุผลบางครั้งจะเป็นในส่วนของการเชื่อมโยงเนื้อหามากกว่า แต่ พี่มิ้นท์ ก็ไม่อยากให้น้องๆ มองข้าม เพราะบางครั้งการให้เหตุผลอาจช่วยให้น้องๆ เข้าใจความหมายของคำศัพท์ที่ไม่รู้มากขึ้นก็ได้ คำหลักๆ ของการให้เหตุผล เช่น because/ because of/ so เป็นต้น พูดมาอาจจะยังไม่เห็นภาพ งั้นลองมาดูตัวอย่างกันเลย ตัวอย่างที่1 ตัวอย่างแรก สมมติว่าน้องๆ ไม่รู้ความหมายคำว่า Gelatin ตัวช่วยที่เห็นง่ายที่สุด คือ คำว่า is ที่ตามมาข้างหลัง ทำให้เข้าใจรายละเอียดคร่าวๆ ได้ง่ายขึ้น แม้ว่าในที่สุดจะไม่รู้ว่า Gelatin คืออะไร แต่อย่างน้อยก็เข้าใจได้มากขึ้นว่า มันคืออะไรซักอย่างที่ทำมาจากกระดูก และผิวหนังของสัตว์ และคนทั่วไปมักจะนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำเยลลี่ หรือขนมหวาน ตัวอย่างที่2 สมมติว่าน้องๆ ไม่รู้ความหมายถึง 4 คำ ก็ไม่ต้องตกใจไป ตั้งสติแล้วลองหาตัวช่วยดู อย่างคำแรก security regulations เห็นปุ๊บงงปั๊บ ลองเลื่อนสายตาไปเจอเครื่องหมาย (,) commas แล้ว นี่แหละตัวช่วยชีวิตของเรา เพราะใจความข้างหลังที่ตามมาที่ว่า "สิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ผู้โดยสารนำขึ้นเครื่อง" คือตัวขยายคำศัพท์ข้างต้น ดังนั้น ลองย้อนกลับไปที่คำศัพท์อีก ครั้ง การห้ามผู้โดยสารนำสิ่งของขึ้นเครื่อง มันน่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยของเครื่องบิน ซึ่งก็คือ เป็น "กฎ ข้อระเบียบเรื่องความปลอดภัยนั่นเอง" (regulations หมายถึง กฎ, ข้อบังคับ,ระเบียบ) คำต่อมาที่ไม่รู้ความหมาย คือ luggage คำนี้มีตัวช่วยเห็นได้ชัดเจนเช่นกัน น้องๆ ลองย้อนไปข้างหน้านิดหน่อย ก็จะเห็นคำว่า or ซึ่งเป็นการซ้ำใจความเดิม ดังนั้น carry-on กับ laggage จึงมีความหมายเหมือนกัน คือสัมภาระหรือกระเป๋าเดินทาง ในส่วนของสองคำสุดท้าย Weapons และ Explosives อันนี้ให้น้องๆ ลองดูเครื่อง หมาย commas ที่ตามมา รวมทั้งคำว่า Including ด้วย เพราะเป็นการยกตัวอย่างที่ทำให้เราได้ เห็นและเข้าใจความหมายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดังนั้น weapons ก็หมายถึงอาวุธ เพราะรวมไปถึงมีดและปืน ส่วน explosives ก็คือสิ่งที่ระเบิดได้ เพราะนับรวมทั้งระเบิดและดอกไม้ไฟค่ะ ตัวอย่างที่3 ตัวอย่างในข้อนี้ถ้าน้องๆ ไม่รู้จักคำว่า abandon ตัวช่วยก็อยู่ข้างหลังนั่นเอง Because ในประโยคนี้ช่วยให้น้องๆ สามารถเดาความหมายของ abandon ได้ด้วย "เพราะว่าหล่อนส่งเขาไปอยู่กับญาติๆ และผู้อุปถัมภ์" ดังนั้นน้องๆ ก็สามารถเดาได้ง่ายขึ้นว่าพฤติกรรมของแม่ที่เป็นเช่นนี้เรียก ว่าอะไร ใช่แล้ว!! มันคือการทิ้ง หรือทอดทิ้งนั่นเองล่ะค่ะ เห็นมั้ยว่าการทำข้อสอบภาษาอังกฤษจริงๆ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าน้องๆ รู้จักช่างสังเกต และนำความรู้จากที่เรียนมาใช้ทั้งหมด และที่สำคัญรู้จักนำเทคนิค context clues ที่ว่านี้ไปใช้ เพียงแค่นี้ต่อให้คำศัพท์ยากแค่ไหน พี่มิ้นท์ ก็เชื่อว่าน้องๆ จะผ่านมันไป ได้ดีจ้า
|
ภาพประกอบ www.siamrath.co.th |
18 ความคิดเห็น
ปันหา นี้ เรย ย
หาทางแก้ มา 4 ปี แระ
แก้ไม่หาย ย ^^"
ดีมากๆเลยค๊าบ
อยากให้แนะนำเรื่่องการจับใจความ Reading Passage ค่ะ
เพราะว่าเรื่องนี้จะทำได้คะแนนน้อย(ส่วนใหญ่)
และก็เรื่อง error ด้วยค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
อาจารย์ที่โรงเรียนสอนอยู่
สุดยอดไปเลย !
แต่ว่ายังไงการท่องศัพท์ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนะทุกคน