วัสดีค่ะน้องๆ^^ งงกันอยู่ใช่มั้ยล่ะว่าทั้งสอบตรงและแอดมิชชั่นปีนี้สอบอะไรกันเยอะแยะ ทั้ง โอเน็ต แกท/แพท ไหนจะมี 7 วิชาสามัญอีก อะไรเป็นอะไร ต่างกันยังไงยังไม่รู้เลย มาทำความเข้าใจพร้อมๆ กันดีกว่าค่ะ จะได้หายปวดหมองกันซักที

 

ข้อสอบเป็นยังไง ?
         O-NET : ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพราะฉะนั้นลักษณะข้อสอบจึงเป็นเนื้อหาที่เรียนกันในระดับม.ปลาย เป็นความรู้พื้นฐานตามหลักสูตรค่ะ ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการทดสอบวัดผลการเรียนของโรงเรียนนั้นๆ
         GAT-PAT : จะเริ่มเป็นข้อสอบที่เน้นเรื่องวิชาชีพและความถนัดในแต่ละอาชีพมากขึ้น เช่น ความถนัดทางวิชาชีพครู ความถนัดทางวิศวกรรม เป็นต้น โดยเป็นความรู้ในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อวัดความสามารถ การคิดวิเคราะห์ต่างๆ จะได้คัดเด็กกันแบบเน้นๆ เพราะฉะนั้นข้อสอบฉบับนี้ก็จะยากขึ้นด้วย 
         7 วิชาสามัญ : เป็นเนื้อหาตามหลักสูตรที่อยู่ในบทเรียนตั้งแต่ ม.4-6 แต่จะยากกว่าข้อสอบโอเน็ตเพราะเป็นข้อสอบที่ใช้คัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย โดยเนื้อหาจะออกให้ตรงกับที่มหาวิทยาลัยมากที่สุด  เป็นปรนัย 5 ตัวเลือก

 

สอบตอนไหน ?
         O-NET : สอบช่วงเดือน กุมภาพันธ์ของทุกปี
         GAT-PAT : ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จะสอบได้เพียง 2 ครั้ง คือ ในเดือนตุลาคมและมีนาคม
         7 วิชาสามัญ : ต้นเดือนมกราคม

 

ใครเป็นคนออกข้อสอบ ?
          O-NET : อาจารย์ระดับมัธยมปลายที่มีความเชี่ยวชาญในการออกข้อสอบ (อาจจะเป็นคุณครูของน้องๆ ก็ได้ แต่เค้าปิดเป็นความลับขั้นสุดยอดว่าใครเป็นคนออก) โดยมี สทศ.เป็นหน่วยงานจัดสอบ
         GAT-PAT : อาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย
         7 วิชาสามัญ : อาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย


สอบอะไรบ้าง ?
          O-NET : มี 6 ฉบับ 8 วิชา คือ ภาษาไทย, คณิตศาสตร์, สังคมศึกษา, ภาษาอังกฤษ, วิทยาศาสตร์, สุขศึกษา พลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
         GAT-PAT : GAT แบ่งออกเป็น 2 พาร์ทใหญ่ๆ คือ พาร์ทเชื่อมโยงวัดการวิเคราะห์และทักษะการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ อีกพาร์ทนึง คือ พาร์ทภาษาอังกฤษ ส่วน PAT วัดความถนัดในสาขาต่างๆ มีอีก 7 ฉบับ คือ ความถนัดทางคณิตศาสตร์, ความถนัดทางวิทยาศาสตร์, ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์, ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์, ความถนัดทางวิชาชีพครู, ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ และความถนัดภาษาต่างประเทศอีก 6 ภาษา คือ ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น จีน อาหรับและภาษาบาลี
         7 วิชาสามัญ : มีทั้งหมด 7 วิชา คือ ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, สังคมศึกษา, คณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีวะ โดยไม่มีวิชาหมวดศิลปะ สุขศึกษา ฯลฯ ซึ่งเป็นความแตกต่างจากข้อสอบโอเน็ต

 

 

สมัครสอบยังไง ?
         O-NET : ทางโรงเรียนเป็นผู้สมัครสอบให้ แต่ในกรณีของนักเรียนเทียบเท่าจะต้องสมัครสอบเอง ประมาณเดือนพฤศจิกายน ทางเว็บไซต์ของ สทศ.
www.niets.or.th
         GAT-PAT : สมัครด้วยตัวเองทางเว็บไซต์  www.niets.or.th โดยจะเปิดรับสมัครกัน 2 รอบ รอบแรกสมัครสอบช่วงเดือน ก.ค.(ปิดรับสมัครแล้ว) และรอบสองสมัครสอบช่วงเดือนพฤศจิกายน โดย GAT จะต้องสอบทุกคน PAT สามารถเลือกสอบเฉพาะวิชาที่ใช้ได้
         7 วิชาสามัญ : สมัครด้วยตัวเอง ตลอดเดือนตุลาคม เลือกเฉพาะวิชาที่จะสอบ


มีเวลาทำข้อสอบกี่นาที ?
         O-NET : ไม่มากไม่น้อยเกินไป วิชาละ 2 ชั่วโมงถ้วนค่ะ
         GAT-PAT : จัดไปเต็มๆ วิชาละ 3 ชั่วโมง
         7 วิชาสามัญ : 1 ชั่วโมง 30 นาที


คะแนนเต็มเท่าไหร่ ?
         O-NET : วิชาละ 100 คะแนน
         GAT-PAT : วิชาละ 300 คะแนน
         7 วิชาสามัญ : วิชาละ 100 คะแนน


สอบมาแล้ว คะแนนเก็บได้กี่ปี ?
         O-NET : สอบได้ครั้งเดียวตอน ม.6 หลังจากนั้นคะแนนจะอยู่กับเราไปตลอดกาลนาน
         GAT-PAT : อยู่ได้ 2 ปี
         7 วิชาสามัญ : ใช้ได้ปีต่อปี ปีหน้าจะสอบใหม่ก็ต้องสมัครใหม่ค่ะ

 

เอาคะแนนไปทำอะไรได้บ้าง ?
         O-NET : เป็นองค์ประกอบนึงในการคัดเลือกเข้าในระบบแอดมิชชั่นกลาง รวมถึงใช้เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำในการสอบ กสพท. นอกจากนี้ยังใช้ประเมินคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนระดับมัธยมด้วย ดังนั้น โรงเรียนจะคุณภาพทางการศึกษาดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับน้องๆ ด้วยนะ
         GAT-PAT : เป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกทั้งในระบบสอบตรงและแอดมิชชั่นกลาง (เลือกคะแนนที่ดีที่สุด แต่สอบตรง ส่วนใหญ่จะใช้ GAT/PAT รอบตุลาคม)
         7 วิชาสามัญ : เป็นข้อสอบกลาง ใช้ในการคัดเลือกระบบรับตรงของมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมระบบเคลียริ่งเฮ้าส์ (บางมหาวิทยาลัยไม่ใช้คะแนนส่วนนี้ เพราะจัดสอบเอง)

 

จะสมัครสอบ ต้องจ่ายเท่าไหร่ ?
         O-NET : ฟรี! ฟรี! ฟรี!
         GAT-PAT : วิชาละ 140 บาท (ไม่รวมค่าธรรมเนียมธนาคาร)
         7 วิชาสามัญ : วิชาละ 100 บาท

 

ข้อสอบนี้ มันยากหรือง่าย ? 
         O-NET : เมื่อเทียบกับข้อสอบ 3 ชุด ง่ายที่สุด เพราะเป็นเนื้อหาระดับพื้นฐาน
         GAT-PAT : ยาก!! เพราะอาจารย์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ออก แต่อาจจะใช้เซ้นส์พอเดาทางได้
         7 วิชาสามัญ : ยาก!! เนื่องจากเป็นข้อสอบที่ใช้คัดเลือกและมีความเข้มข้นทางด้านเนื้อหา ดังนั้นจึงมีระดับความยากใกล้เคียงกับ PAT หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ (เพราะฉะนั้นอย่าชะล่าใจ คิดว่าจะชิวนะ หึหึ)

 

เลือกสนามสอบเองได้ปะ ?
         O-NET : เลือกไม่ได้ ผู้จัดสอบจัดสนามให้ ถ้าโชคดีก็จะได้อยู่ในโรงเรียนตัวเอง ถ้าโชคร้ายก็ไปโรงเรียนอื่น (ที่ไม่ไกลมาก)
         GAT-PAT : เลือกเองได้
         7 วิชาสามัญ : เลือกเองได้ (แต่เท่าที่ประกาศออกมาตอนนี้ เปิดเพียงแค่ 4 สนาม คือ กทม., เชียงใหม่, ขอนแก่นและสงขลา ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเปิดเพิ่มมั้ย)

 

         ชี้ให้เห็นกันจะจะทีละข้อแบบนี้ น้องๆ น่าจะเข้าใจข้อสอบ 3 ฉบับนี้มากขึ้น แม้ว่าโดยรวมจะมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่ก็สำคัญทั้ง 3 อย่างเลยนะ โดยเฉพาะโอเน็ตที่สอบได้เพียงครั้งเดียวไม่มีโอกาสแก้ตัวและยังต้องใช้ในระบบแอดมิชชั่นกลางด้วย ส่วน GAT/PAT ก็สำคัญเช่นกัน ใช้ยื่นได้ทั้งสอบตรงและแอดกลาง แถมมีโอกาสแก้ตัวได้ถึง 2 รอบ และใครที่คิดจะสอบตรงในมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมระบบเคลียริ่งเฮ้าส์ อย่าลืมสมัครสอบข้อสอบน้องใหม่ล่าสุดอย่าง 7 วิชาสามัญ ในเดือน ต.ค.นี้ด้วยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนนนน!! อิอิ

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

96 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เดกโง่ 17 ก.ย. 54 15:00 น. 7
งง ก่า เจ็ด 7 รายวิชาสามัญ อะ คือ อยากรู้ว่า คณะอะไรใช้ วิชาอะไร ยื่นบ้างครับ เพราะจะเข้าศิลปกรรม เลยมะรู้ว่าจะต้องสอบอะไรบ้าง งง สุดๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
opppp 19 ก.ย. 54 10:41 น. 17
ไม่เห็นด้วยเลยกับวิธีแบบนี้
เพราะค่าสมัครสอบแพง
เหยียบๆพัน ไม่ก้อเลยพันบาท
ปีละ2ครั้งด้วย รวยเลย(คนจัดสอบนะ)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด