น้องๆ ชาว Dek-Dคงเคยได้ยินเรื่องโทรศัพท์มือถือก่อมะเร็งสมองอยู่บ้าง เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาก็มีข่าวต่างๆ ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนถึงคลื่นแม่เหล็กจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ถือเป็นสารก่อมะเร็งได้ แล้วก็ยังมีบทความต่างๆ จากสื่อชื่อดังของต่างประเทศ ที่ล้วนอ้างอิงจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศเขา อย่าง USA Today, New York Times, Wall Street Journal, Reuters, CNN และอีกหลายสำนัก ออกมาเล่าข่าวเฝ้าระวังเรื่องรังสีแม่เหล็กที่ส่งผ่านจากเครื่องมือสื่อสารต่างๆ และเป็นห่วงการใช้โทรศัพท์มือถือที่นับวันยิ่งใกล้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของทุกคนในโลกไปแล้ว ยิ่งมีการพัฒนาเทคโนโลยีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีการศึกษาถึงผลกระทบของเจ้ามือถือกับสมองและร่างกายมนุษย์ต่างๆ มากขึ้น
แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแต่งานวิจัยที่สนับสนุนว่า "มือถือก่อมะเร็ง" เท่านั้นนะคะ ยังมีงานวิจัยอื่นๆ จากนักวิจัยชาวเดนมาร์กที่บอกว่า "การใช้โทรศัพท์มือถือไม่มีความสัมพันธ์กับการเกิดเนื้องอกในสมอง"และก็ยังมีนักวิชาการชาวออสเตรเลียยืนยันอีกว่า ใช้มือถือคุยโทรศัพท์ไม่ก่อให้เป็นโรคมะเร็งแน่นอน ดังนั้น ตอนนี้ก็ยังคงมีการศึกษาถึงผลกระทบเรื่องนี้อยู่โดยตลอด แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์ ได้เขียนหนังสือเรื่อง "Disconnect: The Truth About Cell Phone Radiation, What the Industry Has Done to Hide It, and How to Protect Your Family" ชื่อหนังสืออ่านแล้วรู้สึกว่าจะตีแผ่วงการอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ซ่อนความจริงเรื่องผล(เสีย?)ของการใช้โทรศัพท์มือถือไว้ และแนะนำความจริงเกี่ยวกับรังสีจากโทรศัพท์มือถือ รวมถึงวิธีป้องกันครอบครัวด้วย พี่เกียรติเองก็ไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้หรอกค่ะ ไม่น่ามีคนแปลไทยขาย และพี่เกียรติคงไม่สั่งซื้อข้ามประเทศเช่นกัน ฮ่าๆ แต่ก็พอมีคนเขียนแนะนำหนังสือเล่มนี้ และสัมภาษณ์ผู้เขียนอยู่บ้าง ซึ่งมีประเด็นน่าสนใจที่พี่เกียรติจะเล่าให้ฟังดังนี้ค่ะ
"หลายๆ ที่คาดการณ์ว่า โทรศัพท์มือถืออาจทำลายเซลล์สมองได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กๆ เรื่องรังสีจากโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงถือเป็นเหตุฉุกเฉินระดับสากล (Cell phone radiation is a national emergency) ในช่วงที่ผ่านมา ก็มีผลการศึกษาว่า รังสี/คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโทรศัพท์ทำให้ดีเอ็นเอถูกทำลาย และเพิ่มภาวะการสูญเสียความทรงจำ เสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ และมะเร็ง
แต่กรณีที่บอกว่า WHO ออกมาเตือนนี้มีข้อมูลอ้างอิงค่ะ ทางศูนย์ศึกษา IARC ที่เป็นหน่วยงานของ WHO ได้รายงานเรื่องการจัดว่าโทรศัพท์มือถือ และเครื่องส่งสัญญาณอื่นอาจเป็นสิ่งก่อมะเร็ง ("...classified mobile phone use and other radiofrequency electromagnetic fields as a possible carcinogen..."- อ้างอิงจาก cancer.gov เมื่อตุลา 54 และรายงาน IARC เมื่อพฤษภาปีที่แล้ว ) มีสำนักไทยเราเขียนข่าวนี้เช่น - มติชน,สิงหา 54
ส่วนหนังสือเรื่อง Disconnect: The Truth About Cell Phone Radiation, What the Industry Has Done to Hide It, and How to Protect Your Family ตีพิมพ์ครั้งแรกประมาณปลายปี 2010 แต่มีการพิมพ์อีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีบทความที่เกี่ยวกับการผู้เขียนเรื่องนี้ ทั้งเมื่อปี 2010 และเมื่อกลางปีที่ผ่านมา - อ้างอิง abcnews)
26 ความคิดเห็น
งานวิจัยตั้งแต่สมัยไหน ?
เพราะงานวิจัยสมัยก่อนมันมีอะไรที่ขาดตกบกพร่องศึกษาไม่ครบอยู่มาก
แล้วงานวิจัยในสมัยหลัง ๆ เค้าจะนำงานวิจัยแรกมาศึกษาเพิ่มอีกที
และที่สำคัญ งานวิจัยที่บอกว่ามือถือก่อมะเร็งมีส่วนที่น่าสังเกตดังต่อไปนี้
1 ยังไม่เห็นตัวงานเป็นชิ้นเป็นอันว่าเป็นของใคร มีแต่ปากต่อปากว่ามันมีก็เท่านั้น
(ต้องอ้างอิงจากพวกJournalโดยตรง ไม่ใช่แค่อ้างจากสื่อหรือข่าวลือว่ามันมีเหมือนFwd Mail)
2 คำเล่าอ้างว่าเป็นมะเร็ง มีตั้งแต่ที่มือถือยังออกมาไม่กี่ปี ยาวพอที่จะเกิดมะเร็งแล้วหรือไม่ ?
3 สมัยก่อนมือถือใช้คลื่นแรงมาก เช่น โฆษณา GSM 2 Watt แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว
4 ในยุคปัจจุบัน มีคลื่นอื่นที่แรงกว่ามือถือเยอะ และเปิดตลอดเวลาด้วย เช่น Wireless Wifi
ดังนั้นเรื่องมือถือก่อมะเร็งมันเก่าไปแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจคือพวกสัญญาณ Wirelesss Wifi นี่แหละ แรงกว่า แถมเปิดตลอด 24 ชม.
บางทีที่มันไม่ได้รับความสนใจ ก็เพราะมันไม่ได้เอามาจ่อหัวเหมือนมือถือ
ดังนั้น"การคิดไปเอง"ว่ามันจะก่อมะเร็งสมองเหมือนมือถือจึงไม่มี
ทั้งที่จริงบางทีสัญญาณพวกนี้อาจจะสามารถทำให้เกิดมะเร็งมากกว่ามือถือก็ได้
หรือไม่ถ้ากลับกัน Wireless wifi เกิดก่อนมือถือ ก็คงจะไม่มีข่าวลือเรื่องมือถือก่อมะเร็งด้วย
เพราะเราจะตระหนักว่าคลื่นเป็นเรื่องปรกติ การเอามือถือมาจ่อหัวจึงไม่น่ากลัว
เพื่อนหนูโทรตลอดเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังโทรอยู่เลย
หนูไม่มีมือถือ ถึงมีใช้ก็ไม่เยอะ เลยไม่มี
ใช้เเต่โทรศัพท์ตู้ หนักก็หนัก หรูก็หรู เฮ้อ!!~~~
เรื่องข้อมูลการศึกษาเหล่านี้เก่าหรือไม่ บางส่วนยอมรับว่าผู้เขียนไม่ทราบชัดเจนค่ะ (กรณีชาวเดนมาร์กและออสเตรเลียที่บอกว่ามือถือไม่ก่อมะเร็งแน่นอน) แต่เขียนจากการเก็บข้อมูลจากบทความและข่าวที่สืบค้นได้คะ (เช่นบทความ)
--
--
--
แม้มือถืออาจไม่ก่อมะเร็ง แต่การใช้อย่างไม่เหมาะสม เช่น ใช้มากเกินไป ก็อาจก่อปัญหาอื่นได้เช่นกันค่ะ ขอบคุณคุณซ่อนนามมากๆ สำหรับการแลกเปลี่ยน และฝากถึงน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่าาาา ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนกัน หวังว่าจะได้รับประโยชน์เนอะ
เขาเอามาติดกันแล้วเอาไข่(ดิบ)มาคั่นกลาง
>> เเบบนี้น่ะค่ะ (โทรศัพท์)[ไข่](โทรศัพท์)
1 ชม.ผ่านไป ไข่สุก...
ความจริงกรณีนี้นับเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ยังไม่มีผลการวิจัยที่แน่ชัดเหมือนกันนะท่าน
เหมือนกับกรณีไข่ไก่ที่เขาว่ากินแล้วไม่ดีมีคอเรสเตอรอลสูง
กลับกันก็มีงานวิจัยอีกชิ้นบอกว่าไม่เป็นอะไรเพราะเป็นคอเรสเตอรอลที่ดี (?)
หรือแม้กระทั่ง ห้ามใช้มือถือในโรงพยาบาลเพราะจะรบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์
นี่ก็เป็นประเด็นที่ยังไม่ชัดเจนเช่นกัน เพราะบางงานวิจัยก็บอกว่าไม่เกิดผล
ก็คงต้องเป็นเรื่องที่วิจัยกันต่อไป
แต่ว่า ถ้าจะดูกันให้ดี มันก็ถือว่าเป็นคลื่นชนิดหนึ่งไม่ใช่หรือ ?
ที่ไม่เคยพูดถึงว่ามีโอกาสก่อมะเร็งเลย ก็ได้แก่คลื่นวิทยุโทรทัศน์
ทว่าที่มีโอกาสก็ได้แก่คลื่นจากกัมมันตภาพรังสี หรือรังสีแกรมม่า เบต้า อะไรต่าง ๆ
หรือแม้กระทั่งจากแสงแดดหรือรังสียูวีเองก็เช่นกัน
ซึ่งตรงจุดนี้มีข้อน่าสังเกตที่ว่า คลื่นหรือรังสีที่ก่อมะเร็งได้จะเป็นคลื่นที่มีกำลังสูง
ทว่าพวกมือถือ wireless wifi ไม่น่าจะแรงขนาดนั้น
และถ้าว่ากันตามตรงคลื่นที่มีกำลังสูงที่รู้จักกันดีจริง ๆ คือคลื่นวิทยุและโทรทัศน์นั่นแหละ
โดยเฉพาะบริเวณใกล้เสาส่ง ที่ต้องมีกำลังสูงเพื่อที่จะส่งให้ไกล ๆ
ตรงนี้ถ้าดูว่าคนที่อยู่ในบริเวณนั้นมีโอกาสเกิดมะเร็งสูงหรือไม่ ก็น่าจะสนับสนุนเรื่องนี้ได้เช่นกัน
ร้อนหูจะเป็นรัยไหม
แหะๆ พวกประเภทเปิดเครื่องแล้ววางไว้ห่างตัวทั้งวันคงไม่เป็นหรอกเนอะ =w=
ไม่คุยก็ต้องคุยอ้ะจ้ะ !
เพราะว่าต้องประชุมทำการบ้านตอนเย็นทุกวัน -.,-
ขอบคุณนะ สำหรับข้อมูล
เป็นข้อมูลที่ยังไงก็คงจะได้รับการคิดต่อยอดและศึกษาพัฒนาไป
การที่อยู่ๆ ก็คิดว่ามันไม่ได้เกิดผลจริง หรือมันไม่เกิดหรอก อาจจะทำให้พลาดท่าภายหลังได้ เรื่องแบบนี้ศึกษากันแค่ประเดี๋ยวที่ไหน
คือว่า "พี่เกียรติ" ก็ได้ลงบทความที่ถูกต้องชัดเจนแล้วนะครับ
เพราะตามบทความ
" มือถือ ก่อ ให้เกิดมะเร็ง สมอง เมื่อใช้บ่อยๆ!! โดยจะส่งผลกระทบในระยะยาว!! "
ถ้าจะให้พิจารณานะครับ
คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ กับ รังสี จาก โทรศัพท์ ไม่ใช่ประเด็นหลักเลยครับ
แต่ประเด็นหลักคือ
สนามแม่เหล็กในโทรศัพท์มือถือเนี้ยแหละครับ ทีส่งผลให้ก่อโรคมะเร็ง
ยิ่งใช้มือถือบ่อยๆ เป็นระยะเวลานาน ร่างกายก็จะได้รับสนามแม่เหล็กอยู่บ่อยๆ
ส่งผลให้นานเข้า เซลล์ในร่างกายทำงานผิดปกติ จากการได้รับสนามแม่เหล็ก
ส่งผลให้ร่างกายเกิดการสร้างเซลล์ที่ผิดปกติ นั้นก็คือ " เซลล์มะเร็ง " นั่นเอง
ผลกระทบในเรื่องนี้จะ แสดงผล หรือ ออกอาการในระยะยาว นะคับ
ยิ่งในปัจจุบัน ที่ บริษัทโทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ
ได้ทำการเน้น material ที่ช่วยส่งเสริมยอดการขาย จำพวก รูปทรง สีสัน ความทนทาน
แต่ประเด็นเรื่อง สนามแม่เหล็กในโทรศัพท์มือถือ ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขต่อไป
ทำให้ บทความนี้ ถูกตีแผ่ออกมา เพื่อให้ ประชาชนทุกคน รู้และป้องกันครับ
ขอทิ้งท้ายนะครับ
ในความจริง รอบตัวเราก็มีแต่ สนามแม่เหล็กนะครับ
แอร์ พัดลม คอมพิวเตอร์ สายไฟตามเสา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หม้อแปลง ตามชุมชนต่างๆเนี้ยแหละ
มีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กสูงมากกกกก
จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะหลีกเหลี่ยงปัญหานี้
และจากการที่ผมสังเกต สถิติของบุคลลที่มีอายุยืน
พบว่า ผู้ที่มีอายุยืนยาว นั้น มักใช้ชีวิตประจำวัน อยู่ตามชนบท ที่เทคโนโลยีต่างๆเข้าไม่ถุึง
ผมว่า เราเลิกสนใจพวกนี้
แล้วหันมาสนใจ สิ่งที่เราสามารถ ป้องกันได้
อย่างเช่น การพักผ่อน ความเครียด การทานอาหาร มลพิษ กันดีกว่านะครับ
บางปัญหา อย่างพวกคลื่น ต่างๆเนี้ย
เอาจริงๆ รอบตัวเรา มีอยู่เปน ร้อยๆพันๆ คลื่น ที่ผ่านร่างกายเราเลยครับ
รับมือ ยากมากกกกก