เชื่อหรือไม่เชื่อ?
"มือถือ" ก่อ "มะเร็งสมอง" ได้!

 


 
 
  
       น้องๆ ชาว Dek-D คงเคยได้ยินเรื่องโทรศัพท์มือถือก่อมะเร็งสมองอยู่บ้าง เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาก็มีข่าวต่างๆ ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนถึงคลื่นแม่เหล็กจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ถือเป็นสารก่อมะเร็งได้ แล้วก็ยังมีบทความต่างๆ จากสื่อชื่อดังของต่างประเทศ ที่ล้วนอ้างอิงจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศเขา อย่าง USA Today, New York Times, Wall Street Journal, Reuters, CNN และอีกหลายสำนัก  ออกมาเล่าข่าวเฝ้าระวังเรื่องรังสีแม่เหล็กที่ส่งผ่านจากเครื่องมือสื่อสารต่างๆ และเป็นห่วงการใช้โทรศัพท์มือถือที่นับวันยิ่งใกล้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของทุกคนในโลกไปแล้ว ยิ่งมีการพัฒนาเทคโนโลยีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีการศึกษาถึงผลกระทบของเจ้ามือถือกับสมองและร่างกายมนุษย์ต่างๆ มากขึ้น



           แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแต่งานวิจัยที่สนับสนุนว่า "มือถือก่อมะเร็ง" เท่านั้นนะคะ ยังมีงานวิจัยอื่นๆ จากนักวิจัยชาวเดนมาร์กที่บอกว่า "การใช้โทรศัพท์มือถือไม่มีความสัมพันธ์กับการเกิดเนื้องอกในสมอง" และก็ยังมีนักวิชาการชาวออสเตรเลียยืนยันอีกว่า ใช้มือถือคุยโทรศัพท์ไม่ก่อให้เป็นโรคมะเร็งแน่นอน ดังนั้น ตอนนี้ก็ยังคงมีการศึกษาถึงผลกระทบเรื่องนี้อยู่โดยตลอด แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์ ได้เขียนหนังสือเรื่อง  "Disconnect: The Truth About Cell Phone Radiation, What the Industry Has Done to Hide It, and How to Protect Your Family" ชื่อหนังสืออ่านแล้วรู้สึกว่าจะตีแผ่วงการอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ซ่อนความจริงเรื่องผล(เสีย?)ของการใช้โทรศัพท์มือถือไว้ และแนะนำความจริงเกี่ยวกับรังสีจากโทรศัพท์มือถือ รวมถึงวิธีป้องกันครอบครัวด้วย พี่เกียรติเองก็ไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้หรอกค่ะ ไม่น่ามีคนแปลไทยขาย และพี่เกียรติคงไม่สั่งซื้อข้ามประเทศเช่นกัน ฮ่าๆ แต่ก็พอมีคนเขียนแนะนำหนังสือเล่มนี้ และสัมภาษณ์ผู้เขียนอยู่บ้าง ซึ่งมีประเด็นน่าสนใจที่พี่เกียรติจะเล่าให้ฟังดังนี้ค่ะ


 
    "หลายๆ ที่คาดการณ์ว่า โทรศัพท์มือถืออาจทำลายเซลล์สมองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กๆ เรื่องรังสีจากโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงถือเป็นเหตุฉุกเฉินระดับสากล (Cell phone radiation is a national emergency) ในช่วงที่ผ่านมา ก็มีผลการศึกษาว่า รังสี/คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโทรศัพท์ทำให้ดีเอ็นเอถูกทำลาย และเพิ่มภาวะการสูญเสียความทรงจำ เสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ และมะเร็ง 

ผลระยะยาวของรังสีเครื่องมือต่างๆ มีความสำคัญมาก แม้โทรศัพท์จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทันที แต่หากเปรียบเทียบกับผู้ได้รับกัมมันตภาพรังสีจากระเบิดใหญ่ที่ฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น คนกลุ่มนี้ในช่วงสิบปี หรือยี่สิบปีต่อมาก็ไม่ได้มีอัตราคนเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น แต่ผลกลับมีผู้เป็นมะเร็งมากขึ้นตามนัยทางสถิติในอีกช่วง 40 ปีต่อมาจากเหตุการณ์นั้น อันเป็นการสะสมของผลกระทบจากรังสีทั้งสิ้น และก็เป็นเรื่องเดียวกับผู้ที่สูบบุหรี่หรืออยู่ข้างๆ คนสูบบุหรี่มาตลอดช่วง 10 แรกก็ไม่มีผลทางสุขภาพอะไรใหญ่โตอะไร แต่พอ 20 ปี 30 - 40 ปี ก็กลายเป็นปัญหาสุขภาพใหญ่ทีเดียว ดังนั้น สถิติต่างๆ นี้จึงมีความน่าสนใจในการนำมาเปรียบเทียบมาก เมื่อมีการสงสัยกันว่า แล้วผลของการใช้โทรศัพท์มือถือมาตลอด 10 ปีจะมีความเสี่ยงมะเร็งสมองอย่างไร ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีการศึกษากันอยู่"


     พี่เกียรติว่าน่าสนใจทีเดียว น้องๆ ชาว Dek-D หรือตัวพี่เอง ก็ไม่ได้มีอายุมากพอที่จะใช้โทรศัพท์มานานได้ถึง 10 ปี แต่ผลกระทบระยะยาวที่จะทำให้เราเสียสุขภาพแบบนี้ก็น่าคิด ยาพิษแบบไม่ออกผลทันที แต่ค่อยๆ สะสมในร่างกาย จนเมื่อเกิดอาการก็เกินเยียวยารักษาแบบนี้มีถมไป นักวิจัยกลุ่มที่บอกว่าโทรศัพท์ไม่มีผลต่อมะเร็งสมอง เขาใช้เหตุผลว่า เพราะรังสีไม่สามารถผ่านกระโหลกเราไปถึงสมองได้ แต่เมื่อพี่เกียรติคิดอีกทีถ้า ศีรษะของเด็กๆ ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ กระโหลกของเด็กก็ไม่หนาเท่าผู้ใหญ่ ดังนั้น ใครที่ใช้โทรศัพท์มือถือแต่เด็กก็มีความเสี่ยงที่รังสีแม่เหล็กจะถึงเนื้อสมอง และเข้าไปทำลายเซลล์ต่างๆ ได้ล่ะสินะ


       
   
Devra Davis นักเขียนหนังสือดังกล่าวแนะนำว่า "เพื่อหลีกเลี่ยงรังสีไม่พึงประสงค์จากโทรศัพท์มือถือเหล่านี้ ให้ใช้มือถือแต่จำเป็น และใช้อุปกรณ์เสริมเช่น บลูทูธ หูฟัง แทนการแนบตัวโทรศัพท์กับหูและศีรษะของเรา ปิดโทรศัพท์เมื่อเข้านอน และอย่าไว้ใกล้ศรีษะเวลานอนด้วย" 


         เอาล่ะสิ ผลวิจัยจากนักวิชาการก็มีทั้งผลบวก ผลลบ ออกมาแก้ลำกันไป มีเหตุผลน่าเชื่อถือกันไปทุกฝ่าย ที่นี้เลยกลายเป็นปัญหาของผู้บริโภคเสียเอง ที่ต้องตัดสินใจแล้วว่า "ตกลงเจ้ามือถือที่ว่านี่ดีหรือร้ายต่อสมองเรากันแน่" แล้วผู้ใช้อย่างเราๆ อย่างน้องๆ อย่างพี่เกียรติก็ไม่ใช้นักวิชาการรังสีวิทยาหรือเชี่ยวชาญโรคมะเร็งแต่อย่างไร ใครจะไปฟันธงฉึบฉับได้ ดังนั้น ตัวเราเองนี่แหละ ทำอะไรได้ก็ต้องทำไป ป้องกันอะไรได้ก็ควรป้องกันไว้ก่อน เรื่องโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้เข้าใครออกใคร ไม่ต้องรอผลวิจัย 10 ปี แล้วค่อยตัดสินใจป้องกันก็ได้ใช่ไหม?



แล้วน้องๆ ล่ะ ตกลงจะเชื่อเรื่องนี้อย่างไรดี?


 



แหล่งอ้างอิง,ภาพประกอบ:
   http://ezinearticles.com/?Cell-Phones-and-Brain-Cancer---The-Truth-be-Told&id=6318719
   http://abcnews.go.com/Technology/scared-cell-phone/story?id=11884481#.Tx5Sx6U9V0t
   http://www.cancer.gov/cancertopics/factsheet/Risk/cellphones

   ourdailygreenlife.blogspot.com
   environmentalhealthtrust.org

พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

26 ความคิดเห็น

ซ่อนนาม Member 26 ม.ค. 55 14:35 น. 1
สิ่งที่ต้องดูคือ...

งานวิจัยตั้งแต่สมัยไหน ?


เพราะงานวิจัยสมัยก่อนมันมีอะไรที่ขาดตกบกพร่องศึกษาไม่ครบอยู่มาก
แล้วงานวิจัยในสมัยหลัง ๆ เค้าจะนำงานวิจัยแรกมาศึกษาเพิ่มอีกที

และที่สำคัญ งานวิจัยที่บอกว่ามือถือก่อมะเร็งมีส่วนที่น่าสังเกตดังต่อไปนี้
1 ยังไม่เห็นตัวงานเป็นชิ้นเป็นอันว่าเป็นของใคร มีแต่ปากต่อปากว่ามันมีก็เท่านั้น
(ต้องอ้างอิงจากพวกJournalโดยตรง ไม่ใช่แค่อ้างจากสื่อหรือข่าวลือว่ามันมีเหมือนFwd Mail)
2 คำเล่าอ้างว่าเป็นมะเร็ง มีตั้งแต่ที่มือถือยังออกมาไม่กี่ปี ยาวพอที่จะเกิดมะเร็งแล้วหรือไม่ ?
3 สมัยก่อนมือถือใช้คลื่นแรงมาก เช่น โฆษณา GSM 2 Watt แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว
4 ในยุคปัจจุบัน มีคลื่นอื่นที่แรงกว่ามือถือเยอะ และเปิดตลอดเวลาด้วย เช่น Wireless Wifi

ดังนั้นเรื่องมือถือก่อมะเร็งมันเก่าไปแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจคือพวกสัญญาณ Wirelesss Wifi นี่แหละ แรงกว่า แถมเปิดตลอด 24 ชม.
บางทีที่มันไม่ได้รับความสนใจ ก็เพราะมันไม่ได้เอามาจ่อหัวเหมือนมือถือ
ดังนั้น"การคิดไปเอง"ว่ามันจะก่อมะเร็งสมองเหมือนมือถือจึงไม่มี
ทั้งที่จริงบางทีสัญญาณพวกนี้อาจจะสามารถทำให้เกิดมะเร็งมากกว่ามือถือก็ได้
หรือไม่ถ้ากลับกัน Wireless wifi เกิดก่อนมือถือ ก็คงจะไม่มีข่าวลือเรื่องมือถือก่อมะเร็งด้วย
เพราะเราจะตระหนักว่าคลื่นเป็นเรื่องปรกติ การเอามือถือมาจ่อหัวจึงไม่น่ากลัว

0
กำลังโหลด
YaM&MaY Member 26 ม.ค. 55 15:31 น. 2

เพื่อนหนูโทรตลอดเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังโทรอยู่เลย

หนูไม่มีมือถือ ถึงมีใช้ก็ไม่เยอะ เลยไม่มี

ใช้เเต่โทรศัพท์ตู้ หนักก็หนัก หรูก็หรู เฮ้อ!!~~~

0
กำลังโหลด
Karine!! et ~KiaT_T~ Community 26 ม.ค. 55 16:08 น. 3
ขอบคุณสำหรับข้อมูลจากคุณซ่อนนามค่ะ  เรื่องสัญญาณไร้สาย wi-fi น่าสนใจมาก จริงๆ ตอนเห็นข้อมูลเรื่องคลื่นแม่เหล็กมือถือนี้ เขาก็ว่าเรื่อง wireless นี้นะคะ แต่ประเด็นมุ่งเน้นเรื่องมือถือมากกว่า เลยคิดว่านำเสนอเรื่องรังสีคลื่นแม่เหล็กจากมือถือก่อนดีกว่าค่ะ ครั้งหน้าค่อยนำเสนอเรื่อง wireless ต่อไป ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
---
เรื่องข้อมูลการศึกษาเหล่านี้เก่าหรือไม่ บางส่วนยอมรับว่าผู้เขียนไม่ทราบชัดเจนค่ะ  (กรณีชาวเดนมาร์กและออสเตรเลียที่บอกว่ามือถือไม่ก่อมะเร็งแน่นอน) แต่เขียนจากการเก็บข้อมูลจากบทความและข่าวที่สืบค้นได้คะ (เช่นบทความ)

--
แต่กรณีที่บอกว่า WHO ออกมาเตือนนี้มีข้อมูลอ้างอิงค่ะ ทางศูนย์ศึกษา IARC ที่เป็นหน่วยงานของ WHO ได้รายงานเรื่องการจัดว่าโทรศัพท์มือถือ และเครื่องส่งสัญญาณอื่นอาจเป็นสิ่งก่อมะเร็ง ("...classified mobile phone use and other radiofrequency electromagnetic fields as a possible carcinogen..."- อ้างอิงจาก cancer.gov เมื่อตุลา 54 และรายงาน IARC เมื่อพฤษภาปีที่แล้ว ) มีสำนักไทยเราเขียนข่าวนี้เช่น - มติชน,สิงหา 54
ส่วนหนังสือเรื่อง Disconnect: The Truth About Cell Phone Radiation, What the Industry Has Done to Hide It, and How to Protect Your Family ตีพิมพ์ครั้งแรกประมาณปลายปี 2010 แต่มีการพิมพ์อีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีบทความที่เกี่ยวกับการผู้เขียนเรื่องนี้ ทั้งเมื่อปี 2010 และเมื่อกลางปีที่ผ่านมา - อ้างอิง abcnews

--
ในบทความด้านบนอาจไม่ได้เขียนอ้างอิงปีชัดเจน ในครั้งหน้าจะปรับปรุงให้ชัดเจนหรือใส่อ้างอิงที่แหล่งข้อมูลด้านล่างค่ะ โดยส่วนตัวแล้ว บทความนี้เองเขียนเพื่อให้น้องๆ ชาว Dek-D ทราบถึงข่าวที่น่าทราบค่ะ ข่าวหรือข้อมูลที่อ้างอิงถึงก็อาจไม่ได้ล่าสุดที่สุด และแม้ว่าจะไม่มีข้อมูลชัดเจนถึงความสัมพันธ์ในการใช้มือถือ(มากๆ)กับการเกิดมะเร็งสมอง (จริงๆมีผลการศึกษาเบื้องต้นแล้ว -) แต่ก็เน้นเพื่อระมัดระวังป้องกันมากกว่าค่ะ  ก็ไม่ได้เก่าเกินไปที่จะเล่าสู่กันฟังค่ะ 

--
แม้มือถืออาจไม่ก่อมะเร็ง แต่การใช้อย่างไม่เหมาะสม เช่น ใช้มากเกินไป ก็อาจก่อปัญหาอื่นได้เช่นกันค่ะ  ขอบคุณคุณซ่อนนามมากๆ สำหรับการแลกเปลี่ยน และฝากถึงน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่าาาา     ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนกัน หวังว่าจะได้รับประโยชน์เนอะ
 
0
กำลังโหลด
ฝาแฝดไร้ร่าง Member 26 ม.ค. 55 16:13 น. 4
เราเคยดู ผลการโทรของมือถือ 2 เครื่อง
เขาเอามาติดกันแล้วเอาไข่(ดิบ)มาคั่นกลาง
 >> เเบบนี้น่ะค่ะ (โทรศัพท์)[ไข่](โทรศัพท์)
1 ชม.ผ่านไป ไข่สุก...
 
0
กำลังโหลด
ซ่อนนาม Member 26 ม.ค. 55 20:54 น. 5
#3
ความจริงกรณีนี้นับเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ยังไม่มีผลการวิจัยที่แน่ชัดเหมือนกันนะท่าน
เหมือนกับกรณีไข่ไก่ที่เขาว่ากินแล้วไม่ดีมีคอเรสเตอรอลสูง
กลับกันก็มีงานวิจัยอีกชิ้นบอกว่าไม่เป็นอะไรเพราะเป็นคอเรสเตอรอลที่ดี (?)
หรือแม้กระทั่ง ห้ามใช้มือถือในโรงพยาบาลเพราะจะรบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์
นี่ก็เป็นประเด็นที่ยังไม่ชัดเจนเช่นกัน เพราะบางงานวิจัยก็บอกว่าไม่เกิดผล

ก็คงต้องเป็นเรื่องที่วิจัยกันต่อไป

แต่ว่า ถ้าจะดูกันให้ดี มันก็ถือว่าเป็นคลื่นชนิดหนึ่งไม่ใช่หรือ ?
ที่ไม่เคยพูดถึงว่ามีโอกาสก่อมะเร็งเลย ก็ได้แก่คลื่นวิทยุโทรทัศน์
ทว่าที่มีโอกาสก็ได้แก่คลื่นจากกัมมันตภาพรังสี หรือรังสีแกรมม่า เบต้า อะไรต่าง ๆ
หรือแม้กระทั่งจากแสงแดดหรือรังสียูวีเองก็เช่นกัน

ซึ่งตรงจุดนี้มีข้อน่าสังเกตที่ว่า คลื่นหรือรังสีที่ก่อมะเร็งได้จะเป็นคลื่นที่มีกำลังสูง
ทว่าพวกมือถือ wireless wifi ไม่น่าจะแรงขนาดนั้น
และถ้าว่ากันตามตรงคลื่นที่มีกำลังสูงที่รู้จักกันดีจริง ๆ คือคลื่นวิทยุและโทรทัศน์นั่นแหละ
โดยเฉพาะบริเวณใกล้เสาส่ง ที่ต้องมีกำลังสูงเพื่อที่จะส่งให้ไกล ๆ
ตรงนี้ถ้าดูว่าคนที่อยู่ในบริเวณนั้นมีโอกาสเกิดมะเร็งสูงหรือไม่ ก็น่าจะสนับสนุนเรื่องนี้ได้เช่นกัน

0
กำลังโหลด
มาริน่า 27 ม.ค. 55 08:43 น. 6
เชื่อ ครูทร่โรงเรียนเล่าๆ ขอบคุณ เรากลัวมาพ เดี๋ยวนี้ ใช้หนักยิ่งกว่าเดิม ก็กลัวอะนถ แต่ก็อยากคุยกับเพื่อน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
หมูหัน ข้าวเหนียวปิ้ง Member 2 ก.พ. 55 20:20 น. 17

ขอบคุณนะ สำหรับข้อมูล

เป็นข้อมูลที่ยังไงก็คงจะได้รับการคิดต่อยอดและศึกษาพัฒนาไป

การที่อยู่ๆ ก็คิดว่ามันไม่ได้เกิดผลจริง หรือมันไม่เกิดหรอก อาจจะทำให้พลาดท่าภายหลังได้ เรื่องแบบนี้ศึกษากันแค่ประเดี๋ยวที่ไหน

0
กำลังโหลด
ซ๋อนName 2 ก.พ. 55 22:33 น. 18
เอ่อ
คือว่า "พี่เกียรติ" ก็ได้ลงบทความที่ถูกต้องชัดเจนแล้วนะครับ
เพราะตามบทความ
" มือถือ ก่อ ให้เกิดมะเร็ง สมอง เมื่อใช้บ่อยๆ!! โดยจะส่งผลกระทบในระยะยาว!! "

ถ้าจะให้พิจารณานะครับ
คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ กับ รังสี จาก โทรศัพท์ ไม่ใช่ประเด็นหลักเลยครับ
แต่ประเด็นหลักคือ
สนามแม่เหล็กในโทรศัพท์มือถือเนี้ยแหละครับ ทีส่งผลให้ก่อโรคมะเร็ง

ยิ่งใช้มือถือบ่อยๆ เป็นระยะเวลานาน ร่างกายก็จะได้รับสนามแม่เหล็กอยู่บ่อยๆ
ส่งผลให้นานเข้า เซลล์ในร่างกายทำงานผิดปกติ จากการได้รับสนามแม่เหล็ก
ส่งผลให้ร่างกายเกิดการสร้างเซลล์ที่ผิดปกติ นั้นก็คือ " เซลล์มะเร็ง " นั่นเอง
ผลกระทบในเรื่องนี้จะ แสดงผล หรือ ออกอาการในระยะยาว นะคับ

ยิ่งในปัจจุบัน ที่ บริษัทโทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ
ได้ทำการเน้น material ที่ช่วยส่งเสริมยอดการขาย จำพวก รูปทรง สีสัน ความทนทาน
แต่ประเด็นเรื่อง สนามแม่เหล็กในโทรศัพท์มือถือ ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขต่อไป
ทำให้ บทความนี้ ถูกตีแผ่ออกมา เพื่อให้ ประชาชนทุกคน รู้และป้องกันครับ

ขอทิ้งท้ายนะครับ
ในความจริง รอบตัวเราก็มีแต่ สนามแม่เหล็กนะครับ
แอร์ พัดลม คอมพิวเตอร์ สายไฟตามเสา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หม้อแปลง ตามชุมชนต่างๆเนี้ยแหละ
มีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กสูงมากกกกก
จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะหลีกเหลี่ยงปัญหานี้

และจากการที่ผมสังเกต สถิติของบุคลลที่มีอายุยืน
พบว่า ผู้ที่มีอายุยืนยาว นั้น มักใช้ชีวิตประจำวัน อยู่ตามชนบท ที่เทคโนโลยีต่างๆเข้าไม่ถุึง

ผมว่า เราเลิกสนใจพวกนี้
แล้วหันมาสนใจ สิ่งที่เราสามารถ ป้องกันได้
อย่างเช่น การพักผ่อน ความเครียด การทานอาหาร มลพิษ กันดีกว่านะครับ
บางปัญหา อย่างพวกคลื่น ต่างๆเนี้ย
เอาจริงๆ รอบตัวเรา มีอยู่เปน ร้อยๆพันๆ คลื่น ที่ผ่านร่างกายเราเลยครับ
รับมือ ยากมากกกกก
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture