เตือนภัย : กินยาพารามากเกินไประวังตับวาย Dek-D Team - ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D ถ้าหากจะพูดถึงยาสามัญประจำบ้าน พาราเซตามอล ถือว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านที่เรารู้จักกันเป็นดี เรียกว่าแทบจะทุกบ้านต้องมีติดบ้านไว้ เพราะรักษาอาการเจ็บป่วย ปวดหัวตัวร้อนได้กับทุกเพศทุกวัย แถมยังเป็นยาที่สามารถหาซื้อได้ง่าย แต่น้องๆ Dek-D ทราบรึเปล่าคะว่า การใช้ยาพาราเซตามอลอย่างพร่ำเพรื่อและติดต่อกันนานเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาภาวะเป็นพิษต่อตับได้นะคะ พี่เหมี่ยวเคยอ่านพบว่านะคะว่าในสหรัฐอเมริกาสาเหตุของอาการตับวายนั้นอันดับหนึ่งคือมาจากการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด รองลงมาก็มาจากสาเหตุของการดื่มแอกอฮอล์ หรือไวรัสตับอักเสบ ในแต่ละปี สหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยที่ได้รับรายงาน ความเป็นพิษจากยาพาราเซตามอลประมาณ 100,000 ราย ถูกนำส่งห้องฉุกเฉิน 56,000 ราย ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 26,000 ราย การใช้พาราเซตามอลเป็นประจำจะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นมะเร็งไตเพิ่มขึ้นเท่าตัว ซึ่งโรคนี้คร่าชีวิตคนอเมริกัน 12,000 ราย ต่อปี อุบัติการณ์ในการเกิดมะเร็งไตในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นถึง 126% นับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา การก้าวกระโดดของการเกิดโรคนี้อาจจะเกี่ยวโยงกับการใช้ยาที่ผสมพาราเซตามอลเพิ่มขึ้น เนื่องจากอนุมูลอิสระจาก toxic metabolite ของพราราเซตามอลกระจายไปทั่วร่างกาย เพราะฉะนั้นก็สามาารถทำให้เพิ่มความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับความแก่ชราอย่างอื่นได้อีก นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองในสัตว์พบว่าพาราเซตามอลทำให้เกิดต้อกระจกในสัตว์ทดลองได้ สำหรับภาวะพิษจากพาราเซตามอลเกิดขึ้นได้จากเหตุโดยตั้งใจ คือการรับประทานยาเกินขนาดเพื่ออัตวินิบาตกรรม และโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเกิดได้จากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้ 1. รับประทานยาชนิดอื่นที่มีส่วนผสมของราราเซตามอลโาดยไม่ทราบ แล้วรับประทานพาราเซตามอลเข้าไปอีก เนื่องจากปัจจุบันยาหลายชนิดมีส่วนผสมของพาราเซตามอล เช่น ยาบรรเทาหวัดลดไข้ ยาบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ยาคลายกล้ามเนื้อหลายชนิด 2. ปัจจัยเฉพาะบุคคลที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตับได้ง่าย เช่นในผู้ที่ดื่มสุรา ผู้ป่วยโรคตับภาวะขาดสารอาหารซึ่งส่งผลให้ระดับกลูต้าไธโอนลดลง ในกลุ่มนี้ก่อให้เกิดพิษจากพาราเซตามอลได้ง่าย แม้ว่าจะรับประทานในขนาดปกติก็ตาม 3. การใช้ยาร่วมกัน โดยเฉพาะยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นเอนไซม์ในระบบขับสารพิษชื่อ CYP450 2E1 ในตับเช่นยา phenytoin, carbamazepine, rifampin เป็นต้น ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้พาราเซตามอล ในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับเรื้อรัง พิษสุรา ภาวะขาดสารอาหาร และในผู้ที่กำลังรับประทานยาที่กระตุ้นเหนี่ยวนำเอนไซม์ cytochrome P450 2E1 ...ห้ามทานพาราเซตามอลแล้วดื่มสุรา หากกำลังใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาบรรเทาหวัด ให้อ่านฉลากให้ดีว่ามีส่วนผสมของพาราเซตามอลหรือไม่ และไม่รับประทานซ้ำซ้อนข้าไปอีก และที่สำคัญไม่ควรใช้ยานี้เกินวันละ 2,600 มิลลิกรัม (ประมาณ 5 เม็ด ในขนาด 500 mg , จำนวน 8 เม็ดในขนาด 325 มิลลิกรัม) ขนาดรับประทานคือ 10 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม สูงสุดไม่เกินครั้งละ 650 มิลลิกรัม ส่วนการใช้ยาพาราเซตามอลกับเด็กเล็กๆ นั้นให้ดูฉลาก และคำนวณความต้องการให้ถูกต้องก่อนเสมอ เพราะยาน้ำนี้ในประเทศไทยมีหลายขนาด ปริมาณมิลลิกรัมต่อหนึ่งช้อนชาแตกต่างกันไป อีกข้อห้ามที่หลายคนยังไม่ทราบก็คือ ไม่ควรใช้ยาพาราเซตามอลติดต่อกันเกิน 3 วัน เราสามารถใช้ยาทางเลือกแทนการใช้ยาพาราเซตามอลได้ เช่น ยาเขียวแก้ไข้ ยาจันทลีลา ยาฟ้าทะลายโจร ยาขมชนิดต่างๆ ล้วนมีฤทธิ์ลดไข้ได้เช่นกัน ถือว่าเป็นภัยแฝงที่เราเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกันนะคะ รู้แบบนี้แล้วจะกินยาในครั้งต่อไปเราต้องจะต้องระวังกันให้มากขึ้นแล้วล่ะค่ะ เพื่อความปลอดภัยในระยะยาวยังไงล่ะ ข้อมูลอ้างอิง : Health Magazine #ยาพาราเซตามอล #อันตราย #สุขภาพ 22/09/53 17:25 น. 32,762 views Facebook Twitter Line Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D
Tsukiyo Member 22 ก.ย. 53 18:15 น. 1 รู้ว่าอย่าทานติดต่อ 3 วันเพราะมันจะมีอันตราย แต่พอรู้ว่ามีอันตรายแบบนี้แล้วน่ากลัวแฮะ =[ ]="แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 22 กันยายน 2553 / 18:08 แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
tomomeen Member 22 ก.ย. 53 18:29 น. 2 อ่าเลิกกินยา 555 แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
Kyukie_Minnie Member 22 ก.ย. 53 18:39 น. 4 ฉันควรจะดีใจใช่ไหมที่เกิดมาแล้วแพ้ยาพาราเซตามอล แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
//...be_best...// Member 22 ก.ย. 53 21:54 น. 5 ยายชอบให้กินฟ้าทะลายโจรแสดงว่าพาราก้อเป็นยาที่แรงพอควร แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
SaKuRa Member 22 ก.ย. 53 22:32 น. 6 3. การใช้ยาร่วมกัน โดยเฉพาะยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นเอนไซม์ในระบบขับสารพิษชื่อ CYP450 2E1 ในตับเช่นยา phenytoin, carbamazepine, rifampin เป็นต้น >>ข้อมูลละเอียดมากเลยค่ะ กำลังเรียนอยู่เลย แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
rainbow ♥ rozen Member 22 ก.ย. 53 22:57 น. 7 ขอบคุณค่ะเมื่อก่อนแม่กินบ่อยมากกกกกเครียดดดดดเลยค่ะปวดหัวเลยแต่ No พาราฯ!!!~~~แล้ว~~~ TT___TT แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
ซาโยนาระจุ๊บๆ Member 22 ก.ย. 53 23:49 น. 8 แต่ก่อนกินประจำเลยแบบว่าปวดหัวบ่อยมากไม่รู้ว่าเป็นอะไรครูที่โรงเรียนบอกให้กินน้ำเปล่าๆ 1 แก้วตอนที่ปวดหัว ก็ใช้ได้ผลบรรเทาอากาศปวดหัวได้นิดหน่อยค่ะ แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
White_Shark Member 23 ก.ย. 53 01:26 น. 9 ที่สำคัญคือห้ามกินพาราเพื่อแก้ปวดหัวที่เกิดจากการเมานะคร้าบบบบเพราะจะเกิดการคลั่งของtoxic metaboliteทำให้เกิดการทำลายตับมากขึ้นกว่าเดิมครับ แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
NNTK1126 Member 23 ก.ย. 53 13:43 น. 11 ต่อไปต้องระวังซแล้วเรา แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
กำลังจะจบ 23 ก.ย. 53 15:54 น. 12 เอิ่ม..งั้นถ้าทานพาราไม่ได้แล้วจะทานยาอะไรแทนล่ะ เอา NSAIDs มั้ย กัดกระเพราะดี จะได้เป็น PUP ไปเลย งงอ่ะดิ ฮึฮึ PUP (Peptic Ulcer Perforation) ที่จะบอกคือ Para น่ะทานได้ มันไม่ได้อันตรายเว่อร์ขนาดนั้น เอาเป็นว่าไม่ได้ทานจนOverdoseในแต่ละวันก็โอเคแล้ว ไม่งั้นก็โดนหามเข้าโรงบาลกันล่ะ...โอเคนะ เข้าใจตามนั้น อ่อแล้วDoseในแต่ละวันน่ะ ขอแก้นิด..(Ref. จาก UpToDate) 325-650 mg every 4-6 hours or 1000 mg 3-4 times/day; do not exceed 4 g/day Children <12 years: 10-15 mg/kg/dose every 4-6 hours as needed; do not exceed 5 doses (2.6 g) in 24 hours แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
OriO Member 23 ก.ย. 53 16:35 น. 13 โอ้วอะไรก็ไม่ดี ขนาดยาก็ยังไม่ดี เฮ้อ =3 แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
(: Chom pooH :) Member 23 ก.ย. 53 17:56 น. 14 น่ากัว ๆ แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
BUNPINK Member 23 ก.ย. 53 21:39 น. 15 ยาทุกอย่างถ้าใช้ไม่ดีก็เกิดโทษได้ทั้งนั้นแหละค่ะ (จริงๆแล้วยาหลายตัวโทษเยอะกว่าประโยชน์อีก)แต่ยาพารานี่ถือว่าเป็นยาแก้ปวดที่ปลอดภัยที่สุดแล้วถ้าไม่ได้ใช้อย่างพร่ำเพรื่อมันก็โอเคนะ ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกถ้าอยากจะให้ดีที่สุด ต้องพยายามอย่าให้เกิดโรคนี่แหละค่ะจะได้ไม่ต้องกลัวโทษของการใช้ยา ไม่ทรมานจากโรคด้วย แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
..โOวัaติu.. Member 24 ก.ย. 53 01:25 น. 16 กินเข้าไปเยอะๆเลยอิอิ แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
sintiar Member 24 ก.ย. 53 09:27 น. 17 เหอ ะ ๆ จะไม่กินเยอะ ๆ อีกแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
MelodicinD Member 24 ก.ย. 53 15:14 น. 18 ยาพาราไม่ค่อยน่ากลัวหรอก ตราบใดที่ร่างกายเราโดยเฉพาะคนหนุ่มๆสาวๆที่ยังมีกระบวนการสร้าง กลูต้าไธโอนที่มันยังดีกว่าเทียบกันแล้วผลค้างเคียงของพวก antibiotic บางตัวยังน่ากลัวกว่าอีก โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเรื่องตับเรื่องไต แล้วไปกินยาที่ขับออกทางตับทางใตอีก อันนี้ก้อจบข่าว แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
PLAaaz! Member 3 ต.ค. 53 14:06 น. 19 ยาพาราถ้ากินในปริมาณที่น้อย ร่างกายสามารถขับออก ทางของเสียได้ ดื่มน้ำเยอะๆๆ โอเค้ แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
คนไม่เต็มบาทเต็มสตางค์ Member 5 ต.ค. 53 23:36 น. 20 = ='' ก็เคยมีคนพูดเป็นเรื่องตลกเหมือนกันอ่ะแหละว่าเป็นไข้ ปวดหัวตัวร้อนก็กินพารา อะไรๆก็พารา แล้วก็ตายเพราะพารา - -*แต่เราไม่ค่อยได้กินหรอกพาราอ่ะ เรากินแต่ยาแก้แพ้ T^T (เบื่อมากเป็นโรคนี้เนี่ย แพ้ไปหมด กระทั่งใจตัวเอง ฮ่าๆๆๆ) แก้ไขล่าสุด: 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แจ้งลบ แก้ไข ปักหมุด ลบความเห็น ลบความเห็น
22 ความคิดเห็น
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 22 กันยายน 2553 / 18:08
อ่า
เลิกกินยา 555
แสดงว่าพาราก้อเป็นยาที่แรงพอควร
>>ข้อมูลละเอียดมากเลยค่ะ กำลังเรียนอยู่เลย
เมื่อก่อนแม่กินบ่อยมากกกกก
เครียดดดดดเลยค่ะ
ปวดหัวเลย
แต่ No พาราฯ!!!~~~แล้ว~~~ TT___TT
ครูที่โรงเรียนบอกให้กินน้ำเปล่าๆ 1 แก้วตอนที่ปวดหัว ก็ใช้ได้ผลบรรเทาอากาศปวดหัวได้นิดหน่อยค่ะ
ที่สำคัญคือห้ามกินพาราเพื่อแก้ปวดหัวที่เกิดจากการเมานะคร้าบบบบ
เพราะจะเกิดการคลั่งของtoxic metaboliteทำให้เกิดการทำลายตับมากขึ้นกว่าเดิมครับ
เอา NSAIDs มั้ย กัดกระเพราะดี จะได้เป็น PUP ไปเลย
งงอ่ะดิ ฮึฮึ PUP (Peptic Ulcer Perforation)
ที่จะบอกคือ Para น่ะทานได้ มันไม่ได้อันตรายเว่อร์ขนาดนั้น
เอาเป็นว่าไม่ได้ทานจนOverdoseในแต่ละวันก็โอเคแล้ว
ไม่งั้นก็โดนหามเข้าโรงบาลกันล่ะ...โอเคนะ เข้าใจตามนั้น
อ่อแล้วDoseในแต่ละวันน่ะ ขอแก้นิด..(Ref. จาก UpToDate)
325-650 mg every 4-6 hours or 1000 mg 3-4 times/day; do not exceed 4 g/day
Children <12 years: 10-15 mg/kg/dose every 4-6 hours as needed; do not exceed 5 doses (2.6 g) in 24 hours
โอ้วอะไรก็ไม่ดี ขนาดยาก็ยังไม่ดี เฮ้อ =3
แต่ยาพารานี่ถือว่าเป็นยาแก้ปวดที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว
ถ้าไม่ได้ใช้อย่างพร่ำเพรื่อมันก็โอเคนะ ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอก
ถ้าอยากจะให้ดีที่สุด ต้องพยายามอย่าให้เกิดโรคนี่แหละค่ะ
จะได้ไม่ต้องกลัวโทษของการใช้ยา ไม่ทรมานจากโรคด้วย
อิอิ
ยาพาราไม่ค่อยน่ากลัวหรอก ตราบใดที่ร่างกายเราโดยเฉพาะคนหนุ่มๆสาวๆที่ยังมีกระบวนการสร้าง กลูต้าไธโอนที่มันยังดีกว่า
เทียบกันแล้วผลค้างเคียงของพวก antibiotic บางตัวยังน่ากลัวกว่าอีก โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเรื่องตับเรื่องไต
แล้วไปกินยาที่ขับออกทางตับทางใตอีก อันนี้ก้อจบข่าว
แต่เราไม่ค่อยได้กินหรอกพาราอ่ะ เรากินแต่ยาแก้แพ้ T^T (เบื่อมากเป็นโรคนี้เนี่ย แพ้ไปหมด กระทั่งใจตัวเอง ฮ่าๆๆๆ)