ข้อสอบ TOEIC แบบใหม่ !

 

 

               แบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถภาษาอังกฤษที่เป็นที่นิยมคงต้องยกนิ้วให้ TOEIC ซึ่งหากน้องๆ คนไหนมีคะแนนสอบ TOEIC ที่ดีแล้ว ก็เรียกได้ว่ามีชัยไปกว่าครึ่งสำหรับการเตรียมตัวไปเรียนต่อเมืองนอก ล่าสุดนั้น การสอบ TOEIC ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเล็กน้อย โดยเริ่มเปลี่ยนมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา เรียกรูปแบบใหม่นี้ว่า Redesigned Toeic ว่าแต่จะเปลี่ยนแปลงไปยังไงนั้น พี่เป้ รวบรวมมาไว้ให้แล้วค่ะ

 

{pic-desc}

 

PART 1 : LISTENING มีทั้งหมด 100 ข้อ คะแนนรวม 495 คะแนน เวลา 45 นาที

1.1  Photographs (รูปภาพ) โดยฟังประโยคจากเทปที่เปิด แล้วพิจารณาว่ารูปภาพในข้อใดตรงกับที่เทป
      อ่านมากที่สุด

- แบบเก่า มีทั้งหมด 20 ข้อ
- แบบใหม่ ลดเหลือเพียง 10 ข้อ



1.2 Question-Response (ถามตอบ) ฟังคำถามจากเทปที่เปิด เช่น How are you ? และฟังชอยส์
      4 คำตอบจากเทปเช่นกันแล้วเลือกว่าคำตอบใดถูกต้องที่สุด โดยคำถามทั้งหมดมี 30 ข้อ

- ไม่มีการเปลี่ยนแปลง



1.3 Conversations (บทสนทนา) จะเป็นบทสนทนาระหว่างบุคคล 2 คน ซึ่งโจทย์จะถามเกี่ยวกับเนื้อหา
     ของบทสนทนา มีทั้งหมด 30 ข้อ

- แบบเก่า 1 บทสนทนา ต่อ คำถาม 1 ข้อ (มีทั้งหมด 30 บทความ)
- แบบใหม่ 1 บทสนทนา ต่อ คำถาม 3 ข้อ (มีทั้งหมด 10 บทความ)

 

1.4 Talks (บทพูดคุย) การฟังประกาศ ข่าว หรือบทความ และตอบคำถาม

- แบบเก่า มีคำถามทั้งหมด 20 ข้อ
- แบบใหม่ มีคำถามทั้งหมด 30 ข้อ โดยมีบทความ 10 บทความ (1 บทความ มีคำถาม 3 ข้อ)

 

{pic-desc}

PART 2 : READING มีทั้งหมด 100 ข้อ คะแนนรวม 495 คะแนน เวลา 1 ชม. 15 นาที

2.1 Incomplete Sentence (เติมประโยคให้เต็ม) เช่น Please tell me your ____ time .
     (arrive , arrival , reach , reaching)

- ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

 

2.2
- แบบเก่า Error Recognition (จับผิดไวยากรณ์) มีทั้งหมด 20 ข้อ
- แบบใหม่ Text Completion (เติมข้อความให้สมบูรณ์) โดยอ่านบทความคล้ายๆ E-mail และเติมข้อ
  ความที่หายไปให้สมบูรณ์  มีทั้งหมด 4 บทความ แต่ละบทความมี 3 คำถาม รวมคำถามทั้งหมด 12 ข้อ

 

2.3 Reading Comprehension (ทำความเข้าใจเรื่องที่อ่าน) เป็นการอ่านเนื้อเรื่องแล้วตอบคำถาม

- แบบเก่า  มี 40 ข้อ
- แบบใหม่ มี 48 ข้อ แบ่งออกเป็น
  Single Passages  มี 7-10 บทความ แต่ละบทความจะมี 2-5 คำถาม รวมคำถาม 28 ข้อ
  Double Passages มีบทความอ่าน 4 คู่ ( เช่น E-mail โต้ตอบกับลูกค้า) แต่ละคู่มี 5 คำถาม 
  รวมคำถาม 20 ข้อ

 

 

                เอาล่ะ ได้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของข้อสอบโทอิกคร่าวๆ แล้ว ใครที่ตั้งใจจะไปสอบก็อย่าลืมฟิตให้ดีนะคะ โดยเฉพาะ Reading Comprehension  พี่เป้ ได้ยินว่าทำกันไม่ทัน (กว่าแต่ก่อน) กันถ้วนหน้าเลยทีเดียว ส่วนค่าสอบก็ราคาเดิมคือ 1,200 บาทค่ะ ใครเคยไปสอบแล้วได้คะแนนเท่าไร เอามาอวดเพื่อนๆ หน่อยเร็ว

ขอบคุณข้อมูลจาก http://learnenglish.nabia10.com และคุณ panun จาก pantip.com
pic : http://t0eic.com,http://2.bp.blogspot.com

Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

58 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
tt_weird 1 ก.ย. 52 21:33 น. 10
โทอิค ส่วนมากไว้ใช้สมัครงานไม่ใช่เหรอคะ


ไม่ค่อยเห็นเอามาใช้เรียนต่อเลย


น่าจะลองตรวจสอบข้อมูลให้กระจ่างชัดก่อนนะคะ



The Test of English for International Communication (TOEIC) is "an English language test designed specifically to measure the everyday English skills of people working in an international environment."

อันนี้ยกมาจากวิกิ ค่ะ
0
กำลังโหลด
+:+PaYYY+:+ Member 1 ก.ย. 52 21:46 น. 11
ใช้เรียนต่อด้วยค่ะ ลองหาข้อมูลดีๆนะคะ เวลาสมัครเรียนต่อหรือสมัครทุน ส่วนมากจะระบุถึงผลสอบที่วัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ ซึ่งส่วนมากเด็กไทยก็จะเน้นสอบโทอิกกันมากกว่าโทเฟลหรือไอเอลท์อยู่แล้ว โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยในแถบเอเชีย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ก็จะพิจารณาโทอิกกันค่ะ แต่ถ้าเป็นอเมริกาหรือออสเตรเลียก็จะเน้นโทเฟลหรือไอเอลท์เป็นหลัก แต่บางที่ก็จะพิจารณาโทอิกด้วย ส่วนการทำงานก็ใช้โทอิกกันเป็นส่วนมากค่ะ เช่น แอร์ หรือองค์กรใหญ่ๆ น่าจะลองตรวจสอบข้อมูลให้กระจ่างชัดก่อนมาโพสท์นะคะ ขอบคุณค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กิ๊กพี่โดม 1 ก.ย. 52 22:15 น. 13
เราก้อใช้โทอิกสมัครเรียนต่อนะ เด่วจะไปต่อมหาลัยที่จีนแล้ว เราได้โทอิก 890อะ ปลื้ม >< ไม่สอบโทเฟลเพราะแพงฮ่าๆๆๆ ,,,, จิงๆถ้าเค้าบอกว่าเอาโทเฟลก้อควรจะสอบแหละ แต่ผลมันออกช้ามากกๆ เราเลยไม่รอ เลยเอาโทอิกแทนเพราะสอบวันนี้ อีกวันก็รู้คะแนนแล้ว แล้วโทอิกก้อง่ายกว่าโทเฟลด้วย เพราะฉะนั้นถ้าใครยื่นพวกโทเฟลไม่ทันจิงๆ ก้อสอบโทอิกไว้กันเหนียวก้อดีนะเพิ่ลๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ttt_weird 1 ก.ย. 52 22:42 น. 16
ขอยอมรับว่าไม่ทราบเรื่องการใช้โทอิคใน การรับเข้าของมหาลัยในแถบเอเชีย เพราะคิดว่า คือส่วนน้อย
เพราะประเทศที่คุณกล่าวมานั้นไม่เน้นที่จะสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ จึงไม่แปลกที่ประเทศเหล่านี้จะพิจารณาTOEICมากกว่า TOEFL และ IELTS


แต่เรื่องที่คุณกล่าวว่าเด็กไทยนิยมสอบโทอิกมากกว่าโทเฟลและไอเอ้ล เพื่อการเรียนต่อนนั้น ยังคงไม่เห็นด้วย เพราะว่าการที่คุณเขียนในตอนแรกว่า " สำหรับการไปเรียนต่อเมืองนอก" นั้นอาจรวมถึง ประเทศอเมริกา อังกฤษ และ ออสเตรเลีย หรือ นิวซีแลนด์ ด้วย และยังคิดว่าประเทศเหล่านี้มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากในการใช้โทอิคเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา เพราะว่า ด้วยตัวข้อสอบเองนั้น โืทอิค ง่ายกว่าโทเฟิลและ ไิอเอ้ล เยอะมาก ที่แน่ๆคือ โทอิคไม่มีpart speaking แต่ TOEFL และ IELTS มี และคำศัพท์ในโทเฟิลและไอเอ้ล จะเป็นคำศัพท์ที่
เป็นเชิงวิชาการมากกว่า และ เหมาะกับการเรียนต่อมากกว่า


ซึ่งการเขียนที่ไม่ชัดเจน อาจทำให้เด็กๆที่เข้ามาอ่านเกิดการเข้าใจผิดได้ว่า สอบโทอิคแทนโทเฟิลและไอเอ้ลเพื่อใช้ในการเรียนต่อได้ในทุกๆประเทศและมหาลัย ถ้าทำอย่างนั้นได้จริง คนที่อยากเรียนต่อคงจะแห่ไปสอบโทอิคแทน โทเฟลและไอเอ้ลกันหมด
0
กำลังโหลด
+:+PaYYY+:+ Member 1 ก.ย. 52 23:17 น. 17
ขอบคุณค่ะ
แต่ก็คิดว่าเขียนชัดเจนนะคะ
ในส่วนของมหาวิทยาลัยในอเมริกาและออสเตรเลีย เขียนตอบไปว่า "บางที่" ไม่ได้เขียนว่า "มหาวิทยาลัยส่วนมาก" ที่รับพิจารณาโทอิก
ยินดีรับคำติชมค่ะ ขอบคุณค่ะ และในโอกาสหน้าจะเขียนเรื่องโทเฟลและไอเอลท์ต่อไปด้วย ยังไงอย่าลืมเข้ามาติชมนะคะ เผื่อมีคำแนะนำดีๆ ยินดีรับไว้พิจารณาค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด