แบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถภาษาอังกฤษที่เป็นที่นิยมคงต้องยกนิ้วให้ TOEIC ซึ่งหากน้องๆ คนไหนมีคะแนนสอบ TOEIC ที่ดีแล้ว ก็เรียกได้ว่ามีชัยไปกว่าครึ่งสำหรับการเตรียมตัวไปเรียนต่อเมืองนอก ล่าสุดนั้น การสอบ TOEIC ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเล็กน้อย โดยเริ่มเปลี่ยนมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา เรียกรูปแบบใหม่นี้ว่า Redesigned Toeic ว่าแต่จะเปลี่ยนแปลงไปยังไงนั้น พี่เป้ รวบรวมมาไว้ให้แล้วค่ะ
PART 1 : LISTENING มีทั้งหมด 100 ข้อ คะแนนรวม 495 คะแนน เวลา 45 นาที 1.1 Photographs (รูปภาพ) โดยฟังประโยคจากเทปที่เปิด แล้วพิจารณาว่ารูปภาพในข้อใดตรงกับที่เทป
- ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
1.4 Talks (บทพูดคุย) การฟังประกาศ ข่าว หรือบทความ และตอบคำถาม
PART 2 : READING มีทั้งหมด 100 ข้อ คะแนนรวม 495 คะแนน เวลา 1 ชม. 15 นาที 2.1 Incomplete Sentence (เติมประโยคให้เต็ม) เช่น Please tell me your ____ time . - ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
2.2
2.3 Reading Comprehension (ทำความเข้าใจเรื่องที่อ่าน) เป็นการอ่านเนื้อเรื่องแล้วตอบคำถาม
เอาล่ะ ได้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของข้อสอบโทอิกคร่าวๆ แล้ว ใครที่ตั้งใจจะไปสอบก็อย่าลืมฟิตให้ดีนะคะ โดยเฉพาะ Reading Comprehension พี่เป้ ได้ยินว่าทำกันไม่ทัน (กว่าแต่ก่อน) กันถ้วนหน้าเลยทีเดียว ส่วนค่าสอบก็ราคาเดิมคือ 1,200 บาทค่ะ ใครเคยไปสอบแล้วได้คะแนนเท่าไร เอามาอวดเพื่อนๆ หน่อยเร็ว ขอบคุณข้อมูลจาก http://learnenglish.nabia10.com และคุณ panun จาก pantip.com |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
58 ความคิดเห็น
อิอิๆ รอเรียนจบค่อยไปสอบไว้ไปสมัครงาน
สอบตอนนี้ อายคะแนน เอิ้กกกกก
=O="
^
^
ไปว่าเค้าตัวเทอเองทำได้เท่าไหร่ไหนเอามาอวดดิ๊
ถ้าเป็นเช่นดังที่ว่ามา
มันง่ายกว่าเก่าเยอะเลยยยย
ไรว้า เศร้า
ขอบคุณค่ะ
แต่ค่าสมัครน่าขนลุกพอกัน
โทเฟล เคนทำขนหน้าแข้งร่วงมาแล้ว
ไม่ค่อยเห็นเอามาใช้เรียนต่อเลย
น่าจะลองตรวจสอบข้อมูลให้กระจ่างชัดก่อนนะคะ
The Test of English for International Communication (TOEIC) is "an English language test designed specifically to measure the everyday English skills of people working in an international environment."
อันนี้ยกมาจากวิกิ ค่ะ
เพราะประเทศที่คุณกล่าวมานั้นไม่เน้นที่จะสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ จึงไม่แปลกที่ประเทศเหล่านี้จะพิจารณาTOEICมากกว่า TOEFL และ IELTS
แต่เรื่องที่คุณกล่าวว่าเด็กไทยนิยมสอบโทอิกมากกว่าโทเฟลและไอเอ้ล เพื่อการเรียนต่อนนั้น ยังคงไม่เห็นด้วย เพราะว่าการที่คุณเขียนในตอนแรกว่า " สำหรับการไปเรียนต่อเมืองนอก" นั้นอาจรวมถึง ประเทศอเมริกา อังกฤษ และ ออสเตรเลีย หรือ นิวซีแลนด์ ด้วย และยังคิดว่าประเทศเหล่านี้มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากในการใช้โทอิคเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา เพราะว่า ด้วยตัวข้อสอบเองนั้น โืทอิค ง่ายกว่าโทเฟิลและ ไิอเอ้ล เยอะมาก ที่แน่ๆคือ โทอิคไม่มีpart speaking แต่ TOEFL และ IELTS มี และคำศัพท์ในโทเฟิลและไอเอ้ล จะเป็นคำศัพท์ที่
เป็นเชิงวิชาการมากกว่า และ เหมาะกับการเรียนต่อมากกว่า
ซึ่งการเขียนที่ไม่ชัดเจน อาจทำให้เด็กๆที่เข้ามาอ่านเกิดการเข้าใจผิดได้ว่า สอบโทอิคแทนโทเฟิลและไอเอ้ลเพื่อใช้ในการเรียนต่อได้ในทุกๆประเทศและมหาลัย ถ้าทำอย่างนั้นได้จริง คนที่อยากเรียนต่อคงจะแห่ไปสอบโทอิคแทน โทเฟลและไอเอ้ลกันหมด
แต่ก็คิดว่าเขียนชัดเจนนะคะ
ในส่วนของมหาวิทยาลัยในอเมริกาและออสเตรเลีย เขียนตอบไปว่า "บางที่" ไม่ได้เขียนว่า "มหาวิทยาลัยส่วนมาก" ที่รับพิจารณาโทอิก
ยินดีรับคำติชมค่ะ ขอบคุณค่ะ และในโอกาสหน้าจะเขียนเรื่องโทเฟลและไอเอลท์ต่อไปด้วย ยังไงอย่าลืมเข้ามาติชมนะคะ เผื่อมีคำแนะนำดีๆ ยินดีรับไว้พิจารณาค่ะ
ผมอ๊อนอ่อนภาษาอังกฤษอ่ะครับ แย่จัง