สำหรับ Makeup Tutor ครั้งนี้ พี่โอ๊ตก็จะพาสาวๆ มาทำความรู้จักกับไอเท็มที่เรียกว่า “Corrector (คอร์เรคเตอร์)” หรือเจ้าคอนซีลเลอร์สีสันแปลกตา ทั้งฟ้า เขียว ส้ม ม่วง นั่นเองค่ะ ตอนนี้มีหลายแบรนด์ทำออกมาให้เราได้เลือกใช้ แต่สาวๆ รู้มั้ยว่าแต่ละสีเค้ามีหน้าที่อะไรกันบ้าง และมีวิธีใช้ยังไง วันนี้เราจะไปหาคำตอบกันค่ะ
หลายคนยังงงอยู่ว่า เจ้าคอร์เรคเตอร์กับคอนซีลเลอร์ เหมือนหรือต่างกันยังไง คอนซีลเลอร์นั้นเรารู้ดีอยู่แล้วว่า เราใช้เพื่อปกปิดรอย หรือจุดด่างดำที่ไม่ต้องการให้ใครเห็น ดังนั้นหน้าที่หลักของคอนซีลเลอร์ก็คือ “การปกปิด” นั่นเองค่ะ แต่คอร์เรคเตอร์นั้นต่างออกไป การที่เค้ามาในรูปแบบของสีที่หลากหลาย ก็เพื่อให้เราใช้เพื่อ “หักล้าง” สีตรงกันข้ามให้อ่อนลง เพื่อเตรียมผิวให้ลงรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ได้เนียนสนิทมากขึ้น ทำหน้าที่เหมือนเป็นเบสนั่นเองค่ะ
1
สีเขียว
เอาไว้ลดสีแดงบนใบหน้า โดยส่วนมากคือรอยสิวที่เพิ่งอักเสบใหม่ๆ จะชอบเป็นรอยแดงรอบๆ หรือจะเอาไว้ช่วยเบลอรอยแดงจากผิวไหม้แดดก็ได้ค่ะ ข้อควรระวังคือ ไม่ควรลงทั้งหน้า เพราะเบสเขียวส่วนใหญ่จะทำสีมาค่อนข้างอ่อน เพื่อให้เบลนด์เข้ากับสีแดงได้ง่ายค่ะ ถ้าลงทั้งหน้า รับรองว่าขาวลอยวอกแน่นอน
2
สีเหลือง
เอาไว้ลงปิดรอยสีม่วงหรือน้ำเงิน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือรอยคล้ำใต้ตาค่ะ เหมาะกับสาวๆ ที่มีโทนสีผิวค่อนข้างขาว
3
สีม่วง
ใช้หักล้างสีเหลืองค่ะ ถ้าพูดถึงกรณีของเราซึ่งเป็นคนเอเชียผิวค่อนไปทางเหลืองอยู่แล้ว การใช้เบสสีม่วงก็จะทำให้ผิวดูสว่างละสดใสขึ้น แต่ต้องระวังอย่าลงเยอะนะคะ เพราะอาจจะทำให้ดูขาวเกินไปได้ค่ะ ลงเฉพาะจุดไฮไลท์ก็จะทำให้ใบหน้าดูน่ามองขึ้นค่ะ
4
สีชมพู
เอาไว้หักล้างสีน้ำตาลค่ะ ช่วยให้จุดด่างดำบนใบหน้าดูเบลอขึ้น และยังช่วยให้ใบหน้าสดใสดูอ่อนกว่าวัยด้วย แต่ๆๆ เหมาะกับสาวๆ ที่มั่นใจว่าผิวขาวอมชมพูเท่านั้นค่ะ ใครผิวขาวเหลือง เบนเข็มไปหาสีม่วงเลยจ้า
5
สีพีช/สีส้ม
ทำหน้าที่คล้ายสีเหลืองเลย คือเอาไว้ปิดรอยคล้ำใต้ตา ความแตกต่างคือโทนสีผิวค่ะ สีส้มจะเหมาะกับผิวโทนเหลืองที่ไม่ได้ขาวมาก อย่างพี่โอ๊ตเองก็ใช้คอร์เรคเตอร์สีพีชไว้ปิดแพนด้าเหมือนกันค่ะ เวิร์คมากๆ เลย
How to :
คอร์เรคเตอร์จะใช้ลงหลังจากที่เราทาไพรเมอร์หรือเบสแล้ว (แต่ถ้าไม่ได้ใช้ก็ลงหลังครีมกันแดดค่ะ) เริ่มจากน้อยๆ ก่อนนะคะ อย่าวู่วาม ถ้ามีแปรงเล็กๆ ช่วยลง ก็จะทำให้ควบคุมปริมาณและพื้นที่ได้ง่ายขึ้นค่ะ หลังจากลงคอร์เรคเตอร์แล้ว ทิ้งไว้ซักพักให้เนื้อครีมเซ็ตตัว แล้วค่อยลงรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ทับอีกที แค่นี้ก็จะได้ผิวที่สวยเนียนกริ๊บแล้วล่ะค่ะ
“เมคอัพชิ้นไหนที่สาวๆ คิดว่าใช้ยากมากที่สุด”
คำตอบใครโดนใจก็รับรางวัลกันไปเลย (ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกของรางวัลนะคะ)
1. Canmake Powder Cheek #pw25 บลัชออนเนื้อฝุ่นโทนส้ม เนื้อนุ่ม สีสดชัด ติดผิวตลอดทั้งวัน จำนวน 3 รางวัล
2. Cezanne Cheek Stick #02 ครีมบลัชสีคอรัลในรูปแบบแท่งสติ๊ก เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ให้สีที่เป็นธรรมชาติ จำนวน 3 รางวัล
2. อย่าลืม log in ก่อนทุกครั้งนะคะ สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกเว็บไซต์ Dek-D.com เท่านั้นจ้า
3. หากพบว่าผู้โชคดีคอนเฟิร์มกลับมาเป็นชื่อและที่อยู่เดียวกัน พี่ขออนุญาติรวมเป็น 1 รางวัลเท่านั้นนะคะ แบ่งให้เพื่อนๆ คนอื่นบ้างเนอะ เข้าใจตรงกันน๊า ^^
47 ความคิดเห็น
คอนซีลเลอร์ค่ะ เพราะเนื้อมันจะเข้มข้นและหนากว่ารองพื้นทั่วไป พบในคอนซีลเลอร์แบบครีมและแบบแท่ง จะเกลี่ยค่อนข้างยาก ทาแป้งทับแล้วจะเป็นคราบ โดยเฉพาะมือใหม่หัดแต่ง ควรเริ่มแตะคอนซีลเลอร์โดยใช้แบบลิควิคหรือแบบคุชชั่น เพียงแตะบางๆและใช้นิ้วก้อยเบลนด์ให้ทั่วบริเวณที่ต้องการปกปิด
อายไลเนอร์ค่ะ เพราะเวลาจะเขียนอายไลเนอร์แต่ละครั้งต้องคอยเกร็งหนังตาตัวเองอยู่ตลอดเวลาไม่ให้มันกระตุก ต้องคอยเขียนให้เส้นออกมาสวย ไม่เบี้ยวเกินไป และต้องไม่ทำให้มันไปเลอะส่วนอื่นบนหน้าเพราะแก้รอยเลอะค่อนข้างยาก ถ้าเผลอทำหนังตากระตุกเมื่อไหร่เส้นเบี้ยวแน่นอน ยิ่งเป็นอายไลเนอร์แบบหัวพู่กันจิ้มจุ่มยิ่งเขียนยากกว่าแบบแท่งปากกาหรือแท่งดินสอ ไม่โปรจริงก็เขียนตาให้ออกมาสวยไม่ได้แน่นอน ตอนนี้เราก็กำลังฝึกเขียนอยู่เหมือนกัน ดูเหมือนเขียนง่ายก็จริงแต่แอบยากกว่าที่คิด
เครื่องสำอางที่ใช้ยากที่สุดก็ต้อง "อายไลเนอร์" แน่นอนจ้า เพราะกว่าจะเขียนกันได้ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องฝึกเขียนกันหลายวันหลายเดือนกว่าจะทำให้เส้นเฉียบเนี๊ยบนิ้งอย่างมือโปรได้ ยิ่งตอนที่เราฝึกแรกๆนี่ไส้ดินสออายไลเนอร์หักคาตาตลอดเลย แถมเส้นยังเละๆโค้งไปโค้งมา ตอนเขียนก็กลัวจะแทงตาตัวเอง พอเขียนเละทีนี่เลิกเลย บางทีมีแถมแพนด้าใต้ตาให้อีก ตอนนี้เลยเปลี่ยนไปใช้อายแชโดว์แทนอายไลเนอร์แล้ว ประหยัดงบดีค่ะ
สำหรับเรา เราว่าที่เขียนคิ้วค่ะ ไม่ว่าเป็นแบบเจลใช้แปรง แบบดินสอเขียนเอา เพราะว่าเวลาวาดโครงคิ้วนี้เป็นอะไรที่กังวลมากก อีกข้างนึงจะเท่ากันมั้ยนะ อีกข้างนึงจะเข้มเกินไปมั้ย บางทีถ้าเขียนคิ้วไม่เป็นอีก คิ้วก็จะกลายเป็นปลิง เข้มทั้งคิ้ว555555555 เป็นอะไรที่เห้อมากๆ555555
คอนทัวว ค่ะ เป็นอะไรที่ยากและยากมาก ต้องลงยังไงไม่ให้เหมือนโดนฟาดด้วยไม้หน้าสาม 555
ถ้าหนักมือคือแทบจะต้องล้างหน้าแต่งใหม่เลย ไม่ใช่แค่ปัดๆแล้วออกจากบ้านได้ ฝึกกันต่อไปจ้ าาา
คิดว่าเครื่องสำอางที่ใช้ยากที่สุดน่าจะเป็นบลัชออนค่ะ เพราะการเลือกตำแหน่งที่ปัดบลัชออนก็ยากแล้วต้องเลือกให้เหมาะกับรูปหน้า ช่วยพรางรูปหน้าและความเข้มของแต่ละข้างอาจจะไม่เท่ากันอีก บางทีก็ปัดเข้มจนแดงชัดเจนบางครั้งปัดแล้วก็เหมือนไม่ได้ปัด จะใช้แต่ละครั้งต้องกะมือตัวเองให้ดีตลอดเลยค่ะ
รู้สึกว่าดินสอเขียนคิ้วใช้ยากสุดค่ะ เพราะว่ามันเป็นเส้นเล็กๆเนอะ บังคับยาก จะให้เขียนคิ้วให้ตรงเนี่ย พอเขียนไปแล้วเบี้ยว แก้ก็ยาก ลบก็ยากด้วย เอามือเช็ดก็เปื้อนอีกนะ
เมคอัพที่คิดว่าใช้ยากมากที่สุด คือ อายไลเนอร์ ค่ะ เขียนให้สวยยากมากกกก เดี๋ยวเส้นหนาไปอีก หางไม่สวย เขียนไม่ชิดตา ยิ่งเขียนแบบต้องถลกตามาเขียนนี่ยากมากกก อดทนขั้นสุด จะกระพิบตาน้ำตาจะไหล ยากอ่ะ T^T
ส่วนตัวคิดว่า มาสคาร่า ค่ะ เพราะเป็นคนขนตาสั้น เวลาปัดแล้วจะเลอะตลอด
สำหรับเราแต่ละชิ้นมีความยากต่างกันนะแต่ถ้าให้เราเลือกเราจะเลือกบลัชออน ไม่ว่าเนื้อครีมหรือเนื้อฝุ่นทาเราทาไม่ดี เกลี่ยไม่ได้ โอ้โห้ตูดลิงเลยจ้า ^^
รองพื้นค่ะ เพราะว่าสภาพหนังหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนที่หน้าแห้งก็แต่งหน้าติดทนหน่อย แต่สำหรับคนหน้ามันฉ่ำวาวเป็นหนังปลาทูที่เย็นเเล้วอย่างหนูเนี่ยแต่งยากมากเลย เผลอๆระหว่างวันหน้าเป็นคราบยังกะแผนที่ประเทศไทย มีลายเส้นตามร่องแก้ม ร่องหน้าผากยังกับแม่น้ำไนล์ สุดท้ายนี้ ...................................................................................................................
ขอบคุณค่ะ
ที่เขียนคิ้วค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์ออกมาให้ใช้ง่าย หรือเขียนง่ายแค่ไหน ก็ยังไม่ง่าย (สำหรับหนูมากๆ) อยู่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับรูปคิ้วของแต่ละคนอีก ฉะนั้นใครที่เขียนคิ้วได้เป๊ะ ได้ปังถือว่าเจ๋งสุดๆและละค่ะ (พอยหลักคือใช้การวาดให้ทั้งสองข้างเท่ากัน มันยากจริงๆ)
ลป.
ดินสอเขียนคิ้วค่ะเพราะถ้าเขียนไม่ดีคิ้วปลิงแน่ค่าาา