สวัสดีค่า วันนี้พี่โอ๊ตก็มาพร้อม Favorite ในปี 2018 ที่ผ่านมา ว่ามีอะไรที่ได้ลองใช้แล้วติดหนึบจนไม่มีไม่ได้บ้าง แต่ก่อนจะไปดูรีวิว พี่โอ๊ตขอย้ำเรื่องสภาพผิวของตัวเองนิดนึงค่ะ เผื่อใครอยากไปสอยตามจะได้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าใช้แล้วจะรอดมั้ย เหมาะกับผิวของตัวเองรึเปล่าค่ะ
สภาพผิวโดยรวมของพี่โอ๊ต เป็นคนผิวผสม และบางช่วงก็เป็นผิวขาดน้ำ ขึ้นอยู่กับมลภาวะและสภาพอากาศค่ะ มีสิวขึ้นบ้าง โดยเฉพาะบริเวณคาง และรูขุมขนแถวๆ จมูกจะกว้างกว่าบริเวณอื่น มีรอยสิวบริเวณข้างแก้ม เป็นรอยสิวเก่าที่ยังหายไปไม่หมดค่ะ เนื่องจากเมื่อก่อนเป็นสิวหนักมาก ขึ้นแทบทั้งหน้าเลย 555
สภาพผิวโดยรวมของพี่โอ๊ต เป็นคนผิวผสม และบางช่วงก็เป็นผิวขาดน้ำ ขึ้นอยู่กับมลภาวะและสภาพอากาศค่ะ มีสิวขึ้นบ้าง โดยเฉพาะบริเวณคาง และรูขุมขนแถวๆ จมูกจะกว้างกว่าบริเวณอื่น มีรอยสิวบริเวณข้างแก้ม เป็นรอยสิวเก่าที่ยังหายไปไม่หมดค่ะ เนื่องจากเมื่อก่อนเป็นสิวหนักมาก ขึ้นแทบทั้งหน้าเลย 555
ฝากกด Like กด Subscribe กด Share กันด้วยน๊าาาา
Mamonde Rose Water Toner / 490 บาท
เป็นโทนเนอร์น้ำกุหลาบตัวฮิต ที่ตอนนี้ขาดไม่ได้เลยจ้า จริงๆ คุณสมบัติของโทนเนอร์คือการเตรียมผิวก่อนบำรุง แต่ตัวนี้คือช่วยลดอาการระคายเคืองผิวได้ด้วย วันไหนรู้สึกคันหรือแสบผิวมา พอสเปรย์ลงบนผิวแป๊บนึง ก็จะช่วยให้ดีขึ้นเลยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย ใช้หมดไปกี่ขวดแล้วก็ไม่ได้นับเลยค่ะ 555
Laneige Layering Cover Cushion / 1,100 บาท
คูชั่นตัวนี้มีเอาไว้แล้วอุ่นใจสุดๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะมีตัวคูชั่นรองพื้นแล้ว เค้าก็ยังทำคูชั่นคอนซีลเลอร์ไว้อีกฝั่งให้ด้วยค่ะ ตัวนี้พี่โอ๊ตชอบในความสะดวกที่เค้าคิดมาให้มาก ยิ่งเวลาไปต่างจังหวัด ไปนอนบ้านเพื่อน คือตัวเดียวจบเลย การปกปิดอยู่ในระดับกลางๆ ค่ะ คอนซีลเลอร์ที่ให้มาจะสว่างกว่ารองพื้นนิดนึง เหมาะกับการปิดใต้ตาค่ะ
Bisous Bisous Miracle Blooming Anti-Aging Powder / 745 บาท
REDRED 2 Way Wink 360 Powder SPF25 PA++ / 590 บาท
REDRED 2 Way Wink 360 Powder SPF25 PA++ / 590 บาท
หมวดแป้งผสมรองพื้นคือตัดใจยากมาก เลยควบมาสองตัวเลยแล้วกันค่ะ สีของ Bisous Bisous จะขาวกว่า REDRED ที่ออกเหลืองมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นสองตัวนี้พี่โอ๊ตเลยเอาไว้สลับใช้แล้วแต่ลุคหรือสีผิวในช่วงนั้นค่ะ แต่คุณสมบัติของทั้งสองตัวที่พี่โอ๊ตชอบคือ ปกปิดดี คุมมันแต่ไม่ทำให้ผิวดูแห้ง และแป้งไม่ไหลเป็นคราบระหว่างวันค่ะ
Mei Linda 1st Lesson Eyebrow Pencil #02 Wooden Brown / 119 บาท
ดินสอเขียนคิ้วแท่งนี้คือเพิ่งค้นพบว่าดีช่วงกลางปีที่แล้ว และก็กลายเป็นแท่งที่ใช้บ่อยมากๆ เพราะชอบสีที่ดูไม่ติดเหลืองหรือแดงจนเกินไป มีความเทานิดๆ เนื่องจากสีผมพี่โอ๊ตไม่ได้เข้มมาก เลยจะชอบสีคิ้วประมาณนี้ค่ะ ที่สำคัญคือราคาถูกด้วย ข้อเสียอย่างเดียวเลยคือต้องเหลาค่ะ
Canmake Perfect Multi Eyes #03 Antique Terracotta / 390 บาท
พาเลทท์อายแชโดว์อันนี้พกพาสะดวกมากๆ และชอบที่พอสีน้อย เลยทำให้ไม่ต้องคิดเยอะค่ะ มีมาให้หมดแล้วทั้งสีเบส หรือคัดเบ้า ในทั้งหมดทั้งมวลคือชอบสีที่ออกส้มๆ อิฐๆ ที่สุด ทาออกมาคือได้ฟีลแบบ Naked Heat เลย เป็นอะไรที่อยากแนะนำสำหรับน้องๆ ที่อยากลองแต่งตามากๆ ค่ะ สีน้ำตาลในพาเลทท์นี้เอามาเขียนคิ้วก็ได้ด้วยเด้อ
Areeya Super Fast Waterproof Eyeliner Pencil / 269 บาท
แบรนด์คนไทยแท้ๆ ที่ทำอายไลเนอร์ออกมาได้ฟีลเกาหลีมากๆ สำหรับรุ่นนี้จะเป็นดินสอเนื้อนุ่ม เขียนง่ายค่ะ ถ้าลองสังเกต สาวๆ ไอดอลเกาหลีส่วนใหญ่จะไม่ค่อยกรีดอายไลเนอร์เส้นเป๊ะเส้นหนา แต่จะออกฟุ้งๆ ดูธรรมชาติ ดูมีลูกเล่น ซึ่งอันนี้ทำได้แบบนั้นเลยค่ะ พี่โอ๊ตชอบที่มันติดทน ไม่ไหลไม่เลอะ ได้งานเกาหลี และมีสีให้เลือกเยอะค่ะ
4U2 You're Mine / 179 บาท
เป็นลิปสติกที่ครองใจพี่โอ๊ตมากๆ ในปีที่ผ่านมา ข้ามปีมาแล้วก็ยังชอบอยู่ไม่มีใครโค่นได้ 555 ชอบตั้งแต่แพ็คเกจไปจนถึงเนื้อลิปเลยค่ะ ลิปรุ่นนี้ทาแล้วจะได้ลุคแมทท์แต่ไม่แห้ง ไม่ตกร่อง สีดูเนียนเรียบไปกับริมฝีปาก เบาปากมากๆ ความติดทนอยู่ในระดับที่ดี เวลาหายออกจากปากจะไม่ทิ้งเป็นรอยขอบปากไว้ค่ะ คือมันดีมากๆ ไม่รู้จะพูดยังไง บอกได้แค่รักมากเลยล่ะค่ะ
Muji Eyelash Curler / 120 บาท
มีอยู่ช่วงนึงที่ไอเท็มนี้ฮิตมากจนของขาด พอพี่โอ๊ตเข้า Muji แล้วเจอ เลยซื้อกลับมาลองค่ะ ว่าอะไรมันจะขนาดนั้น พอใช้จริงคือ หื๊มมมมม ทำไมเราเพิ่งเจอกัน! ถึงน้องเค้าจะดูตัวเล็ก แต่น้องเค้าแข็งแรงมากค่ะ ความโค้งเข้ากับเบ้าตาได้พอดี ดัดเช้าอยู่ยันเย็น ขนาดเช็ดมาสคาร่าออก ขนตายังเด้งอยู่เลย สิ่งนี้คือหายไม่ได้ ขาดใจแน่นอนค่ะ เวรี่เลิฟเลยยยย
Olens Contact Lens / 300-500 บาท (ไม่มีขายในไทยนะคะ)
สายพรีของเกาหลีต้องรู้จักคอนแทคเลนส์ยี่ห้อนี้แน่นอนค่ะ พี่โอ๊ตลองใส่อยู่ปีนึงเต็มๆ เลยกล้าเอามาบอกต่อเป็น Favorite เลย พอใส่ยี่ห้อนี้แล้วกลับไปใส่ยี่ห้อเดิมๆ ที่เคยใส่มาไม่ได้เลย 555 ความดีของเค้าคือ เลนส์เล็ก ดูเป็นธรรมชาติ ลายสวย และที่สำคัญคือใส่สบายตาสุดๆ อย่างรุ่น Cinnamon ที่ใส่ในคลิปก็เป็นอีกรุ่นที่รักมาก พอดีจนดูเหมือนเป็นตาจริงเลย
Invisibobble / 215-350 บาทราคาขึ้นอยู่กับรุ่นค่ะ
ได้ลองใช้จริงจังเพราะทางแบรนด์เชิญไปงาน แล้วพอได้ลองคือ เฮ้ย...น่าจะเจอกันมาตั้งนานแล้วป้ะ! กิตติศัพท์ที่บอกว่าใช้แล้วไม่ยืดไม่ขาด อันนั้นคือวางใจไปแล้ว แต่ที่ชอบมากๆ คือเวลารัดผมแล้วไม่เจ็บหนังหัว ไม่กินผมเวลาดึงออก (เนื่องจากผมของพี่ไม่ได้สุขภาพดีเท่าไหร่นัก ถ้าเป็นหนังยางรัดผมปกติจะชอบมีผมหลุดติดมาด้วยค่ะ) และถ้ามันยืด พี่โอ๊ตก็แค่วางเค้าทิ้งไว้เฉยๆ ในอุณภูมิห้องซักคืนสองคืน ยังไม่ทันแช่น้ำอุ่นก็หดตัวกลับมาแล้วค่ะ ประทับใจเวอร์ ตอนนี้ซื้อเองจนมีหลายสีเต็มบ้านไปหมดแล้ว 555
------------------------------------------------------------------------------------
จะสังเกตได้ว่าพี่โอ๊ตเลือกมาไม่ครบทุกหมวดนะคะ เพราะอย่างที่บอกเลยว่าเป็นของใช้ดีและใช้บ่อยในปีที่ผ่านมา ดังนั้นหมวดอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้เอามา อย่างเช่น มาสคาร่า บลัชออน ก็เป็นเพราะปีที่แล้วใช้สลับๆ กันไป ไม่ได้มีตัวไหนที่รู้สึกว้าวเป็นพิเศษ หรืออาจจะเคยว้าวไปบ่อยแล้ว 555 เลยเน้นเป็นตัวใหม่ๆ ที่ได้ลองใช้ในปีที่ผ่านมาแล้วรู้สึกว่ามันดีมากจริงๆ นั่นเองค่ะ ก่อนจะไป ถ้าสาวๆ คนไหนอยากแชร์ Favorite ของตัวเองในปีนี้ ก็คอมเม้นท์มาเล่าได้เลยนะคะ อาจจะไม่ต้องมีถึง 10 ตัวก็ได้ มาแชร์กันค่ะ ^^
อีกหนึ่งช่องทางการติดตามพี่โอ๊ต
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ