รีบสวยก่อนจบม.ปลาย ด้วย 5 วิธีแบบนางเอกซีรีส์จีน “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก”

          สวัสดีค่าาา ปกติแล้วพี่โอ๊ตจะชอบเอาทริคของสาวๆ ไอดอลเกาหลีมาแชร์ให้ฟัง แต่ว่าวันนี้ขอพิเศษนิดนึง เพราะกำลังอินมากๆ กับ สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก เวอร์ชั่นจีน ที่เค้าก็เอาหนังไทยของเราเนี่ยแหละ ไปเป็นเบสของเรื่อง แต่ด้วยความเป็นซีรีส์ที่ใช้เวลาได้มากกว่า เลยทำให้เห็นดีเทลหลายๆ อย่างของเรื่องนี้ชัดขึ้น โดยหนึ่งในนั้นก็คงไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงตัวเองของนางเอกนั่นเองค่ะ
​          ในฉบับคนไทย นางเอกคือ “น้ำ” เด็กสาวมัธยมต้นที่แอบชอบ “พี่โชน” พระเอกของเรื่อง ตัดภาพมาที่ซีรีส์จีน นางเอกของเราชื่อ “เซี่ยเหมียวเหมียว” ที่เพิ่งย้ายบ้านมาที่เมืองไห่เฉิง และไปแอบชอบรุ่นพี่ “เหลียงโย่วเหนียน” ที่บ้านใกล้กัน แถมยังได้มาอยู่โรงเรียนเดียวกันอีก ดังนั้นเธอก็เลยพยามจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น ทั้งเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกและการเรียนด้วยนั่นเองค่ะ ในซีรีส์ทำให้เห็นพัฒนาการของเหมียวเหมียวแบบค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่ช่วงมัธยมปลายไปจนถึงมหาวิทยาลัยเลย ซึ่งพี่โอ๊ตมองว่ามันทำได้ในชีวิตจริงล่ะ ถ้าอยากรู้แล้วก็ตามมาเลย
 
Step 1 จัดฟัน
​          สิ่งแรกที่เหมียวเหมียวทำก็คือ “การจัดฟัน” นั่นเองค่ะ บอกก่อนว่าจุดเริ่มต้นนั้นไม่ได้มาจากความต้องการของตัวเธอเองแต่อย่างใด แต่เป็นความต้องการของคุณแม่ค่ะ ถ้าสังเกตในเรื่องเหมียวเหมียวจะมีฟันที่เกออกมาอย่างเห็นได้ชัด ตรงจุดนี้เองที่ทำให้คุณแม่ของเธอเป็นห่วงเรื่องสุขภาพฟัน การบดเคี้ยวอาหาร และระบบภายในร่างกายที่อาจโยงมาจากสุขภาพฟันได้ค่ะ
​          ในตอนแรกเหมียวเหมียวไม่ยอมทำ เพราะเธอกลัวว่ามันจะทำให้เจ็บจนอดกินของอร่อยๆ แต่พอโดนแซวเรื่องฟันต่อหน้ารุ่นพี่ที่ชอบ ก็เลยตัดสินใจไปทำค่ะ แน่นอนว่าการจัดฟันครั้งแรกมักจะมาพร้อมกับความเจ็บปวด และหลังจากจัดแล้วก็ต้องระมัดระวังกว่าเดิมด้วย จะเผลอไปกินหรือไปกัดอะไรซี้ซั้วไม่ได้เด็ดขาด ในเคสของเหมียวเหมียวนั้นใช้เวลาไม่นานเพราะว่าฟันเข้าที่ได้เร็ว หลังถอดเหล็กเลยออกมาสวยปิ๊งเลยค่ะ อายุที่เหมาะกับการจัดฟันจะอยู่ในช่วง 10-14 ปี ถ้าเทียบกับเด็กไทยแล้วก็คือช่วงมัธยมต้นนั่นเอง เพราะเป็นช่วงที่ฟันขยับตามได้ง่าย ถ้ายิ่งอายุเยอะขึ้น ก็จะยิ่งจัดฟันยากและใช้เวลานานขึ้นค่ะ
 

​          ดังนั้น ก่อนจะไปจัดฟัน พี่โอ๊ตก็อยากให้น้องๆ ลองถามตัวเองก่อนค่ะว่ามันจำเป็นมั้ย อย่ามองเรื่องการจัดฟันเป็นแฟชั่น เพราะว่ามันไม่สนุกเลยค่ะ เราต้องทนกับการใส่เหล็ก และความเจ็บปวดทุกๆ ครั้งที่ไปดึงฟัน พี่โอ๊ตเลยอยากให้โฟกัสเรื่องสุขภาพฟันเป็นอย่างแรก ถ้ามันดีอยู่แล้วก็ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปค่ะ

 
Step 2 เลือกกรอบแว่นที่เข้ากับรูปหน้า
​          ในซีรีส์จะมีเหตุการณ์ที่เหมียวเหมียวทำแว่นแตก ซึ่งแว่นอันเดิมนั้นเป็นทรงกลมและกรอบแว่นค่อนข้างหนา ใส่แล้วก็จะดูวินเทจหน่อยๆ ค่ะ แต่กรอบแว่นใหม่ที่เหมียวเหมียวเลือกมานั้นบางลงกว่าเดิมมาก และทรงแว่นก็เข้ากับหน้ามากขึ้น ทำให้ใส่แล้วดูน่ารักค่ะ กรอบแว่นแบบนี้ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างฮิตเลย เพราะช่วยทำให้ใบหน้าดูมีอะไรมากขึ้น แต่ไม่ดูเนิร์ดจนเกินไปค่ะ ดังนั้นคีย์เวิร์ดสำหรับสาวแว่นก็คือการเลือกกรอบแว่นให้เข้ากับรูปหน้านั่นเอง แนะนำว่าอย่าสั่งแว่นออนไลน์ แต่ให้ไปลองที่ร้านเลยจะชัวร์กว่าค่ะ
 

Step 3 เริ่มบำรุงผิว
​          จุดเริ่มต้นในการใช้สกินแคร์ของเหมีียวเหมียวนั้นออกจะน่าเอ็นดูนิดนึงค่ะ เนื่องจากเธอไม่เคยสนใจดูแลผิวเลย ทำให้ผิวคล้ำจนโดนเพื่อนแซะซะงั้น พอน้องสาวไปได้ยินเข้าเลยโมโหแทนพี่ และเอาเงินเก็บของตัวเองที่มีมาซื้อสกินแคร์ให้พี่สาวคนดีใช้ค่ะ ในเรื่องบอกแค่ว่าเหมียวเหมียวฉีดสเปรย์น้ำแร่บ่อยผิวเลยขาวขึ้น (ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสินค้าสปอนเซอร์ค่ะ) แต่พี่โอ๊ตเดาว่าในชีวิตจริงของเหมียวเหมียว น่าจะต้องมีการใช้ครีมกันแดดทุกวันด้วย เนื่องจากคณะที่เรียนต้องออกกลางแจ้งบ่อย การที่ผิวได้รับการบำรุง และทาครีมกันแดด เลยทำให้ผิวค่อยๆ ขาวขึ้นได้ค่ะ
 

          การดูแลผิวนั้นไม่จำเป็นต้องรอให้ผิวของเรามีปัญหาก่อนนะคะ คนที่ผิวดีอยู่แล้วก็ให้บำรุงผิวโดยเน้นไปที่ความชุ่มชื้นและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เพราะจะเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ยากขึ้นค่ะ ส่วนใครที่เริ่มมีสิวแล้ว ก็ให้เริ่มรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ สิวก็จะหายได้ง่ายและไม่ทิ้งรอยไว้มากค่ะ
 
Step 4 ทำเลสิก (การรักษาสายตาโดยใช้แสงเลเซอร์)
​          หลังจากผ่านทั้งแว่นและลองใส่คอนแทคเลนส์มาแล้ว สุดท้ายเหมียวเหมียวก็ตัดสินใจทำเลสิกให้จบๆ ไปค่ะ เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าเธอสายตาสั้นมากๆ และการใส่แว่นก็อาจจะทำให้เกิดความไม่สะดวกในบางครั้ง ดังนั้นการทำเลสิกก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีค่ะ
​          ในซีรีส์จะเห็นว่าเหมียวเหมียวเข้าไปทำเลสิกคนเดียว และนัดเพื่อนให้มารับ เนื่องจากหลังการทำเราจำเป็นต้องปิดตาไว้ก่อนค่ะ แต่สำหรับในเมืองไทยเองพี่โอ๊ตคิดว่าควรมีผู้ปกครองไปด้วย เพื่อที่จะได้รับทราบขั้นตอนการรักษา และดูแลเราหลังจากทำเลสิกด้วยค่ะ
 
Step 5 ยืดผมโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
​          เพราะได้รับเลือกให้เป็นดรัมเมเยอร์ เลยทำให้เหมียวเหมียวได้มีโอกาสทำผมดีๆ กับเค้าซักทีค่ะ ก่อนหน้านี้ผมของเหมียวเหมียวเป็นผมหยิกที่น่าจะได้กรรมพันธุ์มาจากฝั่งคุณแม่ และด้วยความที่หยิกมากๆ เลยทำให้ดูผมฟูไม่เป็นทรง หลังจากยืดผมแล้วก็ได้ทรงที่ยังคงพื้นฐานเดิมไว้ คือตรงขึ้น แต่ยังมีลอนเบาๆ ทำให้ดูเป็นสาวและน่ารักมากขึ้นค่ะ
 
อยากสวยห้ามทำแบบนี้!
​          ถ้าลองดู before/after ของนางเอก จะเห็นชัดเลยว่าเปลี่ยนไปเยอะมาก แต่กว่าเหมียวเหมียวจะสวยได้ขนาดนี้ เธอก็ผ่านเรื่องพังๆ มาพอสมควรค่ะ พี่โอ๊ตเลยอยากเก็บเรื่องนี้เอามาแชร์กันด้วย น้องๆ จะได้ไม่พลาดเหมือนเหมียวเหมียวค่ะ
 
ปล่อยให้เพื่อนแปลงโฉมให้ (มาสก์หน้า/ยืดผม)
​          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนช่วงปิดเทอมก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ที่เพื่อนของเหมียวเหมียวตั้งใจจะช่วยเธอแปลงโฉมให้เป็นสาวสวย โดยสิ่งที่เตรียมไว้ก็คือการมาสก์หน้าและยืดผมค่ะ โดยมีความเชื่อว่าความสวยนั้นต้องมี “ผมที่ตรงยาวสลวย” และ “ผิวที่ขาวเนียนผุดผ่อง” ซึ่งจริงๆ การมาสก์หน้านั้นช่วยให้ผิวดีได้ก็จริง แต่ในสถานการณ์นี้เพื่อนของเหมียวเหมียวไม่รู้ว่ามาสก์นั้นไม่เหมาะกับผิวของเธอ เลยทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และเป็นผื่นแดงขึ้นมาค่ะ เพราะฉะนั้นก่อนจะมาสก์หน้า ลองศึกษาส่วนผสมก่อนว่าเหมาะกับผิวแบบไหนนะคะ ลองอ่านจากบทความนี้ดูก่อนก็ได้ >> สิวแบบไหนก็หายได้ เพราะมาสก์หน้าแบบนี้
​         เพราะว่าการยืดผมเองมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนนนน ยิ่งถ้าเป็นคนผมหยิกโดยกำเนิดแบบเหมียวเหมียวแล้วล่ะก็ ยิ่งต้องให้ช่างที่ร้านทำให้เท่านั้นเลยค่ะ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าน้ำยาที่ใช้มันจะส่งผลต่อสภาพเส้นผมยังไง และเราใช้ถูกวิธีจริงๆ รึเปล่า พอฝืนทำเอง ผมก็เลยพังอย่างเหมียวเหมียวในตอนนี้ค่ะ คือจะตรงก็ไม่ตรง หยิกก็ไม่หยิก แถมผมยังเสียมากอีกต่างหาก
 
ใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่ได้คุณภาพ
​          หลังจากที่ทำแว่นแตกไป ช่วงที่ต้องรอแว่นใหม่เหมียวเหมียวเลยต้องใส่คอนแทคเลนส์ไปก่อน แต่ด้วยสภาพการเงินของที่บ้าน ทำให้ต้องใส่คอนแทคเลนส์ที่มีราคาถูก จุดนี้เลยที่อยากบอกน้องๆ ไว้ค่ะ ว่ามันอันตรายมากๆ ในเรื่องจะเห็นหลายฉากเลยที่เหมียวเหมียวบ่นว่าเคืองตาเพราะเธอมีอาการแพ้คอนแทคเลนส์ที่ใส่อยู่ อาการแพ้คอนแทคเลนส์ก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น เลนส์อาจจะอยู่ในอุณภูมิที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการเสื่อสภาพ ขนาด/ความโค้งของเลนส์อาจจะไม่เหมาะกับลูกตาของเรา ดังนั้นการเลือกคุณภาพของคอนแทคเลนส์ก็สำคัญค่ะ ถ้าเอาให้ชัวร์ ซื้อในร้านแว่นที่มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำจะดีที่สุดค่ะ
 

​          ส่วนใครที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำอยู่แล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขอนามัยให้ดีนะคะ พี่โอ๊ตเคยเขียนสรุปเอาไว้ให้ที่คอลัมน์นี้ด้วย (แปะลิงค์คอนแทคเลนส์)

​          เห็นมั้ยว่ากว่าเราจะสวยได้ซักที มันต้องใช้ความพยายามเยอะมากๆ เลยค่ะ แต่สิ่งที่พี่โอ๊ตชอบคือ ทุกการเปลี่ยนแปลงของเหมียวเหมียวนั้นมักมาจากความต้องการให้ตัวเองดูดีขึ้น “เพื่อตัวเอง” เป็นหลักค่ะ และส่วนใหญ่ก็มาจากความจำเป็นและสุขภาพด้วย จริงๆ การที่เราอยากดูดีเพื่อคนที่เราชอบก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะ แต่เราต้องไม่ยึดเป็นเหตุผลหลัก 100% เพราะเราอาจจะทำมันไม่ได้นานค่ะ สมมติถ้าคนที่เราชอบเค้าปฏิเสธหรือไปมีแฟน ก็อาจกลายเป็นเหคุผลให้เราล้มเลิกกลางคันได้ เพราะฉะนั้นเลยอยากให้ยึดที่ตัวเองมากกว่าเหตุผลอื่นๆ ค่ะ
​          จริงๆ ซีรีส์ที่เรากัน ไม่ว่าจะของประเทศไหน ถ้าสังเกตดีๆ มักจะมีข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ หรือทริคในการดูแลตัวเองแทรกอยู่เสมอเลยค่ะ ทำให้การดูซีรีส์เรื่องหนึ่งจนจบ ไม่ใช่ว่าได้แค่ความบันเทิงหรือความฟิน แต่ทำให้เราได้สาระได้โดยไม่รู้ตัวค่ะ อย่างเรื่องนี้เองก็มีข้อคิดเกี่ยวกับการเลือกสายการเรียนเข้ามาด้วย น้องๆ คนไหนที่ยังตัดสินใจเลือกสายการเรียนหรือคณะที่ชอบไม่ได้ ควรไปดูเรื่องนี้เลยล่ะ (สามารถดูแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง We TV และ Netflix นะคะ)


Credit รูปภาพจาก We TV Thailand

ติดตาม NUGIRL บนช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Youtube : nugirldekd
Instagram : @nugirldekd
Twitter : @nugirldekd
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น