ยุคนี้พี่โอ๊ตคิดว่าน้องๆ หลายคนน่าจะชินกับการคุยทางแชทมากกว่าโทรหาหรือนัดเจอกันแน่ๆ แล้วเคยเป็นมั้ยคะ ที่วันดีคืนดี เพื่อนหรือคนที่คุยๆ กันมาซักพัก อยู่ๆ ก็เริ่มพิมพ์น้อยลง ไม่ค่อยอ่านแชท หรือพีคสุดเลยก็คือ “อ่านแล้วไม่ตอบ” ถ้าแบบนี้ต้องเริ่มทบทวนตัวเองด่วนเลยค่ะ ว่าเราพลาดอะไรไปรึเปล่า?
 
อย่าแทนตัวด้วยคำที่สนิทสนมกันเกินไป
           ข้อแรกนี้มักจะเป็นกับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานค่ะ พี่โอ๊ตคิดว่าการเรียกแทนตัวของเรากับอีกฝ่าย จำเป็นที่ต้องดูเชิงคนๆ นั้นด้วย ว่าเค้าเริ่มพูดกับเราแบบไหน อาจจะเรียกด้วยชื่อ หรือแทนว่า เรากับเธอ แต่ไม่ควรเริ่มจาก -ึง / -ู หรือใช้คำเรียกที่ล้อเลียนถึงรูปร่างลักษณะของอีกฝ่ายค่ะ เพราะอาจจะกลายเป็นการบุลลี่เค้าโดยที่เราไม่รู้ตัว หรือทำให้เค้ารู้สึกอึดอัดเวลาคุยด้วย จนทำให้ไม่อยากตอบแชทเราไปเลยก็ได้
 

อย่าตอบแค่ผ่านๆ แสดงความคิดเห็นบ้างก็ได้
           ให้ลองคิดว่าถ้าเป็นตัวเอง เจอแต่เพื่อนที่ตอบ อืม เออ อ่อ อ่าฮะ ไม่ว่าเราจะพิมพ์อะไร ถามอะไรก็ได้คำตอบมาแค่นี้ เราจะรู้สึกยังไง? อย่างแรกเลยคือ ทำให้รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วย และอย่างต่อมาคือ จะเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เพราะบทสนทนาไม่มีอะไรเพิ่มเติม และไม่น่าจะคุยกันรู้เรื่องนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้น ใส่ความเห็นตัวเองลงไปบ้าง เก็บคำเหล่านี้ไว้ใช้เมื่อต้องการตอบรับในบางครั้งก็พอค่ะ
 

อย่าตอบห้วนจนเกินไป
           ถ้าเราไม่ได้มั่นใจว่าอีกฝ่ายสนิทกับเรามาก ถึงขั้นแกะความรู้สึกจากตัวอักษรของเราออก อย่าลืมว่าการพิมพ์แชทนั้นเราไม่ได้เห็นหน้า และไม่ได้รู้ว่าน้ำเสียงที่ใช้ในคำๆ นั้นเป็นยังไง ทำให้คนที่เราคุยด้วยสามารถเข้าใจผิดได้ง่ายๆ เลยค่ะ พี่โอ๊ตเข้าใจแหละว่าบางครั้งเราก็อาจจะรีบมาก จนไม่ได้มีเวลามาคิดประดิษฐ์คำสวย อาจจะลองเติมคำว่า “จ้า” เข้าไปข้างหลัง แค่คำว่า ใช่ กับ ใช่จ้า ก็ให้ความรู้สึกต่างกันแล้วนะ
 
อย่าถามแต่คำถามเดิมๆ
           ทำอะไรอยู่? กินข้าวรึยัง? วันนี้ไปไหน? นอนรึยัง? จริงๆ การถามคำถามพวกนี้ไม่ผิดนะคะ ถ้าเราอยากรู้จริงๆ และถามเพื่อจะคุยต่อจากนั้น แต่ถ้าเป็นการถามแบบนี้ทุกๆ วัน วันละสามเวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน แรกๆ เพื่อนอาจจะตอบเรา แต่เชื่อเถอะค่ะ ว่าไม่เกินสามวันเค้าต้องเริ่มหงุดหงิดแน่นอน ลองเปลี่ยนไปชวนคุยอย่างอื่นบ้าง จากที่ถามว่ากินข้าวรึยัง ก็อาจจะแชร์เมนูที่เรากินวันนี้แทนก็น่าจะดีกว่านะ
 

อย่าคุยแต่เรื่องของตัวเอง
           อันนี้พี่โอ๊ตเคยเจอค่ะ คือเปิดแชทมาเพื่อเล่าเรื่องของตัวเองเป็นฉากๆ ความยาวสองหน้าเอสี่ พอเล่าจบปุ๊บก็หายไปเลย คือไม่ต้องการความเห็นอะไรทั้งนั้น ใครออกความเห็นอะไรก็ปัดตก พี่โอ๊ตคิดว่าลักษณะแบบนี้ควรไปเขียนไดอารี่แทนจะดีกว่าค่ะ เพราะบางทีอีกฝ่ายก็ไม่ได้อยากจะรู้เรื่องของเราขนาดนั้น ถ้าเล่าอะไรยาวๆ แต่เป็นเชิงขอความเห็น ขอคำปรึกษา หรือเป็นเรื่องดีๆ อยากแชร์ให้ฟัง อันนี้เข้าใจได้ค่ะ แต่เล่าแล้วอย่าหายไป หรืออยู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องไปเลย อาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีได้นะ
 

อย่าเอาแต่แชร์ข่าว/ส่งเกมให้
           พี่โอ๊ตมีเพื่อนแบบนี้เยอะมากค่ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยคุยกัน อยู่ๆ ก็มาแอดไลน์เพื่อจะส่งหัวใจในเกมให้ ซึ่งถามว่าพี่โอ๊ตเล่นมั้ย ก็คือไม่ค่ะ 555 หรืออีกอย่างบางคนก็เอาแต่แชร์ข่าวมา จริงไม่จริงไม่รู้ ขอส่งให้ก่อน บอกเลยว่าพี่บล็อกเรียบไปเลยจ้าาา ทำแบบนี้คือไม่น่ารักเลยจริงๆ
 
อย่าอ่านแต่ไม่ตอบ
           ถ้าเห็นแล้วว่าข้อความสุดท้ายที่เพื่อนส่งมาเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ อาจจะเป็นการขอความช่วยเหลือ หรืออยากขอคำปรึกษา พี่โอ๊ตแนะนำว่าเราไม่ควรละเลยเพื่อนค่ะ ในกรณีที่ไม่รู้จะตอบอะไรจริงๆ ส่งสติ๊กเกอร์กลับไปซักตัวก็ได้ เพื่อให้เค้ารู้ว่าเราเห็นข้อความแล้วนะ อย่างน้อยๆ ก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราไม่ได้เมินเค้าค่ะ
 

อย่าลากเพื่อนเข้ากลุ่มแปลกๆ
           กลุ่มที่เราสนใจอาจจะไม่ใช่กลุ่มที่เพื่อนเราชอบเสมอไปค่ะ การลากใครซักคนเข้าไลน์กรุ๊ป ควรจะถามความสมัครใจของเค้าก่อน ว่าเค้าอยากเข้ามั้ย หรือสนใจอะไรในกลุ่มนี้รึเปล่า เพราะถ้าอยู่ๆ เราลากเข้าไปเลยโดยที่เค้าไม่ได้ยินยอม อย่างแรกคือเค้าจะเสียความรู้สึกกับเรามากๆ และอีกอย่างคือการอยู่ในกรุ๊ปที่คนเยอะๆ มักจะสร้างความรำคาญให้ไม่น้อยเลยค่ะ แม้ว่าจะปิดเสียงแจ้งเตือน แต่ยังไง ข้อความในกลุ่มก็จะเด้งอยู่ในไลน์ตลอดนั่นเอง
 
           ทั้ง 8 วิธีนี้ จริงๆ แล้วเป็นวิธีที่ง่ายมากๆ เลยค่ะ เผื่อใครเผลอทำไปโดยที่ไม่ได้รู้ตัว ก็จะได้แก้ทัน ส่วนใครที่เผลอทำไปแล้ว และรู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มไม่อยากคุยจริงๆ พี่โอ๊ตแนะนำว่าการส่งข้อความไปขอโทษและปรับความเข้าใจกันตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไปค่ะ (ในกรณีที่เพื่อนไม่ได้บล็อกเราไปซะก่อนนะ) 


 
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

HanaOat Columnist 12 พ.ค. 63 12:46 น. 1-1

ส่วนตัวพี่คิดว่าควรถามเค้าให้เคลียร์เลยค่ะ เค้าบล็อคแชทเราก็โทรไปเลย แต่ถ้าเค้ายังไม่รับ บอกปัดเราทุกทาง ก็แสดงว่าเค้าไม่ได้อยากแก้ปัญหานี้ ต้องย้อนกลับมาถามตัวเองแล้วว่าเราแคร์เค้าขนาดนั้นมั้ย ถ้าคำตอบคือใช่ก็ต้องพยายามทุกทางค่ะ เช่น ติดต่อเพื่อนคนอื่นที่สนิทกับเค้า แต่ถ้าคำตอบเราคือ ไม่ ก็ต้องปล่อยเค้าไปค่ะ ไม่แน่วันนึงเค้าอยากจะเป็นคนแอดไลน์เรามาใหม่ก็ได้นะ

0
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

HanaOat Columnist 12 พ.ค. 63 12:46 น. 1-1

ส่วนตัวพี่คิดว่าควรถามเค้าให้เคลียร์เลยค่ะ เค้าบล็อคแชทเราก็โทรไปเลย แต่ถ้าเค้ายังไม่รับ บอกปัดเราทุกทาง ก็แสดงว่าเค้าไม่ได้อยากแก้ปัญหานี้ ต้องย้อนกลับมาถามตัวเองแล้วว่าเราแคร์เค้าขนาดนั้นมั้ย ถ้าคำตอบคือใช่ก็ต้องพยายามทุกทางค่ะ เช่น ติดต่อเพื่อนคนอื่นที่สนิทกับเค้า แต่ถ้าคำตอบเราคือ ไม่ ก็ต้องปล่อยเค้าไปค่ะ ไม่แน่วันนึงเค้าอยากจะเป็นคนแอดไลน์เรามาใหม่ก็ได้นะ

0
กำลังโหลด
sup_klx Member 31 พ.ค. 63 14:42 น. 2

ถ้าเราเป็นฝ่ายที่จะเลิกคบเพื่อนเองทำไงดีคะ รู้สึกเเย่มากเลยที่ต้องเป็นเเบบนี้ เเต่เราเป็นคนที่ไม่ทักเเชทไปคุยก่อนกับเพื่อนคนนั้นเลยด้วย รู้สึกว่าตัวเองถือตัว เคยที่จะเปลี่ยนตัวเอง ทักไปก่อน เเต่ในเเชทที่คุยกันมันอึดอัดเลยจะตั้งไว้ว่าจะไม่ทักเขาไปก่อนค่ะ พฤติกรรมที่เขาเอาเราไปพูดนินทาก่อนหน้านี้มันฝั่งใจ พอเราดีกับเขากลับมาเป็นเพื่อนกัน เราเองที่ระวังตัวมากขึ้น เพราะเราไม่เเน่ใจว่าจะไม่เอาเราไปพูดอีก พยายามทำทุกสิ่งให้เหมือนเดิม เเต่มันก็ไม่ได้จริง เป็นเราที่ไม่เหมือนเดิม ไม่ชอบการระวังตัวเเบบนี้ของตัวเองเลยค่ะ เลยอยากจะห่างๆกับเขา เเต่จะทำยังไงดีคะ จะเลิกคบเขา หรือจะปรับตัวเองคะ รู้สึกจะไม่ชอบเขาด้วย ไม่ชอบที่ตัวเองรู้สึกอย่างงี้เลยค่ะ

1
HanaOat Columnist 9 มิ.ย. 63 12:35 น. 2-1

ตามความคิดของพี่นะคะ เพื่อนคือคนที่เราสบายใจที่จะอยู่ด้วยค่ะ ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกอึดอัดหรือฝืนใจที่จะทักหรืออยู่ด้วย พี่คิดว่าการอดทนไม่ใช่ทางออกที่ดี อาจจะทำให้เราสุขภาพจิตเสีย และมีมุมมองต่อตัวเองที่แย่ลงค่ะ

ถ้าลองเว้นระยะห่างออกมา พี่คิดว่าเพื่อนเองก็คงจะรู้สึกได้ แต่ก็คงจะมีเรื่องติดใจกันไปอีก ถ้าเป็นไปได้ ลองคุยกันตรงๆ จะดีที่สุดค่ะ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยๆ เฟดตัวเองออกมา นึกถึงความสบายใจของตัวเองเข้าไว้นะคะ

0
กำลังโหลด
135 1 มิ.ย. 63 22:09 น. 3

'จะไปรู้ด้วยไหม' คำนี้เวลาฟังรู้สึกไม่ดีตลอดเราถามดีๆ แต่กลับได้คำตอบแบบขอไปที ก็ไม่อยากคุยด้วยอีกเลย หรือจะตอนที่เราถามคำถามแล้วตอบกลับมาว่าแค่นี้ทำไมไม่รู้พร้อมหัวเราะใส่ ทนไม่ไหวก็ไม่คุยด้วยสัก1-2วัน แต่ก็ยอมไปบอกตรงๆว่ารู้สึกไม่โอเค คนพูดอาจจะไม่รู้ตัวแต่คนฟังมันฝังใจ จนไม่อยากมองหน้าเลย หลังจากนั้นเพื่อนคนนั้นก็ไม่พูดคำนั้นกับเราอีก อาจมีบางที่เผลอพูดแต่ไม่รู้เขารู้ตัวรึป่าว

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด