ถ้าถามถึงวิธีดูแลผิวแบบสาวเกาหลี ส่วนใหญ่ที่เราเคยได้เห็นก็น่าจะเน้นหนักไปที่ขั้นตอนการลงสกินแคร์และการออกกำลังกาย ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ไอดอลหรือสาวๆ ในสมัยนี้คุ้นเคยกันค่ะ แต่จริงๆ แล้วคนสมัยก่อน รุ่นคุณย่าคุณยายที่มีผิวดีทั้งๆ ที่ไม่ได้มีสกินแคร์เหมือนสมัยนี้ เค้าก็มีเทคนิคในการดูแลผิวในแบบฉบับของยุคนั้นเหมือนกันนะ เราลองไปดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

เติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยการดื่มน้ำกรอง
          ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องปกติใช่มั้ยคะ แต่อย่าลืมว่าในสมัยก่อน เครื่องกรองน้ำไม่ได้มีทุกบ้านเหมือนตอนนี้ เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง จะมีเฉพาะสถานที่ทางการแพทย์เท่านั้นค่ะ ดังนั้นคนสมัยก่อนเลยมีความเชื่อว่าการที่ได้ดื่มน้ำสะอาดจากเครื่องกรอง จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดี และทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น และใครที่อยากผิวสวยก็ต้องดื่มน้ำปริมาณมากๆ ต่อวันเพื่อให้ผิวไม่แห้งค่ะ
 
นอนหลับให้มากที่สุด
          เวลาทำงานเหนื่อยๆ หรือเรียนหนักเกินไป ผิวของเราจะสะท้อนอารมณ์และความเครียดทันทีเลยค่ะ แต่สิ่งเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการนอน หรือการงีบระหว่างวัน เพราะขณะที่เราหลับ ความดันโลหิตของเราจะลดลง หายใจช้าลง และทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
 

ดื่มชาเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
          อย่างทีเ่รารู้กันว่าประเทศเกาหลีมีรากไม้ สมุนไพร และผลไม้ต่างๆ ที่ช่วยบำรุงผิวอยู่เยอะมากๆ ค่ะ คนเกาหลีเลยนิยมเอามาทำเป็นชาไว้ชงกิน ทั้งชาเขียว ชาโสม และชาผลไม้ต่างๆ เพราะช่วยทำให้ผิวสวยขึ้นนั่นเองค่ะ
 
กินแบบ Golgoru
          วันไหนที่กินเยอะมากๆ จนรู้สึกท้องแน่นหรือท้องอืด พอตื่นมาอีกวันเราจะสังเกตได้เลยค่ะว่าผิวของเราดูเปลี่ยนไป ซึ่งปัญหานี้มาจากการทานอาหารที่ไม่เหมาะสมนั่นเองค่ะ คนเกาหลีเลยนิยมกินอาหารแบบ Golgoru หมายถึงการกินอาหารที่หลากหลายหมู่ในหนึ่งมื้อ ลองสังเกตเวลาเราไปกินอาหารเกาหลีดูค่ะว่าเครื่องเคียงเค้าเยอะมากขนาดไหน นอกจากนี้ กิมจิ หรือผักดองเกาหลี ก็ถือว่าเป็นจานสำคัญที่ต้องมีบนโต๊ะอาหาร เพราะเต็มไปด้วยวิตามิน A B C และโปรไบโอติก นอกจากทำให้ผิวสวยแล้ว ยังทำให้ระบบขับถ่ายดีด้วยนั่นเองค่ะ
 
กินผลไม้แทนของหวาน
          สิ่งหนึ่งที่คล้ายๆ กันในการทานอาหารของบ้านเรากับเกาหลีก็คือ การทานผลไม้ปิดท้ายมื้ออาหารนั่นเองค่ะ โดยผลไม้ที่คนเกาหลีนิยมก็จะเป็น แอปเปิ้ล ส้มเขียวหวาน ลูกแพร์ แตงโม นอกจากนี้ก็ยังทานเป็นอาหารว่างไปด้วย เพราะสมัยก่อนไม่ได้มีขนมหวานหรือขนมปังมากเท่าสมัยนี้ และการทานผลไม้ก็ช่วยให้ผิวสวยด้วยนั่นเองค่ะ
 
ไม่กินเค็มหลังสองทุ่ม
          เพราะเวลาที่เรานอนหลับร่างกายจะไม่สามารถขับเกลือออกมาได้ จนเกิดการกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิว ทำให้ตื่นมาแล้วรู้สึกเหมือนหน้าเราบวมๆ นั่นเองค่ะ ลองสังเกตว่าไอดอลหลายๆ คน จะไม่กินรามยอน (หรือมาม่าบ้านเรานี่แหละ) ก่อนวันถ่ายงานหรือขึ้นสเตจเลย เพราะเหตุผลนี้แหละค่ะ
 

อย่าลืม Seh-su
          อย่างที่เรารู้กันว่า สมัยก่อนไม่ได้มีสกินแคร์มากเท่าสมัยนี้ เพราะฉะนั้นการลงสกินแคร์แบบ 10 ขั้นตอนไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ แต่สิ่งที่คนรุ่นก่อนเข้าใจและเห็นความสำคัญก็คือการทำ Seh-su หรือการล้างหน้านั่นเองค่ะ ถ้าอยากได้ผิวสวย คนสมัยก่อนจะเคร่งครัดกับเรื่องล้างหน้ามากๆ เพราะทั้งฝุ่นละอองหรือแม้แต่ปลอกหมอนที่นอนก็ทำให้ผิวเกิดปัญหาได้ทั้งนั้นค่ะ
 
ขัดเซลล์ผิวที่ตกค้างออกบ้าง
          ไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่ที่รู้จัก dead skin แต่คนเกาหลีสมัยก่อนก็เข้าใจเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ อุปกรณ์ที่คนยุคก่อนใช้ก็จะเป็นถุงมือผ้า เทียบความนิยมก็ประมาณแปรงขัดผิวไฟฟ้าในตอนนี้นั่นเองค่ะ การใช้ถุงมืือผ้าขัดตัว จะช่วยถูเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทำให้ผิวเนียน และดูกระจ่างใสกว่าการอาบน้ำแบบปกติค่ะ
 
 

ทาครีมกันแดดหรือพกร่ม
          สาวเกาหลีบางคนถึงกับใส่เสื้อแขนยาว ผ้าพันคอ ถุงมือ ในวันที่อากาศร้อนถึง 35 องศา ไม่ใช่อะไรเลยค่ะ แค่พวกเธอต้องการปกป้องผิวจากแสงแดดเท่านั้นเอง และพวกเธอยังทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ต่อให้วันนั้นไม่มีแดดก็ตาม หรือถ้าวันที่ร้อนสุดๆ หลายคนก็ถึงกับยกเลิกนัด ขอไม่ออกไปจากห้องเลยก็มีค่ะ เพราะกลัวว่าแดดจะทำร้ายผิวมากเกินไป ส่วนใครที่ต้องออกไปข้างนอก แต่ไม่สามารถใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดมากๆ ได้ ก็จะเลือกใช้ร่มกันแดดแทนค่ะ
 
สังเกตผิวของตัวเองบ่อยๆ 
          เวลาใครทักว่า “ทำไมผิวของเธอถึงเป็นแบบนี้” อย่าเพิ่งไปโมโหใส่เค้านะคะ เพราะในความเป็นจริง ผิวของเราสะท้อนอะไรได้หลายๆ อย่างเลย ทั้งเรื่องสุขภาพร่างกายในช่วงนั้น การใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่อาหารที่ทานเข้าไป เพราะฉะนั้นถ้าใครถามมาแบบนี้ อันดับแรกเลยคือต้องเช็คตัวเองด่วนค่ะ ว่าเราเป็นแบบนั้นจริงมั้ย
 
           ถึงแม้สมัยก่อนจะไม่มีเทคโนโลยีในการผลิตสกินแคร์อะไรมากมาย แต่เราจะสังเกตได้ว่าผู้หญิงแต่ละประเทศก็จะมีวิธีดูแลผิวตามแบบฉบับของตัวเอง พี่โอ๊ตมองว่ามันคืออินเนอร์ที่ผู้หญิงทุกคนอยากจะดูดีนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้น ในปัจจุบันนี้เราเองก็มีสกินแคร์ให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ลองเอามาปรับใช้กับวิธีของคนสมัยก่อนก็น่าจะเวิร์คค่ะ ผิวจะได้สวยจากทั้งภายในและภายนอกเลย

 
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น