เวลาส่องกระจกทีไร หลายคนก็สะดุดกับสิวเสี้ยนแถวจมูกทุกที คือผิวตรงอื่นก็โอเคแล้ว แต่ทำไมจมูกเรายังต้องมีจุดดำๆ แถมพอเอามือลูบก็จั้กจี้เพราะสิวเสี้ยนแทงมือ รู้สึกผิวไม่เรียบเลย มันยุบยิบใจจริงๆ ค่ะ

เลยทำให้หลายคนพยายามหาวิธีกำจัดสิวเสี้ยน โดยวิธีที่ฮิตที่สุดก็คือ การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน หรือมาสก์ลอกสิวเสี้ยนนั่นเองค่ะ เพราะนอกจากจะสะดวก แค่แปะทิ้งไว้แล้วดึงออก ก็ยังรู้สึกสะใจสุดๆ เวลาเห็นสิวเสี้ยนติดออกมากับแผ่นลอก แหม มันฟินเหลือเกินค่ะ

แต่พอใช้ไปใช้มา ก็เริ่มมีหลายเสียงบ่นว่า ใช้บ่อยๆ แล้วทำให้รูขุมขนของเรากว้างขึ้นรึเปล่า แล้วสรุป มันช่วยให้สิวเสี้ยนลดลงไหม วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันค่ะ

ลอกสิวเสี้ยน ทำให้รูขุมขนกว้างจริงไหม?

อันนี้ต้องบอกว่าไม่จริงเลยค่ะ ทุกคนต้องเข้าใจก่อนว่า จริงๆ แล้วรูขุมขนของเราไม่สามารถกว้างขึ้นหรือเล็กลงได้ เพราะรูขุมขนของเราไม่ใช่กล้ามเนื้อค่ะ แต่เรามักจะคิดว่ามันกว้างขึ้นเพราะหลังจากลอกสิวเสี้ยนแล้วจะเห็นรูขุมขนชัด ทั้งที่มันมีขนาดเท่าเดิมเป๊ะๆ เลย เพียงแค่สิวเสี้ยนถูกดึงออกไปเท่านั้น เหมือนกับขวดที่มีจุกอุดไว้ เมื่อเราเอาจุกออกก็จะเห็นช่องว่างภายใน แต่ขนาดของขวดไม่ได้เปลี่ยนไปนั่นเองค่ะ

แล้วการลอกสิวเสี้ยน ช่วยลดสิวเสี้ยนได้ไหม?

การทำงานของแผ่นลอกสิวเสี้ยน หรือมาสก์ลอกสิวเสี้ยน ก็คือการใช้สารยืดเกาะบนผิว แล้วเกิดการแข็งตัว เพื่อให้เราสามารถดึงสิวเสี้ยนหรือเส้นขนออกจากใบหน้าได้ ต้องบอกว่าเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการในจิตใจของเราได้ถูกจุดจริงๆ ค่ะ เพราะเราได้เห็นมันหลุดออกแบบต่อหน้าต่อตาเลยนั่นเอง ทำให้เรารู้สึกว่า อ่าห์...สิวเสี้ยนได้ออกไปจากชีวิตเราแล้ว ดังนั้นถ้าจะบอกว่ามันสามารถกำจัดสิวเสี้ยนได้ไหม ก็ต้องตอบว่าได้ เพราะหลักฐานคามือค่ะ

แต่ถ้าจะพูดถึงการลดสิวเสี้ยนในระยะยาว ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆ ค่ะ เพราะสิวเสี้ยนนั้นถือกำเนิดมาจากขนอ่อนบนใบหน้าที่ขึ้นมาผิดปกติรวมตัวกับไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จนอุดตันในรูขุมขน และใช่ค่ะ เส้นขนก็เกิดมาจากรูขุมขน ดังนั้น ตราบใดที่เรายังมีรูขุมขนบนใบหน้าอยู่ โอกาสในการเกิดสิวเสี้ยนก็ยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ

นอกจากนี้แล้ว การลอกสิวเสี้ยนยังไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งหรือระคายเคืองง่าย เพราะจะเป็นการดึงผิวชั้นบนของเราออกไปด้วย อาจจะทำให้ผิวบริเวณนั้นๆ เกิดการระคายเคืองขึ้นมาได้ค่ะ

ถ้าอย่างนั้น เราควรกำจัดสิวเสี้ยนด้วยวิธีไหนล่ะ?

นอกจากการใช้มาสก์หรือแผ่นลอกสิวเสี้ยนแล้ว ก็ยังมีวิธีอื่นๆ อีกที่เราใช้กำจัดสิวเสี้ยนกัน ไม่ว่าจะเป็นการสครับผิวหรือกดสิวเสี้ยนออก บอกเลยว่าทั้งสองอย่างนี้แทบไม่ช่วยเลยค่ะ การสครับผิวนั้นจะช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบนออก แต่ไม่ได้ลงลึกที่รูขุมขน และยังอาจทำให้เกิดรอยแผลเล็กๆ บนผิวได้อีกด้วย

ส่วนการกดสิวเสี้ยนออกนั้นยิ่งแล้วใหญ่เลยค่ะ เพราะทุกครั้งที่กด อาจจะทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดรอยแดงขึ้นมา แถมอุปกรณ์ที่เราใช้ หากไม่สะอาดหรือได้มาตรฐานมากพอ ก็อาจจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบและระคายเคืองขึ้นมาก็ได้ค่ะ

ดังนั้นวิธีที่คุณหมอผิวหนังส่วนใหญ่แนะนำให้ทำคือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุค่ะ โดยการทากรดวิตามินเอ อย่าง Differin, Retin A หรือยาอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยเจ้ากรดวิตามินเอนั้นจะช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกมาได้ง่ายขึ้นค่ะ โดยวิธีใช้ก็คือการทาบางๆ ก่อนนอน ห้ามทาตอนเช้าเด็ดขาดค่ะ เนื่องจากการผลัดเซลล์ผิวอาจจะทำให้ผิวของเราระคายเคืองเมื่อเจอแดดได้นั่นเองค่ะ วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลาซักหน่อย แต่บอกเลยว่าความอดทนจะทำให้เราเห็นผลในระยะยาวค่ะ

ส่วนใครที่ใจร้อนมากๆ ก็ยังมีวิธีเลเซอร์ผิวที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือก แต่ก็ไม่ใช่ทำแล้วสิวเสี้ยนจะหายไปตลอดกาลอยู่ดี เพียงแต่ยืดระยะเวลาออกไปเท่านั้น ไม่ต้องขึ้นบ่อยๆ ให้กวนใจค่ะ

โดยสรุปแล้ว การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนหรือมาสก์ลอกสิวเสี้ยน อาจจะดีต่อใจเรา เพราะเราสามารถกำจัดมันทิ้งได้ทันที และไม่ได้ทำให้รูขุมขนของเรากว้างขึ้น แต่ก็ไม่สามารถกำจัดในระยะยาวหรือทำให้ลดลงได้ค่ะ แนะนำให้ใช้เป็นกรดวิตามินทาเฉพาะบริเวณที่มีปัญหา จะช่วยแก้ในระยะยาวได้มากกว่า แถมถ้าเทียบราคากันแล้วยังประหยัดกว่ามากๆ ด้วยค่ะ

พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น