“คะแนนเทอมนี้ไม่ดีเลย เพราะเราอ่านหนังสือไม่มากพอรึเปล่านะ?”

“พรีเซ้นต์กลุ่มรอบนี้รู้สึกว่าเราทำได้ไม่ดีเลย เราทำให้เพื่อนในกลุ่มต้องแย่ไปด้วยรึเปล่า?”

“งานชิ้นนี้ได้คะแนนเท่านี้เองเหรอ เรามันไม่เอาไหนจริงๆ”

“ชอบใครก็นก โดนเทตลอด เรามันสู้คนอื่นไม่ได้เลย”

ถ้าใครชอบมีความคิดแนวๆ นี้อยู่บ่อยๆ อยากลองชวนมาทำความเข้าใจกับภาวะ Self-Criticism หรือการโทษตัวเองมากไปกันดูค่ะ

Self-Criticism ถ้าแปลตรงตัวคือการที่เราเอาแต่โฟกัสที่ความบกพร่องหรือความผิดพลาดของตัวเอง พูดง่ายๆ ก็คือการโทษตัวเองมากจนเกินไปค่ะ ซึ่งเอาจริงๆ การที่เรารับรู้ข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดของตัวเอง ก็มีข้อดีตรงที่จะทำให้เราสามารถเห็นจุดด้อยตัวเอง แล้วนำไปพัฒนาได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันเริ่มมากจนเกินไป ก็อาจจะทำให้เราสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเอง และกลายเป็นคนวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา

การโทษตัวเองนั้นมีอยู่สองแบบด้วยกันค่ะ อย่างแรกคือการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น และพบว่าตัวเองยังดีไม่พอ มักจะแคร์ความเห็นของคนอื่นที่มีต่อตัวเอง มองว่าคนอื่นเก่งกว่า ดีกว่า และถือว่าเป็นคู่แข่ง

อีกแบบคือความรู้สึกจากภายในตัวของเราเอง คือคิดว่าเราไม่สามารถทำตามสิ่งที่ตั้งใจหรือตั้งมาตรฐานไว้ได้ คิดว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดีพออยู่ตลอด ต่อให้เห็นความสำเร็จอยู่ตรงหน้าแต่ก็จะมองว่ามันคือความล้มเหลวอยู่ดี เช่น สอบวัดผลได้คะแนน B+ ก็จะรู้สึกว่าล้มเหลว เราควรจะได้ A สิ พูดง่ายๆ ก็คือ อะไรที่อยู่ใต้คำว่าเพอร์เฟกต์ เราจะมองว่ามันคือความล้มเหลวทั้งหมด

ความรู้สึกนี้มักจะเกิดจากประสบการณ์ในวัยเด็กค่ะ ซึ่งอาจจะถูกเลี้ยงดูมาด้วยความเข้มงวดมากๆ ส่งผลให้เรามีความรู้สึกกับตัวเองในแง่ลบ มีความภูมิใจในตัวเองต่ำ โดนตำหนิบ่อยๆ ไม่เคยได้รับคำชม และถูกเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ก็ทำให้มีแนวโน้มว่าจะเติบโตมากับความรู้สึกที่โทษตัวเองในลักษณะที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

จริงๆ แล้ว การที่เรายอมรับและมองเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องปกติในชีวิต และมีข้อดีตรงที่ทำให้เรารู้จักเป็นคนถ่อมตัว แต่หากว่ามากเกินไปก็แทบจะไม่เกิดประโยชน์อะไร และอาจจะทำให้มีปัญหาสุขภาพจิตตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวลทางสังคม รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า และอาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตจนถึงกับอยากทำร้ายตัวเองขึ้นมาได้ค่ะ

สภาวะนี้ไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องเรียนหรือเรื่องงานเท่านั้น แต่รวมไปถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย หลายๆ คนต้องล้มเหลวในเรื่องความรัก เพราะมัวแต่กลัวว่าตัวเองจะดีไม่พอและสู้คนอื่นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจถอยออกมาจากความสัมพันธ์นั้นๆ  กลายเป็นการตัดโอกาสตัวเองไปเลย

ในบทความหน้า  จะมาเล่าถึงวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเองจากสภาวะนี้กันค่ะ รอติดตามกันด้วยนะคะ

 

ข้อมูลจาก https://www.goodtherapy.org/learn-about-therapy/issues/self-criticism
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด