รีวิวคอลลาเจนสุดปัง 5 แบรนด์

ต้องยอมรับว่ากระแสคอลลาเจนก็ยังปังไม่หยุดเลยค่ะ แถมช่วงหลังๆ หลายแบรนด์มีแข่งกันพัฒนาสูตร จนเราดูแล้วงงไปหมด แถมยังมีหลายแบบอีก ทั้งเปปไทด์ ไตรเปปไทด์ ไดเปปไทด์ สรุปแล้วเราจะซื้อคอลลาเจนยี่ห้อไหนดีล่ะเนี่ย

คอลลาเจนแต่ละแบบต่างกันยังไง

• คอลลาเจนเปปไทด์ มีโมเลกุลใหญ่กว่า 300,000 ดาลตัน
• คอลลาเจนไตรเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนย่อยจนเหลือกรดอะมิโน 3 ตัวเรียงกัน มีขนาดโมเลกุลเฉลี่ย 500-1000 ดาลตัน
• คอลลาเจนไดเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยโดยเอนไซม์ จนเหลือกรดอะมิโน 2 ตัวเรียงกัน มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 200 ดาลตัล จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและมากกว่าคอลลาเจนชนิดอื่น ๆ

พูดง่ายๆ ก็คือต่างกันที่ขนาดของโมเลกุลนั่นเองค่ะ ซึ่งมีผลต่อการดูดซึมเข้าร่างกาย ถ้ายิ่งโมเลกุลเล็ก ก็จะยิ่งดูดซึมได้ดีขึ้น เห็นผลเร็ว ไม่ต้องกินในปริมาณที่มากเกินไปค่ะ

Zeavita Activ70X Collagen Plus

เป็นคอลลาเจนที่อ่านคุณสมบัติปุ๊บแล้วไม่หยิบไม่ได้ค่ะ เพราะเค้าเป็นคอลลาเจนไดเปปไทด์แบบ 100% ที่มากขึ้น 70 เท่า และมีสิทธิบัตรจากญี่ปุ่นด้วยค่ะ โมเลกุลเค้าเล็กมากๆ ละลายน้ำได้เร็ว แนะนำมากๆ สำหรับใครที่อยากกินแล้วรู้สึกว่าเห็นผลเร็ว ผิวดูใส น่าจะมาจากที่เพิ่มไฮยา รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น พวกริ้วรอย แบบรอยพับที่หน้าดูตื้นขึ้น ยืดหยุ่นขึ้น แถมยังช่วยหล่อลื่นข้อเข่าด้วย เพราะอันนี้คือน้องเค้าจะพุ่งตัวเข้าชั้นผิวและข้อเข่าของเราเลย ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่คาว กินง่าย และที่สำคัญคือไม่อ้วนแน่นอน

VIDA Collagen Pure

คอลลาเจนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เป็นคอลลาเจนเปบไทด์จากปลา 100% เลยค่ะ แล้วก็ยังมีกรดอะมิโนที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำให้ผิวของเราดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย ลักษณะเป็นผงขาวๆ เราสามารถชงกับน้ำร้อนหรือน้ำเย็นก็ได้ค่ะ ไม่มีสีไม่มีกลิ่น ไม่ทำให้รสชาติเครื่องดื่มหรืออาหารเปลี่ยนแน่นอน ถ้ากินอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยให้ผิวกระชับเรียบเนียนขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้น รวมถึงช่วยให้ผมกับเล็บแข็งแรงด้วยค่ะ

Amado Colligi
Hydrolyzed Fish Collagen Tripeptide plus Vitamin C 

ใครดูทีวีบ่อยๆ บอกเลยว่าต้องได้ยินชื่อนี้อย่างน้อยวันละครั้งค่ะ เพราะฉะนั้นก็ต้องเอามาลองซักหน่อย อันนี้เค้าจะเป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ที่สกัดมาจากปลาทะเลน้ำลึกค่ะ ข้อดีของเค้าคือผสมวิตามินซีมาด้วย ซึ่งการที่เรากินคอลลาเจนร่วมกับวิตามินซี ก็จะช่วยให้ร่างกายยิ่งดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีขึ้นค่ะ อันนี้บอกเลยว่ากินแล้วรู้สึกว่าช่วยเรื่องปวดข้ออย่างเห็นได้ชัด แถมผิวก็ยังรู้สึกว่านุ่มลื่น ดูใสขึ้นด้วยค่ะ

CHAME Hydrolyzed Collagen Trupeptide Plus

ใครที่ไม่กล้าลองคอลลาเจนเพียวๆ อาจจะลองเริ่มจากตัวนี้ก่อนก็ได้ค่ะ เพราะเค้าเป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ ที่ที่รสหวานๆ เปรี้ยวๆ ให้ฟีลเหมือนกินน้ำผลไม้ แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่ากินแล้วจะอ้วนเพราะเค้าไม่ได้ใช้น้ำตาลทรายค่ะ ตัวนี้กินแล้วรู้สึกว่าผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้น ดูกระจ่างใสขึ้นค่ะ

Meiji Amino Collagen

ถ้าพูดถึงคอลลาเจนของญี่ปุ่น ก็แน่นอนว่าจะปัดตก Meiji ไปไม่ได้ค่ะ ถึงน้องจะเป็นคอลลาเจนเปปไทด์ แต่น้องก็เป็นแบบโมเลกุลเล็กที่มาพร้อมวิตามินซีในตัว แถมยังมีอาร์จินีน ที่ช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย พอกินอย่างต่อเนื่องเลยช่วยให้ผิวของเราแข็งแรง ลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น แล้วก็ยังแคลอรี่ต่ำอีกด้วยค่ะ

พูดเฉยๆ เราก็อาจจะยังไม่เห็นภาพ ลองมาเทียบกันดูค่ะ ว่าแต่ละยี่ห้อ เค้ามีประสิทธิภาพในการละลายน้ำได้ดีแค่ไหน

ถึงแม้ว่าการกินคอลลาเจนจะมีประโยชน์เยอะ แต่ก็อย่าลืมดูแลตัวเองในส่วนอื่นๆ ด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย ก็จะยิ่งทำให้สุขภาพผิวและสุขภาพร่างกายของเราดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะค่ะ