ไม่ว่าจะเล่นที่บ้าน ที่ร้าน หรือว่าที่ห้องคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย ก็ควรเลือกสถานที่ที่มั่นใจว่าจะมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดี เน็ตค่อนข้างเร็วและคงที่ เพื่อที่เวลาเรียนจะได้ไม่กระตุกหรือรอโหลดนานจนหมดเวลาว่างของเราไปเลย คอร์สออนไลน์จะมีการเรียนการสอนผ่านคลิปวิดีโอ บางครั้งก็ต้องใช้โปรแกรมต่างๆ ช่วยในการเรียนด้วย เน็ตจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เลยค่ะ อย่ามองข้ามเด็ดขาด

     course syllabus หรือประมวลรายวิชาจะบอกเราได้ว่าลักษณะการเรียนวิชานี้เป็นยังไง ต้องทำการบ้านเยอะแค่ไหน อ่านหนังสือนอกเวลามั้ย สอบเป็นยังไงต้องเขียนเรียงความด้วยรึเปล่า รวมไปถึงเนื้อหาที่จะได้รับในการเรียนคอร์สนี้ นอกจากนี้ก็มีตารางเรียนบอกไว้ด้วยว่าคลิปสอนคาบล่าสุดจะมาทุกวันที่เท่าไหร่ และการบ้านควรส่งทุกวันอะไร ซึ่งการรู้ข้อมูลทั้งหมดนี้ก่อนเรียนจะช่วยให้น้องๆ เข้าใจว่าวิชานี้จะเป็นอย่างไรและต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

     ข้อนี้สำคัญมากๆ ค่ะ หลายคนเรียนออนไลน์ได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็เลิกไปเพราะหาเวลาเปิดดูไม่ได้ จริงๆ แล้วต้องล็อกเวลาสำหรับเรียนคอร์สออนไลน์โดยเฉพาะเลยนะคะ ทำเหมือนมันคือการเข้าห้องเรียนจริงๆ ที่อาจารย์เช็คชื่อเลย เช่นล็อกเวลาไว้ว่าทุกคืนวันอังคารตอน 2 ทุ่ม - 4 ทุ่มคือเวลานั่งเรียนคอร์สออนไลน์ ถ้ามีธุระจำเป็นขึ้นมาจริงๆ ที่ทำให้เรียนเวลานั้นไม่ได้ ก็ต้องเลือกมาเลยว่าจะใช้ตอนไหนเป็นเวลาชดเชย และควรชดเชยให้ทันก่อนที่คลิปการสอนตอนใหม่จะมาค่ะ จริงอยู่ที่ข้อดีของคอร์สออนไลน์คือจะเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าจะรอให้ว่างแล้วค่อยเรียนก็คงอีกนานค่ะ เผลอๆ จะขี้เกียจไปก่อน ฉะนั้นควรกำหนดเวลาที่ต้องเรียนไว้เป็นไกด์ไลน์ด้วย

     ต่อเนื่องจากข้อที่แล้วค่ะ นอกจากจัดเวลาสำหรับเรียนแล้ว ให้จัดเวลาสำหรับทบทวน และเวลาสำหรับทำการบ้านด้วย เช่น เรียนคืนวันอังคาร ทบทวนคืนวันพฤหัสบดี และทำการบ้านเช้าวันเสาร์ อะไรประมาณนี้ ก่อนทำการบ้านก็แวะเข้าไปในหน้าเนื้อหาการเรียนเพื่อดูว่ามีอะไรอัพเดทบ้าง อาจารย์มาเพิ่มอะไรรึเปล่า หรือเพื่อนๆ กำลังแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องอะไรกันอยู่มั้ย เผื่อเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการบ้านหรือเนื้อหาในสัปดาห์นั้นค่ะ วิชาไหนมีชั่วโมงเรียนหลายวันในสัปดาห์ก็แบ่งวันเรียนตามได้เช่นกันค่ะ ลองหาดูว่าเราเหมาะสมกับการเรียนแบบไหนและช่วงเวลาใดบ้าง จากนั้นก็พยายามทำตามตารางให้ได้ทุกสัปดาห์

     ข้อนี้เหมาะกับคนที่ลงเรียนวิชาแบบต้องการวุฒิค่ะ นั่นคืออาจารย์จะเก็บคะแนนจากการบ้านแต่ละสัปดาห์เหมือนในห้องเรียนจริงๆ ดังนั้นถ้ารู้ว่าช่วงไหนจะยุ่งมากๆ จนไม่น่าทำการบ้านทันให้ส่งเมลไปบอกอาจารย์วิชานั้นเพื่ออธิบายให้ท่านฟังค่ะ อาจารย์เข้าใจอยู่แล้วว่าคนที่เรียนออนไลน์ส่วนมากคือคนที่ไม่มีเวลาไปนั่งเรียนแบบปกติ ฉะนั้นมีเหตุการณ์แบบนี้ก็อนุโลมกันให้ได้ค่ะ การบอกล่วงหน้าทำให้อาจารย์ไม่มองว่าเราขาดความรับผิดชอบและอาจารย์จะรอตรวจการบ้านเราด้วยค่ะ แต่ถ้าเลยวันส่งแล้วค่อยมาบอกเนี่ย จะฟังดูเหมือนลืมหรือขี้เกียจทำแล้วหาข้ออ้างทีหลัง มีโอกาสสูงมากที่อาจารย์จะไม่ตรวจและให้คะแนนการบ้านชิ้นนั้น

     ไม่ควรนั่งเรียนหน้าคอมพิวเตอร์ที่ตั้งกลางบ้านและมีน้องวิ่งเล่นไปมาอยู่ข้างหลังนะคะ เพราะจะทำให้เราไม่มีสมาธิและเหมือนนั่งฟังผ่านๆ โดยไม่มีอะไรเข้าหัว ควรจัดห้องนั่งเรียนให้ดี แต่ถ้าต้องใช้คอมส่วนกลางของบ้านจริงๆ ก็บอกคนในบ้านก่อนว่าต้องขอเวลาเรียนจริงๆ ให้ทุกคนพยายามรบกวนให้น้อยที่สุด ส่วนคนที่มีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวในห้องตัวเองก็ไม่ควรนอนเรียนค่ะ ต้องบังคับตัวเองให้นั่งเรียน และมีพื้นที่ว่างบนโต๊ะสำหรับจดเนื้อหาลงสมุดด้วย คิดซะว่าเรากำลังนั่งเรียนในห้อง แต่จะใส่ชุดนอนนั่งเรียนก็ได้

     แม้จะนั่งเรียนอยู่คนเดียวในห้องก็สามารถพูดคุยกับคนอื่นได้ค่ะ น้องๆ สามารถส่งข้อความผ่านเว็บไซต์ที่เรียนไปหาอาจารย์เพื่อสอบถามข้อสงสัยได้ หรือจะคุยกับเพื่อนคนอื่นในวิชานั้นก็ได้ เว็บเรียนออนไลน์จะมีฟังก์ชั่นนี้ไว้ให้อยู่แล้ว แม้แต่เรื่องที่เข้าใจแล้วก็นำไปคุยได้เช่นกันเพื่อดูมุมมองจากผู้คนหลากหลายที่มา เป็นการเปิดโลกให้เราเห็นมากขึ้นด้วยค่ะ

     ถ้าไม่สบายหนักๆ ก็ควรพักค่ะ ไม่ควรมานั่งฟังแบบเบลอๆ จะเปลืองเวลาและเปลืองเน็ตไปเปล่าๆ ควรรอให้หายดีแล้วรีบกลับมาเรียน ถ้ามีปัญหาหรือเครียดเรื่องอะไรอยู่ก็ควรไปหาอะไรทำให้สมองปลอดโปร่งก่อนเช่นกัน เมื่อเรารู้สึกสดใสแข็งแรงเราก็จะกระตือรือร้นอยากเรียน ทำให้รับความรู้ได้ดีมากกว่าค่ะ อีกอย่างคือถ้าเรียนๆ อยู่แล้วตื้อๆ ขึ้นมาก็พักซัก 10 นาที ไปหาของกินหรือเล่นเกมคลายเครียดแล้วค่อยกลับมาลุยต่อค่ะ

     หลายคนฟังอาจารย์สอนในคลิปก็เข้าใจดีอยู่แล้วจึงไม่ค่อยจดอะไร แต่อันที่จริงเราควรจดเนื้อหาสำคัญๆ เอาไว้บ้างนะคะ เพื่อเป็นคู่มือความรู้ในฉบับของเรา จะเขียนหรือพิมพ์สรุปก็แล้วแต่ถนัดค่ะ นอกจากนี้ถ้ามีชีทอะไรให้ดาวน์โหลดมาประกอบการเรียนเพิ่มก็ควรจะปริ้นท์ลงกระดาษด้วย เผื่อต้องเขียนอะไรเพิ่มลงไป ยิ่งถ้าลงวิชาต่อเนื่องกันเราก็จะได้มีเนื้อหาไว้ย้อนกลับมาดู

     การเรียนออนไลน์ก็เหมือนการเรียนปกติค่ะ พอถึงจุดหนึ่งเราก็จะรู้สึกเบื่อ ขี้เกียจ ไม่อยากฟังภาษาอังกฤษยากๆ แล้ว ฉะนั้นก่อนเรียนให้คุยกับตัวเองให้ดีก่อนว่าเราจะเรียนวิชานี้ไปทำไมหรือเรียนไปเพื่ออะไร เช่นลงเรียนวิชาไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเพื่อฝึกไวยากรณ์ และจะนำไวยากรณ์นั้นไปใช้เขียนเรียงความเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย เพื่อให้ได้เรียนคณะในฝันและจบมาได้ทำงานที่หวัง แล้วจะจดจุดประสงค์ในการเรียนเอาไว้เลยก็ได้นะคะ พอเบื่อหรือเซ็งขึ้นมาก็หันไปดูเป้าหมายของเรา ทีนี้ก็จะฮึดสู้ตั้งใจเรียนขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่ง

     การเรียนคอร์สออนไลน์อาจจะเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่ต้องจริงจังมากก็ได้ ทั้งที่ถ้าเราตั้งใจทำมันให้เต็มที่มันจะส่งผลดีกับตัวเราเอง แม้จะเป็นคอร์สที่ไม่ได้ประกาศนียบัตรแต่ก็ถือว่ายังเป็นคอร์สที่ให้ความรู้เราอยู่ ไหนๆ ก็สละเวลาและอินเทอร์เน็ตให้กับมันแล้ว ก็ควรจะทำให้ออกมาดีที่สุดนะคะ