'โบนัส' นักเรียน ม.2 ผู้สอบ IELTS ได้ระดับ 8.0!! กับความฝันอยากเป็นนักการทูต

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com หลายคนน่าจะได้เห็นข่าวของนักเรียนม.2 คนหนึ่งที่สอบ IELTS ได้ถึงระดับ 8.0 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ เลยค่ะ พี่พิซซ่า ก็เลยจะพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกับ "น้องโบนัส" เจ้าของคะแนนนี้กันค่ะ
      
     ขออธิบายก่อนว่า ข้อสอบ IELTS เป็นข้อสอบที่นักเรียนต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ต้องสอบเพื่อนำคะแนนนี้ไปยื่นใช้สมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ โดยประเทศแถบยุโรปและออสเตรเลียจะนิยมใช้ IELTS ในขณะที่ฝั่งอเมริกานิยมใช้ TOEFL สำหรับคะแนนเต็มคือ 9.0 วัดทักษะครบทั้งฟัง พูด อ่าน และเขียน (แต่ละพาร์ทก็มีคะแนนเต็ม 9.0 เช่นกัน) อย่างมหาวิทยาลัยดังๆ ระดับโลกมักกำหนดว่าผู้สมัครต้องได้คะแนนขั้นต่ำที่ 7.0 ค่ะ


 

แนะนำตัวกันสักนิด

     สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Dek-D.com ผมเด็กชายชวัลวิทย์ ภูมิสะอาด หรือ "โบนัส" ครับ กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.2/14 โครงการ English Program โรงเรียนขอนแก่นวิทยายนครับ โครงการ English Program ก็คือจะได้เรียนทุกวิชาเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ยกเว้นวิชาภาษาไทยวิชาเดียวเท่านั้นครับ

ทำไมถึงสอบ IELTS ตั้งแต่ตอนนี้

     ผมอยากจะลองวัดความรู้ภาษาอังกฤษของตัวเองดูครับว่าเราอยู่ในระดับไหนแล้ว พอมีโอกาสก็เลยสมัครสอบ IELTS ไปเลย แต่จริงๆ ก็วางแผนว่าอยากจะไปเรียนต่อมัธยมปลายที่ประเทศอังกฤษอยู่แล้วด้วยครับ เพราะผมอยากจะเรียนปริญญาตรีต่อที่อังกฤษด้วยเลย ผมอยากเป็นนักการทูตครับ ก็คิดไว้ว่าอยากเรียนต่อสาขา International Law ที่มหาวิทยาลัย Cambridge หรือไม่ก็ Oxford ครับ


ฝึกฝนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เมื่อไหร่

     ตอนประถมผมได้เรียนในโรงเรียนสองภาษาครับ (Bilingual School) พอขึ้นมัธยมก็ได้เรียนในโครงการ English Program อีก แต่ผมก็ฝึกฝนนอกห้องเรียนอย่างสม่ำเสมอด้วยนะครับ ผมมักจะดูช่องความรู้ต่างๆ ใน Youtube ที่เป็นช่องภาษาอังกฤษครับ อย่างช่อง Crash Course หรือช่องอื่นๆ ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ คือผมชอบเรียนวิชาสังคมศาสตร์กับประวัติศาสตร์มากๆ เลยครับ แต่ผมยังไม่เคยไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศนะครับ

บรรยากาศการสอบ IELTS

     ผมเรียน Intensive Course หรือคอร์สเร่งรัดที่ติวสอบ IELTS ด้วยนะครับ เพราะอยากจะรู้ว่าข้อสอบจะเป็นยังไง จะถามในแนวไหนบ้างครับ วันสอบตื่นเต้นเล็กน้อยแต่ก็โอเคครับ จริงๆ ก็คาดคะเนคะแนนไปคร่าวๆ แล้วแหละว่าน่าจะได้ประมาณไหน ตอนทำข้อสอบจริงๆ ก็เหมือนจะพอรู้ตัวอยู่ คะแนนที่ออกมาก็เลยไม่ค่อยต่างจากที่คาดไว้เลยครับ


     อย่างข้อสอบ Writing กับ Speaking ก็ไม่ได้ยากกว่าที่คิดนะครับ คือตัวภาษาก็มีอยู่เท่านั้นแหละ แต่จะวัดกันที่ความรู้หรือไม่รู้เกี่ยวกับหัวข้อที่ได้มามากกว่าครับ ข้อสอบ Writing Task 1 ได้เรื่องความต่างของผังเมืองในช่วงเวลาต่างๆ ส่วน Task 2 ได้โจทย์ว่าทำไมเด็กจบมัธยมศึกษาถึงไม่มีทักษะในการบริหารเงิน ด้วยความที่ผมยังอายุน้อย ยังไม่ค่อยมีทักษะคิดวิเคราะห์พอที่จะตอบและให้เหตุผลในหัวข้อนี้ได้ ก็เลยจะยากตรงนี้นี่แหละครับ แต่อย่าง Speaking คำถามข้อสุดท้ายผมได้โจทย์ว่าระหว่างหนังสือประวัติศาสตร์กับนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ อย่างไหนดีกว่ากัน ผมชอบประวัติศาสตร์และชอบอ่านหนังสือเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยเหมือนกับโชคดีที่ได้หัวข้อที่สามารถพูดได้เต็มที่พอดีเลยครับ

นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว มีทักษะภาษาอะไรอีกบ้าง

     ผมได้ภาษาจีนกลางเล็กน้อยครับ เพราะภาษาจีนอยู่ในหลักสูตรสมัยเรียนประถมด้วย นอกจากนี้ก็ได้ภาษาฝรั่งเศสครับ อันนี้เป็นความสนใจส่วนตัวครับ

จริงๆ เป็นคนเนิร์ดไหม

     ผมก็ไม่ได้เอาแต่เรียนนะครับ 55555 มีงานอดิเรกค่อนข้างเยอะเลยแหละ แต่จะต้องแบ่งเวลาให้เป็นครับ ถ้าเป็นช่วงเปิดเทอมผมก็จะมีหลักง่ายๆ ว่าต้องแบ่งเวลาทบทวนบทเรียนเป็น 2 เท่าของเวลาเล่นครับ แต่ถ้าปิดเทอมก็จะเพิ่มเวลาเล่นให้มากขึ้น ก็มีเล่นเกมบ้างนะครับ แต่งานอดิเรกส่วนมากก็จะเป็นการอ่านหนังสือหรือวาดภาพครับ ถ้าเล่นกีฬาก็ขี่ม้ากับยิงธนู ส่วนดนตรีก็เปียโนกับไวโอลินครับ นอกจากนี้ผมก็เป่าแคนได้ด้วยนะครับ


ไอดอลในการเรียนและการใช้ชีวิต

     พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นไอดอลของผมในเรื่องของความเพียรเลยครับ อีกท่านหนึ่งคือคุณลุงท่านหนึ่งของผมครับ ท่านเป็นศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ผมอยากเรียนต่อที่นี่เลยครับ

อยากฝากอะไรถึงเพื่อนๆ ที่กำลังฝึกฝนภาษาอังกฤษ

     ภาษาอังกฤษไม่ยากนะครับ ถ้าอยากจะทำได้จริงๆ และตั้งใจฝึกฝนเยอะๆ ยังไงก็สามารถเก่งได้ครับ ยิ่งสมัยนี้การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่ายมาก แถมยังเข้าถึงฟรีได้ด้วย เช่นคลิปมีประโยชน์ต่างๆ ใน Youtube ฉะนั้นถ้าตั้งใจจริงๆ ทุกคนก็สามารถเก่งได้ครับ



     แอบสารภาพตามตรงเลยค่ะว่า ตอนแรกเห็นคะแนนก็นึกว่าน้องโบนัสจะเป็นแนวเด็กเรียนหรือเนิร์ด แต่จริงๆ แล้วเป็นคนร่าเริงและน่ารักมากๆ ที่สำคัญคือ จากการพูดคุยทำให้รับรู้ได้เลยว่า น้องเป็นเด็กที่ขยัน มีทัศนคติที่ดี และอารมณ์ดีมากๆ เลยค่ะ ใครที่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษก็ลองใช้วิธีที่น้องโบนัสแนะนำมาได้เลยนะคะ น้องโบนัสบอกว่าไม่หวงค่ะ ^^ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณคุณแม่น้องโบนัสและน้องโบนัสมากๆ ที่สละเวลามาให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ค่ะ
พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด

7 ความคิดเห็น

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
tim_supatson Member 6 ต.ค. 60 22:25 น. 3

ก้เลานั้นมันคนละชั้นนนนนนน อยู่ม.2เหมือนกัน พูดEng.ได้เหมือนกัน แต่ทำไมมันต่างกันลิบลับเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หือออออออออออออออออ #อัจฉริยะะะะะhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-01.png

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
นาว 4 ก.ค. 61 18:16 น. 6

ฮ่าๆๆๆๆๆ นิสัยเราเหมือนกันเปี๊ยบเลยนะ ม.2 เหมือนกันด้วย ^^ #เหมือนทุอย่างอะ เเต่ตรงจีนกลางต้องเพิ่มเป็นญี่ปุ่นเเละเกาหลีเข้าไปด้วย ส่วนฝรั่งเศสชอบ(มากๆ)เหมือนกัน

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด