‘JFT-Basic’ ข้อสอบวัดระดับแบบใหม่ เพื่อคนอยากใช้ชีวิต&ทำงานที่ญี่ปุ่น! (มีรอบสอบ ม.ค.64)

สวัสดีค่ะชาว Dek-D เมื่อพูดถึง "ญี่ปุ่น" เรามักได้ยินความดีงามที่บอกต่อกันเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ความมีระเบียบของผู้คนและบ้านเมือง รวมถึงความเจริญรอบด้านทั้งการศึกษา อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี ฯลฯ จึงเป็นเหตุผลที่คนไทยหลายคนพยายามเรียนภาษาเพื่อพาตัวเองไปเปิดประสบการณ์ใช้ชีวิตที่นั่นสักครั้ง

สำหรับเรื่องการวัดทักษะภาษาญี่ปุ่น ส่วนใหญ่คนจะรู้จักการสอบ JLPT (Japanese-Language Proficiency Test)  แต่เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งมีการสอบแบบใหม่ที่ตอบโจทย์อย่างมากสำหรับคนที่อยากทำงานและใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น นั่นคือ "JFT-Basic" (ใช้ยื่นขอวีซ่าแรงงานทักษะเฉพาะทาง 1 ได้ด้วยนะคะ) เดี๋ยววันนี้เราจะมาสรุปให้ฟังง่ายๆ ทั้งคุณสมบัติ รูปแบบการสอบ ระดับคะแนน ค่าสอบ แถมมีรีวิวจากผู้ที่เคยสอบจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย เลื่อนลงมาเก็บข้อมูลกันเลยค่ะ~

รู้จัก JFT-Basic กันก่อน

JFT-Basic = The Japan Foundation Test for Basic Japanese  คือข้อสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสารกับคนญี่ปุ่น และเพื่อการใช้ชีวิตรวมถึงทำงานในประเทศญี่ปุ่น  โดยข้อสอบจะยึดตามมาตรฐานของ Japan Foundation  และวัดผลภายใต้แนวคิดของ  CEFR (Common European Framework of Reference for Languages: Learning, Teaching, Assessment) ว่า "ผู้สอบสามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นทำอะไรได้" และ "ทำได้ในระดับใด"  

โดยระดับและความสามารถทางภาษาจะแบ่งออกเป็น 6 ระดับดังนี้ค่ะ

หากผู้เข้าสอบสามารถทำคะแนนได้ถึงระดับ A2 ซึ่งก็คือสอบ JFT-Basic ผ่าน (เทียบเท่า N4 ของ JLPT) ก็จะผ่านเกณฑ์เรื่องทักษะภาษาสำหรับยื่นขอวีซ่าแรงงานทักษะเฉพาะทาง 1 ได้ ความดีงามคือรู้ผลทันทีหลังสอบเสร็จ ซึ่งภายใน 5 วันหลังทดสอบ เราสามารถพิมพ์ใบรับรองได้จากระบบผ่านลิงก์นี้ค่ะ  http://ac.prometric-jp.com/testlist/jfe/index.html   

สอบทางคอมพ์ฯ แบบส่วนตัวสุดๆ 
ความกดดันน้อยกว่า!

การสอบ JFT-Basic จะเป็นระบบ CBT (Computer Based Testing) = ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อดูข้อสอบ ตอบคำถาม และฟังเสียงผ่านหูฟังที่ติดตั้งแต่ละบูธ สมมติเรากดปุ่่ม Play ก็จะได้ยินเสียงโจทย์ และสามารถฟังได้เพียง 2 รอบเท่านั้น ส่วนอื่นๆ บนหน้าจอก็จะแสดงผลทั้ง พาร์ตการสอบ, เวลาที่เหลือ, ความคืบหน้าการทำข้อสอบของเรา และคะแนนจะปรากฎบนจอคอมพ์ทันทีหลังจากสอบเสร็จ

ทั้งนี้ คำถามบนข้อสอบจะเป็นภาษาอังกฤษในตอนแรก แต่ถ้าเรากดปุ่ม Your Language จะอ่านคำถามเป็นภาษาไทยได้ (ทั้งหมดมี 9 ภาษาตามประเทศที่จัดสอบค่ะ)

เพื่อให้เห็นภาพ เรามาดูตัวอย่างหน้าจอภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษกัน

......................................

ตัวอย่างหน้าจอภาษาญี่ปุ่น

.....................................

ตัวอย่างหน้าจอภาษาอังกฤษ

จำนวนข้อ & เวลาสอบ

ข้อสอบมี 60 ข้อ มีเวลา 60 นาที ไม่จำกัดเวลาทำข้อสอบในแต่ละส่วน  แบ่งออกเป็น 4 พาร์ต ดังนี้

1. พาร์ตตัวหนังสือและคำศัพท์
2. พาร์ตบทสนทนาและสำนวน
3. พาร์ตการฟัง
4. พาร์ตการอ่าน

แม้จะยังไม่มีการตีพิมพ์หรือเผยแพร่ข้อสอบในรอบที่ผ่านมา แต่สามารถเช็กตัวอย่างได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ

พาร์ตตัวหนังสือและคำศัพท์

พาร์ตบทสนทนาและสำนวน

พาร์ตการฟัง

รีวิวจากผู้สอบจริง!

พอเล่ารูปแบบการสอบให้ฟังคร่าวๆ แล้ว เราก็อยากหยิบรีวิวจากผู้สอบ JFT-Basic มาฝากให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นค่ะ โดยผู้รีวิวมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นระดับกลาง ผ่านการสอบ JLPT ในระดับ N3 มาแล้ว มีแชร์ข้อเปรียบเทียบสั้นๆ ให้ประกอบการตัดสินใจด้วย

“ผมเองเคยเที่ยวญี่ปุ่นมา 9 ครั้งแล้ว ชอบทั้งธรรมชาติและความเป็นญี่ปุ่นเลยอยากลองไปทำงานไปใช้ชีวิตดู ซึ่ง JFT-Basic ถือว่าตอบโจทย์คนอยากทำงาน เพราะเราเอาผลสอบไปยื่นวีซ่าแรงงานทักษะเฉพาะทางได้ มีจัดสอบเยอะ สอบเสร็จรู้ผลทันที แถมเดินทางไปสอบสะดวกและเป็นที่เดียวกับการสอบทักษะ (ลงตัวมากกกก) 

ปรากฏว่าสอบผ่านทั้ง 2 อย่างเลยครับ โดยก่อนหน้าจะไปสอบ JFT-Basic ผมก็มีไปเช็กตัวอย่างข้อสอบว่าเค้าจะออกประมาณไหน ด้วยความที่เคยเรียนมาบ้าง 300-400 ชั่วโมง ก็รู้สึกไม่ได้ยากมากครับ" 
 

"ถ้าให้เทียบกับระดับ N4 ของ JLPT ผมว่า JFT-Basic ง่ายกว่าเพราะการสอบนี้ไม่เน้นไวยากรณ์ แต่จะไปเน้นชีวิตประจำวันใกล้ๆ ตัวหรือพวกกฎการเข้าสังคมเป็นส่วนใหญ่ อย่างพาร์ตอ่านก็สั้นกว่า ตัวคันจิมีน้อย ส่วนใหญ่เป็นฮิรากานะ ถ้ามีพื้นฐานอยู่แล้วผมว่าคงไม่ต้องใช้เวลานานมาก (อันนี้ขึ้นอยู่กับคลังศัพท์เราด้วยนะ) หรือถ้าพาร์ตฟังบางทีแค่เห็นภาพก็ตอบได้แล้ว แถมใช้หูฟังส่วนตัว รวมสมาธิแล้วค่อยกดก็ได้ ฟังได้ 2 ครั้ง ไม่ต้องลุ้นลำโพงไม่ดี เสียงแอร์ดังกลบ บริหารเวลาเองได้เลย"

สนใจสอบ JFT-Basic
เช็กรายละเอียดและวิธีสมัครกัน!

ในเมื่อเป็นการสอบที่สะดวกรวดเร็ว เน้นการสื่อสาร และให้อิสระในการบริหารเวลาอย่างมาก ก็คุ้มที่จะลองสนามสักครั้งจริงๆ ค่ะ ถ้าใครฝึกภาษามาพอสมควรแล้วอยากลองสนามหรือสอบ JFT-Basic เพื่อไปใช้ยื่นวีซ่าแรงงานทักษะเฉพาะทาง  รีบศึกษาข้อมูลและเตรียมพร้อมให้เต็มที่นะคะ เพราะรอบต่อไปก็คือช่วงปลายเดือน ม.ค.64 นี้แล้ว มาดูรายละเอียดด้านล่างนี้กันค่ะ!

ใครสอบ JFT-Basic ได้บ้าง?

• เป็นชาวต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่
• มีจุดประสงค์หลักเพื่อเข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่น
• ผู้ที่ไม่ได้ต้องการยื่นขอสถานภาพ “แรงงานทักษะเฉพาะทาง 1” ก็เข้าสอบได้เช่นกัน
• ผู้ที่สอบแล้วไม่สามารถเข้ารับการสอบใหม่อีกครั้งได้ภายในระยะเวลา 30 วันนับจากวันรุ่งขึ้นหลังการสอบครั้งล่าสุด

จำนวนที่จัดสอบ 6 รอบต่อปี

ค่าสมัครสอบ 1,000 บาท

สถานที่สอบ ห้อง STN10988  ชั้น 6 อาคาร 2 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า  ถ.มีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. 
 

(เช็กแผนที่และการเดินทางที่นี่)