พาไปรู้จัก ‘King’s College London’ พร้อมส่องหลักสูตรป.โท และเรื่องน่ารู้รอบรั้วมหา’ลัย!

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ทุกคน แน่นอนว่าก่อนจะไปเรียนต่อต่างประเทศได้ หลายคนก็คงวางแผนและหาข้อมูลกันอย่างดี โดยสิ่งแรกที่ต้องแพลนก็คือประเทศที่จะไปเรียนต่อ ซึ่งถ้าเปิดเว็บจัดอันดับประเทศน่าเรียนทั้งหลาย “สหราชอาณาจักร” ก็เป็นหนึ่งจุดหมายที่หลายคนสนใจ เพราะประเทศแห่งนี้มีสเน่ห์เหลือล้น ทั้งด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ อีกทั้งยังมีมหาวิทยาลัยท็อปๆ ที่ได้รับรางวัลการันตีด้านการศึกษามากมาย

และหนึ่งในสถาบันชื่อดังของ UK ที่ พี่ปุณ อยากแนะนำให้น้องๆ ได้รู้จักก็คือ ‘King’s College London’ ที่ได้รับการจัดอันดับโดย QS World University Rankings 2022 ให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับที่ 35 ของโลก ว่าแล้วก็ตามไปดูหลักสูตรการเรียนการสอน พร้อมกิจกรรมสุดปังของที่นี่กันเลยดีกว่า!

Photo credit: King’s College London (Facebook)
Photo credit: King’s College London (Facebook)

‘King’s College London (KCL)’ เป็น 1 ใน 10 สถาบันการศึกษาที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร ก่อตั้งขึ้นในปี 1829 โดยสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 4 และดยุคแห่งเวลลิงตัน อย่างที่เห็นกันในชื่อ สถาบันแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน และมีวิทยาเขตย่อยรวม 5 แห่ง โดยนอกจากหลักสูตรการเรียนการสอนที่หลากหลายและได้คุณภาพแล้ว KCL ยังโด่งดังด้านงานวิจัยที่ตอบโจทย์และสามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกของเราในศตวรรษที่ 21 นี้ได้อีกด้วย

Photo credit: King’s College London (Facebook)
Photo credit: King’s College London (Facebook)

ส่องหลักสูตรป.โท
เลือกเรียนได้หลากหลายในสไตล์ที่ชอบ

หลักสูตรปริญญาโทของ ‘King’s College London’ จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก นั่นก็คือ การเรียนเพื่อต่อยอดไปใช้ในการสอนและหลักสูตรการทำวิจัย โดยผู้เรียนสามารถเลือกเรียนในสาขาที่สนใจได้อย่างเสรี ทั้งสาขา ‘Art and Sciences’ ศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่จะมีวิชาเลือกแยกย่อยต่างๆ อย่างเช่น

  • Culture, Media & Creative Industries
  • Comparative Literature
  • Digital Humanities
  • Education, Communication & Society
  • King's Business School
  • Political Economy
Photo credit: King’s College London (Facebook)
Photo credit: King’s College London (Facebook)

และสาขา ‘Health and Life Sciences’ ชีววิทยาศาสตร์และการดูแลสุขภาพ ที่จะรวมวิชาด้านการแพทย์ไว้มากมาย อย่างเช่น

  • Biomedical & Molecular Sciences Research
  • Cardiovascular Research
  • Children’s Nursing
  • Clinical Pharmacology
  • Dentistry, Oral & Craniofacial Sciences
  • Psychiatry, Psychology & Neuroscience

โดยไม่ว่าผู้เรียนจะเลือกเรียนในหลักสูตรหรือสาขาไหนก็มักจะเริ่มภาคเรียนใหม่ในช่วงเวลาเดียวกันนั่นก็คือ เดือนกันยายน ส่วนใครสะดวกเรียนทางไกลทางสถาบันก็เปิดหลักสูตร E-learning ใน 3 สาขา ได้แก่ Dentistry, Law, และ War Studies 

Photo credit: King’s College London (Facebook)
Photo credit: King’s College London (Facebook)

Student life 
เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น!

เพราะในรั้วมหาวิทยาลัยไม่ได้มีแค่เรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว! นอกจากหลักสูตรการเรียนการสอนที่เข้มข้นแล้ว King’s College London ยังสนับสนุนให้นักศึกษาใช้ชีวิตวัยเรียนอย่างเต็มที่ สนุกกับทุกกิจกรรม และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ โดยพื้นที่ส่วนกลางที่นักศึกษาส่วนใหญ่เลือกใช้เวลาว่างมารวมตัวกันก็จะมีทั้ง 

  • Sport clubs - พื้นที่ออกกำลังกาย 5 แห่งภายในมหาวิทยาลัยและโซนหอพัก
  • Maughan Library - ห้องสมุดกลาง ขุมทรัพย์ความรู้ที่อยู่มานานกว่า 700 ปี
  • Student media - พื้นที่สื่อของมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ปล่อยของ
  • Volunteering opportunities - พื้นที่เปิดประสบการณ์ทำงานร่วมกับชุมชนและหลากหลายองค์กรใหญ่
  • Food, bars, and shops - พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่มาพร้อมกับร้านค้า บาร์ และคาเฟ่มากมาย
Photo credit: KCLSU website
Photo credit: KCLSU website

5 เรื่องน่ารู้ในรั้ว King’s College London

พาไปส่องมุมอินไซด์ในรั้วมหาวิทยาลัยที่เหล่าว่าที่นักศึกษา KCL ควรรู้เอาไว้!

1. มาสคอต ‘Reggie’ หรือสิงโตแดงอันเป็นที่รักแห่ง KCL ถือกำเนิดขึ้นในปี 1920 หลังจากนั้นก็มีอีกหลายรุ่นหลายเวอร์ชันทยอยออกกันมามากมาย ทั้งเวอร์ชันที่กำลังทักทายนักเรียนนักศึกษาที่เดินผ่านไปมาบนบันไดข้าง The Great Hall of King’s และ Reggie สีเงินขนาดเล็กที่ใช้มอบในพิธีสำเร็จการศึกษาและงานเฉลิมฉลองอื่นๆ 

2. King’s College London (KCL) และ University College London (UCL) เป็นสองมหาวิทยาลัยเก่าแก่ในลอนดอนที่เคยมีประวัติบาดหมางกันยาวนานหลายทศวรรษ และปี 1922 ก็เป็นจุดเริ่มต้นของ “สงครามมาสคอต” มีการสลับกันลักพาตัวมาสคอตของอีกฝ่าย สร้างความเสียหายอย่างหนักอยู่หลายต่อหลายครั้งเลยล่ะค่ะ

3. สมาพันธ์นักศึกษาแห่ง KCL ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานแสดงคอนเสิร์ต ‘Foo Fighters’ วงดนตรีร็อกสัญชาติอเมริกันจาก Seattle ที่โด่งดังอย่างมากในปี 1994 ที่ไนท์คลับของมหาวิทยาลัย แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันพื้นที่นี้ได้กลายเป็นห้องเรียนไปแล้ว

Photo credit: KCLSU website
Photo credit: KCLSU website

4. คฤหาสน์ ‘Somerset House’ เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ซึ่งมีอายุกว่า 240 ปี โดยตั้งแต่ปี 2009 พื้นที่บริเวณ ‘East Wing’ ของอาคารนี้กลายมาเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ใช้จัดการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษากฎหมาย ‘The Dickson Poon Law School’ นั่นเอง

5. ‘The Gordon Museum of Pathology’ เป็นพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของ KCL แม้ว่าภายในจะมีสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และภาพวาดต่างๆ รวมอยู่มากมาย แต่สถานที่แห่งนี้กลับถูกใช้เป็นห้องเรียนสำหรับนักศึกษาแพทย์พยาบาล และไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม

Photo credit: King’s College London (Facebook)
Photo credit: King’s College London (Facebook)

เป็นยังไงกันบ้างคะ? หลังจากได้ส่องหลักสูตรการเรียนรู้ทั้งในและนอกคลาสของสถาบันระดับโลกอย่าง ‘King’s College London’ กันไปแล้ว สำหรับใครที่สนใจเรียนต่อที่นี่และกำลังมองหาทุนการศึกษาดีๆ KCL เขาก็มีทั้งทุนป.ตรีและป.โทให้เพียบ นอกจากนี้นักศึกษาต่างชาติอย่างเรายังสามารถสมัครผ่านทุน Chevening หรือทุนรัฐบาล UK ได้อีกด้วย น้องๆ คนไหนอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมตัวและขั้นตอนการสอบทุนก็ตามไปอ่านรีวิวกันต่อได้ที่นี่เลย

เว็บไซต์มหาวิทยาลัยSources: https://www.kcl.ac.uk/study/why-kings  https://www.kclsu.org/news/article/6015/Ten-interesting-facts-about-Kings/
พี่ปุณ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด