เปิดความต่าง 6 เวทีนางงามแกรนด์สแลม เจาะลึกแบบอินไซต์ ไม่จมไม่หายไม่ตายลาติน!

THAILAND~ THAILAND~ สวัสดีครับชาว Dek-D ทุกคน มีใครชอบดูการประกวดนางงามบ้างมั้ยเอ่ย? ต้องบอกว่าหลายปีมานี้แต่ละเวทีการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาสาวงามได้รับความนิยมสุดๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยแต่ละการประกวดนอกจากจะหาคนที่สวยและดูดีแล้ว ยังต้องการคนที่มีความเป็นผู้นำและเป็นกระบอกเสียงให้กับประเด็นต่างๆ ในสังคม เช่น การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ การลดปัญหาความรุนแรงในสังคม การกุศลเพื่อคนด้อยโอกาส การปลุกจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่เพื่อเอนเตอร์เทนให้คนดูสนุกไปกับโชว์บนเวที 

สำหรับมือใหม่หรือคนที่เพิ่งเคยดูนางงาม เชื่อว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่าแต่ละเวทีแตกต่างกันยังไง และมีจุดเริ่มต้นจากประเทศไหนบ้าง วันนี้พี่มิวนิคจะพาไปรู้จักกับ 6 เวทีนางงามระดับแกรนด์สแลมแบบอินไซต์ จะได้ตามไปเชียร์สายสะพายไทยแลนด์กันต่อ // เตรียมธงชาติและป้ายไฟให้พร้อม แล้วตามมาส่องกันเลยครับ~

------------------------------------

Miss World

‘Beauty with a Purpose’

มาเริ่มที่เวทีนางงามเก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง Miss World กันก่อนเลยครับ! การประกวดนี้ถูกจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1951 พร้อมกับมีสโลแกนว่า "Beauty with a Purpose" หรือ ‘สวยอย่างมีคุณค่า’ โดยสาวงามจะต้องมีจิตใจดีและทำงานเพื่อสังคมตลอดเวลา ต้องบอกว่าเวทีนี้ให้ความสนใจกับการกุศลและการช่วยเหลือสังคมมากๆ ซึ่ง ‘มงฟ้า’ ก็เป็นดั่งสัญลักษณ์สำหรับการกุศลนั่นเองครับ

ปัจจุบันองค์กร Miss World Ltd. มีผู้ดูแลคือ คุณจูเลีย มอร์ลีย์ (Julia Morley) หรือที่แฟนๆ นางงามเรียกกันว่า ‘ป้าจู’ นั่งแท่นเป็น CEO ขององค์กร บอกเลยหากสาวงามคนไหนเตรียมโครงการการกุศลดีๆ รับรอง #จับใจจู พร้อมคว้ามงฟ้ากลับบ้านแน่นอน~

กิมมิกของมิสเวิลด์ไม่ได้มีแค่โครงการเพื่อสังคม แต่ยังโดดเด่นเรื่องการแข่งขันรอบ Fast Track โดยเปิดพื้นที่ให้สาวงามได้โชว์ของด้านอื่นๆ  เช่น การตอบคำถามและการสัมภาษณ์ (Head to Head Challenge), การแสดงความสามารถพิเศษ (Talent Competition), วัดทักษะด้านกีฬา (Sports Challenge) หรือ สกิลการเดินแบบ (Top Model Competition) ซึ่งทุกกิจกรรมล้วนเป็นคะแนนเก็บสำคัญ และทำให้การประกวดนี้เข้มข้นและน่าติดตามมากขึ้นไปอีก!

สาวงามคนล่าสุดที่หวานจนจับใจจูแล้วคว้ามงฟ้ามาได้สำเร็จคือ ‘คาโรลินา เบียลอฟสกา (Karolina Bielawska)’ ตัวแทนจากประเทศโปแลนด์  ส่วนด้านตัวแทนประเทศไทยที่เข้าใกล้มงที่สุดก็คือ ‘นิโคลีน ลิมศนุกาญจน์’ ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 Miss World ปี 2018 พ่วงด้วยดีกรีควีนแห่งทวีปเอเชียมาครอง เรียกว่าเป็นตำนานที่สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยทั่วประเทศสุดๆ ^^

-----------------------------------

Miss Universe

‘Beautifully Confident’

ข้ามมาที่ฝั่งจักรวาลกันต่อเลยครับ! สำหรับการประกวด Miss Universe หรือ นางงามจักรวาล ก่อตั้งเมื่อปี 1952 เป็นเวทีเพื่อเฟ้นหาตัวแทนสาวงามจากทั่วโลกที่มีความมั่นใจและมีความเป็นผู้นำ ดั่งสโลแกนของกองประกวดที่บอกไว้ว่า “Beautifully Confident” 

นอกจากนี้ทาง Miss Universe ยังพยายามผลักดันประเด็นเกี่ยวกับบทบาทสตรีในสังคมและความเท่าเทียมทางเพศ บอกเลยว่าเวทีนี้เปิดกว้างมากๆ เพราะครั้งหนึ่งเคยให้สตรีข้ามเพศเข้าประกวดได้ เธอคนนั้นชื่อ Ángela Ponce ตัวแทนจากประเทศสเปนในการแข่งขัน Miss Universe 2018 (จัดที่ประเทศไทย) และล่าสุดก็ประกาศกฎใหม่ โดยอนุญาตให้ผู้หญิงที่แต่งงานหรือมีลูกแล้วสามารถเข้าร่วมประกวดได้อีกด้วย

 ต้องบอกว่าประเด็นต่างๆ เหล่านี้ตรงกับวิสัยทัศน์ของ  ‘คุณแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’ สาวข้ามเพศชาวไทยคนแรกที่ได้เป็นเจ้าขององค์กร MUO ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา โดยแม่แอนต้องการนำเสนอเกี่ยวกับ ‘Power of Feminism’ ผ่านการประกวด Miss Universe เพื่อโชว์พลังแห่งผู้หญิงให้โลกได้ประจักษ์ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงแบบไหนก็ตาม

ปิดท้ายที่ผลงานสุดปังของตัวแทนประเทศไทย ซึ่งมี 2 สาวงามที่คว้ามงจักรวาลมาครอบครองก็คือ “คุณอาภัสรา หงสกุล” (Miss Universe 1965) และ “คุณปุ๋ย - ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” (Miss Universe 1988)  และล่าสุดที่ขึ้นแท่นเป็นตำนานอีกคนคือ "แอนโทเนีย โพซิ้ว" ที่สามารถคว้ารองอันดับ 1 Miss Universe 2023 

------------------------------------

Miss Grand International

‘We Are Grand the One and Only’

หากนึกถึงเวทีนางงามที่เต็มไปด้วยโชว์ที่สนุก เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ โปรดักชันสุดอลังการ และการแนะนำตัวแบบเล่นใหญ่ ต้องนึกถึง Miss Grand International (MGI) แน่นอน! แม้ว่าจะเป็นเวทีน้องใหม่ที่จัดครั้งแรกเมื่อปี 2013 แต่ก็เติบโตแบบก้าวกระโดดมากกก และความปังของเวทีนี้ก่อตั้งโดยคนไทย ซึ่งก็คือ ‘คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ ผู้ที่มีประสบการณ์ในแวดวงขาอ่อนมาอย่างโชกโชน จนในที่สุดก็ได้สร้าง MGI ให้เข้าไปอยู่ในใจของแฟนๆ นางงามจากทั่วโลก

ส่วนใครที่อยากคว้ามงทองแห่ง MGI ต้องเป็นผู้หญิงที่มีครบ 3B ซึ่งได้แก่ หุ่นต้องสับ (Body), สวยประจักษ์ (Beauty) และฉลาดหลักแหลม (Brain) ที่สำคัญต้องเป็นคนที่ต่อต้านการเกิดสงครามและความรุนแรงด้วย (Stop the War and Violence) 

และอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าการประกวดมิสแกรนด์นั้นจัดหนักในเรื่องโปรดักชัน จัดเต็มทั้งแสงสีเสียง อีกทั้งกิมมิกของนางงามแต่ละคนก็คือการเดินแบบฟาดๆ สับๆ ฉบับตัวแม่โชว์เพอร์ฟอร์แมนซ์แบบไม่ยอมกันสุดๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนทั่วโลกให้การยอมรับ MGI เรียกว่าสมกับสโลแกนที่กล่าวไว้ว่า 'From now on, all areas are grand' (นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์) และ ‘We Are Grand the One and Only.’

ส่วนผู้ชนะในปีล่าสุดได้แก่ อีซาแบลา เมนิง (Isabella Menin) นางงามจากประเทศที่สายสะพายแข็งอย่างบราซิล โดยมี ‘อิงฟ้า วราหะ’ ขวัญใจชาวไทยที่พกความสามารถแบบครบเครื่องจนคว้าอันดับรองหนึ่ง MGI 2022 มาได้สำเร็จ เรียกว่าสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับประเทศ น่าภูมิใจมากๆ เลยครับบบ 

------------------------------------

Miss Supranational

‘Inspirational – Aspirational’

มาต่อที่เวทีจากฝั่งยุโรปกันบ้าง กับการประกวด Miss Supranational หรือที่แฟนนางงามชาวไทยชอบเรียกกันว่า ‘มิสสู่ป่า’ (จริงๆ อ่านว่าซูปรา) เวทีนี้ก่อตั้งเมื่อปี 2009 จัดการประกวดครั้งแรกที่ประเทศโปแลนด์ โดยมี World Beauty Association S.A. เป็นผู้ดูแลจนถึงปัจจุบัน 

จุดประสงค์เวซูปรานอกจากจะเฟ้นหาคนที่มีภาพลักษณ์ดีแล้ว ยังต้องการคนที่มีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา มีความทะเยอะทยานและสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลกโดยไม่มีพรมแดนมากั้น ดั่งสโลแกนขององค์กรที่กล่าวไว้ว่า ‘Inspirational – Aspirational’ ซึ่งอีกหนึ่งจุดเด่นของเวนี้ที่นอกจากจะหาตัวแทนสาวงามแล้ว ยังะมีการจัดการประกวดหนุ่มหล่อ Mister Supranational ควบคู่กันไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของซูปราเลย

ส่วนทำเทียบความปังคือสาวไทยทำผลงานไว้ได้ดีมากกกกก! เพราะในปี 2019 ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ (รอง 1 Miss Universe 2023) เคยสามารถคว้ามง Miss Supranaional มาครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไทย นอกจากนี้ปีอื่นๆ ก็ไม่น้อยหน้า โดยมีรองอันดับ 1 ถึง 3 คน ได้แก่ นันทวัน วรรณจุฑา (ปี 2012), ปรภัสสร วรสิริดา (ปี 2014) และแพรววนิชยฐ์ เรืองทอง (ปี 2022) // บอกเลยสายสะพายไทยแลนด์ในเวนี้แกร่งสุดๆ

------------------------------------

Miss International

‘The Realization of World Peace 
Through Mutual Understanding’

มาส่องเวทีจากแดนปลาดิบกันบ้าง! กับการประกวด Miss International ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1960 โดยมีองค์กร The International Cultural Association and Miss Paris Group (ICA) ภายใต้การบริหารของคุณ อาเกชิ ชิโมมูระ (Akemi Shimomura) เป็นผู้ดูแล

สำหรับการประกวด MI ชูสโลแกนสำหรับสาวงามไว้ว่า "Correct understanding of Japan in the international community" และ "The realization of world peace through mutual understanding" กล่าวคือต้องมีความเข้าใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รักความสงบ และกิริยามารยาทเรียบร้อย (บอกเลยเวนี้ไม่เน้นเดินสับ เน้นอินเนอร์เท่านั้น) พูดง่ายๆ ก็คือผู้ที่จะครองมงจะต้อง ‘หวานจับใจยุ่น’ นั่นเอง 

ถ้าพูดถึงเวทีนี้หลายคนจะมีภาพจำผู้ชนะสวมมงกุฏไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Crown) ที่เป็นเอกลักษณ์สุดๆแต่ในปี 2022 ก็ต้องปิดตำนานไปเพราะว่าได้เปลี่ยนมงใหม่เป็นลายดอกซากุระบานฉ่ำแม้จะแปลกตาแต่ก็สวยปังไม่แพ้แบบเก่าเลย ซึ่งคนที่มาประเดิมมงใหม่นี้ก็คือ Jasmin Selberg สาวงามจากประเทศประเทศเยอรมนี ที่ได้คว้าตำแหน่ง Miss International ปี 2022 ที่ผ่านมา

ส่วนสาวไทยที่ไปสร้างตำนานในเวทีนี้ก็คือ ‘บิ๊น-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์’ เภสัชกรหญิงที่สามารถคว้ามงกุฏไข่มุกมิกิโมโตะใน Miss International 2019 มาให้แฟนชาวไทยได้สำเร็จ นับว่าเป็นมงแรกในเวนี้ (แฟนนางงามไทยก็คือดีใจสุดดด) และความพิเศษก็คือ บิ๊นได้ครองตำแหน่งนี้ถึงสามปีติด! เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้งดจัดการประกวดตั้งแต่ ปี 2019-2021 นั่นเองครับ  // สร้างตำนานเป็นนางงามที่ครองมงกุฎเวทีนี้นานที่สุดไปเลยสิคะ~

-----------------------------------

Miss Earth

‘Beauties for a Cause’

ปิดท้ายกันที่เวทีส่งตรงจากประเทศที่สายสะพายแข็งสุดๆ อย่างฟิลิปปินส์กัน! กับการประกวด Miss Earth หรือนางงามปฐพี ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2001 โดยมีองค์กร Carousel Productions, Inc. เป็นผู้ดูแลจัดการประกวด 

จุดประสงค์หลักของเวทีกล่าวไว้ว่า "Beauties for a Cause" ที่ไม่ได้ตามหาแค่คนที่สวยที่สุดในโลก แต่ยังตามหาผู้นำที่พร้อมทำงานร่วมกับองค์ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นแบบอย่างให้กับทุกคนในการสร้างจิตสำนึกที่ดีและช่วยกันอนุรักษ์ผืนแผ่นดินของเราไว้ (Mother Earth)  

โดยกิมมิกเด่นๆ ของ Miss Earth นอกจากมอบมงให้ผู้ชนะแล้ว ในส่วนของรองอีก 3 คนก็จะได้ตำแหน่งราชินีผู้รักษ์โลก (Elemental Queens) ได้แก่ Miss Earth Air (รองอันดับ 1), Miss Earth Water (รองอันดับ 2) และ Miss Earth Fire (รองอันดับ 3) 

ส่วนผู้ที่ครองมงปีล่าสุดก็คือ ‘Mina Sue Choi’ สาวสวยมากความสามารถจากประเทศเกาหลีใต้  สำหรับสาวไทยที่สร้างผลงานในเวทีนี้ก็ปังไม่แพ้กัน  พาเหรดกันรับตำแหน่งราชินีผู้รักษ์โลกแบบรัวๆ เช่น เอี๊ยม วรรษพร วัฒนากุล (Miss Earth Water 2010), พรฟ้า ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ (Miss Earth Water 2013) และใบตอง จรีรัตน์ เพชรโสม (Miss Earth Fire 2021)

------------------------------------

เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 6 เวทีนางงามระดับแกรนด์สแลมที่พี่ได้พาไปรู้จัก มีเวไหนที่น้องๆ ติดตามกันบ้างมั้ย? เราจะเห็นได้ว่าการประกวดนางงามไม่ได้ค้นหาเพียงแค่คนภาพลักษณ์ดูดี แต่ยังหาคนที่จะมาเปลี่ยนแปลงให้สังคมเราดีขึ้นอีกด้วย 

 พี่มิวนิคก็หวังว่าเวทีนางงามจะช่วยให้น้องๆ ได้รับแรงบันดาลใจในชีวิตและความสนุกไปพร้อมกันนะครับ วันนี้พี่ต้องขอตัวไปเชียร์สายสะพายไทยแลนด์ต่อแล้ว Bye~ Bye~