ส่องความอลัง! ‘Harrow School’ รร.ประจำชื่อดังในอังกฤษที่เหล่าอีลีทมักส่งลูกไปเรียน

สวัสดีค่าน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคน ถ้าพูดถึงโรงเรียนประจำแล้ว มีหลายแห่งในประเทศอังกฤษที่ติดท็อประดับโลกมากมาย ซึ่งรวมถึง “Harrow School” โรงเรียนประจำชายล้วนเก่าแก่ในประเทศอังกฤษที่พี่ครีมจะพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกันในวันนี้ บอกเลยว่าดีกรีไม่ธรรมดา เพราะว่าเป็นโรงเรียนที่เหล่าราชวงศ์และกลุ่มคนอีลีทต่างพากันส่งลูกๆ ไปเรียนกันเยอะมากกก แถมที่นี่ยังเป็นหนึ่งในที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter อีกด้วยนะ จะเลิศจะอลังการขนาดไหนตามไปส่องกันได้เลย!

Boarding school คืออะไร?

Boarding school เป็นโรงเรียนประจำที่มีกฎและตารางเวลาอย่างชัดเจน โดยนักเรียนจะพักอยู่ในหอพักและทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ภายในโรงเรียนตลอดปีการศึกษา ซึ่งจะแตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปที่เป็นแบบไป-กลับ ซึ่งข้อดีของการอยู่โรงเรียนประจำ นอกจากนักเรียนจะได้เลือกวิชาเรียนนอกเหนือจากหลักสูตรหลักแล้ว ยังได้ทำกิจกรรมและงานอดิเรกอื่นๆ อีกมากมาย แถมยังได้ฝึกความรับผิดชอบ ความมีระเบียบวินัย และยังได้สร้างความสัมพันธ์และเครือข่ายอันเหนียวแน่นกับเพื่อนๆ ในรั้วโรงเรียนเดียวกันอีกด้วย 

ส่องประวัติโรงเรียน

โรงเรียนแฮร์โรว์ (Harrow School) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1572 ในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 (Elizabeth I) นับเป็นโรงเรียนประจำชายล้วนที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษและแห่งเดียวในกรุงลอนดอน อีกทั้งยังโด่งดังในฐานะโรงเรียนประจำที่ดีที่สุดในประเทศอีกด้วยค่ะ 

นอกจากหลักสูตรวิชาการจะเข้มข้นยังมุ่งพัฒนาการใช้ชีวิต การเป็นผู้นำ และความสามารถพิเศษของนักเรียนควบคู่ไปด้วย โดย 40% ของนักเรียนแฮร์โรว์มีผลการเรียน A-Level ค่อนข้างสูงและสามารถสอบติด 6 ใน 10 มหาวิทยาลัยอันดับโลกอย่าง Oxford, Cambridge และ Stanford เป็นต้น

ด้วยความที่โรงเรียนก่อตั้งและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน จึงมีการถ่ายทอดธรรมเนียมแบบอังกฤษดั้งเดิมมาถึงรุ่นปัจจุบัน เช่น เครื่องแบบการแต่งกายเฉพาะ  ประเพณีร้องเพลงประจำโรงเรียน (Harrow Songs) การใช้คำศัพท์โบราณเฉพาะกลุ่ม เช่น การเรียกนักเรียนว่า Harrovians และเรียกศิษย์เก่าว่า OH (Old Harrovians) เป็นต้น นอกจากจะเป็นเอกลักษณ์แล้วยังทำให้ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันรู้สึกผูกพันกับโรงเรียนมากขึ้นอีกด้วย // แค่เห็นภาพบรรยากาศก็คือเหมือนอยู่ในหนังสุดๆ

หลักสูตรการเรียน

ก่อนอื่นพี่จะขอพาน้องๆ ไปทำความเข้าใจระบบการเรียนของอังกฤษกันก่อน เพราะค่อนข้างแตกต่างจากระบบของไทยพอสมควรเลยค่ะ แบ่งเป็น 3 ช่วง ดังนี้

• ระดับประถมศึกษาแและมัธยมศึกษา Key Stage 1 – Key Stage 4 (GCSE) ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับ
• ระดับมัธยมปลาย - Further Education Level (A – Level)
• ระดับปริญญาตรีและปริญญาโท - Higher Education

ปัจจุบัน Harrow School มีนักเรียนประมาณ 830 คน เปิดสอนตั้งแต่ Year 9-13 โดยจะแบ่งคลาสตามชั้นปี และมีนักเรียน 8-16 คนต่อห้อง หลักๆ จะเปิดสอน 3 หลักสูตรดังนี้

Shell year (Year 9) 

ช่วงปีที่เริ่มปูพื้นฐานรายวิชาต่างๆ ให้นักเรียนได้ค้นหาความสนใจและความถนัดของตน ประกอบด้วยวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ศิลปะ ฟิสิกส์ เคมี คอมพิวเตอร์ ดนตรี การละคร เทคโนโลยีการออกแบบ และวิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น รวมถึงเลือกเรียนเพิ่มได้อีก 2 ภาษาจากหลายตัวเลือก ได้แก่ ภาษากรีกโบราณ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น จีนกลาง รัสเซีย และสเปน สำหรับ Shell year จะเรียนเพื่อต่อยอดสู่การเลือกวิชาเรียนชั้นปีถัดไป ซึ่งก็คือ (I)GCSE 

Remove and Fifth Form หรือหลักสูตร (I)GCSE (Year 10-11)

เป็นหลักสูตรการเรียนที่มีวิชาเฉพาะเจาะจงมากขึ้น มี 2 วิชาบังคับคือคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ เรียนควบคู่กับอีก 7 วิชาที่สามารถเลือกได้ตามความถนัดและตามความสนใจของนักเรียน แต่เงื่อนไขคือต้องมีอย่างน้อย 1 วิชาเป็นภาษาใหม่ และ 2 ใน 3 ต้องเป็นรายวิชาวิทยาศาสตร์

Sixth Form หรือหลักสูตร A-Level (Year 12-13)

การเรียนช่วงนี้จะยิ่งเข้มข้นและลงลึกขึ้นไปอีก โดยนักเรียนสามารถเลือกลง 3 วิชาจากที่มีใน A-Level ทั้งหมด เช่น ประวัติศาสตร์ ชีววิทยา ธุรกิจ เคมี กรีกคลาสสิก อังกฤษ การละคร รัฐศาสตร์และการเมือง เศรษฐศาสตร์และวิจิตรศิลป์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีวิชาเลือก (Elective Program) ให้นักเรียนได้ปรับตัวและเตรียมพร้อมกับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยอีกด้วย

Study hard, play harder!
วิชาการเน้นๆ กิจกรรมจัดเต็มสุดๆ

นอกจากด้านวิชาการจะแน่นปึ้กสุดๆ แล้ว Harrow School ยังมีกิจกรรมแบบจัดหนัก จัดเต็ม ทั้งการละคร ดนตรี ศิลปะ และกีฬา ให้นักเรียนได้ร่วมจอยเพื่อช่วยส่งเสริมความสามารถพิเศษด้านอื่นๆ // ตามมาดูกิจกรรมของแต่ละสาขากันเลยค่ะ!

การละคร

นอกจากหลักสูตรจะมีวิชาการละคร ในทุกปีโรงเรียนยังมีจัดกิจกรรม Shell Drama House ให้นักเรียนชั้นปี Shell year (Year 9) ได้ร่วมกันแสดงดนตรีหรือละครเวที อีกทั้งยังมีทุนการศึกษาให้นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านนี้ด้วยค่ะ

ดนตรี 

ทางโรงเรียนได้ส่งเสริมและเปิดเวทีให้นักเรียนได้แสดงความสามารถด้านนี้จริงจังมากกกก เห็นได้จากการมี Harrow’s Music Schools เปิดสอนเครื่องดนตรีออร์เคสตรา (Orchestra) ทั้งหมด รวมถึงเปียโน ออร์แกน กีตาร์ ปี่สก็อต และการร้องเพลง นอกจากนี้ยังมีห้องซ้อม ห้องสตูดิโออัดเสียง และสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตให้นักเรียนได้ใช้ด้วยนะคะ ครบจบที่เดียวเลย~~

ศิลปะ

เริ่มจากนักเรียนทุกคนจะได้เรียนศิลปะตอนชั้นปี Shell (Year 9) ก่อนจะเลือกลงวิชาวิจิตรศิลป์​หรือศิลปะและการออกแบบได้ในชั้นปีถัดมา และเพื่อให้เข้าถึงความอาร์ตมากขึ้น ทาง รร.แฮร์โรว์ ก็ได้จัดทริปทัศนศึกษาสุดปังพานักเรียนไปสัมผัสบรรยากาศของมหานครแห่งศิลปะระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์ก (New York) สหรัฐอเมริกา, ปารีส (Paris) และฟลอเรนซ์​ (Florence) แห่งฝรั่งเศส หรือโรม (Rome) ของอิตาลี เป็นต้น 

p.s. ในทุกปีโรงเรียนยังมีจัดงาน House Art ให้นักเรียนส่งผลงานเข้าประกวด และมี Art Gallery ให้นักเรียนสามารถจัดนิทรรศการศิลปะของตนเองได้อีกด้วยนะคะ

กีฬา

รร.แฮร์โรว์ก็เป็นอีกโรงเรียนตัวตึงสายสปอร์ต ในโรงเรียนมีอุปกรณ์และสถานที่พร้อมสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬาขนาดเอเคอร์ (ใหญ่มากกกก) สนามกอล์ฟ สระว่ายน้ำ ศูนย์กีฬา สนามเทนนิส ฯลฯ รวมๆ แล้วเล่นได้เกือบ 30 ชนิด และยังมีจัดแข่งภายในหรือแข่งกับโรงเรียนอื่นเป็นประจำด้วย // อลังแค่ไหน ให้ภาพช่วยเล่าเรื่องเลยค่ะ! 

How-To สมัครเรียน

ผู้ปกครองที่ต้องการให้น้องๆ เข้าเรียนที่ รร.แฮร์โรว์ สามารถเข้าไปกรอกเอกสารและอัปโหลดเอกสารได้ที่ลิงก์ https://applyonline.harrowschool.org.uk/user/welcome.php หากเรียบร้อยแล้วต้องชำระค่าธรรมเนียมการลงทะเบียน 350 ปอนด์ (ประมาณ 15,000 กว่าบาท / อัปเดตค่าเงินเมื่อ มิ.ย. 66) จากนั้นรอทางโรงเรียนพิจารณาและติดต่อกลับค่ะ 

• ปัจจุบัน รร.แฮร์โรว์เปิดรับสมัครชั้น Year 9 ประมาณ 160 คน (อายุ 13 ปี) และชั้น Year 12 ไม่เกิน 20 คน (อายุ 16 ปี)
• หากสมัครเรียนระดับ Year 9 ผู้ปกครองต้องรีบดำเนินการก่อนน้องๆ เรียนจบ Year 5 นะคะ เนื่องจากนักเรียนต้องสอบ “ISEB Common Pre-Tests” ในชั้น Year 6, “Harrow Test” ในชั้น Year 8 และ “Common Entrance Examination” ในชั้น Year 9
• ส่วนกรณีนักเรียนที่จะสมัครเข้าเรียน Year 12 ต้องได้เกรด (I)GCSE ขั้นต่ำ 7 หรือเกรด A
• กรุณาศึกษาเงื่อนไขและเอกสารการสมัครแต่ละชั้นปีได้ที่เมนู [ADMISSIONS] ของเว็บโรงเรียน

ค่าเล่าเรียนโหดแค่ไหน? 

อ้างอิงค่าเล่าเรียนของ รร.แฮร์โรว์ปี 2020/2023 จะอยู่ที่ 15,570 ปอนด์ต่อเทอม (หรือประมาณ 677,000 บาท) จำนวนนี้รวมค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าเครื่องเขียน และค่าซักรีด แต่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกรณีลงเรียนบางรายวิชา

นอกจากนี้จะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียม 500 ปอนด์ (ประมาณ 21,700 บาท), ค่ามัดจำแรกเข้า 3,000 ปอนด์ (ประมาณ 130,000 บาท) และค่ามัดจำเพิ่มเติมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ 1,500 ปอนด์ (ประมาณ 66,000 บาท) โดยผู้สมัครจะได้รับเงินมัดจำคืนในภายหลังค่ะ ศึกษารายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เมนู [FEES AND DEPOSITS] ในเว็บโรงเรียนได้เลยค่า

ที่พัก & อาหาร

เนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำ รร.แฮร์โรว์จึงมีระบบการดูแลนักเรียนโดยจัดกลุ่มแบ่งออกเป็น House หรือบ้านเหมือนในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 12 หลัง มีชื่อเรียกเฉพาะต่างกัน เช่น Bradbys, Elmfield, Lyon’s และ The Grove เป็นต้น นอกจากจะเป็นที่พักของนักเรียนแล้ว แต่ละหลังก็จะจัดสิ่งอำนวยความสะดวก เจ้าหน้าที่ดูแลน้องๆ และมีธรรมเนียมประเพณีประจำบ้านที่แตกต่างกันค่ะ

ในเมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เรามาดูในส่วนของอาหารการกินกันบ้างดีกว่าค่ะ! ที่นี่จัดเตรียมอาหารให้นักเรียนอย่างพิถีพิถันทั้งมื้อเช้า กลางวัน และเย็น ทั้งไม่ซ้ำและได้รับสารอาหารครบถ้วน ผู้ปกครองหมดกังวลเรื่องนี้ได้เลยค่า

ทำเนียบศิษย์เก่าที่ไม่ธรรมดา!

ส่วนใหญ่ศิษย์เก่าของ รร.แฮร์โรว์ จะเป็นผู้ที่มีเชื้อสายราชวงศ์และกลุ่มชนชั้นสูง (Elite)  เช่น

• สมาชิกราชวงศ์อังกฤษและประเทศอื่นๆ เช่น king Hussein of Jordan
• อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้แก่ Aberdeen, Perceval, Goderich, Peel, Palmerston, Baldwin และ Churchill
• Jawaharlal Nehru นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย
• เหล่าเซเลบคนดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวงการนักแสดงอย่าง  “Benedict Cumberbatch” และ “Edward Fox” หรือนักกีฬารักบี้อย่าง “Billy Vunipola” และ “Mario Itoje” เป็นต้น

ปัจจุบันมี 12 แคมปัส
และกรุงเทพฯ คือหนึ่งในนั้น!

น้องๆ รู้ไหมคะว่านอกจาก รร.แฮร์โรว์ จะเริ่มก่อตั้งและมีวิทยาเขตหลักที่อังกฤษ แต่ก็ยังมีอีก 11 สาขาที่จีนแผ่นดินใหญ่ 7 แคมปัส, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, อินเดีย และกรุงเทพมหานครของเราด้วย ดังนั้นถ้าใครมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทางข้ามประเทศ อาจลองเข้าไปดูรายละเอียดของ Harrow International School Bangkok ที่เว็บไซต์ https://www.harrowschool.ac.th ก่อนได้นะคะ คุณภาพคับแก้วและใช้หลักสูตรที่ถอดแบบมาจาก รร.แฮร์โรว์ที่อังกฤษเหมือนกัน

เป็นยังไงกันบ้างคะ? หลังจากส่องข้อมูลและระบบการเรียนคร่าวๆ แล้ว ใครอยากไปทัวร์สถานที่จริงสามารถดู Visit Information ได้ที่ https://www.harrowschool.org.uk/contact/visitor-information หรือจะเดินเล่นผ่าน Google Street ก่อนก็คลิกที่นี่ได้เลยค่ะ // ถ้ามีน้องๆ คนไหนเคยเรียนโรงเรียนในเครือของแฮร์โรว์ อย่าลืมแวะมารีวิวในคอมเมนต์นะคะ รออ่านนน ><