'พี่ปุ๋ย' #ทีมอังกฤษ เปิดเส้นทางพิชิตทุน Chevening จนได้เรียน ป.โท ฟรีที่ King’s College London

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ถ้าพูดถึงชื่อ ‘ทุนชีฟนิ่ง’ (Chevening Scholarships) คนที่อยากเรียนต่อปริญญาโทที่ UK ต้องคุ้นเคยกันดีแน่นอนค่ะ เพราะมูลค่าทุนอลังการสุดๆ ที่กระทรวงการต่างประเทศของทางสหราชอาณาจักรและองค์อื่นๆ ให้งบประมาณสำหรับศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหลักสูตรปริญญาโทระยะเวลา 1 ปี

และวันก่อนเรามีโอกาสพูดคุยกับ 'พี่ปุ๋ย' หนึ่งในคนไทยที่ได้ทุนชีฟนิ่งไปเรียนต่อป.โท ที่ King’s College London (KCL) ซึ่งคุณภาพการศึกษาติด Top10 ของประเทศจากการจัดอันดับโดย QS World University Rankings 2022  บทความนี้จะรีวิวมีแนะนำ timeline การเตรียมตัวสมัครทุนและสมัครมหาวิทยาลัย  ชีวิตในรั้ว Top U. ปิดท้ายด้วยรีวิวการใช้ชีวิตใน London จะน่าสนใจแค่ไหน เลื่อนลงไปเริ่มพาร์ตแรกกันเลยค่ะ!

Note:

  • ข้อมูลในบทความนี้มาจากการสัมภาษณ์ ประกอบกับอ้างอิงข้อมูลและรูปภาพจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ @puisirinapha ของเจ้าของเรื่องด้วยค่ะ แนะนำให้ตามไป Follow กันค่า ข้อมูลแน่นมาก
     
  • อ่านจบมีข้อสงสัยอยากปรึกษารุ่นพี่ตัวจริง 1:1 หรือขอคำแนะนำเรื่อง SoP ข่าวดีคือ "พี่ปุ๋ย" ให้เกียรติตอบรับคำเชิญมาประจำบูธงาน Dek-D’s Study Abroad Fair รอบเมษายน 2024 ด้วยนะคะ (พี่ปุ๋ยจะมาวันที่ 27 เม.ย. 2024)  เช็กตารางรุ่นพี่และไฮไลต์ทั้งหมดที่นี่ได้เลย! https://www.dek-d.com/studyabroadfair/

บินไปอังกฤษเรียน ป.โทใบที่สอง

"สวัสดีค่ะ ชื่อ ‘พี่ปุ๋ย’ สิรินภา จ้องสุวรรณ เรียนจบปริญญาโทใบแรกด้านการเงิน สาขาการลงทุนทางการเงินและการบริหารความเสี่ยงที่ NIDA และได้ทุนชีฟนิ่งไปเรียนต่อปริญญาโทสาขา Msc Strategic Entrepreneurship and Innovation เป็นหลักสูตร 1 ปีที่ King’s College London (ภายใต้ King’s Business School) เหตุผลที่เลือกสาขานี้เพราะตำแหน่งงานล่าสุดของพี่ คือ Strategic Partnership จะต้องศึกษาเรื่องนวัตกรรมใหม่ (Innovation) อยู่แล้ว คิดว่าโปรแกรมนี้จะช่วยต่อยอดด้านการงานกับความสนใจส่วนตัวได้ และพี่ยังเคยขายของออนไลน์ กับหารายได้พิเศษหลายทางเป็น side-hustle อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองค่ะ"

"นอกจากนี้พี่หวังว่าการมาเรียนต่างประเทศจะช่วยให้ได้เปิดโลกทัศน์ เห็นสิ่งที่ไม่มีในบ้านเรา ได้เรียนรู้วัฒนธรรมเทคโนโลยี และนวัตกรรมว่ามีสิ่งใดที่สามารถมาประยุกต์ใช้กับบ้านเราได้ ที่สำคัญคือได้รู้จักเพื่อนใหม่ สร้าง connection ฝึกภาษาให้เป็นมืออาชีพ ฯลฯ จริงๆ มีเหตุผลเยอะมากที่สรุปได้ว่าเราอยากมี Gap Year 1 ปี ทำสิ่งที่อยากทำจริงๆ แล้วเราเชื่อว่าประสบการณ์นี้จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต"

................................

แชร์ Timeline  แนะนำการเตรียมตัว
สำหรับคนสมัครทุน Chevening

และเนื่องจากการขอทุนชีฟนิ่งต้องใช้เวลาเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะมี process หลายขั้นตอน พี่ปุ๋ยเลยได้ฝากไกด์ไลน์ว่าช่วงไหนควรรีบเตรียมเอกสาร คะแนนสอบ หรือดำเนินการอะไรบ้าง (*เป็นคำแนะนำไม่ตายตัว สำหรับผู้ที่อยากเตรียมตัวล่วงหน้า) ผู้ที่สนใจอาจเปิดวิธีสมัครทุนอ่่านประกอบไปด้วยก็ได้นะคะ :D 

ทุนชีฟนิ่งครอบคลุมอะไรบ้าง?

  • เงินค่าเล่าเรียนทั้งหมด
  • ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต (รายเดือน)
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับสหราชอาณาจักร
  • เข้าร่วมงานขยายเครือข่ายที่จัดขึ้นโดยเฉพาะการฝึกงาน การท่องเที่ยวทั่วสหราชอาณาจักร การสัมมนาเชิงปฏิบัติ ตลอดทั้งการอภิปรายและโอกาสการทำงานเป็นอาสาสมัคร
  • ค่าสมัครวีซ่า
  • เข้าร่วมเครือข่ายศิษย์เก่าระดับผู้นำนานาชาติกว่า 50,000 คนทั่วโลก

#สาระ คำว่า “ชีฟนิ่ง” มาจากชื่อคฤหาสน์ชีฟนิ่งเฮ้าส์ในเมืองเซเวโนคส์ เคนต์ ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบร่วมของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร

 

ก่อนเปิดรับสมัคร 

  • เดือน พ.ค. - ก.ค. — เตรียมสอบ IELTS ให้ได้ผลที่น่าพอใจ (ขั้นต่ำ 6.5 และได้คะแนนในทุก sub-tests  ไม่ต่ำกว่า 6.0)

เปิดรับสมัคร

  • ต้นเดือน ส.ค. - ต้นเดือน พ.ย. — กรอกใบสมัครออนไลน์ ให้ความสำคัญที่ Essay 4 หัวข้อ อัปโหลดเอกสารให้ครบถ้วนเท่าที่ทำได้ก่อน เช่น ใบวุฒิปริญญาและใบเกรด (Transcript)

คำแนะนำการเลือกคณะ 3 อันดับ (เปลี่ยนแปลงภายหลังไม่ได้)

 

อันดับ 1: คณะที่เราอยากเรียนที่สุด Ranking ดีแต่การแข่งขันอาจจะสูงมาก (ต้องประเมินความสามารถตนเองด้วย)

อันดับ 2: คณะที่เราอยากเรียน ชอบมาก Ranking ดีขึ้นมา การแข่งขันสูงขึ้น

อันดับ 3: คณะที่ชอบ มีความสนใจ และมีความมั่นใจว่าเข้าได้แน่นอน มีที่เรียนไว้ก่อนเพื่อความชัวร์  

 

  • เดือน พ.ย.- ธ.ค.
  1. ให้เริ่มเขียน SoP ยื่นใบสมัครมหาวิทยาลัยสัก 1-2 แห่งก่อน โดยเริ่มจากอันดับล่างขึ้นบนเพื่อให้มีเวลาปรับ SoP ให้ดียิ่งขึ้น เราจำเป็นต้องเขียนใบสมัครให้เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละคณะและแต่ละมหาวิทยาลัย
     
  2. ให้เริ่มติดต่ออาจารย์และเจ้านายที่จะเขียนจดหมาย Recommendation ให้ ควรติดต่อเนิ่นๆ เพราะอาจใช้เวลานานถึง 4-8 สัปดาห์ 

    *บางคณะจะมีรอบเปิดรับสมัครเป็นแต่ละ Round อย่าลืมวางแผนให้ดีค่ะ
    **ปกติอาจใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ในการรอผล ควรส่งใบสมัครก่อนช่วงคริสมาสต์ เพราะหากติดวันหยุดคริสมาสต์ จะใช้เวลาพิจารณานานขึ้น 
     
  • เดือน ม.ค.หากเรายื่นสมัครไปแล้ว เรามีโอกาสได้ Conditional/Unconditional Offer มาก่อน เราควรรีบอัปโหลดเอกสารเข้าระบบเพิ่มเติม เผื่อว่ากรรมการอาจพิจารณาความพร้อมในประเด็นนี้  
     
  • เดือน ก.พ. ประมาณสัปดาห์ที่ 2-3 ทางชีฟนิ่งจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ และเราต้องอัปโหลด Recommondation Letter ก่อนเข้าสัมภาษณ์  
     
  • เดือน มี.ค.-เม.ย. — สอบสัมภาษณ์โดยผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์ต้องเข้าไปจองเวลาผ่านระบบ แนะนำให้รีบจองหลังจากได้รับอีเมล เพราะเป็นแบบ First Come First Serve  
     
  • กลางเดือนมิ.ย. — ประกาศผลผู้มีสิทธิ์ได้ทุน ยังไม่นับเป็น Final Award จนกว่าจะได้ Final Award Letter จากจุดนี้จะเหลือเวลา 1 เดือนสำหรับผู้ที่มี Conditional Offer จะต้องได้ Unconditional Offer ให้ทันกลางเดือน ก.ค.  
     
  • เดือน ส.ค. — ได้รับ Final Award Letter ยืนยันอย่างเป็นทางการ

ใครอยากเก็บเทคนิคสมัครทุนเรียนต่ออังกฤษ
ตามไปอ่านต่อที่โพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ ละเอียดมากก!
 

................................

ก้าวสู่รั้ว King’s College London
คุณภาพแน่นติด Top 10 ของอังกฤษ!

"...วันแรกที่ไปมหาลัย พี่รู้สึกภูมิใจมาก ยืนมองตึกแล้วเดินสำรวจรอบๆ ตอนยืนตรงทางเข้าก็บอกตัวเองว่าเราทำได้แล้วนะ มีถ่ายรูปตึกข้างๆ มหาวิทยาลัยที่สวยมากชื่อ Somerset House ไปอวดคุณพ่อคุณแม่ด้วย คิดตั้งแต่ยังไม่เริ่มเรียนเลยว่าอยากพาพวกเค้ามางานรับปริญญาให้ได้ค่ะ"

"พี่เป็นรุ่นพิเศษที่ชาวชีฟนิ่งเรียกกันว่า "รุ่นโควิด" การเรียนการสอนเน้นไปทางออนไลน์มากกว่า แต่โชคดียังเคยได้ไปเข้าคลาสเรียนจริงอยู่ช่วงนึง หลักๆ จะต้องดู  Online Lecture ไปก่อน แล้วจะมี Discussion หรือ Tutorial Class ให้มานั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน บางคลาสก็มานั่งทำ Assignment หรือแบ่งกลุ่มทำโปรเจกต์ย่อยร่วมกัน การเรียนในคลาสเขาจะเน้นให้ทุกคนออกความเห็น โดยอาจารย์จะยิงคำถามแล้วให้เรายกมือตอบเอง แต่ถ้ามีช่วงเดดแอร์ หรือแบบจังหวะที่ทุกคนเงียบนาน อาจารย์ก็จะเริ่มเรียกชื่อแล้วไล่ทีละคนจนครบทั้งคลาส เพราะคลาสนึงไม่ใหญ่ มีแค่ 10-15 คน ทำให้เรารู้จักกันทั่วถึงหมดค่ะ

ถ้าถามพี่ คิดว่ายังไงการเรียนแบบ In Person ก็ดีกว่าออนไลน์แน่นอน เพราะเราได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น สร้าง connection ได้ดีและไวกว่า ทำงานด้วยกันง่าย ถึงเรียนออนไลน์แล้วไม่ค่อยได้ทำกิจกรรม on-site แต่นักศึกษาจะสามารถเข้าไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดและ Study Space ที่มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ได้"

รีวิวหลักสูตรสุดท้าทาย & ทันสมัย
จุดเด่นคืออะไร? เรียนอะไรบ้าง?

"หลักสูตร Msc Strategic Entrepreneurship and Innovation จะเน้นเตรียมตัวเราเป็นผู้ประกอบการหรือสร้างธุรกิจโดยใช้หลักการเดียวกับธุรกิจ Startup เน้นศึกษานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อหาโอกาสเติบโตของธุรกิจและให้เข้มแข็งในระยะยาวค่ะ จุดเด่นน่าจะเป็นการที่โปรแกรมมีให้อบรมการเขียนแผนธุรกิจ  และให้โอกาสนักศึกษาส่งแผนธุรกิจไปแข่งขันเพื่อเข้าร่วม King’s Accelerator Programme ได้ด้วย ซึ่งจะมีโอกาสได้เงินทุนไปตั้งต้นทำธุรกิจ ดังนั้นถ้าใครมีไอเดียธุรกิจอยู่แล้วหรืออยากพัฒนาต่อยอดไปอีก หลักสูตรนี้น่าจะยิ่งตอบโจทย์เลยค่ะ"

ยกตัวอย่างวิชาเรียน

  • Business Model Innovation and Intellectual Property สอนว่าแต่ละธุรกิจสามารถพัฒนาและนวัตกรรมได้ยังไงบ้าง มียกตัวอย่างกรณีศึกษากับพัฒนาการที่เกิดขึ้นของแต่ละบริษัท แล้วยังได้เรียนรู้วิธีการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property: IP) เช่น เราจะจด IP เพื่อป้องกันการถูกลอกเลียนแบบได้อย่างไร บางคนอาจมีไอเดียที่จำกัด ในคลาสจะมีเครื่องมืออย่าง Business Model Navigator Cards ช่วยไกด์ว่าจะต่อยอดไอเดียอย่างไรได้อีกบ้าง
     
  • Venture Growth เป็นหนึ่งในวิชาที่เป็นหัวใจหลักของสาขานี้เลย เพราะเราจะได้เขียนแผนธุรกิจจริงๆ และทำงบประมาณในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อประเมินว่าธุรกิจนี้จะใช้เงินเท่าไหร่ ประเมินมูลค่าของธุรกิจ และวางแผนระดมเงินทุนในการก่อตั้งธุรกิจ ดังนั้นจะชาเลนจ์มากเพราะทำตั้งแต่เริ่มฟักไข่ไอเดียจนจบกระบวนการ แล้วไป pitching มีคณะกรรมการจากภายนอกมาร่วมด้วย **วิชานี้เราจะยังไม่ได้เงินทุนจริงๆ แต่ถ้าทำได้ดีเรามีโอกาสนำแผนไปแข่งขันต่อ ซึ่งมีโอกาสได้เงินมาลงทุนจริงด้วย
     
  • Entrepreneurship in the Social and Sustainable Enterprise เรียนแนวคิดการสร้างธุรกิจเพื่อสังคมว่าต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ศึกษาโมเดลธุรกิจเพื่อสังคมที่น่าสนใจจากรอบโลก และมีสัมมนาออนไลน์ได้พูดคุยโดยตรงกับผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise)

เปิดความท้าทายของ Thesis
เจออะไรน่าสนใจบ้าง?

"พี่ทำ Dissertation เรื่อง Incumbents’ Preparation for Digitalisation เน้นศึกษาไปที่กระบวนการที่องค์กรใหญ่ๆ ผันตัวเองมาทำธุรกิจดิจิทัลมากขึ้น เพื่อความอยู่รอดและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในยุคนี้ พี่ใช้ Case Study เป็นบริษัทที่ไทยโดยเลือกสัมภาษณ์ตัวแทนจากองค์กรใหญ่ๆ ที่มีศักยภาพและทรัพยากรที่พร้อม สามารถทำเรื่องนี้ได้ก่อน ซึ่งการศึกษา Digital Transformation Framework จะช่วยรวบรวมองค์ความรู้ให้องค์กรที่ก่อตั้งมานานแต่ยังปรับตัวช้า หรือองค์กรที่เล็กกว่าและทรัพยากรมีจำกัด ได้มีแนวทางในการดำเนินรอยตามองค์กรใหญ่ที่มุ่งเน้นด้านดิจิทัลสำเร็จ 

รูปแบบการทำ Dissertation ที่พี่ทำคือเป็นเชิง Qualitative เลือกใช้ข้อมูลที่เปิดเผยแล้ว และการสัมภาษณ์ การเขียน Academic Writing จะต่างกับการเขียนทั่วไป ต้องเปรียบเทียบ วิเคราะห์ ใส่ความเห็น และอ้างอิงให้ถูกหลักทั้งหมด ถือว่าท้าทายสำหรับเรามากค่ะ"

British Museum
British Museum

ชีวิตนอกคลาส & เคล็ดลับเมกเฟรนด์
ฉบับเด็ก King’s College London

  • มหาวิทยาลัยหรือคณะจะมีชมรม (Clubs) และ Workshop ให้เข้าร่วม พี่เองอยู่ Food Club ช่วงต้นเทอมแรกได้ไปเดินเล่นที่ Borough Market แล้วมีไกด์ที่คลับนำ และพาไปทานของอร่อยๆ ด้วยกัน มีร้านค้าให้ส่วนลดราคาพิเศษสำหรับนักศึกษา King’s College London ด้วย
  • คนมักจะชอบไปผับ ซึ่งเป็นเหมือนร้านนั่งดื่มกับทานอาหาร แล้วนั่งเม้าท์มอยกัน คล้ายๆ ที่คนใต้ไปกินน้ำชากัน เพียงแต่คนที่นี่จะดื่มเบียร์เป็นส่วนใหญ่

"ทั้งหมดนี้คือช่องทางให้เจอเพื่อนใหม่ ส่วนใหญ่จะแลก Instagram กัน พี่อยากแนะนำว่าวิธีเมกเฟรนด์ที่ง่ายสุดคือชวนเพื่อนไปทานอาหารไทย หรืออาสาทำให้ชิมตอนไปปาร์ตี้บ้านเพื่อน เพราะคนต่างชาติส่วนใหญ่ชอบอาหารบ้านเรามาก เขาจะประทับใจไม่ลืมแน่นอน ถึงกับไปเล่าให้คนอื่นฟังด้วยว่าอาหารมื้อที่ทานกับเราอร่อยมาก (ส่วนใครทำอาหารไม่เก่ง ลองแอบใส่ผง Lobo ลงไปดูก็ได้นะคะ 555)"

#รีวิวอังกฤษ เป็น “เมืองผู้ดี” จริงมั้ย?

"จริงๆ ในลอนดอนมีความเป็นนานาชาติสูงมาก ประมาณ 30% ของเพื่อนร่วมชั้นเท่านั้นที่เป็นคนสัญชาติอังกฤษ ที่เหลืออีก 70% เป็นนักเรียนมาจากต่างประเทศทั้งหมด มีครบทุกทวีป  เลยไม่ได้สำเนียง British มาเท่าไหร่ แต่ถ้าเจอคน Irish สำเนียงเค้าจะชัดมาก ฟังแล้วรู้สึกถึงความแตกต่างจากอังกฤษสำเนียงอเมริกันกับชาติอื่นๆ ชัดเจนเลยค่ะ

ผู้ชายอังกฤษแท้จะค่อนข้างวางตัวขรึมและสงวนท่าที ถ้าใครเดตกับผู้ชายอังกฤษ เขาจะไม่ค่อยแชทมาหา แต่จะชอบชวนออกมาเจอและนัดทานข้าวเพื่อพูดคุยกันมากกว่า แล้วเขาจะชอบอะไรที่เป็นแบบแผน เช่น ต้องเริ่มด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ก่อนตามด้วยอาหารจานหลัก แล้วถึงจะตามด้วยขนม หรือ ชากาแฟ เป็นต้น นอกจากนี้คือเขาจะไม่ค่อยสั่งอาหารมาแชร์แบบบ้านเรา แล้วเราก็ไม่ควรไปตักอาหารจากจานเขา จานใครจานมัน ถ้าเกิดอยากชิมก็ให้ขอก่อน แล้วเขาจะแบ่งให้ หลายครั้งเราเจอคู่รักมาทานอาหารข้างกัน ทานเหมือนกันเป๊ะแต่แค่แยกจานกันเฉยๆ"

Breakfast or Brunch in Oxford
Breakfast or Brunch in Oxford
(ในนี้จะมี Scone ซึ่งเป็นขนมขึ้นชื่อของอังกฤษด้วยค่ะ)

เล่า 3 ความประทับใจที่เจอได้ที่นี่!

1. เรื่องการจัดการวัคซีน รัฐบาลจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาให้ประชาชนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมด้วย อย่างพี่เป็นนักศึกษาต่างชาติที่ไม่ได้จ่ายภาษี แต่ก็ได้วัคซีนที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับช่วงอายุ เช่น ถ้าเป็นเพศหญิงอายุต่ำกว่า 40 ปี เขาจะให้ฉีด Pfizer ไม่ใช้ AztraZeneca เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือด

2. ระบบขนส่งสาธารณะมีประสิทธิภาพ ทั้งสภาพดีและราคาประหยัด ถ้าเป็นนักศึกษาก็มีราคาพิเศษไปอีก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดิน (Tube), รถเมล์, รถไฟข้ามเมือง นอกจากนี้ยังมี Application บอกเวลาที่แม่นยำและเชื่อถือได้ อยู่อังกฤษคือเราอ้างไม่ได้เลยว่ามาสายเพราะรถติด ถ้าอ้างว่าหลงยังฟังขึ้นกว่า

Sloane Square Station, London, United Kingdom
Sloane Square Station, London, United Kingdom
Photo by Tomas Anton Escobar on Unsplash
London, United Kingdom
London, United Kingdom
Photo by Lucas Davies on Unsplash

3. พื้นที่สาธารณะและธรรมชาติเยอะมาก อย่างในลอนดอนมี Park ใหญ่ทุกทิศ ทั้งเหนือ-ใต้-ออก-ตก และมีพื้นที่สีเขียวกระจายตามถนนแต่ละสายและที่อยู่อาศัย อย่างเช่น Square เล็กๆ ให้คนมาทำกิจกรรมหรือเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจได้ค่ะ

Greenwich Park
Greenwich Park
Buckingham Palace
Buckingham Palace
Princess Diana Memorial Garden
Princess Diana Memorial Garden
Stickle Tarn, Langdale2
Stickle Tarn, Langdale2

"แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเพอร์เฟกต์ 100% มีบางอย่างที่ไม่ประทับใจเหมือนกัน อย่างพี่เคยเจอ Homeless กับคนที่มาเดินขอเงินบ่อยมากกตามถนน ร้านอาหาร กับสถานีรถไฟ บางทีก็เป็นคนที่ลำบากจริง แต่บางคนทำจนเคยชินก็มี"

รีวิวค่าครองชีพ


"เท่าที่พี่เคยลองคำนวณ ณ ปี 2563-2564 นะคะ ค่าครองชีพที่อังกฤษสูงกว่าบ้านเราประมาณ 6-8 เท่าค่ะ เช่น ค่ารถเมล์บ้านเรา 12 บาท ที่อังกฤษ £1.5 หรือ 67.5 บาท คือ 5.6 เท่า อาหารบ้านเรามื้อละ 50 บาท ที่อังกฤษเริ่มต้นจานละ £8 หรือ 360 บาท ก็ประมาณ 7.2 เท่า อันนี้พี่ลองคิดที่อัตราแลกเปลี่ยน 45 บาท/ปอนด์นะคะ ถ้าเงินปอนด์แพงขึ้น ก็อาจจะสูงกว่านี้


ส่วนค่าที่พักเฉลี่ยห้องพักเดี่ยวหรือห้องสตูดิโอสำหรับนักศึกษา ราคาอยู่ที่ £700-1,200 ค่ะ ขึ้นกับเมืองและความหรูหรา หากพี่ใช้เลขกลมๆ ราคาที่พักในลอนดอน คือ £1,000 หรือ 45,000 บาท ที่พักดีๆในกรุงเทพฯปัจจุบันราคา 10,000-12,000 บ. สำหรับห้องสตูดิโอ คร่าวๆราคาที่ลอนดอนจะสูงกว่าบ้านเรา 4 เท่าค่ะ"

 

Bourton on the Water
Bourton on the Water
Bibury, Gloucestershire
Bibury, Gloucestershire
Westminster Abbey
Westminster Abbey
Hogwarts โต๊ะอาหารกริฟฟินดอร์
Hogwarts โต๊ะอาหารกริฟฟินดอร์

อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ที่คิดว่าโพรไฟล์อย่างเราคงไม่มีโอกาสได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ?

"พี่เป็นเด็กที่โตจากชนบท บ้านเกิดพี่คือ อ.เบตง จ.ยะลา พี่เรียนที่นั่นจนจบ ม.ต้นแล้วย้ายไปเรียนต่อ ม.ปลายที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย แล้วได้เห็นตัวอย่างรุ่นพี่ที่เก่งมากๆ ที่ได้รับพระราชทานทุนคิงไปเรียนต่อที่รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้พี่อยากขอทุนไปเรียนต่อต่างประเทศบ้างถึงจะไม่เก่งภาษาอังกฤษตั้งแต่แรก

ตั้งแต่ตั้งเป้าหมายจนผ่านมา 15 ปี กว่าพี่จะตัดสินใจสมัครทุนชีฟนิ่งจริงๆ เพราะคิดว่าถ้ารอช้ากว่านี้คงไม่ได้ลองทำตามความฝันแล้ว อย่างน้อยก็ได้ลองทำให้เต็มที่ ตลอดระยะเวลาที่ยื่นใบสมัครและรอผลทุน พี่คิดเสมอว่าเราอยากเป็นตัวอย่างของเด็กบ้านนอกธรรมดาๆ คนนึงที่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอน ป.4 เพิ่งเข้าใจโครงสร้างแกรมมาร์และพูดกับฝรั่งครั้งแรกตอน ม.4 ก็สามารถได้ทุนมาเรียนต่างประเทศได้  ดังนั้นอยากให้น้องๆ ที่มีความฝันแบบเดียวกัน ลองพยายามให้เต็มที่ ถ้า Why ของเราชัดพอ จะรู้ว่าเราทำไปเพื่ออะไร แล้วทำไมถึงควรลองทำแม้โอกาสจะดูเหมือนเป็นศูนย์ก็ตาม"

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

You're Invited!
อยากปรึกษา 1:1 กับพี่ปุ๋ยตัวจริง
พบกันที่ไบเทคบางนา 27 เม.ย. 2024

ขอเชิญทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งในงาน Dek-D’s Study Abroad Fair ของพวกเราในวันเสาร์ที่ 27 และอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 ณ ไบเทคบางนา (ฮอลล์ EH98) เข้าร่วมฟรี 

รอบนี้พิเศษมากก!! Dek-D’s Study Abroad Fair ได้รับเกียรติจากรุ่นพี่นักเรียนทุนและจบนอกจากประเทศยอดนิยมตอบรับคำเชิญมาประจำบูธใหญ่ของพวกเรา เพื่อให้น้องๆ และผู้ปกครองในงานสามารถ Walk-in ปรึกษาได้ตัวต่อตัว ไม่ว่าจะเป็น รุ่นพี่ทุน Erasmus+ (ยุโรปและอเมริกา), Fulbright (อเมริกา), Chevening (สหราชอาณาจักร), DAAD (เยอรมนี), Franco-Thai (ฝรั่งเศส), ทุนรัฐบาลอิตาลี, จีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ทุนรัฐบาลไทย (ก.พ./UiS) รวมถึงรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยในสกอตแลนด์และออสเตรเลียก็มาด้วยนะ!

"พี่ปุ๋๊ย" จะสแตนด์บายที่บูธปรึกษากับน้องๆ แบบ 1:1 ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2024 และห้ามพลาดไฮไลต์อีกมากมายในงานนี้ค่ะ

เว็บไซต์งานแฟร์ต่อนอก

ช่องทางติดตามเจ้าของเรื่อง


 https://www.instagram.com/sirisky 

https://www.facebook.com/puisirinapha 

https://sirinapha.medium.com/ 

 

พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด