Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวสาขากิจกรรมบำบัด(OT) มหิดล เรียนอะไรบ้าง? รายได้ดีจริงไหม?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
กิจกรรมบำบัด(Occupational Therapy)


 “ อ๋อ...A น่ะหรอ ตอนนี้ครอบครัวกำลังพาไปเข้ารับการบำบัดแล้วล่ะ ” 

     สงสัยกันไหมคะกับประโยคที่เกริ่นไปด้านบน55555 เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดยิ่งขึ้นพี่ก็เลยเกริ่นประโยคนี้มาให้น้องๆนั่นเอง ใช่แล้วค่ะ น้องๆสงสัยไหมว่าแล้วคุณAที่ไปเข้ารับการบำบัด แล้วเขาเข้ารับการบำบัดกับใคร?

นี่แหละคือหน้าที่ของเราชาว OT ( Opcupation Therapy) นั่นเอง
 

     สวัสดีค่ะน้องๆที่กำลังสนใจและศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคณะสาขาวิชานี้ พี่เป็นนักศึกษา จากคณะกายภาพบำบัด สาขาวิชากิจกรรมบำบัดหรือชื่อภาษาอังกฤษคือ occupation therapy (OT) จากมหาวิทยาลัยมหิดลนะคะ ( ซึ่งพี่ก็คือ #dek63 นั่นเอง ) พี่อยากจะแนะนำสาขาวิชานี้ให้กับน้องๆที่กำลังสนใจและอยากเข้ามาเรียนในคณะของเราน้า หวังว่ากระทู้จะตอบโจทย์น้องๆนะคะ เพราะพี่จะอธิบายละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย 
 

• กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy) คืออะไรกันนะ? 

Occupation = กิจกรรมการดำเนินชีวิต
Therapist = นักบำบัด
 
กิจกรรมบำบัดคือหนึ่งในอาชีพสายวิทย์สุขภาพที่ใช้กิจกรรมเป็นสื่อหลักในการรักษาผู้ป่วย เพื่อให้คนไข้สามารถดำรงชีวิตและทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ใกล้เคียงปกติเดิมของเขามากที่สุด โดยนักกิจกรรมบำบัดต้องใช้ความรู้ทางด้านการแพทย์(ในด้านวิทยาศาสตร์)และด้านการวิเคราะห์(ในด้านของศิลป์) ในการรักษา พูดได้ว่าอาชีพของเราใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์เลยค่ะ


• ความแตกต่างจากสายอาชีพวิทย์สุขภาพอื่นๆ? 

แน่นอนว่าคณะสายวิทย์สุขภาพคือคณะที่เรียนเกี่ยวกับการรักษาและฟื้นฟูใช่ไหมคะ อย่างที่บอกไปคือเราต้องมีความรู้ทางด้านวิชาชีพหรือก็คือทางด้านการแพทย์ในการรักษา แต่สิ่งที่แตกต่างจากอาชีพอื่นๆคือน้องจะรู้แค่นั้นไม่ได้ น้องต้องรู้จักคิดวิเคราะห์ว่าเราจะช่วยผู้ป่วยคนนี้ยังไงต่อดี นักกิจกรรมบำบัดไม่ได้มองแค่โรคหรือตัวของผู้ป่วยแค่นั้น พวกเรามองทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวของเขา ทั้งสภาพแวดล้อม สังคมที่ผู้ป่วยอยู่ เรียกได้ว่าน้องต้องรู้ให้ลึกและรู้จริงอีกทั้งต้องมีไหวพริบอีกด้วยนะ


• ผู้ป่วยแบบไหนบ้างที่เราต้องรักษา? 

เมื่อน้องๆจบไปทำอาชีพ น้องๆก็สามารถเลือกด้านที่น้องๆชอบและสนใจ ดีใช่ไหมล่ะ แต่ตอนเรียนน้องๆจะได้เรียนทุกด้านนะคะเพื่อให้น้องๆจบไปสามารถรักษาผู้ป่วยได้ทุกแบบค่ะ แต่จะเน้นไปที่ด้านไหนน้องๆก็สามารถเลือกได้อย่างอิสระตอนทำงาน ซึ่งผู้ป่วยทุกด้านก็คือผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนอย่างปกติที่เขาเป็น เราจึงมีหน้าที่เข้าไปจัดกิจกรรมเพื่อบำบัดรักษา แนะนำ และทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุดนั่นเอง

​-ด้านกาย : ผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย เช่นโรคที่เป็นทำให้มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ผู้ป่วยที่มีความพิกลพิการหรือผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุ ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งพวกเขาอาจมีร่างกายบางส่วนที่ไม่สามารถใช้งานได้อย่างปกติหรือมีประสิทธิภาพที่ลดน้อยลง จนไม่สามารถทำกิจกรรมที่ทำอยู่ในชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม

ด้านจิตสังคม  : อาจารย์เป็นคนพูดเองเลยค่ะว่าด้านนี้เป็นที่สนใจ เป็นด้านที่สังคมไทยกำลังประสบเจออยู่ ผู้ป่วยในด้านนี้คือผู้ป่วยที่มีภาวะเกี่ยวกับความคิดและจิตใจ อาจเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ จนทำให้เกิดอาการต่างๆเช่น อาการหูแว่ว คิดไปเอง เห็นภาพหลอน อาการเครียดอย่่างหนัก  ใจสั่นมือสั่น วิตกจริตตลอดเวลา เช่นผู้ป่วยMajor depressive disorder หรือผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า ผู้ป่วยจิตเภทและผู้ป่วยที่ติดสารเสพติด เป็นต้น 

ด้านเด็ก : ใครรักเด็กคงต้องชอบด้านนี้แน่ๆ แต่อย่าลืมว่าเด็กในที่นี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา โดยผู้ป่วยของเราก็เช่นเด็กพิเศษ เด็กออทิสติกอยู่นิ่งไม่ได้ วอกแวกตลอดเวลา เด็กที่เจอปัญหาการเข้าร่วมสังคมและอีกมากมายค่ะ ก็คือมุ่งเน้นไปที่วัยของผู้ป่วยนั่นเองซึ่งก็คือเด็ก ก็ต้องมีความเข้าใจความคิดของเด็กด้วยน้า แถมยังเป็นด้านที่หางานได้ง่ายและฮิตที่สุดค่ะ อาจารย์ในสาขาเราก็ฝ่ายเด็กเยอะมากๆ

-ด้านผู้สูงวัย : อนาคตสังคมไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุแล้วใช่ไหม แต่ด้วยร่างกายที่เริ่มโรยราไปตามช่วงวัย ทำให้ผู้สูงอายุเกิดปัญหาในการดำเนินชีวิตมากมายแม้แต่กิจกรรมในชีวิตประจำวันยังทำยากขึ้นเลย อันนี้น้องๆน่าจะนึกภาพออกเนอะ เช่นการเข้าห้องน้ำของคุณตาคุณยาย อาการหลงลืม อัลไซเมอร์ โรคที่กระทบกับการใช้ชีวิต และพี่ก็คิดว่าด้านนี้เป็นที่ต้องการมากในอนาคตด้วยนะ

ด้านชุมชนด้านนี้เป็นเหมือนด้านเพิ่มเติมค่ะ ในช่วงหลังเราต้องให้ความสำคัญในด้านนี้มากขึ้น เพราะนักกิจกรรมก็เป็นเหมือนนักคิด ด้านชุมชนก็คือการลงพื้นที่ชุนชนนั่นเอง เหมือนเราลงไปหาผู้ป่วยและให้คำแนะนำกับเขาในเบื้องต้น (เพราะคงมีผู้ป่วยที่ประสบปัญหาในการดำเนินชีวิตมากมายถมเถไปในสังคมใช่ไหมคะ) การที่เราลงชุมชมนั้นก็ถือว่าได้ช่วยคนมากมายเลยทีเดียวค่ะ ทั้งนี้พวกเรายังมีบทบาทในการปรับสภาพบ้านและสิ่งแวดล้อมด้วยนะคะ เรียกร้องสิทธิ์ให้คนไข้ก็ได้ด้วบ ฉะนั้นในปีสูงน้องๆจะได้เป็น ถาปัตย์ทิพย์ นิติทิพย์ค่ะ55555 เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่่งให้เธอแล้ว


​• นักกิจกรรมบำบัดจะเข้าไปรักษาอย่างไรบ้าง ? 

น้องๆจะได้เรียนทุกด้านและแต่ละด้านก็จะมีการรักษาที่แตกต่างกันไป เน้องไม่ใช่แค่แนะนำแนวทางให้ผู้ป่วยเท่านั้น น้องๆต้องลงมือทำเพื่อให้เขากลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ประหนึ่งหมอที่ต้องรักษาคนไข้ให้หายป่วย) เช่น ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยที่ไม่อำนวย น้องๆอาจต้องลงพื้นที่ไปที่บ้านของผู้ป่วยหาหนทางดัดแปลงหรือเพิ่มเติมสภาพแวดล้อมนั้นให้อำนวยต่อผู้ป่วยมากที่สุด เห็นไหมว่าเราแคร์ทุกด้านของผู้ป่วยเลยแม้แต่สิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยเอง ส่วนบทบาทของเราก็จะได้จัดกิจกรรมเพื่อมาฟื้นฟูด้านต่างๆของคนไข้ที่มีปัญหา 

คำถามชวนคิด : 
คนไข้มีปัญหาการใช้มือขวา เนื่องจากอุบัติเหตุรถล้ม ไม่สามารถเคลื่อนไหวมือขวาได้สุดช่วง แต่คนไข้มีความต้องการที่จะกลับไปเขียนหนังสือให้ได้ (อันนี้ฝ่ายกายค่ะ)
วิธีที่1 : ใช้มือขวาได้อยู่แต่ไม่สุดช่วง เราน่าจะฟื้นฟูได้อยู่ ไปคิดกิจกรรมที่เพิ่มการเคลื่อนไหว กำลังกล้ามเนื้อต่างๆดีไหมนะ เช่น ให้บีบดินน้ำมัน 
วิธีที่2 : ฝึกทักษะใหม่ให้คนไข้โดยการฝึกให้คนไข้ลองใช้มือซ้าย (ข้างมี่ไม่ถนัด) ในการทำกิจกรรม โดยให้ลองใช้มือซ้ายกำช้อนตักลูกปิงปองจากแก้วนึงมาใส่อีกแก้วนึงก่อน
วิธีไหนถูก คำตอบคือถูกทั้งคู่ค่ะ ทั้งหมดขึ้นกับวิธีการคิดของนักกิจกรรมบำบัดแต่ละคน ซึ่งกระบวนการตรงนี้เป็นแค่ตัวอย่างคร่าวๆ น้องๆจะได้ทำแบบนี้ตอนเรียนและทำงาน กิจกรรมที่น้องคิดให้คนไข้ฝึกและฟื้นฟูล้วนผ่านการวิเคราะห์ทางmedical ทั้งนั้น ฉะนั้นแค่กิจกรรมเขียนหนังสือก็วิเคราะห์ได้เป็น 10ๆแผ่นA4 ได้เลยค่ะ


• สิ่งที่ควรมีในการเรียนคณะนี้ ?

1) จิตใจที่เมตตา ต้องเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นจริงๆ : น้องๆไม่ได้รักษาแค่ให้เขาหาย น้องๆต้องมีความเข้าอกเข้าใจ นักกิจกรรมบำบัดมักจะผูกพันเพราะพวกเรามองปัญหาหลายด้านและพวกเราจะมองคนไข้เป็นมนุษย์คนนึง ไม่ตัดสินว่าสิ่งที่เขาคิดเป็นสิ่งที่ผิด น้องๆจะเข้าใจมากขึ้นเมื่อมาเรียนฝ่ายจิตน้า

2) มีไหวพริบและการสังเกตเป็นเริด : เช่นกับผู้ป่วยที่เป็นเด็ก น้องๆต้องรู้จักหาวิธีเข้าหาเพื่อให้เด็กคนนั้นยอมรับในตัวของเรา ทำให้เด็กอยากจะมาบำบัดกับเรา ไม่ใช่กลัวเรา ทำให้เด็กมีความร่วมมือให้ได้ หรือกับผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า น้องๆก็ต้องฉลาดในการใช้คำพูด สังเกตในขณะสัมภาษณ์ผู้ป่วยว่าเขามีการแสดงออกอย่างไร คนไข้สั่นตัว เบือนหน้าหนีแบบนี้หมายถึงอะไร ตอนทำกิจกรรมคนไข้แก้ปัญหาเช็ดกาวกับเสื้อผ้าตัวเองแบบนี้หมายถึงอะไร คนไข้วาดรูปชิดริมกระดาษอย่่างเดียวหมายถึงอะไร คนไข้แปะกระดาษเกินขอบหมายถึงอะไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นทักษะสำคัญของนักกิจกรรมบำบัด น้องจะได้ใช้และฝึกตลอดที่เข้ามาเรียนเลยค่ะ

3) รูัจักคิดและสร้างสรรค์ เพราะน้องๆตัองออกแบบกิจกรรม คิดoccupation ว่าจะรักษาผู้ป่วยคนนี้อย่างไร เป็นอีกทักษะที่ควรมีมากๆ เพราะวิชาที่ได้เรียนตอนปีสูงน้องๆต้องคิดเองทั้งหมด เช่น อยากพัฒนาทักษะการทำงานตามขั้นตอนน้องๆจะให้คนไข้ทำกิจกรรมอะไร ถ้าคนไข้มีปัญหาการทรงตัวน้องๆจะให้เขาทำอย่างไร ถ้าคนไข้มีปัญหาการลืมทานยาน้องๆจะคิดวิธีอะไรหรือออกแบบอะไรเพื่อแก้ปัญหานี้ ลองไปคิดเล่นๆได้นะคะ ^ ^


• ได้เงินเดือนเท่าไหร่? 

เรียกได้ว่าเป็นคำถามยอดฮิตในการเลือกคณะ55555 บอกไว้ก่อนว่า คณะสายวิทย์สุขภาพจะสตาร์ทเริ่มต้นที่ 15000 เป็นขั้นต่ำในหน่วยงานรัฐ แต่น้องๆจะได้ค่าOTค่าสวัสดิการบลาๆ รวมๆก็จะอยู่ที่ 18000-20000++ นั่นเอง แต่ถ้าภาคเอกชนก็จะอยู่ที่ 23000-50000+ (ของรุ่นพี่ที่จบจากมหิดลไปทำงานที่ถามมาได้ประมาณ50000 ค่ะแบบรับเคสโฮมด้วย) โดยแต่ละคนไข้ยังได้ค่ารายชั่วโมง แถมแต่ละเคสก็ได้ค่าตอบแทนแตกต่างกันไป อีกอย่างคือเราสามารถเปิดคลีนิกเองได้ด้วย! (ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเงินดีแค่ไหนเพราะผู้ป่วยไม่ใช่รักษากับเราแค่แปปเดียวจริงไหมคะ) และที่ขาดไปไม่ได้คืออาชีพนี้เป็นอาชีพที่บูมมากในต่างประเทศ ของมหิดลเรามีกิจกรรมบัดดี้แลกเปลี่ยนด้วยนะ ปีที่แล้วญี่ปุ่น ปีนี้เนเธอแลนด์ เรียกได้ว่าใครเก่งภาษาก็อย่าได้พลาดโอกาสนี้ น้องๆอาจได้เงินเดือนในหลักเลขศูนย์ 5 ตัวก็ได้ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องเองด้วยนะคะ น้องขยันตั้งใจทำงานและหมั่นศึกษาหาความรู้แค่ไหน)

***การเลือกอาชีพอย่าคิดเรื่องเงินเดือนเป็นเรื่องหลัก น้องๆต้องรักในอาชีพนั้นจริงๆถึงจะอยู่กับมันได้ ไม่เช่นนั้นน้องๆจะเหมือนตกนรกทั้งเป็น และอาชีพสายสุขภาพน้องๆควรมองการช่วยเหลือคนอื่นมาก่อนสิ่งอื่นใด ความสุขของการได้เห็นคนๆนึงกลับมาใช้ชีวิตที่ดีได้ด้วยฝีมือของน้องเองคือความสุขที่เงินก็ไม่อาจซื้อได้ค่ะ (อาชีพของเราขึ้นชื่อว่าเป็นอาชีพที่ทำแล้วมีความสุขที่สุด TOP10 ด้วยน้า ) 

 จบไปมีใบประกอบวิชาชีพไหม? 
มีค่ะ เมื่อน้องๆเรียนจบปี4 จะต้องสอบใบประกอบวิชาชีพให้ผ่านเพื่อใช้ประกอบอาชีพรวมทั้งจะได้รายได้ค่าใบประกอบตอนทำงานค่ะ

 มีมหาวิทยาลัยไหนเปิดสอนบ้าง ? 

1) คณะเทคนิคการแพทย์ ภาควิชากิจกรรมบำบัด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2) คณะกายภาพบำบัด ภาควิชากิจกรรมบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล 
3) Update: #dek65 เปิดเพิ่ม มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ มศว. โครงการร่วมกับสถาบันศูนย์สิรินธรสภากาชาดไทย เป็นหลักสูตรที่อาจารย์จาก 2 สถาบันแรกร่วมกันเขียนขึ้นมา 


เนื่องจากเป็นภาคสาขาวิชาที่เหมือนไปยืมคณะเขามาเรียน (เพราะข้อจำกัดต่างๆทำให้ยังเปิดเป็นคณะแยกไม่ได้ ต้องอาศัยส่วนงานคนอื่นเขาอยู่ แต่จริงๆแล้ว ไม่ได้เรียนเกี่ยวข้องอะไรกับชื่อคณะนะคะ น้องๆเรียนเหมือนเป็นคณะหนึ่งเลย เหมือนสาขารังสีเทคนิคก็เรียนคนละอย่างกับเทคนิคการแพทย์ใช่ไหมคะ แต่ทั้งสองนี้ถูกเรียกรวมว่าคณะสหเวชศาสตร์อะไรทำนองนั้น ชะนั้นอย่่างพี่เรียนที่มหิดล สาขาเราอยู่ในคณะกายภาพบำบัด แต่เราไม่ได้เรียนร่วมกับเพื่อนในคณะเลยน้า เรียนแยกกันแต่อยู่คณะเดียวกันส่วนงานเดียวกันและถือว่าเป็นเพื่อนคณะเดียวกันนั่นเอง ) เลยทำให้คนยังไม่รู้จักสาขาวิชานี้มากนัก อย่าเข้ามาเพราะคิดว่าเรียนเหมือนชื่อคณะน้า เราเรียนคนละอย่างกันเลย ถามตัวเองดีๆว่าชอบอะไรนะคะ

สาขากิจกรรมบำบัดในทุกสถาบันไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร คะแนนก็พอๆกัน ใกล้เคียงกันมากๆ พี่ไปเจอคนที่ทำงานด้านนี้ก็จบจากสองที่นี้แหละค่ะ ทำงานด้วยกัน เป็นเพื่อนร่วมอาชีพกัน ตอนฝึกงานปี3 ทั้งเชียงใหม่กับมหิดลก็วนมาเจอกัน ฉะนั้นน้องๆเลือกมหาวิทยาลัยในที่ๆสะดวกได้เลย อย่างพี่เลือกมหิดลเพราะพี่เป็นคนภาคกลาง มหิดลสะดวกกว่าแล้วก็เป็นมหาวิทยาลัยในฝันด้วย



ในตอนปี 2น้องๆต้องเรียน กายวิภาคศาสตร์หรือก็คือการผ่าอาจารย์ใหญ่ ถ้ากลัวจะเรียนได้ไหม? จริงๆมันไม่น่ากลัวนะคะ ไม่มีเลือดไม่มีอะไร กลิ่นก็ไม่ได้แรงขนาดนั้นค่ะ ถ้าอยากเห็นของจริงต้องลองมา open house มหิดลดูน้า เหมือนมหาลัยจะมีเปิดให้น้องๆเข้าไปดูที่คณะวิทยาศาสตร์ หรือถ้าอยากสัมผัสของจริงแบบละเอียดก็สมัครเข้ามาที่ค่ายเพาะกายของคณะได้เลย นอกจากนี้ก็จะเริ่มได้เรียนเนื้อหาวิชาที่ลึกขึ้น น้องๆจะได้ทำLAB ได้จับอุปกรณ์การประเมินเยอะมากถึงมากที่สุด 

**ปี3 เทอม2 : ปีของการรับเสื้อกาวน์ (ของมหิดลจะปักชื่อเราพร้อมเขียนสาขาวิชาให้ตรงเสื้อ) และปีของการเริ่มฝึกงาน น้องๆจะได้ไปฝึกประมาณ 6 ที่ทั้งในปริมณฑลและต่างจังหวัด โดยได้ไปฝึกกับเพื่อนอีก 1 คน เป็นปีของการค้นหาตัวเองอย่างแท้จริง น้องๆเรียนมาอาจจะชอบฝ่ายนี้ พอไปฝึกงานอาจจะชอบอีกฝ่ายเลยก็ได้เป็นเรื่องปกติ

• อยากเข้าต้องทำอย่างไรบ้าง?
น้องๆสามารถเข้่าไปดูเกณฑ์การคัดเลือกได้ในเว็บไซต์ของคณะและสาขานะคะ 

Update 2565 : 
ทุนการศึกษาของสาขากิจกรรมบำบัดมหิดล ** แลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศ **
1) โครงการแลกเปลี่ยนแบบออนไลน์คู่หูบัดดี้มีทุกปีค่ะ รับนักศึกษาที่สนใจทุกชั้นปี โดยจะมีการสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษซึ่งส่วนใหญ่ก็ผ่านทุกคน ปีที่แล้วประเทศญี่ปุ่น ปีของพี่เป็นเนเธอแลนด์ น้องๆจะได้มีเพื่อนๆโอทีจากประเทศอื่นเพื่อเรียนรู้แลกเปลี่ยนกันค่ะ 
3) โครงการแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศ ไปศึกษาที่นู่นบินและไปอยู่อาศัยเป็นเวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์โดยไปพร้อมกับอาจารย์ เป็นทุนการศึกษาจำนวน 30,000 บาท ของปีพี่มี ไต้หวัน ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย จะได้ไปประเทศละ 2 คน น้องๆสามารถสมัครและสอบสัมภาษณ์ได้ตอนปี3 เทอม2 ได้เลย โอกาสแบบนี้ห้ามพลาดเลยน้า!

กิจกรรมOTสัมพันธ์ 3 มหาวิทยาลัย

เป็นกิจกรรมที่จะได้เจอเพื่อนๆน้องๆพี่ๆทุกชั้นปีจากแต่ละมหาวิทยาลัย ขึ้นกับว่าปีไหนเป็นเจ้าภาพ อย่างปีของพี่ มช.เป็นคนจัดงาน พวกเราชาวมหิดลก็จะเดินทางไปหาที่มช. อบอุ่นและสนุกมากกกก

จาก พี่ ถึง น้องๆ :)
ก็ถ้าใครอยากเข้าคณะนี้พี่ก็ขอให้สมหวังน้า และถ้าหากใครมีคำถามก็สามารถคอมเม้นไว้ได้ค่ะ ว่างๆเดี๋ยวพี่จะเข้ามาตอบคำถามให้นะคะ แต่ถ้าอยากได้ประสบการณ์ ที่อยากให้น้องๆหาโอกาสมาที่คณะเพื่อดูอะไรหลายๆอย่างทั้งสภาพแวดล้อม ห้องเรียน พี่ๆในคณะ รวมถึงได้มาเห็นอุปกรณ์และห้องของจริง มาหาพี่ๆที่ open house หรือค่ายเพาะกายของคณะได้เร้ยยยย

ไว้มาเป็นรุ่นน้องพี่นะคนเก่ง
จากพี่ OT13 มหิดล
 

แสดงความคิดเห็น

>

13 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Ciizesee 20 ก.พ. 65 เวลา 10:05 น. 2-1

เห็นน้องๆขอไอจีมาเยอะ @zeesuce น้า ถ้ามีอะไรอยากปรึกษาหรือตามชีวิตนักศึกษาของพี่ก็แอดมาได้คั้บ ฮือ55555555

0
Ciizesee 6 ก.ย. 63 เวลา 13:37 น. 3-1

จริงๆไม่เหมือนกันเลยค่า สาขากิจกรรมบำบัดแค่เป็นสาขาที่ใช้คณะร่วมกับสาขากายภาพบำบัดค่ะ(อย่างที่มช.อยู่ในคณะเทคนิคการแพทย์)เรียนไม่เหมือนกันเลยน้า

กายภาพบำบัด(PT) = นักกายภาพบำบัด : เน้นรักษาเฉพาะจุดแบบที่เรารู้ๆกันดี

กิจกรรมบำบัด(OT) = นักบำบัด : เน้นการรักษาแบบองค์รวม รักษาผู้ป่วยแบบใช้กิจกรรมมาเป็นสื่อในการรักษา (แบบที่อธิบายไปในกระทู้ข้างต้นเลยค้าบ) นึกภาพว่านักบำบัดที่รักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าก็ได้ค่ะ แบบว่านักบำบัดเนี่ยต้องทำทุกวิถีทางให้เขากลับมาใช้ชีวิตแบบปกติสุขอย่างเดิมให้ได้


อันนี้ขึ้นกับว่าชอบแบบไหนมากกว่ากันน้า️

0
Ciizesee 7 ต.ค. 63 เวลา 15:07 น. 4-1

ใส่พวกผลงานที่เกี่ยวกับการออกชุมชม , ดูแลเด็กสอนเด็ก , ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านทำนองนี้ได้ค่ะ ใส่ละเอียดๆมาน้า หรือเป็นผลงานพวกงานฝีมือทำบายศรีทำพานงานศิลปะอะไรทำนองนี้ก็ได้ค่ะ(พวกงานฝีมือเป็นทักษะที่จะใช้รักษาผู้ป่วยจิตเวชในอนาคตได้ค่ะ มีเพื่อนในคณะพี่ติดคนนึงเพราะมีผลงานด้านนี้เยอะเช่นกันค้าบ)

0
Apec03622 13 ต.ค. 63 เวลา 19:21 น. 5

พี่ครับ พอมีช่องทางติดต่อ พวกทวิตไรงี้มั้ยครับ อยากสอบถามกก.คณะนี้ครับ

2
Shimaaaa 1 มิ.ย. 64 เวลา 19:09 น. 6

ฮรือออขอบคุณพี่มากเลยนะคะ อยากเข้าคณะนี้มากๆๆๆเลย เป็นdek65ค้าบต้องสอบติดให้ได้เลยย! พี่มีigมั้ยคะอยากติดตามเป็นfcค่าาา(∀)

1
Ciizesee 27 ต.ค. 64 เวลา 13:31 น. 6-1

โหยยย มาเป็นรุ่นน้องในคณะก่อนเร้ววว เดี๋ยวแจกไอจีให้อิอิ รอเลี้ยงชาบูอยุนะก๊ะะ

0
ammyrose 15 ส.ค. 64 เวลา 17:54 น. 7

อัตราการสอบเข้าสูงไหมคะ การแข่งขันในการสอบเข้าเยอะไหมคะ ประมาณกี่คนต่อปีที่สมัครเข้าคะ??

1
Ciizesee 27 ต.ค. 64 เวลา 13:34 น. 7-1

รับ 35 คนต่อปีค่า แบ่งเป็นรอบพอร์ตกับรอบแอดคั้บ(ของปีพี่น้า) แข่งขันสูงขึ้นทุกปีค่ะดูจากคะแนนปีล่าสุดงี้ อันนี้ขึ้นอยู่กับข้อสอบกลางในปีนั้นๆด้วยค่ะะ

0
Ciizesee 27 ต.ค. 64 เวลา 13:41 น. 8-1

ได้แน่นอนค่ะ! เพราะรุ่นน้องไม่มีเคมีกับฟิสิกส์แล้วคั้บ แต่จะไปหนักชีวะนะคะน้องๆ อนาโตมี่ ผ่าอาจารย์ใหญ่ไรงี้ค่า ไม่ต้องกังวลเรื่องวิชาพวกนี้เลยว่าเราไม่เก่งจะเรียนไหวไหม เพราะทุกคนเข้ามารั้วมหาลัยเริ่มนับ1ใหม่ทุกคนค่ะ ขอแค่น้องเข้ามาในคณะของเราให้ได้ก่อนน้า มีพี่ๆซับพอร์ตน้องๆอยู่แล้วไม่ต้องกลัว ครอบครัวโอทีแสนอบอุ่นค่า

0
Ciizesee 20 ก.พ. 65 เวลา 10:00 น. 9-1

รอบพอร์ตมีน้องๆปีล่าสุดทำลงยูทูปให้แล้วค่า สามารถคีย์หาในยูทูปได้เลยน้าว่า รอบพอร์ต กิจกรรมบำบัด มหิดล ไรงี้ก็ได้ค่า️


0
Ciizesee 20 ก.พ. 65 เวลา 10:02 น. 10-1

ไม่เข้าเกณฑ์คณะนี้น้า เพราะจบเป็นวุฒิ วทบ. (วิทยาศาสตร์บัญทิต สายสุขภาพต้องจบ วิทย์-คณิต เท่านั้นค่ะ )

0
Dek 68 11 ต.ค. 65 เวลา 19:49 น. 11

รอบพอร์ตนี่เน้นส่วนไหนคะ พอดีว่าหนูมมีน้องชายที่เป็นออทิสติกแล้วแบบว่าได้ฝึกกับอาจารย์ พี่ๆที่มาฝึกงาน(สถาบันเด็กและครอบครัวของมหิดล)อะค่ะ อยากถามว่าแบบนี้เอามาใส่พอร์ตได้มั้ยคะ

1
Ciizesee 16 ต.ค. 65 เวลา 20:17 น. 11-1

ใส่ได้แน่นอนค่ะ แต่ว่าเน้นถ่ายตัวเองตอนทำงาน (ปิดหน้าผู้ป่วยด้วยนะคั้บ) เป็นผลงานที่ดีมากๆ ขอให้ติดรอบพอร์ตน้าาาา

0
กบ อณูวรรณ 17 ก.ค. 66 เวลา 16:13 น. 12

เป็นแม่เด็กพิเศษคะ อยากหานักกิจกรรมบำบัดมาดูน้องที่บ้าน แถวเลียบด่วน น้องสติปัญญาบกพร่องคะ ต้องการเสริมสมาธิ แบะการเคลื่อนไหวคะ

นักกิจกรรมบำบัดที่จบแล้ว หรือยังเรียนอยู่ก็ได้คะ

ทักมาคุยก่อนได้คะ

096-915-6145

0