สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ "เด็กพลังบวก" ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และทำกิจกรรมเพื่อตัวเองและสังคมกันค่ะ
ถึงแม้การเสพสื่อบันเทิงต่างประเทศ อย่างการดูหนัง รายการทีวี หรือฟังเพลง จะมีเป้าหมายหลักคือเพื่อ relax แต่ก็มีโอกาสมากเลยค่ะที่ความสุขนั้นจะต่อยอดมาเป็นความรู้สึกอยากเรียนภาษานั้นให้เก่ง อย่างบางคนอยากเรียนภาษาเพื่อให้ดูหนังจาก Original ได้โดยไม่ต้องรอซับไทย บางคนหลงรักสไตล์เพลงฝรั่งจนอยากเข้าใจความหมายในทุกเพลง หรือบางคนอาจอยากเข้าใจสิ่งที่ไอดอลตนพูดโดยไม่ต้องใช้ล่าม!
และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับคนๆ นึงที่เริ่มฮึดเรียนเกาหลีจริงจังเพราะไปแฟนไซน์แล้วอยากสื่อสารกับไอดอลที่ตนชื่นชอบรู้เรื่อง และช่วงที่ต้องเข้ามหา'ลัย เธอยังตั้งมิชชันสุดท้าทายโดยพูดกับเมนตัวเองในงานไซน์ว่า 'ถ้ายังไม่ติดมหา'ลัย ยังยังไม่หานะ' เรื่องของเธอจะน่าสนใจขนาดไหน ตามมาอ่านกันเลยค่ะ
แนะนำตัว
“สวัสดีค่ะ ชื่อ ‘ปริ้น’ - พรปวีณ์ ธันยภรสกล อายุ 17 ปี กำลังเรียน ม.6 แผนการเรียนศิลป์-สเปน รร.เตรียมอุดมศึกษาค่ะ”
ชอบเกาหลี แต่เลือกเรียนศิลป์-สเปน
“ปริ้นอยากเรียนภาษาเกาหลีเพราะเริ่มติดตามไอดอลเกาหลีมาตั้งแต่ ม.3 ค่ะ (เปลี่ยนเมนทุกปี~ ตอนนี้จีฮุนกับ X1) เริ่มจากฝึกอ่านตัวอักษร แต่ก็แค่ในระดับที่พออ่านได้ แต่ไม่มาก เพราะติดต้องสอบเข้าเตรียมอุดม”
“แล้วหนูก็มานั่งคิดว่า ถ้าเราชอบภาษาเกาหลีอยู่แล้ว ต่อให้ไปเรียนเองข้างนอกโดยไม่มีอะไรมาบังคับ ยังไงก็เรียนได้ เลยตัดสินใจเลือกเรียน ม.ปลายเป็นภาษาอื่นเพิ่มดีกว่า ถึงจะมีช่วงเบื่อยังไงก็เป็นไฟต์บังคับว่าเราต้องตั้งใจเรียนจนจบ ส่วนเหตุผลที่เลือกสเปน เพราะปริ้นสนใจด้าน media ของเกาหลี แล้วไปศึกษาจนรู้ว่าเขาพยายามเจาะตลาด media ฝั่งลาตินอเมริกาอยู่ ดังนั้นเลยตอบโจทย์เราที่อนาคตอยากทำงานด้านนี้ที่เกาหลีค่ะ ^^”
เกือบหมดไฟในการเรียนเกาหลี
แต่ฮึดอีกทีเพราะไปแฟนไซน์ครั้งแรก!
“พอเข้า ม.ปลาย มาจะมีช่วงที่ทั้งเรียนทั้งทำกิจกรรมจนเหนื่อยและห่างๆ เกาหลีไปบ้าง แต่พอดีมีขอคุณแม่ไปงานแฟนไซน์ครั้งแรกในชีวิต ตอนนั้นเป็น ‘ยงกุก’ เขาสัญชาติจีนเราเลยพูดจีนกับเขาได้ (ปริ้นเรียนจีนมาตั้งแต่ประถมแล้ว) แต่ทีนี้ก็มานั่งคิดว่าถ้าเกิดเป็นคนอื่นล่ะ? เราก็ต้องพูดภาษาเกาหลีนะ แล้วถ้าจะท่องไป เวลาเขาตอบกลับมาเราก็ไม่เข้าใจอีก เราอยากนั่งคุยให้รู้เรื่องมากกว่า เลยเป็นเหตุผลที่ฮึดเรียนเกาหลีขึ้นมา”
“อีกอย่างคือเราเข้าใจเลยว่าถ้าพูดเกาหลีไม่ได้แล้วไปที่นั่น จะใช้ชีวิตลำบากมาก ถ้าพูดอังกฤษไปเขาก็อาจไม่ตอบเรา เหมือนตอนหนูยังไม่ได้ภาษาแล้วบินไปร่วมงานแฟนไซน์ พอถึงช่วง talk คนอื่นนั่งฟังหัวเราะกันมีความสุข แต่เรานั่งเอ๋อไปเลย เขาไม่ได้มีล่ามมานั่งแปลให้ แล้วบางทีก็ไม่มีให้ดูย้อนหลัง ถ้าพลาดตอนนั้นคือพลาดเลยค่ะ”
เธอเล่าการเริ่มต้นเรียนสไตล์ตัวเองให้ฟังว่า “ปริ้นจะถนัดเรียนเอง แต่ก็มีช่วงที่ได้เรียนพื้นฐานจากที่โรงเรียนเหมือนกัน เพราะสเปนไม่มีสอบ PAT เขาเลยให้เลือกเรียนภาษาอื่นที่มีใน PAT ได้ 1 ภาษา ปริ้นก็เลยลงเกาหลี จากนั้นก็ไปต่อยอดข้างนอกเอง ทั้งอ่านเพิ่ม เทกคอร์ส และเคยไปโครงการสั้นๆ ที่ Busan National University ช่วง ม.4 ขึ้น ม.5 ค่ะ ซึ่งพอไปแล้วก็เจอแต่ความประทับใจ เพราะคนที่นั่นใจดีมาก เรายังไม่เคยถูก bully เลย แถมสิ่งอำนวยความสะดวก คมนาคม และอากาศก็ดีมากๆ ด้วย”
“วิธีการของปริ้นคือพยายามทำให้ภาษาเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันมากที่สุด แรกๆ จะยาก แต่มันจะค่อยๆ ซึมซับ เช่น ใช้แอคทวิตเตอร์แปลข่าวศิลปินที่ชอบ ดูรายการวาไรตี้ ดูซีรีส์ ทำให้รู้จักศัพท์วัยรุ่น และเข้าใจกฎการออกเสียง ซึ่งจริงๆ แล้วปริ้นไม่ใช่คนชอบดูหนังดูซีรีส์มาก่อน แต่คิดว่าถ้ากลับจากเกาหลีมาแล้วไม่ทบทวนเลยก็อาจจะหลุดได้ ก็เลยหันมาดูซีรีส์ซับเกาหลี อาจมีปัญหากับศัพท์เก่าๆ หรือศัพท์แพทย์บ้างค่ะ"
หลังจากเรียนมาระยะนึงแล้ว พอไปแฟนไซน์พบศิลปินที่ชอบแล้วเป็นยังไงบ้าง? “มีไปงานไซน์ ‘ดงฮัน’ เมื่อปีที่แล้วก่อนกลับเกาหลี แต่ยังติดสคริปต์ในหัว เลยยังพูดติดๆ ขัดๆ แต่พอไปงานจีฮุน ช่วงเดือน มี.ค. ก็ดีขึ้น เราอยากพูดอะไรก็พูดออกมาได้เลยค่ะ ^^”
เผลอเทการเรียนจนนอยด์ตัวเอง
เลยตั้งมิชชันสุดท้าทาย
“มันจะมีช่วงนึงที่แอบเทเรื่องเรียน พอทำเกรดได้ก็ปล่อย โดยที่ลืมคิดไปว่าเราจะต้องเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะ ชะล่าใจ ติดเล่นจนสมัครสอบ TOPIK ไม่ทัน ทำให้ยื่นสมัครทุนที่ตั้งใจไว้ไม่ได้ รู้สึกแย่กับตัวเองมากๆๆๆ เลย ซึ่งตอนนั้นซื้ออัลบั้มไซน์จีฮุนไปแล้ว เราก็ไปแล้วพูดกับเขาว่า ‘ถ้าไม่ติดมหา'ลัย จะยังไม่มาหานะ’"
แล้วในที่สุดก็เธอก็ทำสำเร็จ!
“ตอนนั้นดูไว้หลายทุน เพราะอยากไปเกาหลีให้ได้ มีทั้งทุนรัฐบาลเกาหลีใต้, ทุน EGPP ของ Ewha University และรับตรงของ Korea University ค่ะ ถ้าเป็นทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ต้องเลือก 3 อันดับ ปริ้นก็เลือกคณะ Media มหาวิทยาลัย SKY ทั้งหมด (Seoul, Korea, Yonsei) เพราะเราสนใจด้านนี้มาตลอด หนูว่าสื่อบันเทิงของเขาดีมาก เป็นเหมือน Hollywood ของฝั่งตะวันออกเลย เขาฉลาดในการใช้ K-POP เผยแพร่วัฒนธรรมมากๆ และยังช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะ K-POP ดึงดูดนักท่องเที่ยว” (อ่านรีวิวการขอทุนเพิ่มเติมที่นี่)
“พอหนูติดทุนแล้วก็เลยไปงานไซน์จีฮุน แล้วพูดกับเขาว่า ครั้งที่แล้วบอกแบบนี้นะว่า ถ้าไม่ติดมหา'ลัยจะไม่กลับมา ตอนนี้ติดแล้วนะ หนูตั้งใจจะขอบคุณที่เขาเป็นแรงบันดาลใจ แต่ปรากฏว่าเขาพูดออกไมค์ภาษาเกาหลีประมาณว่า ‘ทุกคนคร้าบบ โฟกัสตรงนี้หน่อย คนๆ นี้ติด ม.โซล ม.โคเรีย และ ม.อีฮวา ขอให้ทุกคนปรบมือ แล้วเขาก็พูดกับหนูอีกว่า ไม่รู้เลยว่า MAY (ชื่อเรียกแฟนคลับจีฮุน) ของผมมีคนเก่งขนาดนี้ด้วย’ หนูตกใจมากกก แล้วพอหนูไปอีกวันที่ 2 เขาก็ยิ้มๆ ยื่นสมุดไซน์ แล้วทักว่า เมื่อวานก็มานี่นา นักเรียนโซล (แต่เขาจำได้แค่นั้นแหละ5555) นี่คือประสบการณ์ที่พีคสุดในชีวิตแล้ว~”
ลองหาแรงบันดาลใจ
ที่ทำให้เราอยากเก่งภาษานั้น
"ในการเรียนภาษาคือปริ้นเอาไอดอลเป็นที่ตั้งเลยค่ะ อย่างแต่ก่อนก็กลับมาฮึดเรียนจีนเพราะชอบไอดอลจีน 5555 ถ้าจะเรียนให้ดีก็ต้องมีแรงบันดาลใจเป็นของตัวเอง พยายามหาเหตุผลที่ทำให้เราอยากเรียนภาษานั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นติ่งก็ได้ หาเหตุผลในการเรียนภาษานั้นให้เจอ ใช้ใจเรียนเยอะๆ มีความสุขกับสิ่งที่ทำ ทุกคนทำได้แน่นอนค่ะ"
โอ๊ยยย แค่ฟังก็รู้สึกดีใจแทนมากๆ ถ้าอ่านถึงตรงนี้จะเห็นว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตั้งใจเรียนภาษาจนสอบติด 3 ทุนอย่างสวยงาม มันเกิดจากที่เธออยากฟังภาษาของคนที่เธอชื่นชอบให้ออก และพูดคุยตอบโต้ได้โดยไม่ต้องผ่านใคร พี่ก็หวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ ที่อยากเรียนภาษานะคะ หาเหตุผลให้เจอ แล้วใช้เป็นแรงผลักดันไปให้สุดเลยค่ะ ^^
2 ความคิดเห็น
โห ไลฟ์สไตล์เค้าก็นะ มอปลายแต่เข้าไซน์ได้นี่อีลีทมากนะ บ้านรวยจัดอะ แรงซัพเยอะ ไม่แปลกที่จะเก่ง
โอ้ยน้อคนเรา ดูจากlifestyleก็คือรวยมาก ครอบครัวซัพเต็มที่ มีเงินเข้าไซน์ มีเงินเทกคอร์สตปท สกิลจะอัพก็ไม่แปลกหรอก ไม่ได้ตั้งใจunderratedอะไรอยู่นะ เค้าก็พยายามแหละ แต่แค่รู้สึกว่าอ่านแล้วก็ไม่ได้ได้how toอะไรเท่าไหร่ ฟีลเหมือนนั่งฟังเด็กที่เรียนอินเตอร์มาหลายปีแนะนำวิธีเก่งอิ้งอ่ะ555555555