เปิดอันดับ 10 เทรนด์อาชีพมาแรงในอเมริกา จัดอันดับโดย LinkedIn!


            สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคน ในยุคที่สังคมกำลังเผชิญกับปัญหามากมาย น้องๆ วัยเรียนหลายคนคงเริ่มตั้งคำถามในใจแล้วว่า ‘ควรเลือกเรียนสาขาไหนถึงไม่ตกงาน?’ และถ้าหากใครอยากรู้ว่าแนวโน้มตลาดงานของโลกตอนนี้มีทิศทางไปทางไหนบ้าง วันนี้พี่ปุณเลยจะมาแนะนำ 10 อาชีพที่กำลังมาแรงและเป็นที่ต้องการอย่างมากในอเมริกา จากการจัดอันดับของ LinkedIn  ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตที่มีความเชี่ยวชาญสูงด้านอาชีพและธุรกิจ และยังเป็นเหมือนกับพื้นที่พบปะระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ถูกจ้างให้หากันจนเจอด้วย ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าว่าอาชีพไหนจะติด 1 ใน 10 เทรนด์กันบ้าง!
 

#10 Cybersecurity Specialist
 

 
Photo credit: https://atomcyber.com.au
 
            มาเริ่มกันที่อันดับ 10 ‘Cybersecurity Specialist’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปกป้องพื้นที่ทางไซเบอร์ที่เป็น “ส่วนตัว” หรือระบบคอมพิวเตอร์เครือข่าย (Cyberspace) ให้พ้นจากการโจมตีจากผู้ไม่หวังดี บอกเลยว่าอาชีพนี้เป็นที่ต้องการของแทบจะทุกบริษัทในอเมริกาเลยค่ะ ยิ่งในเมืองใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่าง Washington D.C. ละก็ ยิ่งขาดบุคลากรที่จะมารับตำแหน่งนี้ไปไม่ได้!
 
            โดยคนที่เข้ามาเป็นผู้เชี่ยวชาญสายนี้ ไม่เพียงต้องรู้จักระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายเป็นอย่างดี แต่ยังต้องมีความสามารถในการปกป้องข้อมูลสารสนเทศและตรวจสอบได้ว่าซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เน็ตเวิร์กต่างๆ มีช่องโหว่อะไรบ้างที่ต้องแก้ไขด้วย เรียกว่าต้องเก่งครบเครื่องเรื่องเทคโนโลยีสุดๆ เลยค่ะ
 

#9 Behavioral Health Technician
 

 
Photo credit: https://www.monster.com
 
            เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรงแบบนี้ ‘Behavioral Health Technician’ หรือนักวิเคราะห์สุขภาพย่อมเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างแน่นอนค่ะ แต่คนที่จะเข้ามาประกอบอาชีพนี้ได้นั้นต้องมีทั้งความมุ่งมั่นและอดทน เพราะพวกเขาต้องทำงานกับผู้คนหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีความบกพร่องด้านพัฒนาการ (Autism) ผู้ที่มีความผิดปกติทางพฤติกรรม รวมถึงผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิตอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่แอบเหนื่อยแต่ได้รับผลตอบแทนทางใจที่คุ้มค่ามากๆ ค่ะ
 

#8 Data Engineer
 

 
Photo credit: https://www.theeleader.com
 
                        ‘Data Engineer’ คือวิศวกรผู้สร้างระบบการขนส่งข้อมูล และออกแบบวิธีการจัดเก็บและเรียกใช้ข้อมูลนั่นเอง อาชีพนี้เน้นความสามารถด้านการเขียนโปรแกรม การจัดการแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ และการจัดเก็บ “ข้อมูล” ซึ่งถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่ทุกบริษัทต้องการรักษาไว้อย่างดีที่สุด โดยหน้าที่ของ Data Engineer จะสิ้นสุดที่ “การสร้างและการออกแบบระบบ” และหลังจากนี้ Data Scientist ผู้ที่มีความรู้ด้านธุรกิจและคณิตศาสตร์จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างโมเดลตามความต้องการของบริษัทต่อไปค่ะ
 

#7 Sales Development Representative
 

 
Photo credit: https://builtin.com
 
            ‘Sales Development Representative (SDR)’ เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในฝ่ายขายของบริษัท คนที่จะมาทำงานนี้ได้จะต้องมีความสามารถในการคิดค้นกลยุทธ์การขายที่จะดึงดูดลูกค้าที่มีความสามารถในการซื้อให้เข้ามาหา นอกจากนี้พวกเขายังจะต้องมีทักษะและวิธีพูดที่ดีที่จะแสดงให้เห็นถึงความเข้าถึงและเข้าใจในความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าอีกด้วย และไม่ว่าผ่านไปกี่ปีอาชีพนี้ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอยู่ตลอดเลยละค่ะ
 

#6 Customer Success Specialist
 

 
Photo credit: https://www.leb2.kmutt.ac.th
 
            มาต่อกันกับอีกหนึ่งอาชีพที่เจ้าของธุรกิจหลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ ‘Customer Success Specialist’ หรือผู้เชี่ยวชาญที่จะนำพาความสำเร็จมาให้ลูกค้า หน้าที่ของพวกเขาก็คือการดูแลรักษาผลประโยชน์และวางแผนซื้อใจให้ลูกค้าอยู่ใช้บริการกับทางบริษัทไปนานๆ ซึ่งคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่นี้ได้ก็ต้องมีทั้งทักษะด้านความรู้ที่ใช้ในการทำงาน (Hard skills) และทักษะด้านอารมณ์หรือความสามารถในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น (Soft skills) เพื่อที่จะสามารถสื่อสารและทำความเข้าใจในตัวลูกค้าแต่ละคนได้ค่ะ ณ จุดๆ นี้หลักจิตวิทยาต้องถูกงัดมาใช้แล้ว!
 

#5 Site Reliability Engineer
 

Photo credit: https://www.tv2summit.ch
 
            ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากเท่าไหร่ อาชีพนี้ก็ยิ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้นเท่านั้น ‘Site Reliability Engineer’ หรือ SRE คือวิศวกรที่มีหน้าที่พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ให้ทำงานได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังช่วยบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้อยู่รอดปลอดภัยไม่ถูกโจมตีอีกด้วย แอบกระซิบเลยว่าใครจบสาขานี้มาเงินเดือนสูงทุกคนนน
 

#4 Full Stack Engineer
 

 
Photo credit: http://pro.aiomag.com
 
            ถ้าจะให้นิยามความสามารถและภาระหน้าที่ของคนที่จะมาประกอบอาชีพนี้ พี่ก็ขอบอกเลยว่ามันกว้างมากค่ะ เพราะวิศวกร Full Stack เปรียบเสมือนโปรแกรมเมอร์ที่จะต้องทำได้ตั้งแต่ดูแลระบบโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาระบบหลังบ้านของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รวมถึงแก้ไขปัญหาเรื่องระบบความปลอดภัยอีกด้วย จะเรียกว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วก็ได้ 
 
            อย่างไรก็ตามคนที่จะได้รับเลือกให้มาทำงานในตำแหน่งนี้ส่วนมากจะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานมานานหลายปี เด็กจบใหม่อาจต้องอดใจและเก็บประสบการณ์รอกันสักหน่อยนะคะ
 

#3 Data Scientist
 

Photo credit: https://www.inc.com
 
            ‘Data Scientist’ คือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่มีหน้าที่นำข้อมูลมาวิเคราะห์ ประมวลผล และวัดประสิทธิภาพ เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาและวางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด หลักๆ สกิลพื้นฐานที่อาชีพนี้ต้องมีคือความรู้ด้านคณิตศาสตร์และสถิติ ธุรกิจ การเขียนโปรแกรม แล้วยังต้องสามารถสื่อสารและทำงานร่วมกับ Data Engineer ได้เป็นอย่างดีด้วย **บอกเลยว่าอาชีพนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลนี้ติดเทรนด์อาชีพมาแรง 3 ปีซ้อนแล้วค่ะ ใครที่ยังลังเลว่าจะเลือกเรียนในสาขานี้ดีไหมก็ลุยได้เลยยย
 

#2 Robotics Engineer
 

 
Photo credit: https://howtorobot.com
 
                        เมื่อการจ้างงานแรงงานต่างชาติและอัตราค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นกำลังเป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการหลายคนต้องเผชิญ พวกเขาจึงต้องมองหาระบบหรือบุคลากรที่จะมาช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการจัดการบริหารคนได้ ซึ่งอาชีพวิศวกรพัฒนาหุ่นยนต์หรือ ‘Robotics Engineer’ นี่แหละค่ะที่จะสามารถตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของเหล่าผู้ประกอบการได้ โดยหน้าที่หลักของวิศวกรพัฒนาหุ่นยนต์ก็คือการสร้างและดูแลระบบอัตโนมัติหรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์เพื่อนำไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรม หลายคนคงรู้ดีอยู่แล้วว่าการมีหุ่นยนต์เข้ามาช่วยผลิตมันลดได้ทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ดังนั้นใครที่พัฒนาระบบนี้ขึ้นมาได้ก็ย่อมถูกใจเจ้าของกิจการเป็นธรรมดาค่ะ
 

#1 Artificial Intelligence Specialist
 

Photo credit: https://www.fundcalibre.com
 
            มาถึงอาชีพที่กำลังมาแรงแซงทุกโค้งในยุคสมัยนี้ ‘Artificial Intelligence Specialist’ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ ใครที่กำลังสงสัยว่าปัญญาประดิษฐ์คืออะไร? พี่ก็จะตอบให้ตรงนี้เลยว่าปัญญาประดิษฐ์หรือที่เรามักได้ยินกันในชื่อของ ‘เทคโนโลยี AI’ คือเครื่องจักรที่มีฟังก์ชันในการทำความเข้าใจและเรียนรู้องค์ความรู้ต่างๆ อย่างเช่น การมองเห็น การรับรู้ การให้เหตุผล หรือการแก้ปัญหา ดูแล้วอีกไม่นานเราคงได้มี AI ที่สามารถทำหน้าที่แทนมนุษย์ได้ทั้งหมดแน่ๆ และนี่ก็คงเป็นเหตุที่ว่าทำไมอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยเช่นนี้จึงเป็นอาชีพที่เติบโตเร็วและแรงที่สุด เฉลี่ย 74% ย้อนหลัง 4 ปีเลยละค่ะ
 
Photo credit: http://www.tellmehow.co
 
             ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์ที่กำลังมาแรงที่สุดในวินาทีนี้ก็คือเทรนด์เทคโนโลยี ธุรกิจ และสุขภาพ และถึงแม้ว่าการจัดอันดับของ LinkedIn จะเป็นเพียงการจัดอันดับภายในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่สิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นแนวโน้มของการพัฒนาและความก้าวหน้าที่โลกของเรากำลังเผชิญ น้องๆ คนไหนยังตามหาตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบเรียนอะไร อยากทำงานอะไร ก็ลองเก็บอาชีพเหล่านี้ไว้เป็นไกด์ไลน์ได้นะคะ ^^
 
Sources:
https://business.linkedin.com
 
พี่ปุณ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น