คนนิจิวะค่ะชาว Dek-D ทุกคน ถ้าพูดถึงแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง ‘ญี่ปุ่น’ ก็ถือเป็นอีกประเทศฮิตที่หลายอยากไปเที่ยวกันมากที่สุด เพราะมีทั้งวัฒนธรรมที่น่าสนใจ สถานที่ท่องเที่ยวสุดงดงาม แถมยังขึ้นชื่อเรื่องความมีวินัยจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก แต่เท่านั้นยังไม่พอค่ะ เพราะด้านคุณภาพการศึกษา ญี่ปุ่นเค้าก็ไม่เป็นรองใครอีกเช่นกัน วันนี้พี่เลยจะมาแนะนำโรงเรียนนานาชาติคุณภาพจากญี่ปุ่นอย่าง “International School of the Sacred Heart” ให้น้องๆ ได้รู้จักกันค่ะ
ขอบอกว่าโรงเรียนนี้สาว “จีเซล” รุกกี้เกิร์ลกรุ๊ปจากวง aespa ที่เพิ่งเดบิวต์ไปหมาดๆ และสาว “ริมะ” สมาชิกจากวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มาแรงสุดๆ อย่าง NiziU ทั้งคู่เคยเรียนที่นี่กันด้วยนะ ว่าแต่จะน่าเรียนขนาดไหน? ตามพี่มาดูกันเลยค่ะ
International School of the Sacred Heart (ISSH) โรงเรียนนานาชาติคาทอลิกหญิงล้วนที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1908 ตั้งอยู่ในย่านชิบูยา กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึงเกรด 12 โดย ISSH เป็น 1 ใน 44 ของโรงเรียนทั่วโลกที่อยู่ในเครือ Network of Sacred Heart Schools และได้รับการรับรองจากองค์กรประกันคุณภาพการศึกษาที่ได้มาตรฐานระดับสากล อย่าง The Council of International Schools (CIS) และ the Western Association of Schools and Colleges (WASC) ดังนั้นการันตีได้เลยว่าคุณภาพแน่นปึ้กค่ะ!
หลักสูตรการเรียน
สำหรับการเรียนการสอนที่ ISSH เค้าจะเป็นการเฟ้นหาหลักสูตรหลายรูปแบบให้เหมาะสมกับช่วงอายุและระดับชั้นที่เรียน ดังนี้
- ระดับอนุบาล (K-3-K5) เป็นเพียงระดับชั้นเดียวที่เปิดรับสมัครเข้าเรียนทั้งเด็กนักเรียนชายและหญิง โดยมุ่งให้ความสำคัญกับพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสังคมผ่านการทำกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียน นอกจากนี้ยังเน้นสร้างสมดุลระหว่างด้านวิชาการและทักษะการใช้ชีวิต ปลูกฝังวัฒนธรรมและเคารพค่านิยมสากล และการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี
- ระดับ Junior School (เกรด 1-4) เป็นการเรียนในหลักสูตร IPC ควบคู่ไปกับหลักสูตร English as a Second Language (ESL) สำหรับเด็กนักเรียนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 โดยเป็นการเรียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและเชิงวิชาการ รวมถึงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกับผู้อื่นด้วย
- ระดับ Middle School (เกรด 5-8) ในช่วงชั้นนี้ทางโรงเรียนจะเปิดโอกาสให้นักเรียนค้นหาตัวตน ความถนัด และสิ่งที่ชื่นชอบ ส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการเพื่อเตรียมก้าวสู่ระดับมัธยมปลาย พร้อมกับให้ความสำคัญเรื่อง Pastoral Care ซึ่งเป็นการดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิดในทุกด้าน โดยเฉพาะทักษะการใช้ชีวิตและสังคม
- ระดับ High School (เกรด 9-12) มีทั้งวิชาสามัญทั่วไปและหลักสูตร Advanced Placement Program (AP) สำหรับนักเรียนเกรด 11-12 ด้วยค่ะ โดย AP จะเป็นแผนการเรียนที่ยืดหยุ่นตามความสนใจของผู้เรียนและเน้นเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยด้วย ไม่เพียงเท่านี้ นักเรียนเกรด 12 ยังต้องผ่านรายวิชาที่ชื่อ Theory of Knowledge (TOK) ที่นำความรู้กับทฤษฎีแนวคิดต่างๆ มาค้นคว้าและหาคำตอบเพื่อพิสูจน์สิ่งที่เรียนมานั่นเองค่ะ
กิจกรรมนอกหลักสูตร
ที่นี่มาแบบครบมากทั้งฝึกทักษะความเป็นผู้นำ กีฬา ดนตรี ศิลปะ และมีชมรมให้เข้าร่วมได้ตามความชอบเลย โดยจะแบ่งเป็นนักเรียนระดับประถม มัธยมต้น และมัธยมปลายค่ะ
ทักษะความเป็นผู้นำ
ที่นี่จะมีจัดสภานักเรียนที่ประกอบด้วยฝ่ายบริหาร วิชาการ กีฬา และบริการสังคม โดยแต่ละปีจะมีเลือกตัวแทนเข้าไปทำงานในสภานี้ งานหลักๆ จะมีทั้งวางแผนจัดกิจกรรม เป็นตัวแทนทำงานร่วมกับชุมชนและโรงเรียนอื่นๆ กระจายข่าวสารกิจกรรมทั้งในและนอกโรงเรียนให้คนสนใจมาเข้าร่วมกิจกรรมด้วยค่ะ
กีฬา
เสียเหงื่อให้กีฬา ดีกว่าเสียน้ำตาให้เส้นรอบพุงค่ะ! เรียนกันเหนื่อยๆ ที่นี่ก็จัดกีฬาหลายประเภทให้เลือกเล่นตามใจชอบ มีทั้งการวิ่งวิบาก (Cross country) เทนนิส วอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล เน็ตบอล ซอกเกอร์ รวมทั้งกรีฑาทั้งแบบลู่และลานด้วย
ศิลปะ
มีทั้งการแข่งโต้วาที ละครเวที เทศกาลแสดงผลงานภาพยนตร์ของนักเรียน การประกวดสุนทรพจน์ รวมถึงมีอีเวนต์ “Artscape” ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและนำไปจัดแสดงที่งานนิทรรศการด้วยนะคะ เป็นอีกสีสันของมหา’ลัยเลย ><
ดนตรี
ทางมหาวิทยาลัยส่งเสริมให้นักเรียนเล่นดนตรีและโชว์ความสามารถอย่างจริงจังเลยค่ะ โดยมีทั้งวงแชมเบอร์, วงออร์เคสตรา, วงดุริยางค์, การร้องเพลงประสานเสียง รวมถึงการประกอวร้องเพลงทั้งเดี่ยวและกลุ่มด้วย โดยน้องจีเซล aespa ก็อยู่ในชมรมร้องเพลงประสานเสียงของโรงเรียนด้วยนะคะ ><
ส่องกิจกรรมวัน Japan Day
อีกหนึ่งอีเวนต์น่ารักๆ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีก็คือวัน Japan Day ในวันนี้เหล่านักเรียนจะพากันสวมชุดประจำชาติญี่ปุ่น พร้อมร่วมเรียนรู้กิจกรรมทางวัฒนธรรมเก่าแก่ที่น่าสนใจมากมาย เช่น การทำเครื่องปั้นดินเผา การสวมใส่ชุดกิโมโน การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นหรือที่เรียกว่า อิเคบานะ ฯลฯ ซึ่งงานนี้เป็นฝีมือของทั้งนักเรียน คุณครู และผู้ปกครองที่ช่วยกันจัดจนน่าประทับใจอย่างที่เห็นในภาพเลยค่ะ
โรงอาหาร
หลังจากใช้พลังกับการเรียนและทำกิจกรรมแล้ว ก็ต้องชาร์จแบตกันด้วยอาหารดีๆ สักหน่อยค่ะ! โรงเรียนนี้เค้าจะให้ Cezars Kitchen จัดเตรียมอาหารกลางวันให้นักเรียนอิ่มอร่อยกัน ซึ่งเมนูพิเศษแต่ละวันแทบไม่ซ้ำและได้คุณค่าทางอาหารครบ (แค่อ่านชื่อเมนูก็ท้องร้องแล้วค่ะ TT)
การสมัครเรียน
ผู้ที่สนใจสมัครเรียนจะต้องกรอกแบบฟอร์มใบสมัคร Application Form & Confidential Recommendation Form ก่อน หลักๆ เป็นข้อมูลส่วนตัว และทักษะด้านภาษา การทำงานร่วมกับผู้อื่น การเข้าสังคม และพื้นฐานด้านวิชาการค่ะ
ส่วนเอกสารเบื้องต้นที่ต้องใช้ก็จะมีหลักฐานแสดงผลการเรียนจากโรงเรียนเดิม ใบประวัติด้านภาษา (Language Profile) และสำเนาพาสปอร์ต หลังจากยื่นเอกสารแล้วจะมีการสอบสัมภาษณ์ทั้งตัวผู้ปกครองและนักเรียน ถัดมาเป็นขั้นตอนการสอบข้อเขียน เมื่อสอบผ่านและประกาศผลเรียบร้อย ทางโรงเรียนจะมีการตรวจสุขภาพในวันมอบตัวด้วยค่ะ
*ขั้นตอนการรับสมัครและเอกสารที่ใช้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละชั้นปี ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://www.issh.ac.jp/admissions/admission-process
ค่าเทอม
International School of the Sacred Heart มีค่าเล่าเรียนแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่วงชั้นที่เรียน ดังนี้
- ระดับอนุบาล K3-4 ค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ปีละ 1,890,000 เยน หรือประมาณ 552,102 บาท
- ระดับอนุบาล K5 ค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ปีละ 1,990,000 เยน หรือประมาณ 581,314 บาท
- ระดับเกรด 1-8 ค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ปีละ 2,070,000 เยน หรือประมาณ 604,684 บาท
- ระดับเกรด 9-11 ค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ปีละ 2,090,000 เยน หรือประมาณ 610,526 บาท
- ระดับเกรด 12 ค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ปีละ 2,160,000 เยน หรือประมาณ 630,974 บาท
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ค่าสมัครเข้าเรียน 20,000 เยน (5,842 บาท) ค่าลงทะเบียนเรียน 300,000 เยน (87,635 บาท) ค่าใช่จ่ายสำหรับการพัฒนาทางการศึกษา 600,000 เยน (175,270 บาท) รวมทั้งมีค่าบำรุงรักษาอาคารที่ต้องจ่ายรายปีอยู่ที่ 100,000 เยน (29,211 บาท) อีกด้วยค่ะ น้องๆ สามารถดูรายละเอียดที่ https://www.issh.ac.jp/admissions/tuition-fees ได้เลย
โอ้โห พอเห็นบรรยากาศการเรียนในโรงเรียนแล้วต้องบอกว่าน่าเรียนมากๆ เลยค่ะ ทั้งวิชาการแน่น แถมกิจกรรมก็มีให้เลือกเพียบ เรียกว่าคุ้มค่าเทอมสุดๆ หากน้องๆ คนไหนที่กำลังมองหาโรงเรียนนานาชาติในญี่ปุ่นอยู่พี่ก็หวังว่า ISSH จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกคุณภาพที่น้องๆ เซฟเก็บไว้ในลิสต์กันนะคะ
0 ความคิดเห็น