5 เคล็ดลับเด็ดปั้นนิยายให้ดัง ปังติด Top Rank ตามแบบฉบับ "SCINCE" (นักเขียนเจ้าของยอดวิวหลักล้านในเว็บเด็กดี!)

5 เคล็ดลับเด็ดปั้นนิยายให้ดัง ปังติด Top Rank 
ตามแบบฉบับ "SCINCE" 
(นักเขียนเจ้าของยอดวิวหลักล้านในเว็บเด็กดี!)

 

การเขียนนิยายให้โดดเด่นและน่าติดตามจนขึ้นแท่น Top Rank ในเว็บเด็กดีไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของการวางแผนที่ดี เข้าใจนักอ่าน และทำอย่างสม่ำเสมอ วันนี้แอดมินจะพาทุกคนมาดูเคล็ดลับเด็ดๆ จาก “SCINCE” หรือคุณโบว์ เจ้าของนิยายดัง “เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข” ที่มียอดวิวหลักล้าน เธอได้แชร์เคล็ดลับเหล่านี้ผ่านไลฟ์บน YouTube ของ Story Bowl เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

คุณโบว์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เทคนิคที่ใช่ + ความตั้งใจจริง = นิยายยอดฮิต! และนี่คือ 5 เคล็ดลับที่เธอแนะนำ

 

 

1. เริ่มจากไอเดียที่ชัดเจน

การเขียนนิยายให้น่าติดตาม ควรเริ่มต้นจากไอเดียที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่จะเขียนและตัวละคร ลองถามตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ เช่น

  • “ถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้ เราอยากแก้ไขอะไร?”
  • “ถ้าคุณมีพลังวิเศษ คุณจะทำอะไร?”

คำถามเหล่านี้จะช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และแนะนำให้ดึงประสบการณ์จริงหรือสถานการณ์ที่คุ้นเคยมาต่อยอดเพื่อความสมจริง 

อย่างนิยายจีนโบราณของคุณโบว์ เริ่มต้นจากไอเดียสั้นๆ ว่า “สาวบ้านป่าธรรมดาคนนึงที่ถูกพ่อแม่จับให้แต่งงานกับพรานป่าหน้าโหด” แค่ฟังก็น่าสนใจแล้ว!

 

2. วางโครงเรื่องให้แน่น

โครงเรื่องคือรากฐานของนิยาย คุณโบว์แนะนำให้วางพล็อตตั้งแต่ต้นจนจบ โดยกำหนดทั้งปมหลัก (Main Plot) และปมย่อย (Subplot) ที่เชื่อมโยงกันอย่างสมเหตุสมผล เช่น ปมหลักอาจเป็นความลับในอดีตของตัวละคร ส่วนปมย่อยอาจเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร

เคล็ดลับวางโครงเรื่องแบบง่ายๆ
 

  • โครงเรื่องต้น-กลาง-จบ: วางแผนชัดเจนว่าเรื่องเริ่มต้นยังไง ดำเนินไปแบบไหน และจบอย่างไร ปมหลักคืออะไร และจะมีการคลี่คลายอย่างไรในตอนท้าย  
     
  • ปมย่อยที่น่าติดตาม: ค่อยๆ เผยปมทีละนิด เพื่อให้คนอ่านอยากติดตาม
     
  • เซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง: ทิ้งปริศนาหรือจุดพลิกผันของเรื่องให้นักอ่านเดาตาแตก
     
  • มีจุดจบที่ชัดเจนในใจตั้งแต่เริ่มเขียน: เพื่อให้การเล่าเรื่องไม่ออกทะเล และสามารถพานักอ่านไปสู่จุดจบของเรื่องที่น่าพอใจ
     
  • ใช้ 3-Act Structure: เปิดเรื่องให้ดึงดูด (Act 1), สร้างความขัดแย้ง (Act 2), และปิดจบอย่างทรงพลัง (Act 3)

 

3. สร้างตัวละครที่นักอ่านหลงรัก

ตัวละครที่ดีไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์ แต่ต้อง “มีมิติ” คุณโบว์เน้นว่า ตัวละครที่ชัดเจนและมีความหลากหลายทางอารมณ์มักจะดึงดูดใจนักอ่านได้เสมอ ตัวละครไม่ควรเป็นแค่ “ดีสุดๆ” หรือ “ร้ายสุดๆ” แต่ควรมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อให้คนอ่านรู้สึกเชื่อมโยงและอินไปกับนิยาย

เคล็ดลับการสร้างตัวละครให้น่าสนใจ
 

  • อิงจากชีวิตจริง: ใช้แรงบันดาลใจจากคนรอบตัวหรือประสบการณ์จริง จะช่วยให้ตัวละครดูสมจริงและมีชีวิตชีวามากขึ้น
     
  • เพิ่ม Backstory: ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับอดีต หรือแรงจูงใจของตัวละคร เช่น ความกลัวที่ซ่อนอยู่ เป้าหมายลับ หรือปมในใจ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ตัวละครมีเสน่ห์และลึกซึ้ง
     
  • ใช้แผนผังความสัมพันธ์: ลองวาด “แผนผังครอบครัว” หรือ “แผนผังความสัมพันธ์” เพื่อให้ตัวละครทุกตัวมีบทบาทสอดคล้องกัน

และที่สำคัญ อย่าลืมสร้างตัวละครที่คนอ่านจะ “เอาใจช่วย” หรือรู้สึกผูกพันตั้งแต่ต้นจนจบ นิยายของเราจะยิ่งน่าติดตามจนวางไม่ลง!
 

4. จบตอนให้คนอ่านอยากอ่านต่อทันที

การจบตอนที่ดีคือการทิ้ง “ความค้างคา” ไว้ในใจนักอ่าน คุณโบว์แนะนำให้แต่ละตอนมีจังหวะเล่าเรื่องที่ลงตัว สลับระหว่างจังหวะเร่งเร้าและช่วงที่ผ่อนคลาย เพื่อให้นักอ่านสนุกและไม่รู้สึกอิ่มตัวจนเกินไป

เคล็ดลับการจบตอนให้ชวนติดตาม

 

  • เปิดตอนอย่างน่าสนใจ: เริ่มด้วยเหตุการณ์ที่ดึงดูด หรือฉากสำคัญที่กระตุ้นอารมณ์
     
  • สร้างปมกลางตอน: ทำให้เรื่องราวซับซ้อนขึ้น และเพิ่มแรงจูงใจให้คนอ่าน
     
  • ปิดด้วย “Cliffhanger” หรือการปล่อยให้นักอ่านค้างคาใจ: จบตอนด้วยปริศนา ปมที่ยังไม่เฉลย หรือคำพูดที่ชวนสงสัย เช่น ทิ้งคำถามอย่าง “เขาจะเลือกทางไหน?” หรือ “เสียงปริศนานั้นมาจากใคร?”

เทคนิคนี้จะทำให้นักอ่านนับถอยหลังรออ่านตอนต่อไปเลยค่ะ ทั้งยังช่วยเพิ่มยอดวิวได้ง่ายๆ เพราะนักอ่านจะอดใจไม่ไหว อยากอ่านต่อจนรีเฟรชรัวๆ!

 

5. เลือก 3 สิ่งสำคัญให้การลงนิยายออนไลน์ปังจนติดลมบน

เว็บ Dek-D เป็นแพลตฟอร์มที่คุณโบว์เลือกใช้ เพราะมีกลุ่มนักอ่านกว้างและหลากหลาย และถ้าอยากให้นิยายโดนใจนักอ่านและสร้างรายได้ เราต้องรู้จักเลือกให้ถูกจุด! นี่คือ 3 “เลือก” สำคัญจาก SCINCE นักเขียนที่ทำให้ผลงานติดอันดับยอดนิยมในเว็บเด็กดีจนมียอดวิวหลักล้าน
 

เลือก “เวลาลงนิยาย” ให้เป๊ะ

เวลาคือหัวใจสำคัญของการดึงดูดนักอ่าน คุณโบว์แนะนำว่าการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มยอดเข้าชมและคนเข้ามาอ่านมากขึ้น โดยช่วงเวลาทองในการลงนิยายมักจะเป็นช่วงเย็นหลังเลิกงาน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์  เพราะเป็นช่วงที่นักอ่านมีเวลามากที่สุด

นอกจากนี้ คุณโบว์ยังแนะนำให้ตั้งเวลาในการลงนิยายให้ชัดเจน เช่น ลงตอนเช้าเวลา 8 โมง หรือช่วงเย็นเวลา 6 โมง เพื่อที่นักอ่านจะได้รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ตอนใหม่ลง และควรสังเกตพฤติกรรมของนักอ่านในเว็บ เช่น ช่วงเวลาที่มีการเข้าชมสูงสุด และปรับเวลาลงนิยายให้ตรงกับพฤติกรรมนั้น

 

เลือก “อัปนิยายสม่ำเสมอ” เข้าไว้

ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญในการรักษาฐานแฟนคลับ คุณโบว์ตั้งเป้าลงนิยายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ตอน ช่วงแรกเธอเขียนตอนละ 10,000 ตัวอักษร และลง 4 ตอนต่อวัน ทำให้นักอ่านเข้ามาอ่านนิยายของเธออย่างต่อเนื่อง นั่นคือเหตุผลที่นิยายเธอติดท็อป

 

เลือก “ติดเหรียญ” สร้างรายได้

ทุกคนสามารถสร้างรายได้จากการเขียนนิยายได้ง่ายๆ ด้วยการติดเหรียญ ซึ่งคุณโบว์มีเทคนิคการติดเหรียญให้คนซื้อดังนี้

  • ปล่อยให้อ่านฟรีช่วงต้นเรื่อง (10% ของเรื่อง) เพื่อดึงดูดนักอ่านใหม่ๆ และสร้างฐานแฟนคลับ: อย่างคุณโบว์เองก็ปล่อยให้อ่านฟรี 30 ตอนแรกค่ะ เมื่อนักอ่านติดใจแล้ว พวกเขาจะมีแนวโน้มที่จะยอมจ่ายเงินเพื่ออ่านต่อในตอนถัดไป
     
  • ตั้งราคาเหรียญให้จับต้องได้: การตั้งราคาเหรียญควรพิจารณาจากความยาวและคุณภาพของเนื้อหาในตอนนั้นๆ โดยคุณโบว์ติดเหรียญอยู่ที่ราคา 2-3 คอยน์ต่อตอน โดยแต่ละตอนมีความยาวประมาณ 1,800-2,000 คำ เพื่อให้นักอ่านรู้สึกคุ้มค่ากับการจ่ายเหรียญ

 

 

เคล็ดลับติดท็อปในเด็กดี

คำตอบง่ายๆ จาก SCINCE: ลงนิยายทุกวัน!


นิยายที่อัปเดตบ่อยจะมีโอกาสติดอันดับและได้รับการโปรโมตมากขึ้น 

แต่ทั้งนี้ ความสนุกและคุณภาพของเนื้อหาก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ

*****

 

พร้อมเริ่มต้นแล้วหรือยัง? 

ลองนำเทคนิคดีๆ เหล่านี้ไปปรับใช้ แล้วเปลี่ยนไอเดียของเราให้กลายเป็นนิยายที่ใครๆ ก็พูดถึง! เริ่มเขียนนิยายวันนี้ และสร้างวินัยในตัวเอง แล้วก้าวไปสู่การเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์เหมือนคุณ SCINCE กันเลย!

 

อ่านนิยายของ SCINCE

 

พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด