ภาษาจีน VS ภาษาญี่ปุ่น ถ้าต้องเลือก เพื่อนๆจะเลือกเรียนอันไหนคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
12 ความคิดเห็น
เราเลือกญี่ปุ่นอะ อยากทำงานกับคนญี่ปุ่นมากกว่า แล้วก็เราออกเสียงจีนได้ไม่ชัดเอาซะเลย555 แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนเน๊าะ
ญี่ปุ่นดีกว่า ออกเสียงง่ายกว่าอ่ะ ตัวอักษรก็สวยจำง่าย ยกเว้นคันจิอ่ะนะ
ในความคิดเห็นของเรา เราคิดว่าเลือกภาษาที่ตัวเองชอบค่ะ เพราะเราจะมีความกระตือรือร้นในการเรียนภาษานั้นๆ อย่างเราก็ชอบภาษาญี่ปุ่น เวลาเรียนนี่เข้าหัวและจำแม่นมาก อยากที่จะเรียนเรื่อยๆ ต่างกับภาษาจีนที่จำๆเพื่อไปสอบแล้วก็ลืมค่ะ เพราะไม่ได้ชอบ TUT // ในเรื่องการทำงานในอนาคต เราคิดว่าถ้าเราเชี่ยวชาญภาษาดีพอ เก่งพอ ไม่ว่าจีนหรือญี่ปุ่น ก็สามารถหางานทำได้แน่นอนค่ะ ขอให้เก่งในภาษานั้นจริงๆ #นานาจิตตังนะคะ ฟฟฟฟฟ นี่ก็เป็นแค่หนึ่งในความเห็นของเรา
ภาษา จีน ครับ เพราะ ภาษา จีน ตอนนี้ได้ใช้ทั้ว โลกแล้ว ครับ ส่วน ตัวพูดได้สามภาษา ครับ ไทย จีน อังกิด เพราะ เรียน อยู่ ต่าง ประเทศ เพือน ผม คน ทางฟั้ง ยุโรป มาเรียน ภาษา จีนหมดครับ ้เพือน คนญี่ปุ้นเอง ก็ เรียน ภาษา จีนหมด ทืงภาษา ญี่ ปุ้น ฟัง ดูสวย หรู แต่ไม่ได้ ใช้มากกว่า ภาษา จีนหลอก ครับ ดูที่ไทย สิ คนจีนเยอะ ขนาดไหน เสทกิจจีน ตอนนี้ ดีสุดสุด เรียน ภาษา อังกิด มาตอนนี้ผมแทปไม่ได้ใช้เลย คุยกับคน เยเรอมันใช้ ผมก้ใช้ภาษา จีน ตอนนี้ภาษา ที่ได้ใช้มากที่สุดในโลกคือ ภาษาอังกิด อันดับ สองภาษาจีน ญี่ปุ่น เสทกิจ ตกต่ำ มาหลาย ปีระ ครับ ไม่ได้ใช้หลอก
ท่า พูดทืง ภาษาไหนได้ใช้มากกว่ากัน ก็ ภาษา จีน ครับ
พ่อเป็น คนจีน ครับ ทำงานกับคนญี่ปุ่น พ่อผมก็ ได้ใช้ ภาษา ญี่ปุ้น เหมือนกัน ครับ แต่ว่า คนญี่ ปุ้น ทำงานกับ พ่อ ทำงานส่ง ออก ญี่ปุ่น จีน เพราะของ เดียวนี้พลิต ที่จีนหมด แต่เป็นไปไม่ได้ ที่ คนญี่ ปุ้น จะทำงาน ส่ง ออก กับไทย ดังนั้น การ แม้แต่ คนญี่ ปุ้น ยัง เลือกที่ จะเรียน ภาษา จีนเลย ครับ เลือก ภาษา สำคัน มาก ครับ เพราะ แต่ ระ ภาษา โอกาศ ก็ไม่เท่า กัน
แต่ ท่าอายุยัง น้อย อยู่ผมก็ แนะนำให้เรียน ภาษาที่ชอบดีกว่า ส่วน ตัวผม เอง จริงจริง แล้ว ชอบ ภาษาญีปุน มากครับ
อ่านคอมเม้น-แล้้วหัวจะปวด555
จริงๆ ภาษาจีนจะเป็นภาษาที่สำคัญไม่แพ้ภาษาอื่นในอนาคต แต่ภาษาจีนออกเสียงยากมากค่ะ 555
พยัญชนะแต่ละตัว สระแต่ละตัว ไม่สามารถเขียนด้วยภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้
ตัวจีนเยอะมากๆ มีรากศัพท์ให้จำ และเรื่องวรรณยุกต์ วรรณยุกต์เปลี่ยน ความหมายเปลี่ยน บางทีต้องเปลี่ยนวิธีออกเสียงวรรณยุกต์ให้เข้ากับตัวข้างหลัง
ข้อดีก็ รูปประโยคคล้ายๆไทยปนอังกฤษ ง่ายกับการทำความรู้จัก ดูรากศัพท์ก็พอเดาความหมายได้ (เคยใช้วิธีนี้ในข้อสอบมาแล้ว)
ภาษาญี่ปุ่นก็ดี คนก็ใช้เยอะอยู่เหมือนกัน มีฮิรางานะ มีคาตะคานะ มีคันจิ (ดูเหมือนเยอะ แต่ก็จำง่ายเบาสมองดีนะ) หลักภาษาจะเยอะ ทั้งเสียงขุ่น เสียงควบ เสียงยาว เสียงสะดุด ตัวสะกด 'ん' (อึ้น)
และ 'รูปประโยค' ที่เราไม่คุ้นเคยสุดๆ (ประธาน กรรม กริยา)
หลักนับเลข ปี เดือน วัน ง่ายซะที่ไหน
ข้อดีก็ ออกเสียงง่าย เขียนด้วยภาษาไทยกับอังกฤษได้ ตัวสะกดมีตัวเดียว แต่เป็นไปได้ 3 เสียง (น ง ม) หนึ่งพยางค์มีสระในตัว
โดยส่วนตัว อยากเรียนญี่ปุ่นค่ะ เพราะให้จำน้อยกว่า อ่านง่ายกว่า
หลักไวยกรณ์ของภาษาจีนนั้นจะใกล้เคียงภาษาไทย น่าจะเรียนรู้และเข้าใจได้เร็วกว่านะ
แต่ก็เอาที่ชอบและสนใจจ้า
ผมเลือกภาษาญี่ปุ่นครับ เพราะ....ผมไม่ชอบการออกเสียง+การเขียนภาษาจีน อ้อ!! คนจีนหลายคนก็ไม่ชอบการออกเสียงภาษาไทยนะ
เขาพูดว่า "เวลาคนไทยพูดภาษาไทยเหมือนมีกระดูกไก่ติดคอยังไงยังงั้น สงสารคนพูดแทน"
(คนจีนที่ใช้ภาษาจีนกลาง)
เราก็มองๆที่ BLCU Bangkok ไว้ https://web.facebook.com/blcubkk
เพราะ เรียนตอนเย็นได้ ได้วุฒิได้ใบประกาศด้วย เทียบเท่า ป.ตรีเลย
เราก็กะว่าจะไปหาข้อมูลเพิ่มดู วันที่ 6 กพ. เค้ามีงาน Open House ไปด้วยกันไหม
เราเลือกภาษาจีนก่อนนะ เพราะน่าจะเรียนเข้าใจได้เร็วกว่า
เพราะหลักไวยกรร์ใกล้เคียงกัน การออกเสียงก็มีการผันวรรณยุกต์คล้ายๆกัน
อีกอย่างๆ ก็เห็นมีหลายๆคนบอกว่าถ้าเป็นจีนแล้ว ไปเรียนญี่ปุ่นต่อ จะง่ายต่อการจำตัวอักษรคันจิมาก
ถ้าเกิดว่า รร. มีศิลป์-ญี่ปุ่น กับ ศิลป์-จีน ผมเลือกญี่ปุ่น เพราะความชอบส่วนตัว แต่ถ้าไม่มีศิลป์-ญี่ปุ่น ผมยืนหยัดเลยว่า ผมเลือกเรียนภาษาจีน
ทั้งคู่
เป็นเราเลือกทั้งคู่นะครับ ผมชอบทั้งภาษาญี่ปุ่นเเละภาษาจีน
ภาษาญี่ปุ่นผมเรียนเป็นวิชาเอก ส่วนภาษาจีนเลือกเรียนเป็นวิชาเสรีอ่ะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?