ทำไมถึงมีสงคราม

สงครามเป็นส่วนย่อยของกลไกธรรมชาติที่ทำให้โลกกลับคืนสู่สมดุลอีกครั้ง

เพราะมนุษย์ปัจจุบันมีมากเกินไป ทำลายโลกมากไป จึง

มีการทำลายธรรมชาติ ทำลายโลกทุกวัน

เช่น ปัญหาโลกร้อนไม่มีทางแก้ได้ ตราบเท่าที่มีมนุษย์ แต่เมื่อมนุษย์ทำลายล้างกันเอง จนเหลือเพียงไม่เกินสิบเปอร์เซ็นต์ของปัจจุบัน ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลาย จนโลกสมดุลย์ในที่สุด ฤดูกาลจะค่อยๆกลับคืนสู่ปกติ หรือถ้าร้ายแรงมากจนแก้ไม่ได้ ก็อาจจะมีอุกาบาตพุ่งชนโลก จนคนตายหมด โลกจะเหมือนเริ่มรีเซ็ตใหม่ ในอีกหลายแสนปี

สรุปในภาพรวม มนุษย์ทำสงครามกันเพราะเป็นไปตามกลไกธรรมชาติเพื่อทำลายล้างสิ่งที่มีมากเกินไปจนขาดความสมดุลย์

เพราะว่า ธรรมชาติมักเป็นแบบนี้เสมอ

เกิดเพราะความขัดแย้งทางสังคมของสองสังคมหรือมากกว่า จนมันเลยจุดเยือกแข็ง หรือจุดวิกฤต แน่นอนว่าความขัดแย้งครอบคลุมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ วัฒนธรรม ทรัพยากร โอกาส ความเกลียดชัง ผลประโยชน์ ทั้งหมดเหล่านี้ต่างเป็นต้นตอ

แต่ก็นั่นแหละครับ มันขึ้นอยู่กับผลประโยชน์เป็นหลัก แต่ถ้าถามว่าประเทศที่อยากบึ้มมากสุด ก็เกาหลีเหนือนั่นแหละ แต่ก็นะเขาเอาตัวเองตั้งใหญ่สุด และพัฒนาอาวุธทางทหารอย่างไม่หยุดยั้งจนประเทศต่างๆก็ไม่กล้าสู้ด้วย เพราะผลที่ออกมาจะไม่คุ้ม

แต่จากทั้งหมดแล้วก็เป็นเรื่องของธรรมชาตินั่นแหละครับ เพราะตามกฎที่ไม่ได้เขียนแต่รับรู้ได้ตั้งแต่บรรพกาล "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก"

อวดเก่ง อยากเอาชนะ เอาแต่ใจ ก็เหมือนครอบครัวที่ชอบทะเลาะกัน ทำไมผู้คนถึงต้องทะเลาะกัน