รีวิวประสบการณ์การเรียนภาษาจีนที่จิ้นปู้ (JINBU) พร้อมยื่นทุนเรียนต่อประเทศจีนฟรี !

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรารู้จักกับทาง jinbu ได้ยังไง 

คือตอนนั้นเรากำลังสนใจจะขอทุนไปเรียนแพทย์แผนจีนที่จีน  แต่ว่าตอนนั้นเรามีแค่คะแนน HSK4 แต่มหาลัยส่วนใหญ่เขารับ HSK5 จะสมัครมั้ย เพราะเรารู้สึกว่าการเรียนแพทย์แผนจีนที่จีนอาจจะดีกว่า เพราะว่าด้วยความที่แพทย์แผนจีนมันต้องเรียนเป็นภาษาจีนอยู่แล้ว อีกทั้งทางประเทศจีนมีทุนการศึกษาให้เด็กต่างชาติด้วยแต่เราไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไร จนมีอยู่วันนึงเราไปเห็นโฆษณาของทาง JINBU ในไอจี ว่าจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับการของทุนไปเรียนต่อที่ประเทศจีน เราเลยไปลองไปนั่งฟังดู แล้วเรารู้สึกว่าทาง JINBU ให้ความรู้ดีมาก เราก็เลยตัดสินใจเข้าไปปรึกษาเรื่องการขอทุนกับทาง JINBU โดยตรงเลย แล้วเราก็ถามพี่เข้าไปว่ามีคะแนน HSK4 สามารถยื่นได้มั้ย(ด้วยความที่เรามีแค่ HSK4 แถมคะแนนไม่สูงด้วย) แต่พี่ก็บอกว่าได้มันจะมีบางมหาลัยที่ใช้ HSK4 ยื่นได้ พี่เขาเลยแนะนำมหาลัยมาแล้วเรารู้สึกว่าค่อนข้างโอเคเลย เราก็เลยเลือกที่จะขอทุนและก็เรียนภาษาจีนกับทาง JINBU ไปด้วยเลย

การเรียนภาษาจีนกับทาง JINBU ตอนแรกก็จะเกร็งๆนิดหน่อยเพราะเหล่าซือเป็นคนจีนจะกลัวเรื่องการสื่อสาร แต่พอเริ่มเรียนจริงๆแล้วเหล่าซือสื่อสารภาษาไทยได้ คนที่เรียนภาษาจีนกับทาง JINBU ไม่ต้องกังวลไปนะ ส่วนระหว่างเรียนเหล่าซือน่ารักมากๆ มีตรงไหนที่อ่านไม่ได้ก็คอยช่วยหรือว่าคำไหนประโยคไหนที่เราไม่เข้าใจก็สามารถถามได้ตลอด และอีกอย่างเหล่าซือมีเทคนิคในการทำข้อสอบให้ด้วยว่าควรเน้นตรงไหนหรือตรงไหนออกข้อสอบบ่อย เหล่าซือก็จะคอยบอก ตอนที่เราเรียนภาษาจีนจะค่อนข้างหนักเลย เพราะเราอยู่ม.6แล้วต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัยด้วย แต่ยังไงเราก็สอบHSK4ผ่านแล้วนะ ถึงคะแนนจะไม่ได้สูงมาก็เถอะแต่ก็เยอะกว่ารอบแรก ส่วนตอนนี้เราก็กำลังเรียน HSK5 ต่อกับทางJINBU เพราะว่าเราจำเป็นต้องสอบให้ผ่านก่อนไปเรียนที่จีนน่ะ

พูดถึงการเลือกมหาลัย คือทางมหาลัยจีนสามารถยื่นได้ 3 มหาลัย แต่เราเลือกไว้ 2 มหาลัย ส่วนตอนเลือกพี่เขาจะคอยให้คำแนะนำต่างๆนาๆเยอะเลย แต่ถ้ามีคำถามก็สามารถทักไปถามพี่เขาได้เลย เช่นแบบ มณฑลนี้สภาพอากาศเป็นยังไงเหมาะกับเรามั้ย ค่าครองชีพสูงไปป่าว ลักษณะหอเป็นยังไง ได้ทุนประมาณนี้โอเคมั้ย(ฝากถึงน้องๆที่สนใจ หรือกำลังเลือกมหาลัยอยู่ อยากให้ตัดสินใจดีๆนะคะ ไม่ต้องรีบ)  อยากให้เลือกดูจากหลายด้านนะคะ ค่อยตัดสินใจ เพราะเดี๋ยวเราจะต้องเรียนที่นั้นจนจบเลย 

มาถึงขั้นตอนเอกสารกันบ้าง ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่วุ่นวายสุดๆ แล้วนี้เป็นการยื่นขอทุนครั้งแรกของเราคือกังวลสุด ๆ แต่ทาง JINBU เขาสรุปเอกสารที่ต้องใช้ออกมาให้เลยว่าต้องใช้อะไรบ้าง ทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นมาก ๆ ลืมบอกเลยเอกสารทุกอย่างที่ใช้ยื่นมหาลัยต้องเป็นอังกฤษนะ แล้วก็ทางจิ้นปู้มีติวพวกสัมภาษณ์ให้ด้วย ไม่ว่ามหาลัยที่เราเลือกจะมีสอบสัมภาษณ์หรือไม่มีเราก็สามารถเรียนได้ แต่แนะนำให้เรียนจริงๆ เราจะได้พัฒนาภาษาจีนของตัวเองในด้านการฟัง – พูดอะไรงี้ด้วย แล้วได้รู้จักเพื่อนใหม่อีก อาจจะเจอเพื่อนมหาลัยเดียวกัน หรือคนละมหาลัยคนละเมืองเลยก็มี แต่ถ้ารู้จักกันไว้ก็คือดีมาก ๆ  

ในระหว่างที่เรารอสัมภาษณ์ของทางมหาลัย เราได้เข้าร่วมค่ายแลกเปลี่ยนระยะสั้นที่ทางมหาลัยจีนจัดกับทาง JINBU เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ที่เมือง Qujing มณฑล Yunnan เรารู้สึกว่าค่ายนี้เป็นอะไรที่คุ้มมากๆ ได้ทั้งประสบการณ์ใหม่ๆ และได้เพื่อนคนจีนด้วยเราเลยอยากจะแนะนำน้องๆคนไหนที่ยังลังเลอยู่ว่าจะไปเรียนต่อที่จีนดีมั้ย หรือกลัวว่าไปอยู่แล้วจะอยู่ไม่ได้ ค่ายนี้เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่น้องจะได้ลองใช้ชีวิตและเรียนรู้วัฒนธรรมจีน เชื่อพี่เถอะมันคุ้มนะกับราคาที่จ่ายไป

สุดท้ายนี้เราก็อยากบอกว่าเราได้ ทุนเรียนฟรี 5 ปี ของ Zhejiang Chinese Medical University แล้วนะ อยากจะขอบคุณทาง jinbu มากๆ ทีมงานทุกคนเลย ทั้งเหล่าซือแล้วก็พี่ๆที่ค่อยช่วยเรื่องมหาลัยมาตลอด ค่อยแนะนำและอธิบายละเอียดต่างๆ พี่ๆทุกคนน่ารักกับเรามากๆ ส่วนน้องๆคนไหนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ แล้วอยากขอทุนไปเรียนต่อที่จีน แต่ยังไม่รู้ว่าควรเตรียมตัวยังไงดี หรือมีมหาลัยที่อยากเข้าแต่ไม่รู้จะเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เราก็อยากจะแนะนำที่ JINBU จริงๆเขาให้คำปรึกษาและดูแลดีมากๆ ขอให้น้องๆที่ผ่านมาอ่าน ได้มหาลัยและคณะที่ตัวเองหวังไว้และได้ทุนที่ดีๆน้าาา