โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนเมืองพี่เมืองน้อง
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนเมืองพี่เมืองน้อง โครงการนี้มีหลายเมืองมากๆ เราไปเมืองโซลมาค่ะ! เป็นประสบการณืที่เยาวชนกรุงเทพควรลองจริงๆค่ะ ทั้งกิจกรรมที่มีสาระ แล้วก็สนุก หาแบบนี้ได้ที่ไหน แถมยังฟรีด้วยนะคะ เราเลยจะมาแชร์ประสบการณ์การไปโครงการนี้ค่ะ️ โดยเราจะแบ่งเป็น3พาร์ทค่ะ
Part 1 : How to?
ในส่วนนี้เราจะเล่าว่าทำยังไงถึงได้เข้าร่วมโครงการนี้นะคะ
ก่อนอื่นเลย เราต้องติดตามข้อมูลของสำนักงานการต่างประเทศอยู่เสมอๆเลยนะคะ!! เพราะรายละเอียดการรับสมัคร รวมไปถึงเนื้อหาโครงการจะประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงาน และเฟซบุ๊คของหน่วยงานค่ะ เราจะแปะwebsite หน่วยงานไว้นะคะ ทุกคนจะได้จิ้มๆเข้าไปติดตามกันนี้
website : https://iao.bangkok.go.th/
พอเรามีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการแล้วเราก็มาเริ่มเตรียมตัวสอบกันเลย
1)การสมัครเข้าร่วมโครงการ พอเราเข้าไปในเว็บไซต์ก็จะเห็นคุณสมบัติก่อน แล้วก็จะมีให้เรากรอกใบสมัครเลยย การกรอกใบสมัครจะทำในเว็บนะคะ สะดวกมากๆ พอหมดช่วงเวลาการสมัครสัก 2อาทิตย์ก็จะมีใบรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ ในใบนี้จะมีแจ้งวันสอบนะคะ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วลุยสอบข้อเขียนโลดด
2) การสอบข้อเขียนเค้าจะให้เราเขียนเป็นเรียงความโดยให้หัวข้อมา หัวข้อก็จะเกี่ยวกับธีมของปีนั้นๆด้วยนะคะ(ในคุณสมบัติแอบใบ้ธีมของปีนั้นๆอยู่นะคะ) แล้วก็ในการสอบข้อเขียนจะมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลยย เตรียมตัวไปให้ดีที่สุด ทุกคนทำได้ เราจำได้ว่าหลังสอบเสร็จนานมากก กว่าผลสอบจะออก ประมาณ1เดือนเลยค่ะ พอผลสอบออกคือดีใจมากก ที่ติดรอบแรก แต่ช็อคต่อเพราะวันสัมภาษณ์กับวันประกาศห่างกันแปปเดียว มีเวลาเตรียมตัวไม่เยอะ แต่ทันแน่นอนน
3)การสอบสัมภาษณ์ รอบนี้สิ่งที่คุณต้องมีคือ สติค่ะ️ พกสติเข้าไปให้มากที่สุด รอบนี้เค้าไม่ได้ถามเชิงวิชาการมาก ส่วนมากคือวัดสกิลการเอาตัวรอดเลย เช่น ถ้าหลงทางกับเพื่อนๆทำยังไง ถ้ากระเป๋าเดินทางหายทำยังไง มีคำถามแบบ เคยไปเกาหลีใต้มั้ย (ถ้าไปไปมาเมื่อไหร่ กี่ปีที่แล้ว แล้วคิดว่าเกาหลีตอนนี้กับตอนนั้นต่างกันมั้ย) รู้จักเกาหลีใต้ผ่านอะไร แล้วก็มีถามเกี่ยวกับธีมด้วยนะคะ หลังจากนั้นรอไม่นานเลยย ผลก็ออกละ เค้าก็จะนัดวันให้ไปปฐมนิเทศ
4)วันปฐมนิเทศ วันนี้คือต้องตั้งใจฟังที่พี่ๆเค้าขี้แจงมากๆๆ พยายามกระตือรือร้นที่สุด เพราะเค้าจะมอบหมายการบ้านเล็กน้อยๆให้เรา และแนะนำการไปที่นั่นด้วย (วันนั้นให้เราเมคเฟรนด์เย้อเยอะ เวลาเราเดินทางจะได้มีเพื่อน แต่ปีที่เราทุกคนน่ารักมากมาก คุยสนุกทุกคน) พอจบจากตรงนี้เจอกันอีกทีวันเดินทางเลยย
Part 2 : What I experienced ?
ส่วนนี้เราจะพูดถึงสิ่งที่เราเจอตอนที่ไปโซล โดยแบ่งเป็นวันๆไปนะคะ เห็นภาพแน่นอน️️
Day-0
สนามบินสุวรรณภูมิ เราจะเริ่มเดินทางในคืนวันอาทิตย์ คืนนี้ก็ไม่มีอะไรมากก พี่ๆเค้าจะแจกเอกสารเกี่ยวกับกำหนดการ เผื่อเราติดตม. แล้วเราก็แค่เราเดินทางเลย แต่ต้องเตรียมตัวไปนิดนึง คืนนั้นเครื่องออกประมาณ 23:30 ก็รอกันยาวๆ แล้วก็ไปหลับบนเครื่องยาวๆอีกที
Day-1
seoul city hall ที่แรกที่เค้าพาเราไปคือศาลาว่าการเมือง คือตอนแรกอ่านกำหนดการแล้วงง เค้าพาเราไปทำไม จนเราได้ไปดู คืออึ้งมากกก ที่ศาลาว่าการมีห้องสมุด มีพื้นที่ให้คนมานั่งอ่านหนังสือ มีคาเฟ่อยู่ด้านบนด้วย มีงานจัดแสดงผลงาน(ตอนนี้น่าจะปิดอยู่) แล้วก็มีการจัดแสดงเหมือนเป็นประวัติศาสตร์ของเกาหลีด้วย คือครบครัน หมกตัวได้ทั้งวัน แล้วในศาลาว่าการตกแต่งสวยมากๆ อย่างกับไปเสพงานศิลปะเลยย (ในโซลคือจะเห็นเหมือนมีงานศิลปะอยู่ทุกที่เลย น่ารักมากๆเลยค่ะ!) หลังจากนั้นเค้าพาไปกินอาหาร เดินไปกินในร้านน่าจะเป็นบิบิมบับ อร่อยมากคือฟิน
งานศิลปะในศาลาว่าการ
Gwanghwamun & Gyeongbok palace จุดนี้เราประทับใจมากๆๆๆ เค้าจะพาเราเดินทัวร์ในพระราชวังเลย โดยเค้ามีไกด์เหมือนเป็นเยาวชนรุ่นๆเดียวกับเรามาพาเราเดินทัวร์ด้วยย เค้าน่ารักมากๆ เค้าก็จะบอกว่าจุดไหนเค้าเอาไว้ใช้ทำอะไร ใครอินประวัติศาสตร์เกาหลีชอบแน่นอน!
Myeongdong ตื่นเต้นมากมาก เพราะไปเดินเมียงดง เค้าให้เราอยู่ตรงนี้ประมาณ 4ชั่วโมงเลย คือจุก ตอนนี้เราจะแยกกันไปเป็นกลุ่มนะคะ แล้วกลุ่มนี้ก็จะอยู่กะเราไปตลอดเลยย พอเราเดินเสร็จ เค้าก็พาเราไปกินเหมือนเป็นก๋วยเตี๋ยว อร่อยมากก สำหรับวันที่1ก็จบที่ตรงนี้เลยค่ะ
Day-2
Seoul Future Lab ที่นี้เป็นศูนย์ที่ให้เราลองใช้อุปกรณ์ต่างๆ จะมีเกี่ยวกับหุ่นยนต์ด้วย สนุกสุดๆ คือมันดูเป็นการเรียนการสอนที่สนุกมากๆ เพราะเราได้ลองจับลองทำเอง เค้าแบ่งเป็นฐานเลย และที่สำคัญเข้าฟรี! ฟินสุด เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ทุกคนคู่ควร
Hongdae ในช่วงนี้เป็นการ group operating ซึ่งพี่ที่ดูแลกลุ่มเราเลือกไปฮงแดง ฮื่ออ หนูรักออนนี่ ดีใจมากที่ได้ไปฮงแด เค้าก็พาขึ้นรถไฟฟ้าไป เดินสับๆ เดินเยอะแต่สนุกมาก เค้าก็พาไปกินต็อกอร่อยสุดๆ แล้วก็พาไปทำกิจกรรมต่างๆในฮงแด พาไปยิงธนู ถ่ายphotobooth เดินห้าง พาไปดูexhibition เกี่ยวกับปัญหาขยะในทะเลด้วย เจ๋งสุด แล้วก็พาไปกินข้าวเย็นเลย กินเป็นไก่อบชีส อร่อยมากก ควรไปลอง แล้วก็เดินทางไปห้างฮุนไดต่อด้วยรถบัส คือรถบัสสะดวกจริงนะ ขึ้นง่ายสุดๆ
งานที่จัดแสดงใน exhibition เป็นโน้ตเพลง under the sea ที่ทำมาจากขยะในทะเล ชอบมากก เจ๋ง
The Hyundai ช่วงช็อปปิ้งมาอีกแน้ว (ดีมากก) ห้างนี้เป็นห้างที่ใหญ่แล้วก็สวยมากกก คืออลังสุดๆ เห็นคนเกาหลีเดินเยอะมากๆ ใครไปเกาหลีควรไปด่วน วันนี้ก็จบลงที่ตรงนี้
Day-3
สถานีโทรทัศน์ KBS เค้าพาเราไปดูพวกประวัติ มีกิจกรรมให้เล่นเยอะนะ ได้เห็นสตูดิโอของเค้าด้วย ตื่นเต้นน
นี่เป็น 1ในกิจกรรมที่เค้าให้ทำ คือลองออกรายการเล่นๆดู ให้เราได้ลองเป็นคนแสดง และเป็นตากล้องเลยสนุกมากก (แต่คนในรูปไม่ใช่เรานะคะ)
world cup stadium ตรงนี้เค้าพาเรามาอีสอีส เป็นซุปกิมจิกับอะไรซักอย่างจำมิได้ แต่อร่อยอยู่นะ แล้วก็ให้เดินเล่นสักพัก เห็นคนเกาหลีมาเดินเยอะมาก เห็นแต่คนเกาหลีเลย เหมือนได้เห็นวัฒนธรรมของเค้าจริงๆ เห็นคุณตาคุณยายมาเดินใน super market ด้วย
Seoul Energy Dream Center ตรงนี้จะเป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องพลังงาน คือตรงกับธีมเป๊ะๆ ที่นี่เค้าจะให้เราตระหนักถึงภาวะโลกร้อนอย่างจังๆเลย แล้วอาคารของเค้าแทบจะใช้พลังงานจาก solar panel ทั้งหมดเลย แล้ววัสดุที่ใช้ในการทำอาคาร อย่างกระจกเค้าก็เลือกเป็นแบบสามชั้นภายในอาคารจะไม่ร้อน เป็นอาคารในฝันจริงๆเลย
ระบบการจัดการพลังงานภายในตึกนี้ (แบบคร่าวๆด้วย) คือเจ๋งมากก
HiKR Ground ที่นี่จะให้พวกเราได้เห็นถึงความเกาหลีสุดๆ ส่วนใหญ่ก็จะพวก k-pop , งานศิลปะ , ธรรมชาติ แล้วก็มีมุมนั่งเล่นด้วยนะะ ไปแบบปล่อยจอยได้เลยย
1ในงานศิลปะที่เค้าแสดง น้องน่าจะเป็น mascot ของที่นี่ด้วย น่ารักกก (ขออภัยค่ะ ถ่ายภาพมาไม่ค่อยชัด)
Namsan Tower บางคนเรียกโซลทาวเวอร์ คือ iconic มากกก เราได้ขึ้นไปในตัวอาคารด้วยคือทำน่าสนใจสุดๆ ระหว่างขึ้นลิฟต์ยังมีอะไรน่าสนใจให้ดู พอขึ้นไปก็ได้เห็นวิวกรุงโซลแบบเต็มตามากก เดินดูทั่วชั้นที่เค้าทำไว้คือเห็นวิวแบบรอบเลย สวยมาก! วันนี้ก็จบลงตรงนี้
Namsan Tower
วิวตอนกลางคืนของโซลระหว่างลงจากทาวเวอร์ สวยสะกด สวยไร้ที่ติ ฮื่อ
Day-4
Bukhansan National Park Nature center นี่คือเดินเขาเลย ที่นี่เป็นภูเขาที่เป็นอุทยานแห่งชาติเลย เค้าก็พาเราเดินเขา แล้วก็มีมิชชั่นให้เราทำด้วย สนุกมาก แต่ก็ปวดขามาก ใครว่างๆลองไปเดินเข้าที่นี่ดูนะคะ เดินเพลินจริงๆ ธรรมชาติดี อากาศดี ดีไปหมดเลย
ด้านในคือสวยมากก
Seoul science center ไปกันต่อที่นี่เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์ เป็นศูนย์การเรียนรู้อีกแล้ว แต่สนุกมากก เค้าพาเราทำหลายอย่างเลย
เค้าให้เราส่องพระอาทิตย์ คือเครื่องมือเค้าอลังการมากก
Boramae Youth Center เรามาที่นี่เพื่อจัด Night of Harmony ในส่วนนี้เราจะได้เจอเพื่อนๆเยาวชนเกาหลีด้วยย วันนั้นเราทำการแสดงกันแล้วก็เล่นเกมด้วยกัน ทางเยาวชนเกาหลีเค้าก็แสดงการเต้น k-pop เราก็งัด t-pop มาสู้ แล้วก็มีการแสดงการละเล่นไทยด้วย ได้เจอเพื่อนใหม่แล้วทำกิจกรรมร่วมกัน สนุกมากก หลังจากนั้นก็กลับที่พัก
การแสดง K-pop จากเยาวชนเกาหลี เค้าเต้นแบบเราดูเพลินมากก
Day-5
Boramae Youth Center ในตอนเช้าเราก็กลับมาที่นี่อีกทีเพื่อ present เกี่ยวกับสิ่งที่เราเจอในเกาหลี,ความประทับใจ,ปัญหาเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน,แนวทางการแก้ปัญหา ตรงนี้ก็ทำกันจอยๆ ออกไอเดียกัน หลังจากนั้นเค้าก็พาเราเดินไปกินข้าวแถวๆศูนย์โบราแมเลย เค้าพาไปกินร้านอาหารจีน เราเลือกกินเป็นจัมปง อร่อยอยู่คล้ายๆต้มยำที่ไม่เปรี้ยว แล้วเค้าก็ปล่อยเราเดิน shopping แถวนั้นสักพัก แล้วขึ้นรถบัสเตรียมไปสนามบิน
presentation ของกลุ่มเรา น่ารักมากก อันนี้พี่ๆเกาหลีเป็นคนทำ ส่วนอันที่เราทำไม่ได้ถ่ายไว้เลย TvT
Incheon international airport พอถึงตรงนี้เราก็เตรียมกลับกัน มีทำ tax refund นิดหน่อย มีถ่ายรูปกันบ้าง แล้วก็บอกลากัน พวกเราก็เตรียมตัวขึ้นเครื่องเลย
สนามบินสุวรรณภูมิ พอเราลงจากเครื่องพี่ๆเค้าก็มาย้ำเรื่องการบ้านแล้วก็อวยพรให้เรากลับกันปลอดภัย เราก็แยกกับเพื่อนๆตรงนี้เลย
นี่ก็เป็นทั้งหมดทั้งหมดในสิ่งที่เราได้ไปเจอมา เอาเป็นว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีเกินคาดมากก ทั้งเพื่อนคนไทย พี่ๆสตาฟทั้งหมด ทุกคนน่ารักสุดๆ แถมสถานที่ที่เราไปก็ได้ความรู้กลับมาเยอะมากๆ เป็นโครงการที่ควรไปมากๆเลย
Part 3 : จะนำอะไรกลับมาพัฒนาที่กรุงเทพ
1.สิ่งเล็กๆที่ประทับใจมากๆๆ ที่ทุกที่ทำจนเป็นปกติคือในฤดูฝนตามห้างหรือร้านค้าจะมีที่เช็ดร่ม ทำให้มันเลอะเทอะน้อยลงมากๆ ที่กรุงเทพอาจจะมีบางสถานที่ใช้แล้ว แต่ก็อยากให้มีคนใช้อย่างแพร่หลาย
เครื่องเอาไว้ซับน้ำออกจากร่ม ลดความเลอะเทอะได้มากก2.กรุงเทพควรมีแหล่งการเรียนรู้ที่สามารถเข้าไปชมฟรีได้เยอะๆ อาจจะเป็นพิพิธภัณฑ์,ศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ
3.ระบบขนส่งสาธารณะ (อันนี้หลายอย่างมากๆๆๆ)
-ระบบขนส่งสาธารณะสามารถจบได้ด้วยบัตรใบเดียวเลย ทั้งรถไฟฟ้า,รถบัส แล้วยังใช้จ่ายของได้ด้วย สะดวกมาก
-ส่วนรถบัสเราสามารถเช็คเวลาของรถคันต่อไปได้ในแอพเลย สะดวกx2
-รถบัสของเค้าจะมีป้ายรถชัดเจนและมีเลนพิเศษสำหรับการรับส่งคนที่ป้ายรถด้วย ช่วยลดปัญหารถติด
เครื่องแตะบัตรสำหรับจ่ายเงินค่าเดินทางบนรถบัส
4.การใช้โปรแกรมเกี่ยวกับการจับการเคลื่อนไหวมาช่วยในการประหยัดพลังงาน คือใช้โปรแกรมตรวจจับการเคลื่อนไหวตรวจจับว่าถ้ามีการเคลื่อนไหวของคนให้เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า หากไม่มีการเคลื่อนไหวให้ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบริเวณนั้น (อาจนำมาปรับใช้หากสร้างพื้นที่สาธารณะใหม่ๆ ช่วยประหยัดพลังงานได้เยอะแน่นอนค่ะ)
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนสำหรับการจัดโครงการนี้ขึ้นและดูแลพวกเราอย่างดี ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่น่ารักและเป็นมิตรมากๆ ขอบคุณทุกคนที่สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำไปด้วยกัน ️️
อยากให้เยาวชนกรุงเทพทุกคนได้ลองเข้าร่วมโครงการนี้นะคะ
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ในช่องความคิดเห็นเลยนะคะ
ขอบทุกคนที่ให้ความสนใจค่ะ
1 ความคิดเห็น
ส่วนใหญ่ตอนสอบสัมภาษณ์ คำถามเป็นภาษาอังกฤษหรือไทยหรอคะ
แล้วเขาให้เราพูดภาษาเกาหลีบ้างมั้ย ควรเตรียมตัวยังไงดีคะ เราตื่นเต้นมากเลย สอบสัมพรุ่งนี้แล้วค่ะ TT
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?