Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

JENESYS2023 Tourism-exchange รีวิวประสบการณ์การแลกเปลี่ยนระยะสั้นที่ญี่ปุ่นแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ระยะเวลา 7 วัน

ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่า ก่อนจะแนะนำว่าJENESYS คือโครงการอะไร เราขอแนะนำตัวสั้น ๆ ก่อนนะคะ

เราชื่อมิ้งค่ะ เรียนอยู่ปี 2 เอกภาษาญี่ปุ่น คณะศิลปศาสตร์ ม.ชื่อดังย่านรังสิต พอดีเมื่อปี2023 ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ JENESYS หัวข้อ Tourism-Exchange วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การไปญี่ปุ่นครั้งแรกของเรา และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการไปแลกเปลี่ยนระยะสั้นในครั้งนี้ค่ะ ถ้าพร้อมกันแล้วก็ GOGO

JENESYS คืออะไร

JENESYS เป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่จัดขึ้นโดยองค์กรที่ชื่อว่า JAPAN INTERNATIONAL COOPERATION CENTER หรือเรียกกันย่อ ๆ ว่า JICE โดยเป็นโครงการแลกเปลี่ยนที่อยู่ในนโยบายเพื่อเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นให้กับต่างประเทศของกระทรวงต่างประเทศ(แต่เจ้าหน้าที่ในโครงการหลัก ๆ ก็เป็นคนจาก JICEน้า)  ส่วนผู้เข้าร่วมก็จะมีตั้งแต่ม.ปลายไปจนถึงระดับที่เริ่มทำงานแล้วแต่อายุยังไม่เกิน 35 ปี

โดยหัวข้อในการแลกเปลี่ยนแต่ละครั้งก็จะแตกต่างกันไป ทำให้สถานที่ที่เราจะได้ไปในแต่ละทริปก็จะไม่เหมือนกันเลย อย่างของเราหัวข้อจะเป็น Tourism ก็คือการท่องเที่ยว เลยได้ไปโตเกียวกับโอกินาว่า ซึ่งโอกินาว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนญี่ปุ่นบอกมาว่า เป็นคนญี่ปุ่นต้องได้ไปสักครั้ง! ถ้าไม่ได้เข้าโครงการนี้ก็ไม่รู้จะได้มีโอกาสไปอีกไหม นอกจากท่องเที่ยวก็จะมีหัวข้อ ด้านเทคโนโลยี เกษตรกรรม ธุรกิจ อื่น ๆ ที่ทำให้เราได้เข้าใจประเทศญี่ปุ่นในหลาย ๆ ด้านมากขึ้นค่ะ 

สำหรับคนที่อยากได้ข้อมูลข่าวสารว่าทุน JENESYS รับสมัครตอนไหน และสมัครอย่างไรบ้าง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับหัวข้อของโครงการเหมือนกันค่ะ อย่างของเราคือสมัครผ่านมหาวิทยาลัย อาจารย์เป็นคนพิจารณาส่งชื่อไป แต่ส่วนใหญ่ทางโครงการไม่ได้Requiredว่าเราต้องพูดภาษาญี่ปุ่นได้ หรือมีใบประกาศผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น ใครที่สนใจอยากลองสมัคร สามารถติดตามข่าวสารได้ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของJICE และสถานทูตญี่ปุ่นได้ตามลิ้งด้านล่างเลยค่ะ
JICE https://www.facebook.com/jice.exchange
สถานทูตญี่ปุ่น https://www.facebook.com/EMB.JAPANinTHAILAND

JENESYS 2023 Tourism-Exchange รีวิวประสบการณ์ DAY 1-DAY 7

มาถึง main course ในวันนี้ ประสบการณ์การไปญี่ปุ่นครั้งแรกแบบฟรีๆ จะมาเล่าให้ฟังเหมือนทุกคนนั่งเครื่องไปพร้อมกับเราเลยค่ะ ️

DAY1 Suvarnabhumi Airport Haneda Airport

ออกจากไทยมาตอน 23:00 มาถึงญี่ปุ่นตอน เวลาไทย 04:00 เวลาญี่ปุ่น 06:00~

ไฟลท์ไปญี่ปุ่นครั้งนี้เราได้ขึ้นสายการบิน ANA ค่ะ อาหารบนเครื่องบินมื้อแรกเป็นหมูผัดขิง กับโซบะเย็น ไฟเปิดพอดีตอนเขาเอาอาหารมาส่งเวลาไทยตอนช่วงตี3 ง่วงก็ง่วงแต่จะไม่กินก็เสียดาย มนุษย์เสียดายของอย่างเราเลยเลือกกินค่ะ 555 อาหารมื้อนี้ก็อร่อยแบบง่วงๆ แต่ก็ごちそうさまでした!

 

พอเท้าเหยียบสนามบินฮาเนดะ ก็มีเจ้าหน้าที่จากทางJICEพาไปปฐมนิเทศทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมโปรแกรม พร้อมอธิบายโปรแกรมใน 7วันที่เราจะอยู่ญี่ปุ่นค่ะ 

 

พบจบปฐมนิเทศ ก็เข้าสู่โปรแกรมหลักของในวันแรก คือการไปเยี่ยมชม อาคารที่ว่าการกรุงโตเกียว หรือ tokyo metropolitan government  https://www.metro.tokyo.lg.jp/english/

  • ภายในอาคารก็จะมีศูนย์ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเขตต่าง ๆ ในโตเกียว 
  • มีคู่มือท่องเที่ยวหลายภาษามาก ๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เราลืมถ่ายมา อันนี้เป็นของภาษาไทย
  • นอกจากในโตเกียวแล้วก็ยังมีศูนย์ให้บริการการท่องเที่ยวของภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย

  • ชั้นบนจะมีโรงอาหารด้วย แต่เราไม่ได้ถ่ายมาเห็นเขานั่งกินกันอยู่555 ในห้องที่ให้ทานอาหารจะเห็นวิวสวยๆ ในตัวเมือง และสวนชินจูกุจูโอ 
  • พี่ล่ามบอกว่าถ้าวันที่อากาศดี ๆ ตรงนี้จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย แต่เสียดายวันนี้คือลมแรงมาก เมฆบังหมดมองไม่เห็นอะไรเลย

 

DAY1 LUNCH TIME とりほまれ 西新宿 TORIHOMARE NISISHINJUKU
เป็นร้านอาหารที่อยู่ในตึก Shinjuku Sumitomo Building Triangle Square ตามชื่อร้านเลย ร้านนี้ก็น่าจะเด่นเรื่องอาหารพวกวัตถุดิบใช้ไก่กับไข่ ผักสลัดที่ให้มาก็สดมาก ซุปมิโซะร้านนี้จะเป็นแบบมีเต้าหู้ให้ด้วยอร่อยเหมือนกัน ตัวไก่ย่างเขาก็ เราก็จำรสชาติไม่ค่อยได้ละแต่อร่อยนะ กินหมดทุกอย่างเลย555

ก่อนไปกิจกรรมต่อไป พี่เจ้าหน้าที่แอบพาไปเดินเล่นสวนShinjuku Chuo Park นิดหน่อยค่ะ บรรยากาศดีมากช่วงนั้น แสงแบบญี่ปุ่นญี่ปุ้น ข้างในสวนมีศาลเจ้าด้วย เลยไปกดโอมิคุจิมาค่ะ

กิจกรรมต่อมาจะเป็นการไปทัศนศึกษาที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาโตเกียว YMCA ด้านการโรงแรมนานาชาติหน้าโฮมเพจของวิทยาลัย https://hotel.ymsch.jp/
การเข้าไปทัศนศึกษาครั้งนี้จำลองให้เราลองเข้าไปนั่งเรียนในคลาสของวิทยาลัยนี้มาค่ะคลาสแรกจะเป็นคลาสสอนการฝึกพูด โดยอาจารย์สอนการพูดจากทางวิทยาลัย

  • ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยเพราะ ไม่แน่ใจว่าเขาให้ถ่ายไหม แต่ให้สรุปจากคลาสนี้สิ่งที่เราได้เรียนรู้คือ การออกเสียง ที่ดูเป็นเรื่องเบสิคพื้นฐานนั้นจริงๆ แล้วเป็นหัวใจของการบริการ หรือ omotenashiเลยค่ะ การออกเสียงถือเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะส่งเสียงไปถึงอีกฝ่ายให้ได้ยินได้โดยที่เขาไม่ต้องถามอีกรอบ
  • ในคลาสก็จะมีให้เราได้ลองฝึกออกเสียงอย่างถูกต้องไปพร้อมๆ กับอาจารย์
คลาสต่อมาจะเป็นการเรียนรู้เป็น butler กันค่ะ อาจารย์ที่สอนคนนี้เท่าที่จำได้เคยทำงานให้กับนักการทูตของอังกฤษ ((หรือเปล่า)) แต่ว่ามากประสบการณ์มากๆ
  • เรียนเกี่ยวกับมารยาทในการเสิร์ฟอาหาร
  • มีอาจารย์โชว์ออฟให้ดูว่าสามารถถือแก้วไวน์ในมือเดียวได้เยอะมากด้วย555

DINNER AT とんかつ 神楽坂 さくら Tonkatsu Sakura
ทงคัตซึ ในตึกคากุระซากะ แถวย่านชินจูกุ ตอนอยู่ในโตเกียวก็จะวนอยู่แต่แถวตรงนี้หน่อยค่ะ โรงแรมพักอยู่แถวนี้ ทงคัตซึร้านนี้ถึงชิ้นจะไม่ค่อยยาไส้คนแบบเราสักเท่าไหร่ แต่กรอบอร่อยแล้วก็อิ่มกะหล่ำซอยมากค่ะ ซุปมิโซะร้านนี้จะแบบใส่หอยลงไปด้วย เลยมีกลิ่นแบบความทะเลๆ นิดนึง 

 

DAY2 WAKE UP AT 6:30

BREAKFAST AT Tokyo East Side Hotel Kaie อาหารตอนเช้าจะเป็นบุฟเฟต์ค่ะ มีให้เลือกเยอะมาก อาหารญี่ปุ่น ฝรั่ง ของเราลืมถ่ายเลยไปขโมยของเพื่อนมา แต่จำได้ว่ากินเอาอิ่มอยู่เหมือนกัน 555

กิจกรรมแรกสำหรับ DAY2 คือการไปฟังเลคเชอร์ที่ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโตเกียว หรือ TCVB หน้าโฮมเพจของTCVB https://www.tcvb.or.jp/en/

  • ช่วงแรกจะให้ฟังเลคเชอร์เกี่ยวกับที่มาขององค์การ และแผนการตลาดที่องค์การทำเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับโตเกียวค่ะ การตลาดที่น่าสนใจที่เรารู้สึกว่าเขาหยิบมาโปรโมตได้ดีคือ “เสน่ห์ของโตเกียวคือ สิ่งในชีวิตประจำวัน” คน สิ่งของเรื่องราว ในชีวิตประจำวันนำมาผสมผสานกับกับประเพณีวัฒนธรรมดั่งเดิม ทำให้เกิดเป็น สโลแกน Tokyo Old meets New
  • หลังฟังบรรยายจบก็มีพาไปดูสำนักงานของTCVB ค่ะ ในสำนักงานมีพี่คนญี่ปุ่นคนนึงพูดไทยได้ด้วย ชัดมากๆ เท่าที่คุยมาพี่เขาบอกว่าเคยไปแลกเปลี่ยนอยู่ที่เชียงใหม่มาค่ะ

 

LUNCH TIME AT 権八 GONPACHI TAITO CITY เป็นข้าวหน้าเทมปุระ หรือที่เรียกว่า เทนด้ง 天丼 แล้วก็มีปลาโซบะมาให้อีกสองตัว เทมปุระอร่อยมากๆ กรอบสุดๆ กินกับข้าวยิ่งอร่อย แต่เสียดายมีแค่ 4 ตัว อยากกินอีกค่ะ

กิจกรรมช่วงบ่าย เป็นการฟังเลคเชอร์จากองค์การการท่องเที่ยวของเขตไทโต ซึ่งจะประกอบไปด้วย อุเอโนะ ยานากะ และอะซะกุซะที่ตึก Asakusa Culture Tourist Information 

  • ส่วนใหญ่จะเป็นการอธิบายจุดเด่นของเขตไทโต และนโยบายการท่องเที่ยวของเขตนี้ค่ะ มีเรื่องการนำ SDGs เข้ามาร่วมโปรโมตด้วย
  • หลังฟังเลคเชอร์เสร็จ พี่ๆ เจ้าหน้าที่ก็พาขึ้นไปชมวิวข้างบน มองลงมาก็จะเห็นคามินาริมง คนเดินกันพรึ่บพรั่บ ถ้ามองไปอีกด้านข้างก็จะเห็นโตเกียวสกายทรีค่ะ

  • ฟังเลคเชอร์เสร็จเรียบร้อยแล้วก็พาไปชมสถานที่จริง ในๆ ก็มาถึงย่านอะซะกุสะแล้ว ไปดูคามินาริมงกับวัดเซนโซกัน

  • อันนี้ก็นอกตารางเหมือนกัน แต่มีพาไปเล่น Hanayashikiด้วยเป็นสวนสนุกที่อยู่ในย่านอะซะกุสะ

ก่อนไปทานมื้อเย็นแอบมีพาไปเดินเล่นอากิฮาบาระแป๊บนึง เราแวะเข้าอนิเมทตรงอากิฮาบาระ ไปซื้อตุ๊กตาโอชิมา คอมพลีทละ

DINNER AT Okonomiyaki Yukari AKIBA-ICHI (お好み焼ゆかり AKIBA-ICHI店)

พามาเปิดประสบการณ์ลองทำ โอโคโนมิยากิ ตอนได้คนๆ นี่คือสนุกมาก เอาปาดลงกระทะ ยิ่งโอโห ยังกับได้เป็นเชฟละ แต่ตอนรอมันสุกนานอยู่นะ กินแป้งดิบไม่ได้นะทุกคน

 

DAY3 TOKYO  OKINAWA
รู้ตัวอีกทีวันที่ 3 แล้ว ไวมากๆๆ ได้เวลาบอกลาเมืองหลวง กลับสู่ธรรมชาติ welcome to Okinawa

วันนี้ตื่นเช้ามาก ๆ ตั้งแต่ตี5 เพราะว่าต้องรีบไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินฮาเนดะตอน 8:30 อาหารเช้าวันนี้ทานที่โรงแรมเหมือนเดิมเลย 

11:25 Land of at Naha International Airport ถึงแล้วโอกินาว่าใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงมาจากโตเกียว ความรู้สึกแรกหลังออกจากเครื่องบินมาคือ ร้อน55555  อากาศพอๆ กับที่ไทยตอนช่วงพฤศจิกาเลย แต่ว่าบรรยกาศวิวดีมากๆ ทะเลสวยสุดๆ

LUNCH TIME AT okinawa christian school international
กิจกรรมตอนช่วงบ่ายจะทำที่มหาวิทยาลัยคริสเตียนโอกินาว่าพอดีเลยมาทานอาหารเที่ยงที่โรงอาหารที่นี่ด้วยเลยค่ะ อาหารวันนี้จะเป็น ราเมงไก่พร้อมผักอะไรไม่รู้แต่ไม่อร่อย… เป็นอาหารที่เฮลตี้มากหลังจากเรากินอย่างราชามาหลายมื้อ

 

กิจกรรมช่วงบ่าย จะเป็นการคล้ายๆ กับ 交流会มั้ย แปลไทยก็น่าจะกระชับสัมพันธ์ เป็นการให้เรามาฟังบรรยายของจากทางนักศึกษาจากม.คริสเตียนโอกินาว่า ที่ทำเป็นทริปให้เราเห็นว่าที่เที่ยวในโอกินาว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง จากนั้นก็มีให้เราไปพรีเซนต์เกี่ยวกับปรเทศไทยด้วยค่ะ

  • พอดีวันนี้มีNHK 九州มาถ่ายด้วย เลยได้ออกกล้องนิดนึง จริงๆ เขาสัมภาษณ์เราไปด้วยค่ะ แต่ว่าไทม์มิ่งไม่พอเลยไม่ได้ออก อดเป็นคนดัง (ดีแล้ว)

ลิ้งข่าว https://www3.nhk.or.jp/lnews/okinawa/20231110/5090025602.html

กิจกรรมต่อมา เราเดินทางไปกันต่อที่ปราสาทชูริ 首里城 เป็นปราสาทที่มีมาตั้งแต่สมัยโอกินาว่ายังเป็น อาณาจักรริวกิว แต่เสียดายที่เมื่อ 4 ปีก่อนเกิดไฟไหม้ไปเลยไม่ได้เห็นปราสาทสภาพสมบูรณ์ค่ะ

  • ภายในปราสาทที่กำลังซ่อมแซมอยู่
 

DINNER AT New Century Hotel Okinawa City
มื้อเย็นวันนี้ทานที่โรงแรม เป็นบุฟเฟต์ขนาดย่อม แต่กินอย่างราชาเหมือนเดิม สำหรับมื้อนี้มีซิกเนเจอร์เป็น ゴーヤチャンプルー หรือ มะระผัดหมูกับไข่ เป็นของขึ้นชื่อของโอกินาว่า กับ โอกินาว่าโซบะ สำหรับมะระผัดหมูรู้สึกว่าลิ้นยังไม่เข้าใจความอร่อยของรสชาติขมมากเลยกินไปนิดนึง แต่ว่าโอกินาว่าโซบะ กับแกงกะหรี่อร่อยมาก มื้อวันนี้ก็ごちそうさまでした

 

DAY4 WAKE UP 6:00

BREAKFAST ทานที่โรงแรมเหมือนเดิมค่ะ เมนูคล้ายๆ กับเมื่อวานเลย แต่ว่าลืมถ่าย แซด

กิจกรรมแรกในวันนี้คือ ไปพิพิธภัณฑ์ Yuntanza และชมกำแพงที่หลงเหลือมาจากปราทาท Zakimi

  • มีเจ้าหน้าที่จากทางพิพิธภัณฑ์มาช่วยอธิบายประวัติความเป็นมาของโอกินาว่าตั้งแต่ยุคอาณาจักรริวกิว และหมู่บ้านโยมิตัน ซึ่งแต่ก่อนน่าจะเรียกว่า Yuntanza
  • การได้ไปฟังเลคเชอร์ในพิพิธภัณฑ์ครั้งนี้ทำให้เราได้รู้ว่าโอกินาว่ารับวัฒนธรรมมาจากเอเชียแถบตะวันออกเฉียงใต้ กับจีนเยอะมากๆ น่าจะเยอะกว่าทางฝั่งญี่ปุ่นด้วย พี่ล่ามเลยบอกว่าชื่อคนโอกินาว่าส่วนใหญ่รุ่นเก่า จะมีความคล้ายกับคนจีนมาก

  • ไปชมซากกำแพงที่หลงเหลือจากปราสาทZakimi วิวดีมากๆ อากาศก็ดี แต่แดดแยงตาสุดๆ55

LUNCH TIME AT โรงแรมสักแห่งในหมู่บ้าน โยมิตัน
รู้สึกว่าตั้งแต่มาโอกินาว่าคือกินอย่างราชามาก จำนวนที่ให้นี่คือเทียบกับร้านอาหารในโตเกียวแล้ว เรากินไม่ไหว ดูอย่างมื้อนี้คือไก่สองน่อง ยังไม่พอมีเสริฟ์ข้าวสวยให้อีกจานนึงกลัวเราไม่อิ่ม สำหรับรสชาติเราว่ามันแอบคล้ายๆ มั่สมั่นแต่อร่อยนะ กินคู่กับซุปข้าวโพดที่เสิร์ฟมา

กิจกรรมช่วงบ่าย ช่วงบ่ายวันนี้จะไปหลายที่นิดนึง เพื่อนๆ ตามให้ทันนะคะ โกโก

Chibi Chiri Gama เป็นถ้ำที่ทำให้เราได้เรียนรู้ความบอบช้ำที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากโศกนาฎกรรมที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีก

Trigger warning: สงคราม การฆ่าตัวตาย การถูกข่มขืน

  • ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลญี่ปุ่นไซโคประชาชนให้กลัวทหารจากอเมริกาไว้เสมอทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เลยมีทัศนคติเช่นนั้นด้วย ว่าถ้าเจอทหารจากอเมริกาแล้วเขาจะไม่ไว้ชีวิต ในระหว่างที่หมู่บ้านนึงกำลังหลบภัยจากสงครามในถ้ำ ก็ได้ข่าวว่าทหารอเมริกาบุกเข้ามา ทำให้ผู้คนที่อยู่ในถ้ำchibi chiri เกิดกังวลกันว่าหากถูกพบเข้า ผู้หญิงอาจถูกนำไปกระทำชำเราหรือหากเป็นผู้ชายก็จะถูกฆ่าทันทีได้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจึงเกิดความคิดกันว่า สู้ตายเสียก่อนดีกว่า จึงทำให้เกิดเป็นโศกนาฎฏรรมการฆ่าตัวตายหมู่ขึ้นมาค่ะ 
  • พอได้ฟังเรื่องโศกนาฎกรรมแบบนี้ ทางพี่ไกด์ที่เป็นคนจากหมู่บ้านโยมิตันก็อยากให้เราเรียนรู้จากสิ่งนี้ เพื่อให้เป็นผู้นำที่ดีไม่ให้เกิดเหตุการณ์โศนนาฏหรรมเช่นนี้อีกในอนาคต

เป็นบทเรียนที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกนะคะ เราฟังเสร็จก็จ๋อยไปพักใหญ่เลย

เปลี่ยนมู้ดกัน ไปเที่ยวต่อที่แหลม Zampa 残波岬公園

  • รูปปั้นของคุณไทกิ ถือเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่เริ่มริเริ่มเดินทางไปจีนเพื่อไปรับวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้าสู่อาณาจักรริวกิว 泰期像 
  • รูปซีซาร์ที่ใหญ่ที่สุดไหม หรือเจ้าหน้าที่JICEเขา-ัน ((โดนตี))
  • มีประภาคารด้วย แต่เสียดายเวลาไม่พอเลยไม่ได้ขึ้น
  • อากาศดีสุดๆ น้ำทะเลสีสวยมากๆๆ ไม่เคยเห็นสีแบบนี้ที่ไทยเลย

โรงกลั่นเหล้า ฮิงะชุโซ 比嘉酒造

  • พาไปดูกระบวนการผลิต
  • มีเหล้าดองงูด้วย แต่พี่จากโรงกลั่นบอกว่าไม่ทำแล้ว

  • ให้ลองชิมอาโอโมริของโรงกลั่นเหล้านี้ อาโอโมริเป็นเหล้าประเภทหนึ่งที่ผลิตในโอกินาว่า โดยใช้ข้าวไทยหมัก เขาบอกว่าข้าวไทยอร่อยกว่า
  • เราลองชิมๆ ดูแล้วแค่อันดีกรีๆ น้อยๆ คือขมไม่ไหวคายอย่างเดียว ยังเข้าไม่ถึงรสชาติงะ แซด

ไปเจอโฮสต์แฟมิลี่

  • โฮสต์ที่วันนี้เราจะไปนอนด้วยคือ คุณคาเดะคารุ อายุน่าจะ79แล้วแต่แข็งแรงมากๆ เม้าให้ฟังด้วยว่าหินที่รูปปั้นไทกิ ที่แหลมซัมปะคือคุณคาเดะคารุไปหามาจากไทยเลย

DINNER บ้านโฮสแฟม

วันนี้มาเจอโฮสแฟมครั้งแรก ภรรยาคุณคาเดะคารุ คุณฮิโรมิทำเป็นต้มคล้ายๆ ต้มจืดใส่คากิไหม 食レポเราแย่มาก แต่จำได้คืออร่อยมาก โดยเฉพาะของหวานที่ทำมาจากถั่ว เป็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ด้วยมือ อร่อยมากๆ มีมันม่วงของขึ้นชื่อโอกินาว่าด้วย

 

DAY5 Rest Day
เป็นวันที่ทางโครงการให้เรามีวันพักหายใจ ตื่นสายไปเที่ยวชิวๆ กับโฮสแฟมบ้างหลังจากตื่นตี5 6โมงมาหลายวัน

  • ตอนช่วงเช้ามีให้ไปทำกิจกรรมร่วมกันกับพี่ๆ จากสปป.ลาว คือไปตัดอ้อย ใช้แรงงานแต่เช้าแต่อ้อยหวานอร่อยมาก ตัดเสร็จแล้วก็พาไปดูว่าเอาไปทำอะไรต่อได้บ้างที่โรงงาน

จากนั้นก็ฟรีไทม์ คุณคาเดคารุพาซิ่งรอบเมืองเลย555 ที่แรกพาไปดูร้านทำขนมคุกกี้จิงสุโค ちんすこうแบบแฮดเมดเห็นทุกขั้นตอนเลย ตอนแรกเราว่าจะซื้อเองอยู่แต่คุณคาเดคารุเหมาซื้อให้ทุกคนที่อยู่บ้านเดียวกันเลย หลังจากลองชิมมาหลายรสก็รู้สึกว่า เออมันต้องต้นตำหรับรสเกลือจริงๆ แหละ ใครมีโอกาสได้มาก็มาลองชิมกันได้นะคะ รสชาติมันล้ำลึกมาก

LUNCH TIME กินขนมเสร็จพากลับบ้านมากินข้าวต่อ กินไม่หยุด วันนี้คุณฮิโรมิทำtakikomi gohanให้กับโอกินาว่าโซบะ อร่อยมากกก แฮปปี้อีตติ้งสุดๆ ทาคิโคมิโกะฮังก็คือแบบนัวๆ มีหลายๆ อย่างผสมกันแล้วก็กลิ่นเครื่องเทศ โอกินาว่าโซบะกินคู่กับสแปมแล้วก็ขิงดองก็อร่อยมาก ごちそうさまでした(´;ω;`)

กินเสร็จแล้วพาซิ่งต่อไปพร้อมคุณฮิโรมิขึ้นไปดูประภาคารที่เมื่อวานตอนไปแหลมซัมปะเวลาไม่พอเลยไม่ได้ขึ้น บรรไดชันน่าจะ100ขั้น แต่คุณคาเดะคารุไม่หวั่น ก้าวไวกว่าวัยรุ่นปวดหลังแบบเรามาก ขึ้นไปถึงข้างบนคือฝนตกพอดี สวยมากแต่ก็น่ากลัวมากกลัวว่าถ้าตกไปแล้วจะเป็นยังไง 

DINNER บ้านโฮส แต่ไทจินอยากกินกะเพรา
เมื่อวานไปโม้ ๆ กับเขาว่าอยากทำอาหารไทยให้กิน คุณคาเดะคารุพาซิ่งไปซุปเปอร์ไปซื้อวัตถุดิบเลย วันนี้ชาวไทยเลยได้กินผัดกะเพรา(ปลอม)อย่างใจหวัง ตอนช่วงเย็นคุณฮิโรมิก็ทำ sata andagiให้ทานเป็นขนมของขึ้นชื่อของโอกินาว่าเหมือนกัน รสชาติมันจะหวานๆ นุ่มๆ ให้ฟิลเหมือนซาลาเปาทอดบ้านเรา แต่เนื้อแน่นกว่า

ตั้งแต่มาอยู่บ้านโฮสก่อนนอนทุกคืนคือ โฮสชวนนั่งเม้า เพราะว่าคุณคาเดะคารุอยากมีเพื่อนนั่งก๊งด้วย 555 เอาขนมออมาให้กินตลอด กินไม่หยุดตลอดเวลา จนกระเพาะย่อยไม่ทันแล้ว

DAY6 คืนสุดท้ายที่โอกินาว่าก่อนกลับโตเกียว

BREAKFAST วันนี้ทานที่บ้านโฮสเหมือนเดิม เป็นของง่ายๆ แต่อร่อยอีกแล้ว ผักสลัดก็อร่อยมาก 

พอทานข้าวเช้าเสร็จก็ต้องแยกย้ายกับโฮสแล้วทุกคนเลยเศร้าๆ นิดนึง มีถ่ายรูปอำลากันแล้วก็เก็บของกลับค่ะ

กิจกรรมช่วงเช้า มีพาไปOkinawa Kaigan Quasi-National Park

  • ฟังเลคเชอร์เกี่ยวกับปัญหาทางท้องทะเลที่เจอในขณะนี้

  • พาไปเก็บขยะตามชายหาด
  • เข้าไปชมจุดถ่ายรูป

LUNCH Hamanoya Restaurant (海鮮料理 浜の家)เป็นเซ็ตอาหารที่เราชอบที่สุดในทริปนี้เลยค่ะ กินอิ่มจุใจมาก เดรสซิ่งที่กินกับตัวของทอดซึ่งก็จะมีปลากับมันฝรั่ง จะเปรี้ยวๆ กินแล้วตัดเลี่ยน และทีเด็ดในจานนี้คือสาหร่ายของโอกินาว่าที่เรียกว่า mozuku もずくเป็นสาหร่ายที่กินได้แค่ในโอกินาว่า รสชาติจะนุ่มๆ ลื่นๆ เปรี้ยวนิดหน่อยแต่ว่ากินแล้วมันจะเฟรชๆ สดชื่นดี

ตอนช่วงบ่ายของวันนี้จะเป็นเวลาเตรียมให้เราได้พรีเซนต์ในวันพรุ่งนี้เกี่ยวกับเรื่องที่เราได้เรียนรู้จากทริปครั้งนี้ค่ะ พอwork shopเสร็จแล้วก็เข้าที่พัก พักผ่อนเตรียมตัวออกเดินทางกลับโตเกียววันพรุ่งนี้
บรรยากาศในโรงแรม

DAY7 Okinawa, Naha Tokyo, Haneda

ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จแล้วก็เช็กเอ้าท์ออก จากนั้นก็เดินทางขึ้นเครื่องบินกลับโตเกียวกันค่ะ

LUNCH อาหารเที่ยงวันนี้เป็นเบนโตะที่ทางโครงการเตรียมมาให้เองไว้ทานบนเครื่องบิน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าของร้านไหนแต่อร่อยเหมือนเดิม พุงแฮปปี้มากๆ

12.30 ถึงสนามบินฮาเนดะ เดินทางเช็กอินเข้าโรงแรม เตรียมตัวเสนอรายงานที่เราทำมา

ก่อนพรีเซนต์เอาจริงๆ เราประหม่ามาก เพราะคิดว่าจะมีคนใหญ่คนโตมาดุ ละก็มีมาจริงๆ (ก็ต้องมาสิ) อาจจะไม่ได้perfect ร้อยเปอร์เซนต์แต่เพื่อนๆ ในกลุ่มทำกันเต็มที่มากแล้วค่ะ

มีทางบ้านแอบถ่ายตอนรับใบประกาศนียบัตรด้วย

DINNER AT The Oven American Buffet 

เป็นมื้อสุดท้ายก่อนกลับที่กินอย่างราชา(อีกแล้ว) บุฟเฟต์มีของให้เลือกเยอะมากๆ มีของคาวของหวานเต็มไปหมด สลัด เครื่องดื่ม ไม่รู้จะเลือกจากอะไรก่อน ขนมก็มีให้เลือกเยอะเหมือนกัน ขอบคุณJICE ทำให้เรา happy eating สุดๆ

  • บรรยกาศในร้านก็สวยมาก

ก่อนกลับโรงแรม มีไปเดินเล่นรับความหนาวที่แถวodaibaมา วิวตอนกลางคืนสวยม๊าก


DAY8 Tokyo, Haneda Bangkok, Suvarnabhumi 
จบทริปแล้วสำหรับการมาเที่ยวครั้งนี้ อาทิตย์หนึ่งนี่เหมือนจะนานแต่ก็สั้นนิดเดียว รู้ตัวอีกทีก็นั่งแอร์พอร์ตลิ้งกลับบ้านแล้ว555 ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ถ้ามีขอสงสัยอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการก็ทักไอจี @kakeru461 มาได้คั้บ เลิ้บ



 

 

แสดงความคิดเห็น

>