อยากทราบว่าพี่ๆที่เรียนป.โทส่วนใหญ่ จบตรีแล้วไปเรียนเลย หรือว่า ทำงานตั้งหลักก่อนคะ

ส่วนตัวเลือก จบ ป.ตรี ธันวา 2016 แล้วต่อ ป.โท มกรา 2017 เลยค่ะ เพราะกลัวถ้าเว้นระยะแล้วตัวเองจะขี้เกียจ ละจะไม่ได้เรียน

ข้อดี

- ก็ยังมีไฟ มีความตั้งใจ ที่จะเรียนต่อ ให้จบโท

- ได้ connection มากขึ้น

- การแข่งขันเวลาสมัครงาน ป.โท ยังคงมีการแข่งขันต่ำกว่าคนที่จบ ป.ตรี

- ได้ฝึกตัวเองเรื่อง time management เพราะมันจะไม่มีใครมาจี้ให้เราต้องส่งการบ้านตอนนั้นตอนนี้ ไม่มีใครสั่งให้อ่านหรือทำอะไร ต้องรู้เองและต้องเตรียมตัวให้พร้อมในการเข้าคลาส ต้องคิดต้องวางแผนล่วงหน้าให้เป็นโดยเฉพาะเรื่องการทำ thesis และต้องนัดคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเอง เพื่อ defend ให้ผ่าน

ข้อเสีย

- เงินเดือนไม่ได้เพิ่มขึ้นขนาดนั้น บางบริษัทไม่ให้ค่าวุฒิด้วย บางที่ก็กดเงินเดือนเทียบเท่าคนจบ ป.ตรี ทั่วไป

พี่ทำงานก่อนมาค่ะ ประมาณเกือบ 4 ปี

ข้อดีคือคลาสป.โท เค้าเน้นไปทาง seminar ค่ะ แบบแลกเปลี่ยนความเห็นกันในห้อง ถ้าเรามีประสบการณ์ทำงานมา เราก็จะมีเรื่องแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนเยอะค่ะ ต่างประเทศต่างสายงานกัน น่าสนใจดีค่ะ

ส่วนเรื่องภาษาพี่เตรียมมาตั้งแต่ป.ตรีเรื่อยๆค่ะ เพราะต้องใช้ตอนทำงานด้วย แต่มาเริ่มจริงจังตอนจะไปเรียนค่ะ

เรื่องค่าใช้จ่ายพี่ก็พยายามเก็บเงินมาค่ะ แต่ว่าก็มีที่บ้านช่วยเรื่องค่าเทอมให้ 

สำหรับทุน ถ้าน้องมีเวลาก็วางแผนล่วงหน้าได้เลยค่ะ เพราะถ้าชิงทุนน้องต้องเตรียมอ่านสอบแข่งทุน ไหนจะสอบสัมภาษณ์ เตรียม ielt ข้อดีคือได้ทุนเต็มจำนวนก็จะไม่เหนื่อยเราค่ะ แถมไม่ต้องรบกวนผู้ปกครองด้วย

สำหรับพี่ เลือกทำงานก่อน 4-5 ปีให้งานอยู่ตัวก่อนค่อยเรียน โท ต่อ ตอนนั้นที่เลือกอย่างนี้ เพราะกลัวหางานยาก เรทเงินเดือนสูงกว่าคนอื่นแต่ไม่มีประสบการณ์ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เจอโลกกว้างๆก่อน น้องอาจจะอยากเรียน ป.โท สาขาอื่นที่น้องไม่ได้จบ ป.ตรีมาก็ได้

เราเรียนมหาวิทยาลัยในไทย ใช้เงินทางบ้านเพราะเป็นพันธกิจของทางบ้านว่า ต้องส่งเราจบโทให้ได้, จริงๆ ก็ไม่ต้อง มหาวิทยาลัยมีทุนเยอะแยะ ถ้าหัวข้อวิจัยน่าสนใจ ก็ขอทุนวิจัยได้ด้วย ทำงานก่อน เพราะ (1) สายงานเน้นประสบการณ์มากกว่าวุฒิการศึกษา (2) ต้องเก็บเงิน, ระหว่างเรียนจะไม่สามารถทำโอที ทำงานนอกอะไรได้ เพราะเรียนหลังเวลางาน ระหว่างนั้นก็มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นทั้งค่าเดินทาง ค่าเอกสารการเรียน ปาร์ตี้กับเพื่อน ป.โท (3) ได้เปรียบตอนทำวิจัย เพราะรู้ตัวชัดแล้วว่าอยากทำอะไรและมีข้อมูลแบบไหนในมือ, อาจารย์จะไม่ค่อยมาจู้จี้เท่าไหร่ ด้วยเป็นคนทำงานแล้ว ดูแลตัวเองได้ แต่ทำงานก่อนก็จะมีข้อเสียตรงที่ว่า หาเงินมันสนุกกว่า พอต้องมาเรียนก็แอบรู้สึกเสียเวลา เสียโอกาสทำเงินไปเยอะเหมือนกัน แต่ถ้าไม่เรียนตั้งแต่ตอนนั้นก็คงจะไม่ได้เรียนอีกเลย เพราะยิ่งอายุเยอะยิ่งสุขภาพ การงาน ครอบครัว ไฟมอด ฯลฯ

การเลือกทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียต่างกันครับ อันนี้เราต้องเป็นคนเลือกเอง

1. จบตรีแล้วต่อโทเลย

ข้อดีคือยังมีไฟที่อยากเรียนอยู่ ตั้งใจเรียนได้เต็มที่เพราะยังไม่ห่วงเรื่องงาน ไม่ต้องกดดันตัวเองมาก

แต่การทำวิธีนี้จุดสำคัญเลยคือ ทางบ้านต้องเข้าใจ และต้องมีพื้นฐานครอบครัวที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ถ้ายังมีการกู้ยืมไม่แนะนำวิธีนี้

ข้อเสียคือ เนื่องจากเรามีแต่เรียนแล้วก็เรียน ดังนั้นประสบการณ์ทำงาน หรือประสบการณ์ใช้ชีวิตรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในที่ทำงานจะมีน้อยมาก หรือไม่มีเลย การเรียนสูง ไม่ได้ช่วยให้เรารับมือกับปัญหาบางอย่างได้ดีขึ้น เช่นรับมือกับเพื่อนร่วมงานเป็นต้น นอกจากนี้ถ้าไม่สมัครงานหลายๆ ที่ เขายังจะให้เงินเดือนในระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าแค่นิดเดียวอีกด้วย เพราะแม้ว่าเราจะจบโท แต่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน เขาก็ไม่แน่ใจว่าเราจะทำงานจริงๆ ได้ไหม ยิ่งบางที่คือให้ยื่นแบบป.ตรีไปก่อน รอให้เขาแน่ใจว่าทำงานได้สักปีสองปี ค่อยยื่นวุฒิโทเพื่อเพิ่มฐานเงินเดือน

2. จบตรีแล้วทำงานก่อนค่อยต่อโท

ข้อดีคือ เราได้มีโอกาสเก็บประสบการณ์ทำงานมาสักพักแล้ว เราจะมีคำตอบให้กับตัวเองแน่นอนแล้วว่า เราจะต่อโทอะไรที่มันจะมาช่วยให้เราพัฒนาขึ้น ซึ่งบางทีมันอาจจะไม่ใช่ตัวที่เราเคยคิดจะเลือกเอาไว้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ

เราจะมีเวลาวางแผนให้กับตัวเองว่าเราจะไปต่อที่ไหน ไปยังไง ใช้งบจากที่ไหน ฯลฯ

นอกจากนี้หลายๆ ที่เขายังอนุญาตให้เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ไม่ก็พักไปเรียนก่อนแล้วค่อยกลับมาทำงาน ซึ่งประสบการณ์ทำงานของเราก็มีบางส่วนที่นำไปใช้ในการเรียนโทของเราได้อีกด้วย

ข้อเสีย เนื่องจากเราไม่แน่ใจว่าพอทำงานไปแล้ว หากเราวางแผนไว้ไม่ดีพอ หรือมีอะไรที่มาทำให้แผนการเรียนต่อของเราเลื่อนออกไป แล้วมันต้องใช้เวลากี่ปี กว่าเราจะได้ไปเรียนต่อ นอกจากนี้ด้วยภาระงาน ภาระครอบครัว รวมถึงประสบการณ์อื่นๆ ที่เราพบเจอระหว่างการทำงาน มันก็อาจทำให้เราไม่อยากเรียนต่อ หมดไฟ หรือคิดว่าทำงานตรงนี้ดีกว่า จนทำให้ตัดสินใจเลอกเรียนไปเลยก็ได้

ตัวเลือกทั้งคู่นี้มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ก็ลองพิจารณาดูครับ

ทำงานก่อนค่ะ เก็บประสบการณ์ แล้วค่อยสอบชิงทุนไปต่อโทต่างประเทศ