เรียนจบม.3 แล้ว จะเรียนต่อบัญชีอยากทราบว่าต้องเรียนถึงขั้นไหนจึงจะสอบเข้ามหาลัยได้ #อยากเป็นครู

อันนี้ น้าอาศัยว่าเคยทำงานกับพี่คนหนึ่ง

ที่เค้ามีหัวหน้าบัญชี ที่เก่งมาก ๆ เลยนะ


คือ จะบอกว่า ก่อนที่เราจะเป็นครูสอนบัญชีได้น่ะ

เราควรจะ ทำอาชีพบัญชีมาก่อน อย่างน้อยสัก 5-6 ปี

คือ มันมีล่ะ ที่เรียนจบครูมาโดยตรง แต่จะสอนเด็ก

ให้เข้าใจถ่องแท้ได้ยังไง ถ้าตัวเองยังไม่เคยลงมือทำจริง ๆ เลย


หัวหน้าของพี่คนนี้ เค้าเป็นคนที่ไม่ใช่ครู

สอนในโรงเรียนนะ แต่เค้าเป็น เจ้าของสำนักงานตรวจสอบบัญชี

ที่รู้กฏหมายบัญชี แบบละเอียด แล้วก็รู้ว่า ต้องวางระบบเอกสาร

แบบไหน ถ้าจะเริ่มทำบัญชีของบริษัทตั้งใหม่ได้


แล้วก็รู้ถึง การใช้ซอฟท์แวร์ เค้ามาช่วยให้การทำบัญชีง่าย

ช่วยประมวลผล น้าเองทำงานบัญชี (น้าเป็นแค่เสมียนนะ

เพราะน้าจบ ปวส. บัญชี ไม่ใช่ ปริญญาตรี บัญชี)

รู้ว่า เอกสารและข้อมูลทางบัญชี เวลาที่เราทำงานจริง

มันจะมากมายเลย เพราะแทบจะทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในบริษัท พนักงานบัญชี จะต้องเข้าไปมีส่วนรับรู้

(ยกเว้น เรื่องการวางแผน การขาย หรือ การลงทุน)

แต่ก็เกือบทุกเรื่อง ที่พนักงานบัญชี จะต้องไถ่ถาม

หรือ อาจจะต้องรู้ที่มาที่ไป


เพราะ เราผู้ทำงานด้านนี้ เป็นผู้เก็บข้อมูล สรุป ประมวลผล

ให้เจ้าของกิจการ กรมสรรพากร แล้วก็ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ได้รับรู้


น้อยมาก ที่คนไม่เคยทำงานด้านนี้ จะสามารถ

สอนให้นักเรียนเข้าใจ ถึงความละเอียด หลักการ

คิด เอาแค่เรื่อง สมดุลทางบัญชี ไม่ใช่ว่าคนเรียนจบ

ทุกคน จะเข้าใจถ่องแท้นะ


บางคนมาเข้าใจหลังทำงานแล้ว ด้วยซ้ำ

ครูที่สอน จึงควรอย่างน้อย ผ่านการฝึกงาน

จากสำนักงานบัญชี หรือ ถ้าไปเป็นผู้ทำบัญชี

ของบริษัทได้เลย นั่นจะมีส่วนร่วมมากกว่า


คำแนะนำ เมื่อจบ ม.3 คือ หาสถาบันเทคโนโลยี

ราชมงคล ที่ใดที่หนึ่ง ที่พอจะสอบเข้าได้

เรียนให้จบอย่างน้อย ปวช เพื่อวางรากฐาน

การทำงานเกี่ยวกับเอกสาร ใบสำคัญต่าง ๆ


การทำงบการเงิน การทำบัญชีแยกประเภท

แล้วก็การคำนวณต้นทุนของสินค้า

การเรียนรู้กฏหมายเบื้องต้น และที่สำคัญที่สุด

คือ หลัก สมดุลทางบัญชี ซึ่งจะซึมซาบ

ได้ง่ายที่สุด ถ้าได้ลงมือ เขียนใบสำคัญ

รวมถึง ทำงบการเงินแบบต่าง ๆ บ่อย ๆ


เรียน ปวช จะฝึกทางนี้มากหน่อย

ตอนน้าเรียน ได้เขียนเยอะ แต่ไม่นึกว่า

ตอนมาทำงาน นอกจากเขียนเยอะ

จะได้หาเอกสารเยอะด้วย การฝึกหาเอกสาร

หาตัวเลข ที่มีปัญหาบ่อย ๆ (อันนี้จากการทำงานนะ)


จะช่วยให้เข้มแข็งน่ะ แล้วจะมั่นใจ เวลาเจอ

สถานการณ์ต่าง ๆ การหัดเตือนตัวเอง

ให้มีความรอบคอบ เวลาทำเอกสารเพื่อส่งหน่วยงานราชการ

ก็จะให้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง เช่น ต้องไม่ลืม

ยื่น เอกสารทางภาษี หรือ การสรุปรายงานภาษี

การตรวจสอบยันกับ statement แล้วก็บัญชีทรัพย์สิน

บัญชีย่อย ลูกหนี้ เจ้าหนี้


เหล่านี้ จะเข้าใจจริง ๆ ต้องผ่านการทำงานแล้ว

ไม่เช่นนั้น มันจะไม่เข้าใจปัญหาที่จะเกิดน่ะ


แต่น้าไม่แน่ใจหรอก ว่าหนูอยากเป็นครู

หลังจากทำสิ่งพวกนี้แล้ว คนที่เรียนด้านนี้

อยากเป็นผู้จัดการ หรือไม่ก็ผู้สอบบัญชีมากกว่า

มันเป็นจุดสูงสุดกว่า ครูอยู่นะ


น้ายังเคยอยากเป็นผู้สอบเลย

เพียงแต่น้าโชคไม่ดี ที่ผ่านประสบการณ์

ที่สร้างมุมมองไม่ค่อยดี กับเรื่องแบบนี้

น้าเลยแค่ทำงานเสมียนต่อ แต่ไปใส่ใจ

เรียนด้านคอมพิวเตอร์ ที่เป็นสาขาที่น้าชอบมากกว่า

(น้าเรียนทางอินเทอร์เน็ตนะ แต่งานประจำ

ที่ทำเป็นเสมียนบัญชี ทำมาตั้งแต่เรียนจบ)

จบปวช. ต่อป.ตรีบัญชี

จบแล้วไปสอบเป็นครูอัตราจ้าง เป็นไปสักพัก แล้วรอเขาส่งไปเรียนป.บัณฑิต แต่ยากหน่อยล่ะ จบแล้วจะได้ใบกค. ได้มาแล้วสอบบรรจุข้าราชการได้ หรือ จะสอนเอกชนก็ไม่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ