พึ่งเจอตัวเองหลังเรียนมหาลัยมาเกินครึ่งทางแล้ว
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนนี้ผมเป็นนศ.วิศวะอินเตอร์ปี 3 ในมหาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งผมพึ่งมาเจอว่า ผมไม่ได้ชอบในสิ่งที่ตัวเองเรียนจริงๆตอนใกล้จบ ปี 3 เทอม 1 ถามว่าตลอดเวลาที่เรียนเรียนดีมั้ย ก็แค่กลางๆ พอเอาตัวรอดได้ และก็คิดว่า ไหวแหละๆ จึงฝืนเรียนมาเรื่อยๆ พอเข้าปี 3 ได้เจอวิชาภาคจริงๆ เลยพึ่งรู้ตัว และ ตอนนี้แพลนอนาคตก็ไม่ชัดเจนสักทางเลย จะไปเรียนโทสายบริหารธุรกิจก็ไม่รู้จะไปรอดมั้ย จะลองไปทำงานก่อนก็ไม่รู้จะทำได้รึป่าว มีอีกแพลนนึงก็คืออกไปเป็นติวเตอร์สอนพิเศษ เพราะ เคยได้ลองสอนการบ้านน้องเป็นเวลาสั้นๆ ได้ลองฝึกการอธิบายโจทย์ให้น้อง ได้ลองเตรียมเฉลยการบ้านน้องแล้วรู้สึกโอเค หรือ ผมควรไปทางไหนดีครับ รบกวนแนะนำทีครับ ขอบคุณครับ
9 ความคิดเห็น
มีคนเป็นแบบคุณหลายคน
ถ้าให้เดา ความคิดคุณตอนนี้อาจจะอยากลาออกทันที
จะไปทางไหนดีกว่าตอบแทนไม่ได้ เพราะเคยเห็นมาทั้งสองทาง
ถ้าคุณทนเรียนจนจบได้สำเร็จ และมุ่งมั่นหางานในสาขาที่เรียนอยู่
ในอีกยี่สิบปี เส้นทางของคุณควรจะมั่นคงไปจนถึงบั้นปลายชีวิต
ในขณะที่ถ้าเลือกมาเป็นติวเตอร์ เส้นทางนี้มีความแปรปรวนสูง
ขึ้นอยู่กับความสามารถและโอกาสหลายๆอย่าง คุณอาจจะมีรายได้สูงมากจนเหลือเก็บหรือต่ำมากจนไม่พอกิน
ทั้งสองทาง คุณต้องเลือกเองนะ
คุณรู้ตัวว่าคุณไม่ชอบสาขาวิชาที่เรียนแต่คุณยังไม่รู้ว่าคุณชอบสาขาวิชาไหนใช่ไหม ถ้าเป็นอย่างนั้นแนะนำให้เรียนต่อไปก่อน ไม่แนะนำให้คุณลาออกเพราะถ้าคุณลาออกคุณก็จะมีวุฒิแค่ม.6 ถ้าสนใจอาชีพติวเตอร์แนะนำให้ลองสมัครงานเป็นติวเตอร์ดู เอาตรง ๆ นะ ผมว่าเขาไม่รับคุณหรอก เรียนก็ยังไม่จบแล้วผลการเรียนก็แค่กลาง ๆ แต่คุณจะลองดูก็ได้ ถ้าคุณลองสมัครงานเป็นติวเตอร์แล้วไม่มีที่ไหนรับคุณเข้าทำงานคุณก็ต้องเรียนต่อไปเพราะคุณคงไม่ลาออกมานอนอยู่บ้านเฉย ๆ
เหมือนพี่สมัยก่อน รู้ตัวว่าไม่ชอบ ทนเรียนจนจบ พอได้งานกลายเป็นเกลียดอาชีพนั้น สุดท้ายทำงานนอกสาย และงานที่ทำเงินเดือนน้อยกว่าด้วย แต่เลือกสิ่งทีทำแล้วชอบพอ แนะนำให้ทำสิ่งที่ชอบและถ้าเลือกทางนั้นต้องทำได้ ไม่ใช่ชอบแต่ไม่ถนัด ส่วนอาชีพติวเตอร์เป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง ถ้ารับเองอาจจะไม่ได้มีตลอด หรือไปสมัครเป็นครูตามสถาบัน ก็มีคู่แข่งมาเป็นติวเตอร์เยอะ ใครสอนได้เก่งกว่ามีความนิยมมากกว่าก็ได้งานสอนเยอะกว่าคนอื่น
ไม่ชอบตรงไหนของคณะที่เรียนเหรอ แล้วเป็นคนแบบไหน ถ้าสายลุยไปวิศวะก็ถูกแล้วถ้าไม่ใช่พวกวิศวะคอมพวกนั้นอ่ะนะ บริหารธุรกิจก็จะเป็นแนวๆผู้บริหารที่มีความรู้ในสายงานวิศวะด้วย ซึ่งมันก็ดีนะ แต่สายธุรกิจก็จะต้องแข็งประมาณนึงเลย ไม่งั้นมันจะเป็นแนวๆ ช่างอะไรพวกนั้นรึเปล่ารึพวกออกแบบเครื่องจักรโรงงานอะไรแบบนั้น คือรู้ 2 ระบบจะมีประโยชน์ไงเวลาทำงาน คนทำธุรกิจเค้าอยากได้นะคนมีความรู้วิศวะด้วย ไม่ก็วิศวกรขาย(sales engineerเซลส์นั่นแหละ แนะนำสินค้าได้ดีเพราะความรู้แน่น) บริหารธุรกิจก็ต้องเรียนบัญชี ถ้าชอบความละเอียดรอบคอบ วางแผน เจอคนเยอะๆ ลูกล่อลูกชนเยอะก็ไปได้นะ รุ่งดี ต้องรู้ทุกเรื่องเวลาทำงาน เพราะต้องดูแลทุกเรื่อง แต่ไม่ต้องละเอียดมากก็ได้เพราะจะมีลูกน้องดูแลให้ บางทีต้องไปเข้าสังคม อาจไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ แต่เรื่องเวลานี่บางอย่างวิศวกรก็พอกันแต่ก็รู้สึกว่ายังดีกว่าพวกธุรกิจ ส่วนติวเตอร์ก็ดีนะ น้องข้างบ้านเราก็เป็น อยู่ตจว. ติดป้ายหน้าบ้านเป็นตึกแถว แต่นั่นคือเก่งมากแบบว่าสอบติด 5-6 ที่พวกวิศวะ หมอแต่สละสิทธิ์หมดอะไรแบบนี้ ก็มีนักเรียนมาติวกลุ่มนึงก็ 6-7 คนได้มั้ง เค้าก็อยู่ได้ ใครๆก็หาที่ติวกะคนเก่งๆ ติวออนไลน์ก็ได้ด้วย
มั่วแล้ว บริหารธุรกิจไม่เกี่ยวกับวิศวะเลย คนละเรื่องเลย
ก็เกี่ยวเท่าที่อธิบายไปไง ตำแหน่งงานที่บอกมันก็มีจริงทุกอย่าง ออกแบบเครื่องจักรโรงงานก็วิศวะอุตสาหกรรม มั่วตรงไหนก็ไม่อธิบาย มีความรู้ก็ไม่แบ่งปัน ได้แต่ด่าคนอื่น toxic ไปวันๆ ทำตัวให้เป็นประโยชน์กว่านี้ก็จะดี ไม่ใช่แค่เข้ามาด่า ว่าคนอื่นเค้ามั่วก็ต้องอธิบายสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ด่าเอามันส์
วิศวะไม่ได้มีแค่วิศวะเพียวๆ เปิดโลกบ้างก็ดี
อีกอย่างอธิบายคนอื่นเค้าก็จะได้ประโยชน์ ไม่ใช่แค่เข้ามาเถียงด่าเรื่อยเปื่อย จขกท.ไม่ได้อะไรซักอย่าง เพื่ออะไร
ขำลองดูดิ้นแรง บริหารธุรกิจชื่อก็ตรงตัวอยู่แล้วต้องแปลไทยเป็นไทยไหมเนี่ย คนละสายกับวิศวะเลย บริหารธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการการเงิน บุคคลากร การสื่อสาร การตัดสินใจทางธุรกิจ ถ้าไม่รู้เรื่องเงียบไว้อย่ามั่ว คนโง่ถ้าเงียบคนอื่นก็ไม่รู้ว่าโง่
@วิศวะ จร้าาา คนฉลาด แค่คำว่า"บุคลากร" ยังเขียนผิดเลย มั่นหน้ากล้าด่าคนอื่นโง่ ไม่ดูสภาพตัวเอง ขากถุย
ตลกนะ เถียงสู้ไม่ได้ก็เอาประเด็นเรื่องเขียนผิดมาตอบโต้ โง่ก็เงียบไว้ไม่ต้องตอบโต้ยิ่งตอบโต้ยิ่งดูโง่ ตอบโต้เรื่องเขียนผิดแต่ใช้คำว่าจร้า นี่ไม่ได้ว่าเรื่องการเขียนนะแต่มันย้อนแย้งบ่งบอกถึงระดับสติปัญญา โพสต์ข้อความบนเว็บบอร์ดไม่ใช่เขียนตำราหรือทำวิทยานิพนธ์ สะกดคำผิดบ้าง ใช้ภาษาพูดบ้างเป็นเรื่องปกติ คนที่จับผิดเรื่องนี้คือคนที่เถียงสู้คนอื่นไม่ได้
ถ้าทนเรียนจบจนได้ก็ทนไปก่อนค่ะ เรียนไม่จบแล้วออกมาถ้าไม่เรียนต่อมันหางานยากค่ะ
พี่ก็ไม่ได้ชอบ แต่ลองดูก็พอเรียนได้ เพราะไม่รู้ว่าชอบอะไรจริงๆ เลยเรียนไปจนจบ โชคดีได้งานรัฐวิสาหกิจ ตำแหน่ง maintenance ก็ไม่ได้ชอบอีก แต่ดันเจอสังคมเพื่อนดี ก็สู้ๆไป มาตอนนี้สิบกว่าปีแล้ว ยังอยากเปลี่ยนสายงานทุกวัน แต่ผู้ใหญ่เจ้านายไม่อยากให้เปลี่ยน บอกอยู่ตรงนี้มี career path ดี เราก็ไม่กล้าลาออก เพราะอยู่ที่นี่ต่อไปก็มั่นคงดี เงินเดือนก็ถือว่าเพิ่มไปเรื่อยๆ ตอนนี้เลยแค่หาอะไรใหม่ๆทำทุกวัน พยายามเรียนคอร์สเสริมความรู้ด้านอื่นเรื่อยๆ คิดว่าถ้าถึงจุดนึงที่ทนไม่ได้จะได้มีความรู้สายงานอื่นๆ หรือทำธุรกิจเองได้ ระหว่างนี้ที่ทนได้ทนไป เก็บเงิน เก็บคอนเนคชั่น เก็บความรู้ สร้างโพรไฟล์ให้ตัวเองเรื่อยๆ สุดท้ายจะไปจบตรงไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็ทำระหว่างทางในปัจจุบันให้ดีที่สุด
มีสองทาง
1.ย้ายสาขาเรียน
2.เรียนให้จบ แต่ต้องฝึกสกิลอย่างอื่น ที่ใช้ทำอาชีพได้ เรียนจบวิศวะก็ไม่จำเป็นต้องทำงานสายวิศวะนี่ ไปทำงานสายอื่นที่ชอบก็ได้ขอแค่มีความสามารถ อยากทำอะไรก็ทำขอแค่ได้เงินใช้มันก็พอแล้ว ชีวิตมันก็ขยับขยายไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องทำอาชีพเดียว ตอนนี้อาชีพนี้มันเลี้ยงเราได้ก็ทำไปก่อน ถ้าพัฒนาตัวเองหรือเจอทางใหม่ในอนาคตก็ค่อยขยับขยายไป
inter ค่าเรียน ไม่ธรรมดา
-----------------
ย้อนกลับไป ตอน Entrance
ที่เลือกเรียน เพราะอะไร
1. ตามเพือน
2. กลัว เสียหน้า
3. ทำไม ไม่ ซิ้ว
หลายคนจบปริญญาตรีมา แต่ทำไมไม่ทำงานตามสายที่ตัวเองจบมา ส่วนใหญ่คือรู้ตัวว่าไม่ชอบ บางคนจบปตรีแล้วถึงขนาดไปเป็นคนกวาดถนน กทม
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?