Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Culture Shock ในนิยาย เขียนแล้วคนอ่านรับไม่ได้แต่มันจริง?!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

นานๆ เสกกระทู้ทีค่ะ วันนี้มาชวนคุยถึงสิ่งหนึ่งที่เราเห็นมาสักระยะแล้ว
แต่ส่วนมากเราเจอกับพวก
นิยายสายประวัติศาสตร์นะคะ

เคยมีไหม...ที่เราใส่ความจริงบ้างอย่างลงไปในนิยายแล้วคนอ่านเกิดรับไม่ได้?

เช่น ขอยกตัวอย่างนิยายจีน ค่านิยมชนชั้นสูงที่มีภรรยามาก
ถ้าเราเขียนให้ตัวเอกมีภรรยาเยอะ คนอ่านเกิดอาการรับไม่ไหว
รู้สึกว่าตัวเอกตัวนั้นเป็นคนไม่ดีไปเลย ทั้งที่ค่านิยมรักเดียวใจเดียวเป็นเรื่องของสมัยใหม่
และการมีภรรยาเยอะในสมัยนั้น บ่งบอกถึงฐานะและความสำคัญของตัวละครได้

กรณีนี้เป็นคัวอย่างที่เราเจอนะคะ พอเปิดปมว่าตัวเอกมีภรรยาอยู่แล้ว
คนอ่านก็จะตกใจ รู้สึกรับไม่ไหว รู้สึกไม่ชอบขึ้นมาค่ะ

สำหรับเพื่อนๆ คนอื่นมีเจอเรื่องทำนองไหนบ้าง
ที่อุตส่าห์
ทำการบ้านมาซะดิบดี แต่คนอ่านรับไม่ไหว
จนถึงกับโอ้ Culture Shock! ชั้น
รับไม่ได้กับนิยายเรื่องนี้

มาลองแชร์กันดูค่ะ


------------------------------------------------

เผื่อใครสงสัยว่าเราเขียนเรื่องอะไร
vv



 
ป.ล.เราไม่ได้ไม่พอใจที่นักอ่านเม้นต์บอกนะคะ ดีใจด้วย แค่อยากมาแชร์กัน 
คิดว่าน่าจะมีบางคนเจอแบบเราหรือใกล้เคียง555

แสดงความคิดเห็น

8 ความคิดเห็น

Miran/Licht 26 พ.ค. 61 เวลา 19:10 น. 1

เชื้อพระวงศ์สมัยก่อนจะแต่งงานกับสายเลือดใกล้ชิด เช่น พี่น้องร่วมบิดากันเป็นปกติ ลูกพี่ลูกน้องบ้างอะไรบ้าง คือถ้าไม่นับเรื่องศีลธรรม ในทางพันธุกรรมมันคือการไม่เกิดความหลากหลาย และทำให้มีโอกาสเป็นโรคที่สืบทอดทางพันธุกรรมได้ง่าย


เราเข้าใจที่นักอ่านบางคนมี gate of culture shock แตกต่างกันค่ะ

3
.+*Vanessa*+. 26 พ.ค. 61 เวลา 19:19 น. 1-1

ประเด็นนี้คนเขียนแนวอียิปต์ ยุโรปกับบ้านเราน่าจะโดนเยอะ ส่วนจีนคือน่าจะมีความหลากหลายทางชีววิทยา เพราะห้ามแต่งงานแซ่เดียวกัน คงมีแต่ในระยะราชวงศ์แรกๆ ที่ยังมีเรื่องแต่งงานใกล้ชิดพี่น้องกันอยู่ค่ะ ถือว่า...รอดตัวไป 555

0
lavender_blue 27 พ.ค. 61 เวลา 15:18 น. 1-2

ขออนุญาตแก้ไขนิดนึงค่ะ

ราชวงศ์โรมานอฟมีปัญหากับโรคฮีโมฟิลเลียหรือเลือดออกไม่หยุด ซึ่งได้มาจาก empress ซึ่งเป็นเชื้อสายของควีนวิคเตอเรียของอังกฤษ(พาหะ)ค่ะ

ไม่ได้มาจากทางโรมานอฟเอง

0
Miran/Licht 27 พ.ค. 61 เวลา 15:21 น. 1-3

ขอบคุณค่ะ เราคงจำผิด จำได้ว่าเป็นโรคที่เลือดไม่แข็งตัว


จะแก้ไขให้นะคะ

0
คิมหันต์อัสนี 26 พ.ค. 61 เวลา 19:36 น. 2

ความเห็นส่วนตัวผม เห็นด้วยกับคุณเจ้าของกระทู้นะครับ ค่านิยมของยุคสมัยหนึ่งอาจจะใช้ไม่ได้กับอีกยุคสมัยหนึ่ง สมัยโบราณการมีภรรยาหลวงภรรยาน้อยในสังคมจีนเป็นทั้งศักดินา หน้าตาทางสังคม


แต่จริง ๆ แล้วยุคนั้นไม่มีเครื่องจักรทุ่นแรง อีกทั้งประชากรก็มีน้อย มีเพียงแรงงานคนและสัตว์ ฉะนั้นจึงอาจเป็นกุศโลบายของคนสมัยนั้นเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรก็เป็นได้ครับ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-big-01.png

4
.+*Vanessa*+. 26 พ.ค. 61 เวลา 19:45 น. 2-1

ถ้าสังเกตหลายวัฒนธรรมก็จะมีประเพณีที่นิยมให้มีเมียมาก มีลูกมาก เพื่อมาช่วยงานปศุสัตว์ด้วยค่ะ หรือบางชนเผ่ามีกระทั่งธรรมเนียมแบ่งเจ้าสาวกัน คือเจ้าสาวแต่งเข้าบ้านผู้ชายแล้วมีสามีหลายคนคือพี่น้องชายในบ้านเดียวกัน จุดประสงค์คือเพื่อไม่ให้เกิดการแย่งชิงทรัพย์สินของตระกูลด้วย เหมือนพยายามให้เกิดความปรองดองกันระหว่างพี่น้อง แต่มันก็...นะคะ 555

0
Miran/Licht 26 พ.ค. 61 เวลา 19:55 น. 2-2

ในเรื่องเจ้าสาวแห่งทางสายไหมนั่นไงคะ มีเจ้าสาวคนหนึ่ง (ทาลัส) แต่งกับลูกคนโตของบ้าน พอสามีคนแรกตาย ด้วยที่บ้านนางพ่อ-หมดจึงต้องแต่งกับน้องชายอดีตสามี จนสุดท้ายนางมีสามีที่เป็นพี่น้องกันทั้งหมด 5 คน (ดันดวงกินผัวด้วย)


อย่างธรรมเนียมเอสกิโมก็มีนะคะ ถ้าแขกผช.มาบ้านจะให้นอนกับภรรยาตัวเองค่ะ

0
.+*Vanessa*+. 26 พ.ค. 61 เวลา 20:20 น. 2-3

แบบนั้นก็มีค่ะ แต่แบบที่เรายกตัวอย่างตะกี้คือผู้หญิงหนึ่งคน แต่งเข้าบ้านไปเป็นภรรยาของพี่น้องชายทั้งหมดในเวลาเดียวกัน แบ่งวันเข้าหอ แล้วก็แบ่งลูกเรียงตามลำดับอายุของพี่น้องชายในบ้าน ลูกคนโตให้เป็นลูกของพี่ชายคนโตเป็นต้น ส่วนแบบของทาลัสคือแต่งเข้าไปคนแรก สามีตาย ก็เลยได้แต่งกับน้องชายจนหมดบ้านนี่แหละค่ะ ส่วนจุดประสงค์ก็น่าจะเพื่อไม่เปลืองสินสมรสมาก แต่งเข้ามาสินเดิมก็กลายเป็นสมบัติของบ้านไปแล้ว เพราะแต่งงานครั้งนึงใช้สินสอดกันเยอะพอตัวทีเดียว สังคมเผ่าแบบนี้มองเรื่องเศรษฐกิจอุตสาหกรรมครอบครัวเป็นหลัก มองจากภายนอกอย่างไทยเรามองกลับไปที่เผ่าเหล่านั้น เราก็จะมองว่าน่าอายหรือล้าหลัง แต่ถ้ามองในรูปแบบของวัฒนธรรมเขา นั่นคือเรื่องปกติ ที่พูดมาน่าจะเป็นลักษณะที่พบได้ในชนเผ่าเร่ร่อนในเอเชียกลาง

0
Miran/Licht 26 พ.ค. 61 เวลา 20:46 น. 2-4

ใช่ค่ะ รู้สึกว่าชีวิตผู้หญิงที่แต่งงานเข้านี่แลดูน่าสงสารจริงๆ บางทีด้วยธรรมเนียมบังคับเลือกไม่ได้ด้วยแหละ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-03.png

0
พันปักษา อ่านจันทรา 26 พ.ค. 61 เวลา 20:23 น. 3

เห็นด้วยครับ เห็นกระทู้แนวนี้บ่อยมาก จักอะไร


ทั้งที่เป็นนิยายย้อนยุค และในอดีตการมีเมียเยอะ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญมาก นั่นเพราะหญิงชายไม่เท่ากัน


มันก็เริ่มมาจากระดับผู้ปกครองก่อนเลย ถ้าจีนก็ตั้งแต่ฮ้องเต้ อ๋อง ให้พวกขุนนางส่งลูกหลานสาวตนเองเข้ามาเป็นเมียน้อย(สนม) นางบำเรอ(นางใน) แถมคัดเลือกใหม่แทบทุกปีอีก ใครแก่ก็ไล่ออกจากวัง พวกขุนนางก็ทำตามๆกันไป ตั้งแต่เสนาบดี ยันนายอำเภอ นั่นก็เพราะการแสดงถึงอำนาจบารมี ต้องเข้าใจว่า คนสมัยก่อน กดขี่คนอ่อนแอ รวมทั้งกดขี่เรื่องทางเพศด้วย


ซึ่งนิยายบางเรื่องก็เขียนเรื่องทำนองนี้เพื่อให้ตัวละครหนีออกจากวงจรนี้ ก็จะกลายเป็นเรื่องนั้นฮิตหรือดังไปเลย ยกตัวอย่างนิยายหรือละครในโทรทัศน์แหละ แต่อันที่จริงๆสมัยก่อนมันไม่ได้เป็นแบบนี้


แต่คนอ่านก็บ่นอยู่นั่นล่ะ ว่ามันไม่ใช่ ผมนี่ต้องเขียนอธิบายไว้หน้าแรกเลย เรื่องนี้ฮาเร็มนะจ๊ะ ใครไม่ชอบก็ผ่านได้เลย


แค่มาร่วมบ่นอีกคน https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-02.png

1
.+*Vanessa*+. 26 พ.ค. 61 เวลา 20:32 น. 3-1

เข้าใจเลยค่ะ 555 ก่อนหน้านี้เราก็เคยตั้งกระทู้ฮาเร็มไปเพราะมีคนชอบถาม ส่วนตัวไม่ได้ใส่ฮาเร็มเลยนะ เพราะไม่ได้เขียนให้ตัวเอก (นางเอก) มีคนรุมชอบ แต่กับบางตัวละครก็อาจเรียกว่ามีฮาเร็มของตัวเอง อย่างรัชทายาท อันนี้ถ้าไม่มีเมียติดเลยตอนหนุ่มแล้ว มันจะเป็นของแปลก เป็นที่ติฉินนินทาเลย ทั้งที่อย่างที่คุณพันปักษาฯ ว่า มันเป็นธรรมเนียมเลยด้วยซ้ำ คงมีแต่ชาวบ้านที่ผัวเดียวเมียเดียว

0
peiNing Zheng 26 พ.ค. 61 เวลา 23:46 น. 4

เคยค่ะ แต่เป็นคนละแบบกับที่คุณจขกท เจอ


นักอ่านบางท่านสายโรแมนติก ก็จะยังชอบอะไรที่ทำให้ความโรแมนติกนั้นยังอยู่ครบถ้วนกระบวนความ สุดท้าย ก็ทำได้แค่รับเป็นความคิดเห็นหนึ่งเท่านั้น ถามว่าทำอะไรได้ไหม คงทำได้มั้ง แต่ไม่คิดจะทำค่ะ (ฮา)


ถ้าเพียงพลิกให้กลายเป็นเรื่องโรแมนติกอย่างที่นักอ่านสายนี้ต้องการ สิ่งที่ต้องการสื่อในงานเขียนนั้นก็จบเห่ ทันที


ให้คนอ่านกรีดร้องขัดใจไปค่ะ เพราะเราไม่ได้ต้องการให้เขาเห็นดีเห็นงามจบแบบพาฝันร้อยเปอร์เซนต์ ทิ้งหนึ่งเปอร์เซนต์ให้เป็นหนามตำใจไว้นี่แหละค่ะ



#นักเขียนสายซาดิสถ์

1
.+*Vanessa*+. 27 พ.ค. 61 เวลา 13:31 น. 4-1

บางทีถ้าเปลี่ยนเส้นเรื่องเอาใจนักอ่าน บางทีก็เสี่ยงต่อความสมเหตุสมพลในเรื่องสินะคะ

0
11241 27 พ.ค. 61 เวลา 02:30 น. 5

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเราที่เป็นนักอ่านค่ะ


สำหรับเรื่องการที่นิยายแนวย้อนเวลาไปในโลกที่คล้ายกับจีนโบราณ หรือย้อนอดีตอิงประวัติศาสตร์แล้วพระเอกนั้นมีภรรยาหลายคนโดยที่นางเอกไม่ใช่ภรรยาแค่คนเดียวสำหรับเรามันคือเรื่องที่แบบธรรมดามากเลยค่ะ ไหนจะเรื่องของการแต่งงานกันเองในตระกูลในเชิงเพื่อการรักษาไว้ซึ่งสายเลือดสำหรับเรามันก็ธรรมดาเหมือนกัน อาจจะเเพราะเป็นคนชอบเรียนประวัติศาสตร์กับวรรณกรรมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พออ่านนิยายที่พระเอกมีภรรยาหลายคนหรือแต่งกันในวงศ์เครือญาติเลยดูปกติธรรมดาไปเลยสำหรับเรา


และในส่วนของการที่ตัวเอกเคยมีคนรักเก่ามาก่อนอะไรแบบนั้นต้องขอยอมรับค่ะว่าเป็นคนที่ชอบแต่งให้ตัวเอกมีคนรักเก่าพอสมควรทีเดียว


คือสำหรับเราแล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะสมหวังในความรัก ความรักทุกความรักอาจจะไม่ได้เดินทางไปถึงจุดจบที่สวยงาม เพราะแบบนั้นการที่ใครซักคนเคยมีรักเก่ามาก่อนมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดอะไรนัก การที่คน ๆ หนึ่งต้องเสียรักเก่าไปแต่ก็ทำใจและสามารถเปิดใจให้คนอื่นได้แบบนี้มันสุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอคะ? แถมในปัจจุบันอัตราการหย่าของคนในสังคมก็มากขึ้น การที่มีตัวละครที่เคยมีภรรยาหรือสามีแต่เลิกราแล้วมาเจอรักใหม่ที่ผลิบานในภายหลังเราว่ามันคือความสวยงามหนึ่งและเป็นการสะท้อนให้เราเห็นอะไร ๆ หลายอย่างค่ะ


แต่ถ้าแบบพระเอกมีภรรยาแต่ไม่ได้เลิกราแถมยังแต่งงานถูกกฏหมาย แล้วดันมีเด็กตัวน้อย ๆ เพิ่มเข้ามาพ่วงต่ออีก แล้วเขาดันมาบอกรักนางเอกอยู่ได้ทั้งวันโดยที่ไม่สนครอบครัวเลยเราต้องขอยอมรับเลยค่ะว่าเราเกลียดอะไรแบบนี้ที่สุด การที่คุณแต่งงาน มีเพศสัมพันธ์ เกิดชีวิต1ชีวิตขึ้นมาแล้วแต่ก็ยังปล่อยปะละเลยเขามาสนใจผู้หญิงที่สดและซิงกว่าภรรยาที่รอคุณอยู่ที่บ้านแบบนี้มันแย่มากเลยไม่ใช่เหรอคะ? แถมพอคุณภรรยาที่ถูกกฏหมายมาโวยวายพระเอกกับนางเอกที่แอบเป็นชู้กันนางยังโดนคนอ่านเกลียดไปอีก? เราว่าเธอเป็นคนที่น่าสงสารค่ะ ถามว่าพระเอกเจอแบบนั้นส่วนใหญ่ที่เราอ่านเจอคือ?

"ก็ฉันไม่ได้รักเธอ"

"เธอนี่มันไร้เหตุผล"

"เราเลิกกันเถอะฉันแต่งงานกับเธอเพราะธุระกิจเท่านั้นแหละ"

บอกตามตรงค่ะว่าไม่พอใจอย่างแรง ถ้าเราคิดดูแล้วพระเอกที่เป็นแบบนี้ส่วนใหญ่ต้องรวย การศึกษาดี(ส่วนใหญ่น่าจะจบนอกด้วย) แต่การกระทำของเขาทำให้เราคิดนะคะว่าเขาคิดได้แค่นี้จริง ๆ เหรอ? ถ้าคุณแต่งงานกับเขาเพื่อธุระกิจเขาให้คุณได้ ทำไมเขาจะเอาคืนไม่ได้ล่ะคะจริงไหม? เราว่าในโลกของความจริงคนแบบนี้ที่คิดแค่เรื่องว่าจะรักกับคนที่รักโดยไม่สนปัจจัยใด ๆ เลยแบบนี้เราว่าเขาน่าจะรอดยากค่ะ

แบบอ่านเจอพระเอกแบบนั้นทีแล้วพอไปอ่านคอมเม้นต์ก็มีแต่คนแบบด่าภรรยาตามกฏหมายด้วยคำพูดที่ค่อนข้างจะรุนแรงแล้วมันก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าเขามาก่อนแล้วนางเอกมาทีหลังในฐานะภรรยาน้อยแล้วมีความสัมพันธ์กัน และหลอกลวงเขาแต่กลับทำให้เขาที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรเป็นแค่คนที่โดนหลอกใช้ และอยากที่จะเรียกร้องสิทธิ์ให้ตัวเองต้องเสียน้ำตา ทั้ง ๆ สิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นคือสิ่งที่เขาควรทำด้วยซ้ำ


อ่านถึงตรงนี้ยอมรับค่ะว่ามาระบายความอัดอั้นตันใจส่วนตัว(หัวเราะ)

1
.+*Vanessa*+. 27 พ.ค. 61 เวลา 13:38 น. 5-1

จากที่เราเคยคุยกับเพื่อนๆ ร่วมกับการมาตั้งกระทู้ตรงนี้ ดูเหมือนว่าคนที่สนใจด้านประวัติศาสตร์มา จะไม่ค่อยมีปัญหาหากเรื่องเป็นพีเรียดแล้วตัวพระเอกหรือตัวเอกมีภรรยาหลายคน เพราะตัวเราเองก็เรียนโบราณคดี-ประวัติศาสตร์มา ก็มองว่ามันเป็นเรื่องของความแตกต่างทางวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้น เราเอาปัจจุบันไปตัดสินอดีตไม่ได้ ทำนองนี้ค่ะ


ลองคุยกับเพื่อนดูก็ไม่ค่อยมีประเด็นกัน เลยลองมาถามเผื่อมีนักอ่านในนี้มาเห็น ส่วนประเด็นพอเป็นยุคปัจจุบัน เราก็ไม่ชอบอย่างที่เจ้าของเม้นว่านะคะ มันดูแมรี่ ซูมากที่จะให้นางเอกดูเป็นที่ต้องการอย่างเดียว โดยไม่สนใจอะไรเลย สุดท้ายพระเอกก็จะกลายเป็นตัวละครที่ดูแย่ขึ้นมา

0
Helegriel (Anarya) 28 พ.ค. 61 เวลา 11:42 น. 6

เข้าใจ กับพอใจ คงไม่เหมือนกันค่ะ

คือการแต่งนิยาย (ถ้าจะขายให้ได้เงินนะ) อย่างไรก็ต้องแคร์ตลาดประมาณหนึ่ง ตามความเห็นเรานะคะ นิยายไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์อยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนจริงทุกอย่าง


อีกอย่างหนึ่ง นวนิยายจะเขียนเรื่องความรัก-โรมานซ์ ขึ้นมาเพื่ออะไร?

ไม่ใช่แค่เล่าปาวๆแต่ส่วนใหญ่คือ มันต้องสื่ออะไรบางอย่าง ในฐานะคนเขียนนิยายรักนะคะ เราคิดว่าส่วนใหญ่โรมานซ์มันเล่นอยู่บนการคานอำนาจของชายหญิง ความดึงดูดทางเพศที่ต่างกัน มุมมองแนวคิดและความต้องการของชีวิตที่ต่างกัน คือต้องขัดแย้งอะไรกันด้านตัวตนสักอย่าง แล้วค่อยไปลงเอยกันได้ภายหลัง (ถ้ามันเข้ากันหมดตั้งแต่แรก ก็ต้องไปเล่นความขัดแย้งอย่างอื่นเช่น สงคราม แก้แค้น ซึ่งมันก็ไม่ค่อยนับเป็นโรมานซ์แล้ว เพราะไม่เกี่ยวกับขั้นตอนความยากลำบากของการมีความรัก)


ถ้าจะเล่นเรื่องความรักล้วนๆ ปัญหาคลาสสิคมันก็วนอยู่ในอ่างนี้แหละค่ะ สังคมชายเป็นใหญ่ที่ผู้ชายมีภรรยาได้หลายคน หรือมีเซ็กส์กับคนได้หลายคนโดยไม่มีโทษ มีการศึกษาสูงกว่า กุมเงินกุมบริวารเยอะกว่า มีความรู้สึกว่าสามารถสั่งเพศตรงข้ามได้ ฯลฯ การคลายปมของโรมานซ์ส่วนใหญ่ก็เลย เน้นที่การทำให้ผู้ชายรู้ตัวขึ้นมา และยอมที่จะสละสิ่งเหล่านี้เพื่อผู้หญิง เพื่อปกป้อง เพื่อสร้างครอบครัวกับผู้หญิง (หรืออย่างน้อยก็เห็นว่า มันไม่ได้มีคุณค่ามากเท่าความรักที่เขามีต่อผู้หญิง) นักอ่านส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงนะคะ หมวดรัก หมวดย้อนเวลาเนี่ย


คือก็ได้ค่ะสมมติพระเอกรับนางเอกมาเป็นเมียน้อยก็ได้ บอกว่ารักเหมือนกันนั่นแหละ สมัยก่อนก็อยู่กันแบบนี้ (จริงๆสมัยนี้คนรวยมียศศักดิ์ คนในเครื่องแบบ เขาก็ยังนิยมเลี้ยงหลายเมียอยู่นะ 5555) โอเค... แต่มันจะสื่ออะไรต่อสำนักพิมพ์และนักอ่านของเรา และสื่ออะไรเกี่ยวกับมุมมองของเราต่อความรัก ถ้าหากมุมมองความรักของเรา(ซึ่งก็เป็นผู้หญิง)ไม่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ อารมณ์ ความรู้สึก ใดๆของผู้หญิงคนที่กำลังอ่านอยู่เลย มันก็ยากมากค่ะที่ผู้หญิงคนนั้นจะ "อิน"


อีกประเด็นหนึ่งคือ หลายๆคนมีความรู้สึกว่านิยายควรจะชี้นำสังคม (ไม่ใช่สะท้อนสังคม) หมายถึงว่ามันต้องเป็นตัวอย่างให้คนเชื่อมั่นในศีลธรรมหรือค่านิยมที่ดี ทีนี้โลกโบราณหรือโลกแฟนตาซีมันมีค่านิยมแบบอื่นๆแต่งมา ส่วนใหญ่ก็เพื่อเปรียบเทียบว่า 1. เนี่ยไงของไม่ดี เนี่ยของที่ทำให้เกิดปัญหา เช่นเมียหลวงเมียน้อยวางยาพิษกันเห็นไหม สมัยนี้เราถึงไม่ทำแล้ว บลาๆ หรือ 2. เนี่ยไงของดี ของที่น่าจะลองทำดู/น่ารื้อฟื้นมาทำใหม่ เช่นคนรุ่นเก่าที่กตัญญูดูแลปู่ย่าตาทวด อยู่แบบครอบครัวขยายไม่เข็นไปทิ้งบ้านพักคนชรา

การเขียนแบบ "ไม่ตัดสินคุณค่า" หรือเปรียบเทียบอะไรเลย มันก็เหมือนที่ถามอ่าค่ะ เขียนขึ้นมาเพื่ออะไร? เพราะคนอ่านคือคนที่อยู่ในสมัยนี้ และกำลังตัดสินเนื้อหาอยู่ด้วยมาตรฐานของคนสมัยนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้


อย่างไรก็ตาม เราไม่คิดว่าควรจะเปลี่ยนเรื่องตามคนอ่านหรอก 55555 เพียงแต่เข้าใจความรู้สึกกันและกันน่ะ สำหรับเราไม่ใช่คัลเจอร์ช็อค เพราะเขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าวัฒนธรรมจีนโบราณมันเป็นยังไง แต่เขาคาดหวัง "สาร" อย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้นเฉยๆ



//ที่จริงเราแอบคิดว่าคนยุคไหนก็ตัดสินค่านิยมของยุคอื่น หรือสถานที่อื่นได้นะคะ ไม่งั้นจะเป็นปัญหาว่า เราด่านาซีไม่ได้ วิจารณ์คนจีนมัดเท้าผู้หญิงไม่ได้ ขุนแผนฆ่าผ่าท้องเมียควักตัวอ่อนฟีตัสทำกุมารทอง ฯลฯ เพราะเราไม่ได้อยู่ตรงนั้น พวกเขาเป็นคนดี ไม่ควรเอามาตรฐานของเราไปตัดสิน ซึ่งแบบ...กฎนี้เราว่าไม่ใช่อ่ะค่ะ 5555 แต่ก็นะเราไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์มา ความคิดคงไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

1
.+*Vanessa*+. 28 พ.ค. 61 เวลา 13:03 น. 6-1

ขอบคุณสำหรับความเห็นนะคะ


อาจเพราะส่วนตัวเราได้รับการปลูกฝังแนวคิดเรื่องไม่เอาปัจจุบันไปตัดสินอดีต เพราะการศึกษาและอาชีพเดิมด้วย ทำให้เรามักจะมองบริบทเป็นช่วงๆ ของแต่ละสมัยไป เช่น สมัยโรมัน เด็กชายต้องผ่านพิธีความเป็นผู้ใหญ่โดยผ่านเซ็กส์กับชายที่แก่กว่า หากมองในแบบปัจจุบันคือเราจะรู้สึกว่าเพศสภาพเขาออกไปทางชายรักชาย ทั้งที่แท้จริงแล้วเหมือนเป็นแค่พิธีกรรมบางช่วง เด็กชายเหล่านั้นก็เติบโตไปแต่งภรรยาสาวตามปกติ โดยบางคนไม่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบชายรักชายอีกเลย เราสามารถวิพากษ์อดีตได้ค่ะ แต่เราไม่สามารถไปตัดสินความถูกต้องหรือศีลธรรมคนในอดีตได้ เพราะเราไม่ได้อยู่ใรบริบทของอดีต เราคือคนยุคปัจจุบันที่เติบโตมาจากการหล่อหลอมวัฒนธรรมหลายๆ อย่างจนเกิดรูปแบบวัฒนธรรมและความเชื่อแบบที่เป็นอยู่ค่ะ ส่วนเรื่องว่าเป็นค่านิยมหรือรสนิยมส่วนตัวนักอ่านที่จะเอาปัจจุบันไปตัดสิน เราก็มองว่าเป็นวิจารณญาณและความชอบของแต่ละคนค่ะ ที่มาตั้งกระทู้ไม่ได้ต้องการต่อต้านอะไร แค่อยากเห็นมุมมองอื่นๆ บ้าง จากนักอ่านบ้างก็ดี เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีแค่เรื่องประวัติศาสตร์อย่างเดียวที่มี Culture Shock แนวเรื่องปัจจุบันก็อาจจะมีได้ อยากเผือกของคนอื่นบ้างค่ะ 555 ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

0
มึนตึ้บ 28 พ.ค. 61 เวลา 13:43 น. 7

ของเราเป็นค่ะ ถึงกับเทพระเอกไปอยู่ทีมพระรองกันหมด 55555 ก็มันเป้นสมรสพระราชทานอ่ะเนอะ ไม่แปลกอะไรถ้าคนจีนเขาจะมีภรรยาเยอะๆ ในสมัยก่อน เรื่องอนุนี่เป็นเรื่องปกติของสมัยนั้น แต่พอมาเขียนแล้วคนอ่านรับไม่ได้กันเยอะอยู่ ให้นางเอกมาทีหลังไปเป็นอนุเขา นี่เป้นอะไรที่เซนซิทีฟมาก

2
.+*Vanessa*+. 28 พ.ค. 61 เวลา 14:14 น. 7-1

ของเรานี่ขนาดแต่งไปเป็นภรรยาหลวง เป็นชายาเอก ก็ยังมีรู้สึกไม่ดีอ่ะค่ะ 555 ก็พยายามเอาใจคนอ่านด้วยบริบทอื่นๆ แทน ได้แต่หวังว่าเขาจะยังไม่ทิ้งเราไปไหนกันนะคะ

0
มึนตึ้บ 28 พ.ค. 61 เวลา 14:58 น. 7-2

เราเขียนเรื่อง เจ็ดชาติสามภพประสบรักค่ะ ก็เลยโชคดีที่พอตายจากกันไปก็ไปเริ่มชาติใหม่ คนอ่านก็รอลุ้นชาติต่อไปแทน

0