แชร์ประสบการณ์และแนวความคิดตั้งแต่เริ่มแต่งนิยายมาจนถึงปัจจุบัน
สวัสดีค่ะ เราเป็นนักเขียนคนหนึ่งที่เขียนนิยายมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว แต่งๆหยุดๆ พึ่งมาเขียนให้จบเล่มแค่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เลยจะมาแชร์ประสบการณ์และความคิดเกี่ยวกับการนิยายของเราค่ะ
ย้อนไปสมัยเริ่มแต่งนิยายครั้งแรกๆ เรามีจุดเริ่มต้นมาจากการแต่งนิยายจีนโบราณค่ะ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ได้มีการวางพลอตอย่างละเอียดอะไร แค่แต่งตามความคิดของเราให้เนื้อเรื่องไปต่อเรื่อยๆ ไม่ได้คิดว่าจุดต้น กลาง หรือจบจะเป็นยังไง ซึ่งผลสรุปก็คือเราแต่งนิยายไปได้หลายเรื่อง แต่ทุกเรื่องที่แต่งเนื้อเรื่องมักจะค้างอยู่ที่ประมาณช่วงต้น ประมาณ 10-30 เปอร์ของเรื่อง ไม่ได้ไปต่อจนถึงจุดจบสักที ได้แต่ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นทั้งที่เราก็รู้นะว่าอยากให้มันจบแบบไหน
จากนั้นอีกประมาณ 3-4 ปี เราก็หยุดแต่งนิยายไป พึ่งกลับมาจับอีกครั้งเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว พอเรามีความคิดที่จะแต่งนิยายให้จบ เราเลยมานั่งวิเคราะห์แต่ละเรื่องที่เขียนไปเลยว่าเรื่องนี้มีความพิเศษยังไง ทำไมเราถึงอยากให้มันจบ ในนิยายเรื่องนั้นมีจุดอะไรที่เราจะเข้าไปเขียน ตัดเรื่องที่โครงเรื่องไม่แน่นหรือไม่น่าจะมีอะไรให้เขียนออกไป จนเหลือแค่เรื่องที่เราคิดว่าอยากจะแต่งให้มันจบ
เราไม่ได้เป็นนักเขียนฟูลไทม์ ใช้แค่เวลาว่างช่วงหนึ่งเขียนนิยายเพราะอยากเขียน บางครั้งมันก็มีความคิดผุดเข้ามาว่าเราจะเขียนนิยายไปเพื่ออะไร คำตอบที่เราให้กับตัวเองคืออยากเอาแนวความคิดและจินตนาการที่อยู่ในหัวมาผูกเป็นนิยายสักเรื่อง ไม่รู้ว่าใครเป็นเหมือนเรามั้ย คือชอบไปฟังและดูคำแปลของเพลงจีน พอเห็นว่าเนื้อเพลงไหนมีความหมายลึกซึ้งรู้สึกสะเทือนใจ ก็จะเอาความสะเทือนใจนั้นมาเป็นไอเดียในการสร้างตัวละครและพลอตขึ้นมา เวลาเราเขียนนิยายก็จะพยายามเขียนให้เนื้อเรื่องมีความลึกซึ้ง ซึ่งมันก็ยากแหละ แต่จุดนี้เราสามารถพัฒนาฝีมือไปได้เรื่อยๆ
ต่อไปเป็นเรื่องของการลงมืิอเขียน จริงๆเราเป็นคนหนึ่งที่เขียนออกมาภาษาไม่ได้สวย แต่เราจะใช้วิธีเปิดนิยายจีนโบราณแปลมาประกอบค่ะ บางคำที่เราคิดไม่ออกหรือเรารู้สึกว่าไม่สวยพอเราก็จะยืมคำที่เราชอบมาเขียน ยืมคำมาเขียนในบริบทของเรา แต่ไม่ได้ก๊อบมาทั้งหมดนะคะ จะใช้เป็นคำๆหรือวลีไปเช่น ในเรื่องเป็นคำว่าหลินวั่นนั่งอยู่ด้านล่างอย่างสงบเสงี่ยม ก็จะเป็น มู่เหวินฝูนั่งลงบนเตียงอย่างสงบเสงี่ยม ซึ่งวิธีนี้ทำให้ทุ่นแรงไปมาก
ขอบคุณที่อ่านที่เราเวิ่นเว้อมาจนจบนะคะ ใครมีประสบการณ์อะไรก็มาคุยกันได้นะคะ
2 ความคิดเห็น
ยืมรูปแบบประโยคนี้ไม่รู้ผิดมั้ยนะ แต่อ่านแล้วไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ ถ้าเราเป็นคนถูกยืมคำอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่ามาคงรู้สึกแปลกๆ
จริงถ้าเขียนนิยายทั่วไปก็ไม่ควรค่ะ เพราะมันจะคล้ายกันได้ง่ายมาก แต่ถ้าเป็นจีนโบราณ อยากให้ภาษามันสละสลวยขึ้น บางทีมันก็ต้องยืมแพทเทิร์นบางอย่างมาใช้ค่ะ มันจะทำให้เขียนง่ายขึ้น จริงๆใน meb มีเป็นหนังสือเลยนะคะ แบบคลังประโยคนิยายจีนโบราณ บางครั้งเรานึกคำทั่วไปออกว่าจะให้ตัวละครทำแบบนี้ แต่คิดไม่ออกว่าจะเขียนยังไงให้สวยดี ก็อาจจะยืมมาบ้างค่ะ
โห อาการเดียวกันเลยแต่ของผมแนวแฟนตาซี โบราณ ปรัมปราเทพ มาร อะไรแบบนั้น (ประสบการณ์ใกล้กันมาก)
มองว่าสภาพเดียวกันมั้ง ผมเลิกแต่งตอน ปี 2550 กลับมาอีกที 2566 แสดงว่าเหมือนกันเลย เราส่งให้นักวิจารณ์เก่งคนนึงสับจนเสียกำลังใจหนัก แต่ตอนนี้เลิกคิดแล้วครับช้าก็ช้าสำนวนผิดก็เอาเถอะ ทำใจแล้วแค่อยากเล่าเรื่องราว บางคนก็ชอบเรื่องช้าๆ เราถือว่าขายสินค้าแบบนึงคุณภาพแบบนึงแล้วกัน ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยจะโปรโมทไปยังไงทิศทางไหน อยากแค่ให้คนที่ชอบแนวเดียวกันเข้ามามากๆ แค่นั้นด้วย
ปล เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้เขียนจบทุกเรื่อง คนอ่านมากมายครับ
ขอบคุณมากนะคะ คุณเองก็เหมือนกันนะคะ
อย่างไรคุณก็คัมแบ็คเร็วกว่าผมนะ เวลามากกว่าเห็นๆ แม่นางกลับเข้าสู้ยุทธภพเช่นนี้ยยย 555
ขอบคุณครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?